กันยายน 2557

 
1
2
3
4
5
6
7
8
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ตอนที่ 4 : 17 วัน 6 เมือง ที่ยูนาน ประเทศจีน : ตะลุยเที่ยวลีเจียงเมืองเก่า
เรามาเดินชมเมืองลี่เจียงกันต่อดีกว่า เดินย้อนกลับมาทางเดิม เมืองลี่เจียงวันธรรมดาคนน้อย กว่าเสาร์ อาทิตย์คะ เดินไปเดินมาก็เหมือนจุตจักร (JJ Market) บ้านเราเลย ของขายก็คล้ายๆ กัน มีทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน ของฝาก ร้านถ่ายรูปที่ระลึกโดยแต่ชุดพื้นเมืองของจีน ผับ บาร์ ที่พักก็มีหลายระดับ ราคาต่างกันไป









ช่วงเย็นจะมีคุณป้า คุณยายชาวนาซีมาเต้ารำ โชว์กัน



เดินผ่านศูนย์อาหารเหมือนเดิม





ผ่านไปรษณีย์เมืองลีเจียงด้วย



เดินย้อนกลับมาจนถึงทางเข้าโรงแรมเพื่อออกไปหาอาหารเย็นทาน (อาหาร ผลไม้ ของฝาก ซื้อนอกเขตเมืองเก่าจะถูกกว่ามากคะ) ที่ประเทศจีนนี้มืดช้า สว่างเร็วนะคะ 19.00 -20.00 น. ยังกับ ห้าโมงเย็นบ้านเรา ที่นี่จะเริ่มมืดตอนช่วง 20.30 น. คะ ระวังเดินเพลินนะ เราเป็นมาแล้วลืมดูนาฬิกานึกว่ายังไม่ดึก ตลอด 5 วันที่อยู่ลีเจียงนี่เดินกลับที่พักสี่ทุ่ม ห้าทุ่มทุกวันเลย ชมเมืองเพลิน หลงทางมั้งละ


แวะทานอาหารร้านหน้าปากซอย (เดินออกมาด้านซ้ายมือ) และลงหลักปักฐานที่ร้านนี้เกือบจะทุกเย็นเพราะทานแล้วท้องไม่เสีย อาหมวยทำสะอาด นิสัยกี น่ารักด้วย จานนี้ราคา 70 บาทคะ 



กินแกล้มกับผักดอง อาหมวยจะมีน้ำซุปแถมให้ทุกครั้ง



อิ่มแล้วก็เดินเล่นไปจนถึงที่พัก Garden Inn (ไกลมาก ขอบอก) ลืมบอกไปว่าหน้าปากซอยที่เดินเข้าไปที่พัก Garden Inn นั่นมีร้านอาหารเจ้านี้อยู่ด้วย  น่าจะเป็นร้านอาหารที่ในห้องบลู พันทิปบอกกัน เพราะสังเกตจาก Post it ที่แปะเต็มข้างฝาผนัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของร้านนี้ แต่เราไม่ได้เข้าไปชิมนะ


หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเราสิงสถิตย์อยู่เมืองลี่เจียงนานจัง ตั้ง 5 วัน นั่นเป็นเพราะว่า 
วันที่ 1-2 เรามัววุ่ยวายอยู่กับการหาที่พักและพักผ่อนจากการเดินทางอันเหน็ดเหนื่อยคะ 
วันที่ 3    ออกตะเวนสำรวจเมืองเก่าลี่เจียง และหาซื้อซิมโทรศัพท์
วันที่ 4    หาทางไปชมสระน้ำมังกรดำ หรือเฮยหลงถัน (Heillongtan, Black Dragon Pool) และหาร้านทัวร์ไปเที่ยวภูเขาหิมะเหมยลี่ (เพราะคิดว่าไป เองน่าจะไม่ทัน และไม่คุ้มราคา แบบว่า...งก....อะนะ)
วันที่ 5    ไปเที่ยวภูเขาหิมะมังกรหยก 1 วันเต็ม + หาซื้อซิมโทรศัพท์
วันที่ 6    ออกเดินทางไปเที่ยวภูเขาหิมะเหมยลี่ 4 วัน 3 คืน (ไปกับทัวร์ที่หาซื้อในเมืองลี่เจียง)

เพราะงั้นเราจะรีวิวแบบแบ่งเป็นส่วนๆ นะคะ ให้ไล่แต่ละวันคงไม่ไหว เดี๋ยวเล่ากลับไปกลับมาเอาเป็นว่าแนะนำเมืองเก่าลี่เจียงให้จบในตอนเดียวก่อน และจะตามด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่เราไปเที่ยวกันเนอะ 



