เมษายน 2557

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
20
23
24
26
27
29
 
 
All Blog
แพ้...อย่างผู้ชนะ

  กีฬา..เป็นการแข่งขันที่มีจุดมุ่งหมายหลายอย่าง..

บ้างว่าเป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ

บ้างว่าเป็นการสร้าง สปิริต ความมีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

บ้างก็เพื่อความมีชื่อเสียง เกียรติยศ เป็นสถิติ เป็นการยอมรับในความสามารถ..

บ้างก็ว่าเพื่อ ความสามัคคี ปรองดอง เป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรีทางหนึ่ง

แต่ไม่ว่าจะเพื่อจุดมุ่งหมายอะไรก็ตาม

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเกมส์ การแข่งขันจบลง

ก็คือ ต้องมี ผู้แพ้ และ ผู้ชนะ..

ถึงแม้ว่าจะมีผลการแข่งขันอีกอย่างหนึ่งคือ เสมอกัน ก็ตาม

แต่เชื่อเถอะว่า ทั้งสองฝ่ายก็ยังคิดว่าฝ่ายตน น่าจะเป็น ผู้ชนะ

มากกว่าอยู่ดีนั่นแหละ..

ในอดีตที่ การแข่งขัน หรือ กีฬา ยังไม่ถูกบัญญัติ อย่างเป็นทางการนั้น

มนุษย์ในยุคก่อนๆก็มีการแข่งขันกันมาตลอดอยู่แล้ว..

แต่เป็นการแข่งขันกับความอยู่รอด ทางสัณชาตญาณ ของสัตว์โลก

ที่มีเดิมพัน ที่สูงมาก คือถ้าแพ้ หรือพลาด ก็อาจหมายถึง ความตาย ของตน

การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด จากสิ่งแวดล้อม

ทำให้เกิดการพัฒนาการจากการต่อสู้แบบธรรมดา

มาเป็นการต่อสู้แบบการต่อสู้กันระหว่างเผ่าพันธุ์..

หรือที่เราเรียกกันว่า สงคราม นั่นเอง..

เราจะเห็นได้ว่ากีฬาหลายๆชนิด จะจำลองการต่อสู้มาจาก การทำสงคราม

ระหว่างชนชาติต่างๆ เช่น การแข่งขันฟุตบอลโลก หรือ การแข่งขัน หมากรุก เป็นต้น

ผลของการแข่งขันย่อมสร้างความยินดี มีความสุข ในชัยชนะในฝ่ายหนึ่ง

และก็สร้างความรู้สึก ผิดหวัง เศร้า เสียหน้าที่พลาดท่า อีกฝ่ายหนึ่ง

จะหาคนที่ยอมรับว่าทีมตนสมควรเป็น ผู้แพ้ ได้ยากจริงๆ

โดยจะเกิดกับทั้งผู้เล่นเอง และกองเชียร์ทั้งสองความรู้สึก..

ในทาง ธรรมะ กล่าวว่า

ผู้ชนะย่อมก่อเวร ส่วน ผู้แพ้ย่อมจองเวร อยากเอาคืน..

ผู้ชนะย่อมเห่อเหิม คิดว่าตนเองเก่งที่สุด เป็น ความประมาท ที่เกิดขึ้นแล้ว

และเมื่อในการแข่งขันครั้งหน้าก็มีสิทธิ์ พลาดท่าได้เหมือนกัน..

ในส่วนของผู้แพ้นอกจากจะมีใจอยากเอาคืนคิดว่าวันนี้ไม่ใช่วันของเรา

แต่วันข้างหน้าก็ต้องเป็นที่ของฉันบ้าง ที่ใครทีมัน..

หากเราต้องกลายเป็นผู้แพ้ ไม่ว่าในเกมส์การแข่งขัน หรือ ในเกมส์ชีวิต

สิ่งหนึ่งที่เราต้องประสบแน่ๆคือ ความผิดหวัง ที่ไม่สามารถทำในสิ่งที่เราต้องการได้

บางคนกว่าจะทำใจยอมรับ ความพ่ายแพ้ ได้อาจใช้เวลาหลายวัน

หรือหลายเดือน หรืออาจใช้เวลาหลายปี แล้วแต่ความเข้มข้นของความรู้สึก

ของความพ่ายแพ้นั้นมันจะฝังตัวหลอกหลอนเจ้าตัวแค่ไหน..

ใน เกมส์ชีวิต การพ่ายแพ้ อาจเป็นได้มากกว่าการเป็น ไอ้ขี้แพ้ ธรรมดา

เพราะมันอาจเปลี่ยนชีวิตคนคนนั้นไปตลอดกาลเลยทีเดียว..

หากไม่ฝึกหัดวางใจให้เป็น ผู้แพ้ที่ฉลาด แล้วหล่ะก้อ

การพ่ายแพ้ในเกมส์ชีวิตครั้งนี้ อาจไม่สามารถกลับมาเป็น ผู้ชนะ อีกเลย

อาจจะไม่แม้แต่จะกลับมา เสนอตัว เป็น ผู้เข้าแข่งขัน อีกเลยก็ได้..

เพราะหัวใจมันบอบช้ำเกินเยียวยา..

ความพ่ายแพ้ หากมองให้ดีมันก็มีความดีอยู่ภายใน..

นั่นคือ ความพ่ายแพ้ ทำให้เรารู้จักตนเองดีขึ้น ว่าเรายังไม่ดีพอที่จะยืนบนจุดสูงสุด

ความพ่ายแพ้ สอนเราให้รู้ว่า เราไม่ได้เก่งคนเดียว ยังมีคนที่เก่งและดีกว่าเราอีกมากมาย

ความพ่ายแพ้ ทำให้เรารู้จักอีกรสชาติหนึ่งของชีวิต คือ รสชาติของความผิดหวัง

ความพ่ายแพ้ ทำให้เราต้องพัฒนาตนเอง ค้นหาจุดอ่อนของตน เพื่อจะไม่พลาดอีก

และที่สำคัญ คนที่แพ้ ย่อมมีมากกว่า คนชนะ มีเพื่อนร่วมชะตากรรมเยอะแยะ

ทำให้ไม่รู้สึกเป็นแกะดำแน่นอน

ผิดกับ ผู้ชนะ ย่อมโดดเดี่ยว และมีคนอยากลองดีอีกหลายคน..เหนื่อยแน่ๆ

หากเราคิดได้อย่างนี้แล้ว หากเราต้องตกเป็น ผู้แพ้ ก็คงไม่รู้สึกเสียใจให้มากมาย

เพราะมองมุมที่ดีของมันออกแล้ว เข้าอกเข้าใจมันมากขึ้นแล้ว

สามารถเอาชนะ ความรู้สึกด้านลบของความพ่ายแพ้ ได้แล้ว..

เราก็จะกลายเป็น ผู้แพ้ที่ชนะ ได้ไม่ยากเลย..

 

 

 

 

 




Create Date : 21 เมษายน 2557
Last Update : 11 กรกฎาคม 2557 20:37:47 น.
Counter : 1874 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]