~ แผ่นดินหัวใจ ~ by ดวงตะวัน
ชื่อหนังสือ : แผ่นดินหัวใจ ผู้แต่ง : ดวงตะวัน สำนักพิมพ์ : พิมพ์คำ ในเครือสถาพร พิมพ์ครั้งที่ 1 : ก.พ. 2001 จำนวนหน้า : 568 หน้า ราคา : 295 บาท จากปกหลังค่ะ
หากจะเปรียบไปแล้ว ชีวิตการทำงานเป็นพัฒนากรแห่งอำเภอ บางส้มเปรี้ยวในช่วงเวลานี้ของโมฬี ก็คงคล้ายกับ เมล็ดพันธุ์ที่หล่อนนำมาส่งเสริม ซึ่งกำลังเริ่มงอกงาม โผล่พ้นดิน อวดดอกออกผลให้ชื่นใจแล้วนั่นแหละ ยิ่งวัน โครงการยิ่งเห็นเป็นรูปเป็นร่าง แม้จะยังมองไม่เห็นการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม หรือแนวนโยบายที่ ชัดเจนจากรัฐบาล แต่โมฬีก็ออกจะพอใจไม่น้อยกับโครงการเฉพาะหน้าที่ทำลงไป เพราะอย่างน้อยที่สุด หล่อน ตระหนักชัด พวกเขา--แรงงานคืนถิ่น ผู้กลับบ้านมือเปล่า พร้อมหัวใจแห้งโหยเหนื่อยล้า ...ถึงวันนี้ จะไม่อดตาย พืชผักสวนครัวที่ทดลองส่งเสริมไปในระยะแรกเริ่มให้ดอกออกผล ให้เก็บเกี่ยวมากินกันได้ก่อนแล้วหลายชนิด จริงอย่างหลวงตาบูลย์บอก...แค่มีผืนแผ่นดิน ก็ไม่อดตายแล้ว ที่ดินแม้เพียงเล็กน้อยหลังบ้าน แค่โปรยเมล็ดพันธุ์ลงไป ไม่ช้าไม่นานเกินรอก็ได้อิ่มหนำ ตลอดเวลาของการ มีชีวิตอยู่แต่ในกรุงเทพฯมายี่สิบปีเศษ โมฬีไม่เคยนึกถึงคุณค่าของผืนแผ่นดินมากเท่าวันนี้เลย แค่มีแผ่นดิน ก็ไม่อดตาย แม้ไม่มีเงินทอง ก็ไม่ใช่เรื่องสาหัสของชีวิตอีกต่อไป...
จากเวปดวงตะวันค่ะ
วิกฤตเศรษฐกิจ เมื่อปี 2540 ทำให้แรงงานจำนวนไม่น้อยต้องซมซานจากเมืองหลวงกลับบ้านนอก ท่ามกลาง เสียงขานรับ "กลับคืนชนบท" ดังกระหึ่มไปทั่ว แต่คำถามก็คือ บ้านที่ต่างจังหวัดซึ่งพวกเขาจากมาตั้งแต่ครั้ง ยังเป็นเด็ก เป็นหนุ่มสาว คือทางออกที่ดีจริงๆหรือ
กำนันไก่โต้งแห่งบางส้มเปรี้ยวไม่คิดเช่นนั้น ...ชนบทมิใช่ภาพอันหยุดนิ่งชะงักงัน ไม่แปรเปลี่ยนไปเลยตลอดเวลา หลายสิบปี ชนบทมิได้มีแต่คนไทยรวยน้ำใจมากไมตรี ข้าวปลาอุดมสมบูรณ์อย่างที่คนเมืองหลวงฝันถึง
ขณะที่พัฒนากรสาวไฟแรงอย่างโมฬีก็มองเห็นความจริงนี้เช่นกัน หลายฝ่ายผลักดันแรงงานกลับบ้านเกิด ก็แล้วจะ ให้พวกเขาทำอะไร อยู่อย่างไร และกินอย่างไร พัฒนากรสาวหันหน้าเข้าปรึกษาคนในพื้นที่อย่างกำนันไก่โต้ง
กว่าสาวกรุงเทพฯ กับหนุ่มบางส้มเปรี้ยวจะประสานงานกันได้ลงตัว ก็ต้องประสานงากันอยู่หลายครั้ง จนในที่สุด จึงประสานใจกลายเป็นรัก ไม่ใช่เพียงแต่รักของเขาและเธอเท่านั้นหรอก แต่ยังเป็นรักที่มีต่อแผ่นดินถิ่นเกิดอีกด้วย
Review
พักยกจากการท่องธิโมส์มาพักใหญ่ค่ะ กลับมาเที่ยวเมืองไทยกันบ้าง อิอิ เล่มนี้ไปคว้าเอาฉบับพิมพ์ครั้งแรกจากที่ ห้องสมุดมาค่ะ เพราะยังไม่ได้ซื้อแต่เกิดอยากอ่านขึ้นมากะทันหัน 555 เดี๋ยวค่อยไปสอยในงานหนังสือมาเก็บอีกที
