พฤษภาคม 2554

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
วิธีการเลือกซื้อแพคเกจทัวร์

พอดีไป Search เจอกระทู็นี่เข้าโดยบังเอิญ อ่านไปอ่านมาเห็นว่าดี มีประโยชน์เลยขอเก็บรวบรวมไว้หน่อยนะค่ะและเพื่อเพื่อนๆ ท่านใดหลงเข้ามาอ่านเจอก็จะได้ความรู้ดีๆ จากคุณสมุทรสัญจร(เจ้าของกระทู้) ด้วยค่ะ ปล. เอาข้อมูลมาตามลิงค์ค่ะ< /p>

topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/02/.../E7570279.html (ลิงค์จะขึ้นไหมเนี่ยเพิ่งหัดทำอ่านะ)Smiley

*** รวบรวมรูปแบบ แพคเกจ และ โปรโมชั่น ต่างๆที่เสนอขายในงานฯ***



ขอแนะนำว่าเป็นเวลาที่เหมาะ
สำหรับไปเดินเลือกซื้อแพคเกจทัวร์ ครับ
ตอนนี้เอาแค่เที่ยวในไทยก่อนนะ
ต่างประเทศค่อยว่ากันทีหลัง

ตามนโยบาย ช่วยชาติ

เพราะ.......

1. เป็นช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ และ หยุดยาวหลายๆวัน
ท่านจะได้เตรียมตัว เลือกจองเอาไว้เนิ่นๆ

2. เป็นช่วง Low/Green Season ซึ่งหลายๆโรงแรม ผู้ประกอบการนำเที่ยว
สามารถเสนอขายราคาได้ถูก กว่าช่วงเวลาอื่นๆ

3. ส่วนมากโรงแรม และ ผู้ประกอบการนำเที่ยว จะทิ้งช่วงเวลา (Open Date)
สำหรับยืนยันเข้าพัก ได้ยาว บางแห่งจะยาวจนถึง สิ้นตุลาคม ของปี
ก่อนจะปรับราคาเข้าสู่หน้า High และ Peak

4. ดังนั้นจึงเกิดช่วงเวลาขาย ได้นาน
หลายๆเจ้า หลังจากออกบูธ แล้วเขาก็จะเก็บแพคเกจไว้ขายต่อที่บริษัท
หรือ เวบไซต์ ได้อีก โดยยังยืนราคาเดิม
เหมาะสำหรับหลายๆท่านที่ยังตัดสินใจในงาน ไม่ได้
สามารถโทรเข้าไปจองที่บริษัท ได้ภายหลัง

5. การตัดสินใจยกเลิก หรือ เลื่อนการเดินทาง
ท่านอาจจะเสียค่ายกเลิก (Cancellation Charge) นิดหน่อย
หรือไม่มีเลย หากท่านทำตามเงื่อนไขกำหนดเวลายกเลิก
ตามแต่ละที่จะกำหนดไว้
เพราะเป็นช่วง Low Season และ ระยะเวลาหลายเดือน อยู่

ครับ ไปเดินในงานแล้ว แนะนำให้เก็บใบปลิวที่น่าสนใจให้เยอะที่สุด
เอาที่น่าสนใจนะครับ
อาจจะไปเก็บวันแรก แล้วมานั่งดูเปรียบเทียบที่บ้าน
อันไหน พอรับได้ ค่อยกลับไปจองวันต่อไป
*** รวบรวมรูปแบบ แพคเกจ และ โปรโมชั่น ต่างๆที่เสนอขายในงานฯ***
********************************************
1.โรงแรม/รีสอร์ท มาขายเอง อันนี้ได้ราคาต่ำกว่าราคาปกติ
ท่านอาจจะได้เฉพาะห้องพักราคาถูก รวมอาหารเช้า
ลูกเล่นอาจจะมีตั้งแต่