พามาชมโซนตลาดเมืองลี่เจียงกันบ้าง หากรู้ทิศทาง เดินล่องแล้ว เดินมาแป๊ปเดียวเอง ของถูกกว่าเยอะเลย





กิจกรรมยามว่างของชาวจีน



ร้านขายเนื้อสัตว์ เอิ่ม...เนื้อไรก็ไม่รู้กลิ่นไม่ค่อยปราณีจมูกเลย น่าจะเป็นเจ้าจามรี



ในตลาดเมืองลี่เจียงนี้คือสวรรค์ของเราเลย ของถูกมาก (แนะนำว่าจากข้อมูลที่เสาะหามาเมื่อเวลาเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่สูงเขาให้ซื้อผลไม้จำพวกกล้วยหอม และแอ๊ปเปิ้ลติดตัวไว้คะ เนื่องจากกลัวยหอม >> ให้พลังงาน //แอ๊ปเปิ้ล >> เพิ่มความสดชื่น แก้กระหายน้ำ เราซื้อติดไว้ตอนออกเดินทางไประหว่างเมืองต่างๆ ช่วยได้เยอะมาก น้ำเปล่าก็ต้มจากที่พักแล้วกรอกใส่กระติกน้ำร้อนเอา หรือใครจะปล่อยให้เย็นแล้วใส่ขวดพลาสติกก็ได้) เบื่อๆ ก็ซื้อมะเขือเทศไปกินมั้ง (ปล. ราคาแอปเปิ้ลก็เมือนบ้านเราคือคิดเป็นลูก ลูกละประมาณ 30-40 บาท กล้วยหอมนี่แล้วแต่บางก็คิด 3 ลูก 4 ลูก 20-30 บาท บางเจ้าก็เอาไปชั่งตาชั่งเอาแล้วแต่ว่าเราจะเอากี่ลูกคะ



ในตลาดมีอาหารขายด้วยนะ คนมุงร้านนี้เยอะมาก เหมือนร้านข้างทางบ้านเรา เราเลยไปลองบ้างเพราะเห็นว่ามีผักเยอะดี อารมณ์ประมาณสุกี้มั้ง รับตะกร้อมาก็คีบผักต่างๆ ที่ต้องการใส่ตะกร้อเอง แล้วก็ยื่นให้เขา เขาก็จะเอาเบอร์หนีบตะกร้อเราไว้ พอลวกเสร็จก็จะเรียกเบอร์ แล้วถามว่าจะเอาแบบเผ็ดมาก หรือเผ็ดน้อย ใส่น้ำมันเยอะไหม เราก็บอกว่า "ล่า เจียว ปู่เย่าฟั่นเหว่ยจิง" (ขอเผ็ด น้ำมันน้อย ไม่ใส่ผงชูรส)



สารพัดผัก และสาหร่าย มีเส้นบุกด้วย สาวชาวจีนทานกันเยอะมาก มีสั่งกลับบ้านด้วยละ ราคาถ้วยละ 35-40 บาท 



ส่วนคุณแฟนมานั่งทานขนมร้านข้างๆ ขนมไรก็ไม่รู้ชามละ 20 บาท น่าตาแลดูไม่น่าทานแต่อร่อย



แอบถ่ายช้อนเมืองจีนก้อน ด้ามจับยาวกว่าของเรา ช้อนที่นี่เรียกว่า "โส่วจึ" จ๊ะ



ลักษณะเหมือนวุ้น รสชาติออกหวานๆ คลายร้อนได้ดี



น่าตาอาหารที่เราทานกันระหว่างอยู่เมืองจีน รสชาติไม่ถูกปากอีกละ จืดและเลียนได้อีก เง้อ...(ที่จีนนี่ถามหาน้ำปลาแล้วเขางงนะคะ เขาไม่มี เขาใช้แต่เกลือกัน เราก็เลยต้องเอาเกลือมาโรยใส่บะหมี่แทนให้มันออกเค็มๆ พอได้อยู่ "เกลือ เรียกว่า เหยี่ยนจ๊ะ"





นี่รังนกบ้านเขา มันเห็ดหูหนูขาวชัดๆ T^T



ทาร์ตไข่ที่ใครเขาว่าอร่อย แต่เราไม่ชอบอะ กัดไปคำเดียวทิ้งเลย จืดสนิท แบร่!! (แพงด้วยอันละตั้ง 23 บาท ฮ่วย)



