~ ข้าบดินทร์ ~ by วรรณวรรธน์
ชื่อหนังสือ : ข้าบดินทร์ (2เล่มจบ) ผู้แต่ง : วรรณวรรธน์ สำนักพิมพ์ : ณ บ้านวรรณกรรม พิมพ์ครั้งที่ 1 : ต.ค. 2007 จำนวนหน้า : 364 , 352 หน้า ราคา : 250 , 250 บาท จากปกหลังเล่ม1ค่ะ
"ลำดวนเอย...เจ้ารู้ว่าหัวใจดวงนี้ของพี่มันถูกมาลัยดอกลำดวนของเจ้ารัดร้อยไว้แน่นจน ไม่เหลือพื้นที่ให้คนอื่นมาแทรกได้อีกแล้ว เจ้าอย่าได้ระแวงอันใดในตัวพี่อีกเลย" "พี่เหมพูดเช่นนี้จะแกล้งฉันให้สำลักคำหวานของพี่จนขาดใจตายอยู่ตรงนี้ใช่ไหม" "จะต่อว่าพี่ทำร้ายเจ้าด้วยคำพูดได้อย่างไร เพราะเท่าที่เอ่ยออกไปทั้งหมด ยังไม่เท่าเศษเสี้ยว ความรู้สึกที่พี่มีต่อเจ้าเลยหนา" ไม่พูดเปล่า...ยังก้มหน้ามาความหาคำตอบจากคนขวยอาย "อย่างนี้...ฉันจะพยายามเชื่อคำของนายทหารสักครั้งก็ได้" "เชื่อพี่เถิด อยากให้เจ้ารู้ว่าพี่คิดถึงเจ้าอย่างไร ทั้งคิดและทำทุกอย่างตรงกับหัวใจพี่ทั้งสิ้น เจ้าลำดวน" ดูสิ เจ้าเอียงอายทุกคำพูดเช่นนี้แล้ว พี่นี้จะมีหัวใจเหลือให้ใครได้อีก ลำดวนเอย อานุภาพความรัก พี่ก็เพิ่งประจักษ์ยามนี้เองว่า มันห่วงหา มันอาทร หัวใจรอนรอนมันรุมเร้ารุนแรงเพียงไหน ใจเจ้ารู้ใช่ไหม หากมิใช่หน้าที่ไปสู้ศึกเพื่อแผ่นดิน พี่จะไม่ยอมจากเจ้าไปไหนเลย
"ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย วันนี้อ้ายเหมคนนี้ขอนำวิชาที่ได้ร่ำเรียนมา วิชาที่ข้ามิเคยหลงลืม หมั่นทบทวนฝึกปรือตลอดสิบปีที่อยู่กลางป่าดงช้าง ขอข้าได้นำมาใช้ให้ทุกคนประจักษ์ ให้รู้ว่าข้าก็ศิษย์มีครูเช่นกัน" เหมจับดาบสองมือมาดมั่นวาดเหวี่ยงเหนือศีรษะ ประกาศตน ข้า...ศิษย์มีครู มีเพลงดาบอาทมาตเป็นศักดิ์ คู่กาย!