- ลดราคาห้องพักต่อคืน ถูกกว่าราคาปกติ 20-70%

- ซื้อ 1 คืน แถม 1 คืน (คืนแถม จ่ายค่าอาหารเช้าเอง)
อันนี้เป็นลูกเล่นมาจาก ลด 50% แต่โรงแรมจะได้ขายห้อง (Occupancy)
เพิ่มมาอีก 1 คืน ดีกว่าลดดุ้นๆ 50% เพราะอาจขายได้แค่คืนเดียว

- Bonus Night ซื้อ 2 คืน แถม 1 คืน (คืนแถม จ่ายค่าอาหารเช้าเอง)

- Bonus Night ซื้อ 3-4 แถม 1 คืน อันนี้ขายยาก เพราะคนไทยที่ต้องทำงาน มีเวลาน้อย

- แถมพ่วงบริการต่างๆ ที่มีในโรงแรม(Facilities) ให้ดูคุ้ม เช่น
ฟรีอินเตอร์เนต ฟรีนวดไทย/สปา ฟรีรถรับ-ส่ง คูปองส่วนลดค่าอาหาร
ฟรีค่าพักเกินเวลาหลังเที่ยง (Late Check Out/Half Day Charge)
และอื่นๆ อีกมากมาย

- ขายเป็นบัตรกำนัล(Gift Voucher) ไม่ระบุชื่อผู้พัก ไม่ระบุวันเข้าพัก
แต่มีกำหนดหมดเขต ราคาลดบ้าง หรือ ไม่ลดเลย
แต่มีข้อดีตรงที่ ระหว่างวันที่ซื้อ จนถึงวันหมดเขต ราคาห้องจะตายตัว
ไม่มีขึ้นๆลงๆตามฤดูกาลท่องเที่ยว
ไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ขอให้ติดต่อขอห้องว่างกับทางโรงแรมล่วงหน้า
เหมาะสำหรับซื้อเก็บไว้ รอการตัดสินใจ วันที่แน่นอน
ถ้าติดขัดไปเองไม่ได้ ก็ สามารถขายต่อ หรือให้ผู้อื่นได้

**โปรดเข้าใจโรงแรมด้วย**
ตรงที่ บางท่านเข้าใจว่า
มี Voucher ตัวนี้แล้ว จะมีสิทธิ์เข้าพักได้ทุกเมื่อ
ยังครับ!! ตัวนี้มันแค่ การันตีเรื่องราคา เท่านั้นครับ

เรื่องห้องว่าง ตราบใดที่ท่านยังไม่แจ้งวันที่แน่นอน
ทางโรงแรมยังมีสิทธิ์ ใช้วิธีมาก่อนได้ก่อน (First Come, First Serve)
เขาจะให้ห้องแก่คนที่ยืนยันวันเข้าพักเรียบร้อยแล้ว ก่อนครับ
ไม่สามารถพิจารณาจาก Voucher ที่ท่านถือได้ครับ
หากวันที่ท่านประสงค์จะพัก เกิดห้องไม่พอ นะครับ

หลายท่านบ่นว่า โดนโรงแรมหลอกขาย Voucher
แต่พอจองจริงๆกลับไม่ยอมให้พัก

**ทางที่ดี หากได้วันเดินทางที่แน่นอนแล้ว
โทรจองห้องกับทางโรงแรม ทันทีเลยครับ
อย่าชะล่าใจ ว่าค่อยโทรจองใกล้ๆวันเดินทาง**


- พักที่นี่ ฟรีที่โน้น , หรือ พักที่นี่ ได้ส่วนลดที่โน้น
โปรโมชั่น นี้ ส่วนมากเป็นพวกบรรดา โรงแรมมีเครือ (Chain)
โรงแรมพี่โรงแรมน้อง(Sister Hotel)
หรืออาจได้ส่วนลดหรือฟรี ไปใช้ในธุรกิจพันธมิตรต่างๆ (Consortiam)
เช่น รถเช่า แสดงโชว์ อาหารค่ำ ร้านค้า สปา