ขนมเปี๊ยไส้กุหลาบ ของฝากขึ้นชื่อของเมืองลี่เจียง เพราะอะไรก็ไม่รู้ เห็นมีขายทุกร้าน รู้แต่ว่าชิมแล้วมันไม่อร่อยอย่างแรง กลิ่นกลีบกุหลาบเต็มคอเลย 







ขนมปังเนยแบบกรอบชิ้นละ 1 หยวนเอง ใครชอบจัดไปคะ 


ในเมืองเก่าลี่เจียงมีร้านขายขนมปังหลายร้านอยู่นะคะ ราคาก็พอกับตามห้างบ้านเรา



น่ากินมาก แต่ไม่กล้าลอง กลัวไม่ถูกปากเรา



ช่วงเย็นวันหนึ่งก็นึกอยากลองกินก๋วยเตี๊ยวในตำนาน ที่มีชื่อเรียกว่า "ก๋วยเตี๊ยวข้ามสะพาน" ทานร้านที่อยู่ในเขตเมืองเก่าลี่เจียงนี่ละ ขี้เกียจเดินออกไปนอกเมืองละคะเดี๋ยวหลง 555





มาดูเมนูกัน เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อยก่อน



เต้าหู้ (โต้ฟู) จานนี้ราคา 50 บาท เราสั่งแบบเผ็ดมาก นำ้มันน้อย (ล่า ล่า เจียว)





ก๋วยเตี๊ยวข้ามสะพานมีทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่ ขึ้นอยู่กับขนาดของคนที่ทานคะว่ามากันกี่คน เจ้าของร้านแนะนำชุดเล็กสำหรับ 2 ที ราคา 38 หยวน ประมาณ 200 บาท จัดไป



น้ำซุปมาก่อน อย่าโดนชามนะมันร้อนมาก





เครื่องเคียง





สั่งไข่ต้มมาเพิ่มพลัง (ปรากฏว่ากินแทบไม่ได้ ไข่ต้มเมืองจีนเค็มมากเลย เรายกให้คุณแฟนจัดการไปละ)



เจ้าของร้านแนะนำวิธีการทานด้วยน่ารักมาก บอกว่าให้ใส่เนื้อสัตว์ลงไปก่อน 



แล้วก็ชี้บอกว่าตามด้วยผัก



ใส่เส้นทีหลัง ค้นให้เข้ากันแล้วปรุงรสชาติที่ต้องการ รสชาติแบบไม่ปรุงมันจืกสนิทเลย แต่หอมน้ำซุปมาก 



นี้คือ "หมาร่า" เครื่องเทศขึ้นชื่อของเสฉวน มีในลี่เจียงด้วย เราก็ใส่ลงไปในก๋วยเตี๊ยวคะ ให้รสชาติเผ็ด ร้อน เพื่อไล่ความชื้นออกจากร่างกาย ตอนทานนี่แบบว่าเผ็ดจี๊ดๆ ไม่มาก แต่ทานมากปากเริ่มชา หน้าเริ่มแดง น้ำตาไหลแล้ว ทานเยอะปากชานานเลย ช่วยไล่ความหนาวเย็นได้ดีมาก เหงื่อออกเต็วเลย



รสชาติถูกปากดีคะ มื้อนี้ก็ประมาณ 300 กว่าๆ 



เดินออกมาจากร้านปากยังชาไม่หายเลย ขอแวะหาขนมทานแก้เผ็ดดีกว่า เกิดอยากทานเครปเย็นขึ้นมาซะงั้น



จัดไป ราคาอันละ 139 บาท จำได้แม่น เพราะของโปรด อิอิ





น่าหม่ำไหมคะ



วันต่อมาลองเดินออกมานอกเขตเมืองเก่ากันบ้าง







เดินไปบริเวณจตุรัสอวี่เหอ






แดดแบบนี้ แต่ขอบอกว่าอากาศเย็นมากคะ



เดินออกมาทางถนนเส้นนี้ 



ริมถนนจะมีของวางขายเหมือนบ้านเรา ที่นี่เอาหินมาขายด้วย หยกละมั้ง เห็นนักท่องเที่ยวบางคนหยิบขึ้นมาชิมด้วย



ตรงมาจะเป็นถนนหน้าตาแบบนี้คะ เป็นเขตเมืองใหม่ละ ตรงตามโพยที่หาไว้ว่าช่วงนี้เมืองลี่เจียงกำลังทำถนน ทำให้การจราจรในช่วงเร่งด่วนติดมาก



เป้าหมายของเราคือ ร้านขนมปัง JOY BAKERY เราแวะเดินดูขนมและเทียบราคาเกือบทุกร้าน เพื่ออะไรก็ไม่รู้ 555 ความสุขอะ อยากรู้ว่าเขาขายของไรกันบ้าง ราคาแพงกว่าบ้านเรามากหรือเปล่า