เล่มนี้จะย้อนกลับไปเมื่อช่วงหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี2540ค่ะ ธุรกิจมากมายล้มกันระเนระนาด แรงงาน จำนวนมากที่เข้าเมืองกรุงมาทำงานจึงพากันกลับบ้านเกิด แต่พวกเขาจากบ้านเกิดมานานจนรับเอาชีวิตในเมืองหลวงกลับ ไปด้วย พวกเขาจะกลับมาใช้ชีวิตในทุ่งนาได้หรือไม่ พัฒนากรสาวไฟแรงผู้มีอุดมการณ์เต็มเปี่ยมอย่างโมฬี ก็พร้อมที่จะ เดินหน้าเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ร่วมกับกำนันไก่โต้ง ซึ่งเธอไม่ค่อยจะชอบใจนักเมื่อแรกเริ่ม แต่นับวันใจก็ชักจะเริ่มเอียง และนอกจากเศรษฐกิจที่ทำพิษแล้ว "คน"ยังทำพิษอีกด้วย เมื่อผู้มีอำนาจหวังกอบโกยผลประโยชน์ หากินโดยการซ้ำเติม ความทุกข์ยากของชาวบ้าน ทุกคนยิ่งต้องร่วมมือกันหาตัวผู้อยู่เบื้องหลัง และช่วยกันฟันฝ่าวิกฤตนี้ไปให้ได้
ไม่ได้ดูเรื่องนี้ตอนที่สร้างเป็นละครค่ะ แต่อ่านแล้วเห็นหน้าพ่อกำนันไก่โต้งจ๋าเป็น ปอ-ทฤษฎี (ใน"ผู้ใหญ่ลีกับนางมา") ลอยมาเลยทีเดียว ช่วงแรกแอบหมั่นไส้พระเอกพอดูค่ะ คือทั้งพระเอก-นางเอกต่างก็ตั้งแง่อคติกับอีกฝ่ายตั้งแต่ยัง ไม่ได้เจอหน้ากันซะด้วยซ้ำ นางเอกน่ะไม่มากเท่าไหร่ค่ะ แต่พระเอกนี่สิ..จะแขวะอะไรกันนักน๊าาาาา ยียวนกวนประสาท ได้โล่เลยทีเดียว คงจะเจออะไรแย่ๆในระบบราชการมาเยอะจริง เลยอคติแรง แต่บทจะเริ่มรู้ใจตัวเองนี่สิคะ โอย ละลายเลยหละค่ะ จะน่ารักไปไหนค้าพ่อกำนัน (บางครั้งแอบรู้สึกว่าพ่อกำนันแกเปลี่ยนอารมณ์ได้จากหลังเท้าเป็น หน้ามือจริงๆนะเออ 555)
เล่มนี้ตัวละครมีสีสันและมากมายดีค่ะ ชาวบ้านบางส้มเปรี้ยวน่ารักกันทั้งนั้น ที่สำคัญก็คือ 2สาวน้อย มะปรางกับส้มโอ 2หน่อประจำบ้านพ่อกำนันไก่โต้งที่น่ารักน่าเอ็นดูซะจริงๆ เอา"แม่แตงโม"มารวมกลุ่มเข้าพวกกันได้พอดีเลย อิอิ
สนุกดีค่ะ ได้เห็นแนวคิดอะไรหลายๆอย่างที่คิดไม่ถึง ทฤษฎีที่รู้จากในตำรายังไงก็ไม่เหมือนลงไปเห็นปัญหาในท้องถิ่น รับรู้ความต้องการของชาวบ้านจริงๆ คิดๆไปคนกรุงเทพเรานี่ก็ทำงานเหนื่อยกันไปเพื่อแลกกับสิ่งฟุ่มเฟือยทั้งหลายแหล่ ถ้ามีชีวิตอย่างพอเพียงอย่างแนวคิดของในหลวงได้จริงๆก็คงเป็นเรื่องดี แต่สำหรับคนกรุงที่เคยชินกับแสงสีและสิ่งของ ก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะละทิ้งสิ่งเหล่านั้น ..ว่าไปแล้วเราก็ทำไม่ได้เหมือนกันนั่นแล..
เรื่องนี้ไม่มีตัวอิจฉามาชิงรักหักสวาทกันให้ปวดหัว มีแต่ตัวโกงมาคอยโกงกิน ใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปในทางที่ผิด หาผล ประโยชน์จากชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อนกันอยู่แล้ว ก็ได้แต่หวังว่าคนโกงกินพวกนี้จะหมดไปได้ซักวัน(แล้วจะมีมั๊ยวันนั้น) เล่มนี้ยังเป็นการเปิดตัวดร.อนลด้วยค่ะ(ใช่มั๊ย) ซึ่งจะไปเป็นตัวละครหลักใน"รุ้งจันทร์ตะวันดาว"ปฐมบทธิโมส์นั่นเอง
"นาข้าวที่รอปุ๋ยกับปัญหาปากท้องของชาวบ้านน่ะ มันไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์ หรือวันหยุดราชการหรอกนะ"
Create Date : 11 มกราคม 2554 |
|
19 comments |
Last Update : 11 มกราคม 2554 0:19:46 น. |
Counter : 1994 Pageviews. |
|
|
|
แต่เราเฉยๆ นะพลอย เรื่องนี้อ่ะ
เราว่า บรรยากาศมันคล้ายๆเรือนดอกรัก
แต่ก็ชอบในบรรยากาสท้องทุ่ง ต่างจังหวัด
อีกส่วนที่อ่านแล้วเฉยๆ...คืออ่านบุคลิกไก่โต้ง
และญาติผู้พี่ของนางเอก..ทีไร นึกภาพสลับกันทุกที
ในละครไก่โต้งคือพี่แท่งค่ะ...ส่วนญาติผู้พี่นางเอกนั้น
เป็นพระเอกรักแผลงฤทธิ์...ฉัตรชัยกับน้องตั๊ก บงกชค่ะ