- บริษัทรับเหมาการตลาด (Out-source Marketing)
เวลานี้หลายๆโรงแรมกำลังฮิตใช้บริการบริษัทเหล่านี้
เป็นธุรกิจต่อยอดมาจาก ตัวแทนขาย (Broker)
ตัวแทนขายเมื่อก่อนจะขายกันแบบอิสระ
ควบคุมให้เป็นไปตามนโยบายลำบาก
เพราะไม่ใช่พนักงานของโรงแรม
เล่นราคากันซะเละเทะ ผลเสียตกอยู่ที่ลูกค้า

การใช้ บริษัทรับเหมาการตลาด
- โรงแรมไม่ต้องเสียเงินจ้างฝ่ายขายและการตลาด
ซึ่งเงินเดือนสูงมากบวกส่วนแบ่งเงินค่าบริการ (Service Charge)
- ลดปริมาณพนักงานประจำฝ่ายขาย ฝ่ายรับจอง บริษัทรับเหมาการตลาด
ทำให้เสร็จสรรพ (แต่ต้องมีประจำที่โรงแรม ในกรณีฉุกเฉิน
หรือ นอกเวลาทำการ และคอยจัดสรรจำนวนห้องพักให้ลงตัว )
- ไม่ต้องวางแผนการตลาด เพราะบริษัทรับเหมาการตลาด
จะเข้าร่วมประชุมเสนอแผนการตลาดและจัดทำให้เสร็จสรรพ
- ควบคุมได้ เพราะบริษัทรับเหมาจะต้องรับนโยบาย ไปปฎิบัติตามเงื่อนไข
- เรื่องผลประโยชน์ อาจจะแบ่งกันเป็นเปอร์เซ็นต์ จากยอดขาย
หรือ แบ่งจำนวนห้องเป็นส่วนแบ่งรายได้
- ข้อดีของการจองผ่านบริษัทประเภทนี้
*เป็น Center เวลาติดต่อจอง ทางบริษัทจะเสนอหลายๆตัวเลือก
ให้จนท่านพอใจ
*มีส่วนลด หรือ แถมห้องพัก ให้สลับไปมาระหว่างโรงแรมในกลุ่ม


- ยังไม่ขอพูดเรื่อง เวบไซต์ รับจองโรงแรม นะครับ
เอาไว้วันหลังจะมาคุย

- การขายห้องพักแบบเหมาคืน (Time Sharing/Commitment)
อันนี้ดีต่อลูกค้าที่มีแผน ที่จะไปพักโรงแรมนั้นบ่อยๆ ถี่ๆ
หรือต้องรับรองแขก เพื่อนฝูง ญาติมิตร
คือซื้อเหมาไปเลย 5-30 คืน ในราคาเดียว อาจจะถูกกว่าปกติมากๆ
จ่ายเงินให้โรงแรมเสร็จสรรพ
แล้วค่อยทะยอยใช้ทีละ 1-2 คืน จนกว่าจะหมดจำนวนคืนที่ซื้อไว้
***********************************************
2. ผู้ประกอบการนำเที่ยวมาขายเอง

ขอแยกผู้ประกอบการนำเที่ยว (Land Operator)
ออกจาก บริษัททัวร์ (Tour Operator) นะครับ
เพื่อความชัดเจน
บริษัททัวร์ ค่อยเล่า ทีหลัง เพราะซับซ้อนหลายเรื่องมาก

ผู้ประกอบการนำเที่ยว (Land Operator)

คือบริษัท หรือ กลุ่มบุคคล ที่ทำธุรกิจที่ตนถนัด
อยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ เช่น

- รถตู้ รสบัส รถยนตร์ รับ-ส่ง ตามที่ต่างๆ
- เรือเร็ว (Speed Boat) เรือประมงดัดแปลง เรือหางยาว
เรือเฟอร์รี่ เรือดำน้ำ/เที่ยว (Living Boat) เรือยอช์ท เรือตกปลา
- ช้าง ม้า ลิง ฯลฯ สัตว์ฝึกเพื่อสันทนาการ เช่น ขี่ช้าง/ม้า เดินป่า
(Tracking) ซึ่งต่างจากสวนสัตว์ หรือ แสดงโชว์สัตว์ (Recreation)
นะครับ อันนี้จะเป็นเวลาบริการที่แน่นอน เป็นรอบๆรอคนเข้ามาชม
ส่วน Trackking จะเกิดบริการได้ต่อเมื่อมีการจอง
- บริการพาไปดำน้ำตื้น (Snorkeling) หรือ ดำน้ำลึก (Scuba Diving)
อันนี้อาจจะเป็นผู้ประกอบการเดียว ทำเองเบ็ดเสร็จตั้งแต่
ใช้เรือ ไกด์ ครูฝึก อาหาร ของตัวเอง หรือบางเจ้าก็จะรวมกลุ่มกัน
- บริการ คนนำทาง ลูกหาบ ครูฝึก ไกด์ท้องถิ่น
- ล่องแพ ล่องแก่ง เรือแคนู
- ฐานกิจกรรมเพื่อความสามัคคี เช่น Walk Rally, Team Buidling
- ปีนผา เดินป่า
- ศึกษาวิถีท้องถิ่น พร้อมที่พัก Home Stay
- ตกปลา, ทัวร์ทำประมง(อันนี้ลุยมาก มันมาก) ไปกับเรือตังเก
- ปลูกป่า, ปลูกป่าชายเลน
- อีกเยอะแยะสาธยายไม่หมด ขอแค่นี้ก่อน

แต่สังเกตุดูสิครับ คนทำแลนด์เนี่ย จะเกี่ยวข้องกับ

กิจกรรมอะไรก็ตามที่เคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งตลอด

ก็จะเข้าใจความหมายของคำว่า Land เป็นอย่างดี

หลายท่านสงสัย ว่า อ้าวแล้วพวก สยามนิรมิต ภูเก็ตแฟนตาซี สวนเสือศรีราชา
เชียงใหม่อความเรี่ยม อะไรต่อมิอะไรก็ตามที่มันอยู่กับที่
แล้วให้คนซื้อตั๋วเข้าไปใช้บริการ น่ะ
.....ไม่ใช่ Land Operator หรอกหรือ?....

ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ น่าจะเป็นผู้ให้บริการ Sevices Supplier
สำหรับธุรกิจทัวร์ นะครับ

***ที่ผมมีคำว่า "น่าจะ" อยู่ด้วย ก็เพราะว่า...
ทุกวันนี้เขายังรวมเรียก กิจการเหล่านี้เป็น Land Operator อยู่***


ผู้ประกอบการนำเที่ยวเหล่านี้ เป็นปัจจัยสำคัญ (Factors)
ที่จะเติมเต็มให้การจัดแพคเกจต่างๆสมบูรณ์
ส่วนมากผู้ประกอบการเหล่านี้ จะขายบริการให้แก่
บริษัททัวร์ หรือ โรงแรม นำไปจัดเป็นแพคเกจที่เหมาะสม
และก็จะมาเสนอขายโดยตรงให้แก่ลูกค้า
ท่านสามารถจองบริการได้กับผู้ประกอบการนี้
ถึงได้ราคาถูก แต่ก็ต้องไปหาจองที่พัก รถรับส่ง เอง
บางที เผลอๆงบบานปลายกว่าซื้อแพคเกจ ซะอีก

**เพราะต้องคำนึงถึง**
จำนวนคนที่ร่วมไปในแต่ละเที่ยว ของบางกิจกรรม
ถ้าคนไปน้อย ราคาต่อหัวจะแพง คนไปเยอะราคาต่อหัวจะถูกลง
ต้องสอบถามให้ชัดเจน ว่าเป็นราคา Private หรือ Join นะครับ

สำหรับบริษัททัวร์ ที่สามารถทำราคามาขายได้
เนื่องจากเขาตั้งจำนวนคนแน่นอน เป็นหมู่คณะได้
ยิ่งกำหนดวันเดินทางได้ ยิ่งดีใหญ่ เพราะราคาจะถูกลง
10-20 คน ออกเดินทาง