แต่ก่อนจะข้ามถนนไปมองไปทางขวามือจะเห็นถนนแบบนี้ อ๊ะ...!!!! นั่น...นั่นมันภูเขาหิมะมังกรหยกนี่ (ตามข้อมูลที่หาไว้แจ้งว่าจะมีถนนเส้นหนึ่งทางทิศตะวันตก ชื่อเชียงกาลีต้าเต้า สามาถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะมังกรหยกจากถนนเส้นนี้ได้) ก่อนเจอไอ้เราก็คิดตั้งนานนะว่าแล้วตรูไม่ใช่คนพื้นที่ ฟัง พูด อ่าน เขียน ภาษาจีนไม่ได้ จะรู้ไหมเนี่ยว่าไอ้ "ถนนเส้นชียงกาลีต้าเต้า" มันอยู่ตรงไหน รูปก็มีให้ดูแต่เป็นแบบว่านะเขาไปบ่อยแล้ว แล้วไอ้คนที่เพิ่งออกท่องโลกเยี่ยงเราจะรู้ไหม เฮ้อ.. >> เมื่อมาเจอเลยถ่ายไว้เองเลย หวังว่าร้านรวงที่ตั้งอยู้แถบนี้คงไม่เจ๊งไปก่อนนะ



ซูมกล้องเข้าไปอีกเพื่อความชัวร์ (เห็นแค่นี้ก็ดีใจแล้ว อยากไปเที่ยวขาหิมะมังกรหยกเร็วๆ) อิจฉาคนที่นี่จังมีวิวธรรมชาติสวยๆ ให้ดูทุกวันเลย



ว่าแล้วก็ข้ามไปร้านขนมปัง JOY BAKERY ดีกว่า ขนมปังก็คล้ายๆ กับบ้านเราเพียงแต่ที่จีนเวลาซื้อไม่มีถุงพลาสติกหูหิ้วใส่ให้แบบบ้านเรา เขาถือออกจากร้านกันเลย ดูไปดูมาได้ไอติมมาซะงั้น หนาวก็หนาวแต่อยากกินอะ 2 แท่ง 40 บาทค่า ทำจากผลไม้แท้ๆ 



อร่อยด้วย



คุณแฟนกินรสบลูเบอร์รี่





ลี่เจียงเมืองเก่านี่เราใช้เวลาเดินประมาณ 2 วันก็จำทางได้ละ แค่จำทางหลักๆ ที่ใช้บ่อยพอ เช่น ทางไปตลาด ทางกลับที่พัก ทางออกนอกเมืองเก่า เดินทุกซอยจะไม่ไหวนะ เวียนหัว วันอื่นเราก็ออกมาหาของทานข้างนอกอีก เบื่ออาหารในเมืองเก่าละ แพงและไม่อร่อยด้วย เปลี่ยนมาเป็น KFC บ้าง ดีใจน้ำตาไหลพราก ได้กินเนื้อสัตว์เป็นชิ้นซะที หลังจากที่กินแต่วิญญาณมันมานาน 555 (ช่วงนั้นคิดถึงไก่ย่าง ส้มตำบ้านเรามาก) KFC ประเทศจีนราคา 399 บาท บ้านเราราคา 299 บาท มาดูกันดีกว่าว่ามันมีอะไรต่างกันอีก 1. น้ำเป๊ปซี่ไม่มีน้ำแข็งให้เน้อ ไม่รู้ทำไม 2. ฝาปิดกล่อง KFC ไม่มีคะ มีแต่กระดาษกลมๆ ปิดไว้เฉยๆ



3. ซอสพริกไม่มี มีแต่พริกป่นผงมาให้โรยใส่ไก่แทน



4. มันบดไม่มี มีแต่ข้าวโพด



5. ไก่แลดูชิ้นเล็กกว่าของเราเยอะ รสชาติก็ต่างกันคะไก่บ้านเราเนื้อนุ่มแน่น แต่บ้านเขาเนื้อนุ่ม ดึ้งๆ ไงก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าดีกว่ากินเนื้อน้องจามมรีละกัน