จากบทบรรณาธิการค่ะ
"ข้าคือข้าแห่งบดินทร์ พ่อข้าคือพระยาถือน้ำพระพัทสัจจา" คำประกาศตนของคนรักแผ่นดิน หวงแหนแผ่น ดิน ก้องกระหึ่มท้องนภา เทพยดาฟ้าดินขารับกึกก้อง "พ่อข้าสอน...อ้ายเหม ถึงเจ้าจะเป็นเศษเสี้ยวธุลีของแผ่นดิน แต่จงรู้จงจำไว้ แผ่นดินให้อะไรกับเจ้า และตัวเจ้าเองมีความหมายเพียงใดต่อแผ่นดิน" ใช่! จงทำตัวเป็นเศษธุลีที่มีค่าของผืนแผ่นดิน! หาใครจะรู้ กว่า 'อ้ายเหม' จะยืนหยัดบนธรณีเป็น 'หลวงสุรบดินทร์' รับใช้แผ่นดิน ชะตากรรมของมันพลิกผันแปรเพียงใด
ความผิดที่ตระกูลไม่ได้ก่อ หากต้องรับเยี่ยงข้าแผ่นดินของพระยาผู้ถือน้ำ...ข้าจะรักษาแผ่นดินยิ่งกว่ารักษาชีวิต แลโทษทัณฑ์ขุนนางถือน้ำพระพัทสัจจา ขัดต่อรับสั่งแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว คนเป็นถึงพระยาย่อมรู้อยู่แก่ใจ... จักต้องริบราชบาตร ฟันเรือน...ประหารบั่นคอ! "เจ้าเหม...พ่อเจ้าไม่ใช่คนขี้ขลาดที่จะไม่กล้ารับมือสิ่งที่กำลังจะมาถึง แต่คนเราถึงแม้จะเก่งกล้าสักเพียงใด ก็ไม่ อาจทัดทานหาญสู้ได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของโชคชะตา บางครั้งก็ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่สองมือคนเราจะรับไหว เพียงการเผชิญหน้ากับเรื่องอาชญาแผ่นดิน มิใช่พ่อที่ต้องรับโทษทัณฑ์เท่านั้น แต่หมายรวมถึงตัวเจ้าและแม่ของเจ้า จะต้องรับชะตากรรมนี้ไปกับพ่อด้วย" ด้วยคำสั่งของแผ่นดิน ข้าแผ่นดินผู้จงรัก...ถึงกับหมดศักดิ์สิ้นศรี ทั้งตระกูลถูกตีตรวนขื่อคา...รักษาหัวแต่ตัวตก ต้องไปเป็น 'ตะพุ่น' ต่ำต้อยเกี่ยวหญ้าในโรงช้าง!
นานนัก...นานจนไม่อยากนับให้ทุกข์ทรมาน กับชีวิตตะพุ่น! หากคนดีย่อมมีดี คนหาญกล้าย่อมมีวิชาติดตัว น้อยนักที่จะรู้ว่า 'เสดียง' แห่งกรมช้างนอก 'อ้ายเหม' ตะพุ่นที่ แสนต้อยต่ำนี้ เจนจบในวิชาอาทมาต หนึ่งในศาสตร์ลึกล้ำของตำราพิชัยสงครามที่ขาดหายไป มิใช่เชี่ยวชาญเพียง แม่ไม้เพลงหลักหัวใจของดาบ คลุมไตรภพ สยบสิงขร ย้อนฟองสมุทร หากสามารถแตกลูกไม้เพลงรุกรับได้ดั่งใจ คล่องแคล่วไหลลื่นราวกับสายน้ำ ว่ากันว่า...นี่คือเพลงดาบของแผ่นดิน คู่แผ่นดิน แลเมื่อเพลงดาบสองมือถูกบรรเลงถูกที่ถูกเวลา ปรากฏต้องสายตาเจ้าพระยาบดินทรเดชา ผู้กล้าศึก ชะตา ชีวิตของ 'อ้ายเหม' ก็พลิกขึ้นนับแต่นั้น เทวดาของผืนแผ่นดิน ย่อมปกปักรักษาคนกล้า คนดีของผืนแผ่นดินนั้นเสมอ!!!
Review
เล่มนี้มาแนวย้อนยุคช่วงรัชกาลที่3ค่ะ ใช้ภาษาและสำนวนเก่า อาจจะแปลกตาไปบ้าง แต่ก็ได้อารมณ์ย้อนยุคดี เนื้อหา ข้อมูล เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และคชศาสตร์นั้นแน่นปึ้กเลยทีเดียวค่ะ รวมทั้งการแสดงถึงจิตวิญญาณของข้า แผ่นดินผู้จงรักภักดีต่อแผ่นดินยิ่งกว่าชีวิต...น่านับถือจริงๆ ส่วนความรักของพี่เหมกับเจ้าลำดวนก็หวานตามสไตล์คน สมัยก่อน จะเกี้ยวกันก็คอยระวังไม่ให้ฝ่ายหญิงเสียหาย น่ารักมากๆ อิอิ
ชีวิตพระเอกตกระกำลำบากน่าดู เป็นคุณชายตกยาก เกิดถึงคราวเคราะห์จนต้องกลายเป็นคนฐานะต่ำยิ่งกว่าไพร่ซะอีก เพราะการเสียสละทำเพื่อแผ่นดินของผู้เป็นพ่อ ดีว่าพระเอกเป็นคนมีดีในตัว ไม่อับจนง่ายๆ แม้จะต้องสู้ชีวิตอย่างหนัก สู้ลำบากจนเป็นควาญช้างมีฝีมือ แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ได้มาพบนางเอกอีกครั้งหลังจากกันไป10ปี เด็กหญิงจอมซน ตัวน้อยกลายเป็นสาวสะพรั่งซะแล้ว อิอิ พระเอกเป็นคนฉลาด จากวัยเด็กที่ชอบเที่ยวซนไปทั่ว แต่เมื่อประสบเคราะห์ กรรมร้ายแรง ก็กลายเป็นคนเงียบขรึม ดุดัน แต่ก็ยังมีวิชาดาบเก่งกล้า และยังเจ้าคารมเป็นที่สุด (ก็ขนาดไม่เคยแลสาว ซักคนจนเป็นหนุ่ม พอเอ่ยปากจีบสาวทียังหวานหยดขนาดนี้ )
ควาญช้างนี่มีกฎของตัวเองเยอะทีเดียวนะคะ ลำบากน่าดู ฉากรบพุ่งกันในสนามรบก็น่าหวาดเสียวดี สมัยนั้นประเทศ แถบนี้นี่โดนพวกตะวันตกรุกรานกันมาก แล้วยังมีศึกระหว่างประเทศเพื่อนบ้านกันเองอีก โชคดีของคนไทยจริงๆที่ไม่ ต้องไปเป็นเมืองขึ้นใครอย่างประเทศอื่นรอบข้าง คนเรานี่ทำชั่วเพราะหลงแต่กิเลสนั่นเอง สุดท้ายก็ต้องรับผลกรรมที่ ตัวเองก่อ ให้ร้ายคนอื่นเขาซักวันมันก็จะต้องกลับมาหาตัว ขุนนางก็มีทั้งดีและไม่ดี แม้จะถือน้ำพิพัทสัจจาก็ตาม อย่างที่หมอฝรั่งคนหนึ่งว่านั่นแหละ จะคนไทยหรือคนวิลาส(ฝรั่ง)ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีทั้งนั้น เกิดเป็นคนสมัยนั้นก็ ลำบากไม่น้อยเลยนะคะ ถ้าเป็นไพร่ที่ต้องไปเกณฑ์ ต้องไปทีละตั้ง6เดือน ออกรบทีก็หายไปนานๆ ส่งข่าวคราวทีก็ยาก คนเป็นภรรยาคงต้องอดทนกันน่าดูเนอะ ต้องดูแลบ้านอยู่คนเดียว
สนุกมากๆค่ะ เนื้อหาเข้มข้น บทหวานก็หวานจนละลาย สมัยนี้จะมีคนอย่างพี่เหมซักคนมั๊ยเนี่ย ต้องอ่านเลยค่ะ
ไหนๆก็คอมโบงานของเจ้าป้าแล้ว ก็เลยลงอีกซักเล่มแล้วกัน ก่อนที่พรุ่งนี้จะไปลุยงานหนังสือ แล้วคงบ้ากับหนังสือใหม่ ไปอีกพักใหญ่ อิอิ
Create Date : 22 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 22 ตุลาคม 2553 7:29:41 น. |
|
11 comments
|
Counter : 2834 Pageviews. |
|
|
|
ยิ่งอ่านรีวิวบล็อกนี้ ยิ่งต้องเก็บเข้าลิสต์"ค้องอ่าน"เลยทีเดียว