หรือไม่หลายๆบริษัททัวร์ ขายรวมๆกันจนสามารถ
ขึ้นกรุ๊ปให้แก่ Land ได้ อันนี้พูดถึงบางกิจกรรมนะครับ
บางกิจกรรม คนไม่ครบก็ต้องออก ครับ

**บางบริษัททัวร์โดนด่า**
ขายแพคเกจไปแล้ว ลูกค้าเดินทาง แต่ไปพบว่า
รถคนละบริษัท เรือคนละบริษัท เที่ยวก็มีอีกบริษัท
ก็โวยวายว่าโดนหลอก โดนลอยแพ โดนส่งต่อ
บ้างก็โดนค่อนขอดว่าจับแพะชนแกะ ไม่ลงทุน

ถ้าอ่านข้างบนแล้ว คงเข้าใจบริษัททัวร์ขึ้นมานะครับ
แนะนำนะครับ หากเกิดปัญหาอะไร ระหว่างไปกับแพคเกจ
ให้โทรหาบริษัททัวร์ที่รับจอง เดี๋ยวเขาจะประสานงานให้
เพราะยังไงบริษัททัวร์ ก็ถือว่าเป็นลูกค้าของแลนด์และโรงแรม
เขาก็จะเรียกร้องความรับผิดชอบให้

บางครั้งแลนด์ทำเสีย ไม่เป็นไปที่ตกลง
อันนี้เป็นเรื่องของจรรยาบรรณของแต่ละแลนด์
สุดวิสัยที่บริษัททัวร์ที่ขายแพคเกจ จะล่วงรู้ได้
เพราะอยู่กันคนละที่
แต่ก็โดนเหมาว่ารู้เรื่อง

ถ้าแลนด์มีปัญหาให้ลูกค้าบ่นบ่อยๆ
บริษัททัวร์ก็จะเลิกใช้แลนด์เจ้านั้นต่อไป

ู^อันนี้ พูดถึงบริษัททัวร์ที่ดีนะครับ
บริษัททัวร์ที่ดี เขาจะต้องคอยพัฒนา ปรับปรุง
บริการแพคเกจให้ราบรื่น เหมาะสมกับราคา
อยู่เสมอ อันไหนไม่ดีไม่ใช้

แต่อย่าไปเปรียบเทียบเรื่องบางเรื่องนะครับ
เช่นมีบางคนซื้อแพคเกจทัวร์เกาะ กับบริษัทนี้
แต่ไปเจอทัวร์เกาะอีกบริษัทหนึ่ง ไปเรือดีกว่า สวยกว่า
ก็กลับมาโวยวายว่า บริษัททัวร์ของตัวเองเอาของไม่ดีมาขาย
ดูที่บริการ กับ ความสนุกที่ท่านได้ดีกว่า

บริษัททัวร์ แย่ๆก็มีเยอะครับ
ประเภทจับแพะชนแกะ
ได้เงินแล้ว ฉันไม่สน
แล้วไม่รับรู้ไม่แก้ไขให้ เวลาเกิดปัญหา


พวกนี้อยู่ไม่นาน หรอกครับ
3. บริษัททัวร์จัดเป็นแพคเกจมาขายเอง

สามารถจัดออกมาได้หลากหลายรูปแบบ
ให้เลือกตามความเหมาะสมของการเที่ยว

ก่อนจะซื้อก็ขอให้พิจารณาจาก
ลักษณะการเดินทางของท่านก่อน

1.เดินทางไปสถานที่นั้นยังไง?