ชีวิตช่วงนี้อยู่เมืองลี่เจียงก็จะไม่มีไรมากคะ แค่เดิน เที่ยว กิน ชมโน้นนี่นั่น และที่สำคัญคือการตามล่าหาซิมโทรศัพท์แบบเล่นเนทได้ (มีติดไว้สบายใจกว่า) Wifi ฟรีมีแต่ในที่พักเท่านั้นคะ เดินไป 3-4 ร้านก็บอกว่าไม่มี บางทีก็ไม่ขาย สงสัยเห็นว่าเราเป็นต่างด้าว และอีกเหตุผลหนึ่งคือเดินสอบถามราคาบริษัททัวร์เพื่อไปภูเขาหิมะเหมยลี่ในเมืองเก่าลี่เจียง เพราะคิดว่าถ้าไปกับทัวร์ถูกกว่าไปเองก็จะไป เลยเดินถามหลายร้านมาก (ขอเม้าท์+นินทาหน่อยบางร้านนี้แพงเวอร์มาก โกงราคากันชัดๆ บางร้านก็ถูกเกิน เราต้องสอบถามกันดีๆ นะคะว่าราคานั้น รวมค่าอะไรบ้าง เช่น ค่าที่พัก ค่าทิปคนขับ+ไกด์ ค่าเข้าชมสถานที่ ค่าอาหารรวมไหม ค่าเสื้อกันหนาว ค่าอ๊อกซิเจนกระป๋อง เพราะบางร้านราคาถูกแต่ไม่รวมสิ่งเหล่านี้เน้อ) แล้วจะถามไง?? ไม่ต้องสงสัยคะ บอกไปแล้วว่าแค่มีหนังสือ SURVIVOR จีน ก็เอาตัวรอดได้ อย่ากลัวใช่มุขเราเลย >> กางหนังสือ จิ้ม ชี้ถาม >> เขาตอบมาเราไม่ต้องกลัวคะ เพราะส่วนมากที่เจอเขายินดีช่วยเหลือเรา ใครไม่ช่วยช่างมัน อย่าได้แคร์คะ เดินไปหาเหยื่อหลายอื่นต่อไป 555 (ปล. อบากกราบคนจัดทำหนังสือเล่มนี้จัง มันสุดยอดมาก ขอบอก) 



วันอื่นก็เดินไปซื้อไอติมร้านอื่นมั้ง นี่ก็เป็นร้านขนมปังเหมือนกันแต่มีไอติมโคนขาย ราคาโคนละ 30 บาท



คิดถึงไอติม KFC 9 บาทบ้านเราจริงๆ 



อ๊ะ..เดี๋ยวหาว่าโม้ ไปยืมคนอื่นมาถือถ่ายรูป กินให้ดูเลย 



มาเรื่องซิมโทรศัพท์กันบ้างคะ รูปนี้ขอพี่ที่รู้จักกันทางเนท ชื่อพี่ตาคะ ออกเดินทางมาเที่ยวในช่วงระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ตามมาสมทบเจอกันที่เมืองลี่เจียงและไปเที่ยวภูเขาหิมะมักรหยกด้วยกัน จากนั้นพี่ตาก็แยกไปเที่ยวเมืองเก่าซูเหอต่อ เจอกันวันเดียวเอง ซิมโทรศัพท์นี่พี่ตาบอกว่าซื้อจากเมืองคุนหมิงคะ หน้าตาแบบนี้ ราคาเท่าไไม่รู้ จำไม่ได้



ด้านหลัง



ส่วนของเรากว่าจะหาซื้อที่เมืองลี่เจียงได้แทบแย่ ปรากฏว่าไปได้เอาตรงร้านที่ลงรถเมล์เมื่อตอนขามาวันแรกละ เจ้าหน้าที่ใจดีมาก ช่วยเหลือเต็มที่ 



หน้าตาโบรชัวร์ที่แนะนำแพ็คเก็จเรา ตามที่แกวงไว้ให้ เพราะเราบอกว่าต้องการซิมโทรศัทพ์ที่ใช้โทรเข้า-ออกแค่ในประเทศจีน และสามารถเล่นเนทได้



ซิมโทรศัพท์เราเป็นแบบนี่ค่า ทั้งหมดราคา 1,000 บาท ค่าซิมก็ 500 บาทแล้ว (แพงกว่าไทยเยอะเลย) หลักฐานที่ใช้คือ passport นะคะ บัตรประชาชนไทยใช้ไม่ได้เน้อ เจ้าหน้าที่เข้าใช้บัตรประชาชนของเขาแทน 



นี่หน้าตาร้านที่ขายซิมโทรศัพท์มือถือให้เรา







Create Date : 10 กันยายน 2557
Last Update : 10 กันยายน 2557 15:34:07 น.
Counter : 3257 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.

Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
https://www.facebook.com/EmmyJourney

Blog : https://emilia0412.bloggang.com

** ขอสงวนสิทธิ์ ***
ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก