|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
** วันเเรกของการเดินทาง Trip to Japan **
รีบมา Up Blog ก่อน เพราะว่ากลัวลืมว่าไปที่ไหนมาบ้างค่ะ มาอ่านกันเลยดีกว่า
** July 15, 2008 **
วันนี้เราต้องไปขึ้นเครื่องกันแล้ว เรานั่งSQ ออกเวลา 5ทุ่ม บ้านเราใจเย็น
กันมากๆ ออกจากบ้านตอน 2 ทุ่มครึ่ง ไปถึงสุวรรณภูมิใช้เวลาแค่ครึ่งชม.
เพราะงั้นเราก็มีเวลาเหลือเฟือในการ check-in
ก่อนขึ้นเครื่อง Mamiจัดการมอมเอลลี่ โดยการให้กินยาแก้หวัด (เพื่อแก้
การปวดหู และทำให้เอลลี่ง่วงด้วย)ได้ผลดีมากๆเลยค่ะ เธอขึ้นไปบนเครื่อง
คึกได้แป็บเดียวก็หลับปุ๋ยไปเลย อาหารที่เค้าเอามาให้ก็ไม่ได้หม่ำ หลับ
ตลอดจนถึงที่โน่นเลย (Mami ก็มอมตัวเองด้วยเช่นกัน โดยการกินยาแก้
เมา ง่วงทันตาเห็นเลยทีเดียว) บ้านเราต้องออมแรงกันไว้ค่ะ เพราะลงเครื่อง
มา เราจะลุย ลุย ลุย กันทั้งวันเลย
พอลงจากเครื่องปุ๊บ จัดการไปเอากระเป๋ามาเรียบร้อย เราก็รีบมองหาบริษัท
ที่เราได้เช่าโทรศัพท์ไว้แล้ว Mami เลือกใช้ของ JaL ABC เพราะเค้ามีทั้ง
เช่าโทรศัพท์และก็ส่งกระเป๋าด้วย Mami จัดการเรื่องตั้งแต่อยู่เมืองไทย
แล้ว เค้าจะส่งเบอร์โทรมาให้ 1 วันก่อนออกเดินทาง ซึ่งเราก็เอาไปแจกจ่าย
ให้ ครอบครัว+ เพื่อนฝูงได้ตามสบาย (เพราะการรับสายเข้า มันฟรี ถ้า เกิด
เราใช้ roaming จากไทย เช่นใช้ของ Dtac แค่รับสายก็เสียเงินบานแล้ว
ค่ะ) Mami เช่าโทรศัพท์ไว้ติดต่อกับเพื่อนที่จะมาพาเราเที่ยวในทริปนี้
และยังได้ใช้ประโยชน์จากการเดินหลงทางกับ Papi ด้วย (ได้ใช้จริงๆ ถ้า
ไม่มีโทรศัพท์คงหากันไปทั้งวันแล้ว อยู่ดีๆเดินๆอยู่ Papi หายไปจากฝูงชน
เลยซะงั้น แถมไปยืนรอกันคนละทางอีกต่างหาก นี่แค่ในห้างนะเนี่ย) ใคร
สนใจ ตามลิงค์นี้ไปได้เลย //www.rental-
mobile.com/en/domestic/ ค่าเช่าก็ไม่แพง ตกวันละ 350 เยน รวม
ประกัน + ค่าโทรนาทีละ 80 เยน คิดเป็นวินาที ใช้แล้วคุ้มมากๆเลยค่ะ
ส่วนเรื่องกระเป๋านั้น บริษัทเค้าจะมาส่งให้เราที่โรงแรม ในวันเดียวกันนั้น
เลย ประมาณช่วงบ่ายๆ แล้ววันที่มารับ ก็จะเป็นก่อนนึงวัน ตอนเย็น เราก็
แค่เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อย แล้วฝากไว้ที่โรงแรม เค้าก็จัดการให้เสร็จ
Papi บอกว่าคุ้มมากๆอีกเช่นกัน เพราะไม่งั้นเธอคงหลังหักค่ะ ไม่คุ้มกัน
อย่างแน่นอน
ตามแพลนของเราวันนี้ เราจะตรงไปยัง Sanrio Puroland กันเลย ซึ่งการ
ไปที่โน่นต้องไปต่อรถที่ Shinjuku เพราะฉะนั้น เราเลยดิ่งตรงไปซื้อตั๋ว
NEx + Suica ในราคาคนละ 3,500 เยน เป็นค่าตั๋วNex 1500 เยน และที่
เหลือเป็นบัตร Suica มีเงินอยู่ 1500 เยน กับค่าประกันบัตรอีก 500 เยน
(ถ้าเอาไปคืน) - แต่เราไม่ได้คืนบัตรเอากลับมาด้วย
บัตรSuica มีประโยชน์มากๆ ใช้ขึ้นรถชนิดต่างๆ ซื้อของในSuper และยัง
ใช้กินข้าวในบางร้านได้ด้วย
ไปซื้อบัตรกันที่ JR คนเยอะมากๆ เพราะเค้าต้องมา Activate ตั๋วJR Rail
Pass กันที่นี่ ใครมี JR Rail Pass แล้วอยากใช้เลย ก็ไม่ต้องซื้อตั๋ว Nex
ก็ได้
หน้า JR outlet รอคิวซื้อตั๋ว
นั่ง NEX สบายมากๆ ชอบๆ ที่นั่งกว้างขวางเป็นระเบียบ แถมนั่งสบายอีกต่างหาก
วิวมองออกจากรถไฟ ไปถึง Shinjuku แล้วค่ะ
ไปถึง Shinjuku ก็เกือบ 11 โมง เริ่มหิวๆกันแล้ว เลยเดินหาของกินดีกว่า
เราเลือกกินที่ห้าง Mylord แถวๆสถานีรถไฟ ขึ้นไปชั้น 7-8-9 จะเป็นชั้น
ขายของกินหมดเลย มองๆดูแล้วก็เลือกกินอุด้ง
ของMamiเป็นอุด้งแกงกระหรี่กุ้ง อร่อยดี ส่วนของPapi เป็นอุด้งหม้อไฟ
เเบ่งกับเอลลี่หม่ำ
หลังจากอิ่มแล้ว ก็พร้อมออกเดินทางต่อไปยัง Sanrio Puroland กันเลย
เราต้องไปเดินหาซื้อตั๋วที่ Keio office เพื่อไปซื้อตั๋วแบบที่รวมรถไฟ ไป-กลับด้วย ราคาตั๋วอยู่ที่คนละ 4000 เยน สามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกอย่างในนั้นเลย (ใครที่จะไป เเนะนำให้ซื้อตั๋วนี้ เพราะถ้าไปซื้อที่หน้าเคานเตอร์ ค่าตั๋วอย่างเดียวก็ 4,400 เยนเเล้วค่ะ)
ขอจบ blog นี้เเค่นี้ก่อนนะค่ะ เดี๋ยวมาต่อblog ต่อไปที่ Sanrio Puroland
| |
Create Date : 26 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 24 มีนาคม 2560 18:36:10 น. |
|
4 comments
|
Counter : 394 Pageviews. |
|
|
|
โดย: โกะ IP: 125.27.232.169 วันที่: 28 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:42:00 น. |
|
|
|
โดย: pan (teenbag ) วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:22:20:46 น. |
|
|
|
โดย: biberry IP: 125.27.232.187 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:13:58:54 น. |
|
|
|
|
|
|
|