- ขับรถไปเอง:
เลือกแพคเกจเฉพาะที่พัก หรือรวมรายการเที่ยวด้วย

- ไปเครื่องบิน/รถทัวร์/รถไฟ:
เลือกแพคเกจที่มีรวมรถรับ-ส่ง จากสนามบินด้วย

- ไปเป็นกลุ่มเล็กๆ:
เลือกแพคเกจเฉพาะที่พัก หรือ รวมรายการเที่ยวด้วย
แล้วเหมารถตู้เดินทางรวมกันไป

-ไปเป็นกลุ่มใหญ่:
ให้บริษัททัวร์ จัดโปรแกรมและราคาให้ใหม่ต่างหาก ไปเลย

2. รูปแบบแพคเกจต่างๆ

- เฉพาะที่พัก:
แม้ว่าบริษัททัวร์จะได้ราคาที่พักถูกกว่าทางโรงแรมขายเอง
ก็ตาม แต่บริษัททัวร์ไม่สามารถเอามาขายเป็นคืนๆได้ เพราะตามสัญญา
และมารยาท (ฺBona Fide) จะเป็นการขายตัดหน้าโรงแรม
หากทางโรงแรมทราบว่าทางบริษัททัวร์ ขายห้องแบบเป็นคืนๆล้วนๆ
ก็จะยกเลิกสัญญา หรือ ไม่ต่อสัญญา (Contract Rates)ให้อีกต่อไป

บริษัททัวร์ จะต้องขายแบบเป็นแพคเกจ เช่น 2วัน1คืน,3วัน2คืน
หรือ ขายร่วมกับบริกาัรอื่นๆ เช่น รวมค่าเดินทาง รวมค่านำเที่ยว (Day Tour)
รวมค่ารถ-รับส่ง สนามบิน (Transfer)

*แต่โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายจะถูกและคุ้มกว่า ที่จะแยกไปซื้อแต่ละอย่างเอง**

- ที่พัก+อาหาร หรือ ที่พัก+อาหาร+รายการเที่ยว
แพคเกจที่พักจะรวมอาหารไว้ด้วย เพื่อความสะดวกสบาย
->Room Only (RO):ห้องพักอย่างเดียว ไม่มีอาหารเช้า
->ฺBed & Breakfast(BB): ที่พัก+อาหารเช้า
็->Half Board: ที่พัก+อาหาร2มื้อ (เช้า/กลางวัน/เย็น)
->Full Board: ที่พัก+อาหาร 3 มื้อ (เช้า+กลางวัน+เย็น)
อาจจะมีอาหารว่าง(Coffee Break/Snack)ให้ด้วย
ส่วนมากจะสำหรับกลุ่มใหญ่ ถึง ใหญ่มาก

ลักษณะการจัดอาหารให้ในแพคเกจ
- ทานร่วมกับ Buffet ที่โรงแรมนั้นเปิดขายในห้องอาหารของโรงแรม
- จัดให้เป็นโต๊ะ (Set Menu) โรงแรมจะกำหนดรายการอาหารให้
- พาไปทานตามร้านอาหาร หรือ โรงแรมอื่นๆ
อาจจะเป็นโต๊ะ หรือ ปุฟเฟ่ต์ ก็ได้
- ให้คูปองแทนเงินสด สั่งทานตามมูลค่าคูปอง ส่วนเกินจ่ายเอง
- อาหารกล่อง หรือ บุฟเฟ่ต์ ขณะร่วมรายการนำเที่ยว (On Board)
ส่วนมากถ้าซื้อรายการเที่ยวแบบเต็มวัน (Full Day)
ก็จะรวมอาหารกลางวันให้ด้วย หรือ ดูโชว์ต่างๆก็จะรวมอาหารค่ำให้ด้วย
เช่น สยามนิรมิต ภูเก็ตแฟนตาซี ขันโตกดินเน่อร์
- ให้เป็นส่วนลด สำหรับทานอาหารในโรงแรม

-ที่พัก+อาหาร/ที่พัก: เลือกซื้อรายการเที่ยวในแต่ละวันต่างหาก
การเลือกรายการเที่ยวตามความเหมาะสม และ ต้องการ (Tailor Made)
ก็ยังขำๆ ว่าช่างเอาไปเปรียบเทียบกับสั่งตัดเสื้อซะได้

เดี๋ยวนี้ ถ้ามีรายการเที่ยวแต่ละวัน ก็จะรวมบริการรถมารับจากโรงแรม
ไปส่งลงเรือ หรือ จุดนัดพบ เที่ยวเสร็จก็ส่งกลับโรงแรม เสร็จสรรพ

**ต้องสอบถามด้วยนะ ว่ารายการเที่ยวนี่ มีรถมารับให้ด้วยมั๊ย?
้ถ้าเจ้าไหนไม่รวม ให้หอบลูกจูงหลานทุลักทุเล ออกจากโรงแรมไปเอง
พอดีไม่ต้องเที่ยวกันพอดี**

แสดงว่าเที่ยวกับเจ้านั้น อาจมีโอกาสเริ่มโปรแกรมช้า หรือ ต้องคอย
คนอื่นๆมาร่วมวงนานหน่อย

เพราะบริการรับ-ส่ง ให้ฟรีนั้น เพื่อตัดปัญหา คนมาช้า มาไม่ถูก หลง
เพราะคนทำทัวร์ เขาจะได้สามารถจัดการกับเวลาได้เป็นอย่้างดี

** ท่านที่จะร่วมไปกับทัวร์ ขอให้มีวินัย รักษาเวลากันหน่อย**

ถึงเวลารถนัดมารับ จะต้องพร้อมรออยู่ที่ล้อบบี้ เลย ไม่ใช่เอ้อระเหย
ไปไหนมาไหนไม่แจ้งพนักงานต้อนรับ
กินอาหารเช้าละเลียดไม่แล้วไม่เลิก
(ส่วนมากเขาจะไม่เดินเข้าไปควัก ถึงในห้องอาหาร หรือ ตามส่วนต่างๆ
ของโรงแรมนะครับ ต้องล้อบบี้เท่านั้น)

พอรถมารับไม่เจอ เขาจะต้องรีบออก เพื่อไปรับคนอื่นๆ
ทีนีตกรถ ทัวร์ไม่ได้ไป ก็มาโวยวายเอากับบริษัททัวร์

บางคนก็หมกเม็ดว่ารถไม่มารับ เบี้ยวกันหรือไง?

โน้น! จริงๆแล้ว รถนัดมารับ 8 โมงเช้า แม่คุณยังเดินนวยนาด
ถ่ายรูปวิวทะเลอยู่บนชายหาด ห่างจากโรงแรมไปอีก ครึ่งกิโลเมตร

- มีรถรับ-ส่ง สนามบิน หรือไม่?

ถ้ามีรวมให้ด้วยก็ดีมากสำหรับ คนที่เดินทางไปเครื่อง หรือ รถทัวร์
เพราะเดี๋ยวนี้ ตามสถานที่เที่ยวดังๆ ราคาเหมารถเข้าโรงแรม
แพงหัวแตกมาก ยิ่งไปน้อยคน เผลอต้องจ่ายแพงกว่าค่าห้องอีก

ถ้าไม่มี ขอซื้อเพิ่มจากบริษัททัวร์นั่นแหละ
เขาสามารถหาบริการให้ท่านในราคาย่อมเยา
จากการส่งให้คุณ ไป Join กับลูกค้าของโรงแรม หรือ ละแวกนั้นให้
เสียคนละ 300-500 ก็จ่ายไปเหอะ
ดีกว่าไปยืนเรียกหน้าสนามบิน
ก็จะเจอราคาแบบเหมารถตู้ 1,500-3,000 ต่อคัน
มาสองคนก็หัวแตกแล้ว
้ถ้าไปสัก 10 คน ค่อยว่ากัน คุ้มหน่อย

แต่ช้าก่อน เดี๋ยวนี้เทคนิคหน้าสนามบิน มันเยอะ นะจะบอกให้
เห็นมาน้อย: ก็จะบอกราคาเหมาต่อคัน 1,500 - 3,000 บาท
เห็นมาเยอะ: ก็จะบอกราคาต่อคน 300-700 บาท




Create Date : 17 พฤษภาคม 2554
Last Update : 17 พฤษภาคม 2554 20:40:59 น.
Counter : 2130 Pageviews.

0 comments

Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.

Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
https://www.facebook.com/EmmyJourney

Blog : https://emilia0412.bloggang.com

** ขอสงวนสิทธิ์ ***
ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก