เรียน ท่านผู้บริหารธนาคารทุกท่าน และ แม่ๆที่ไปทำการฝากเงินโดยมีลูกอ่อนไปด้วย

ก่อนอื่น ต้องออกตัวว่า ไม่ได้มีความประสงค์จะดิสเครดิตธนาคารใดๆทั้งสิ้น จึงไม่ขอเอ่ยชื่อธนาคาร แต่บอกแค่ว่า เรื่องเกิดขึ้นที่ธนาคาร สาขา เดอะมอลล์บางกะปิ...

เมื่อ วานนี้ (วันที่ 4 สค.) ดิฉันได้นำเงินไปฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์ของตัวเอง จำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการ"ฝากทำบุญ"จากคนอื่น ดิฉันเคยนับไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่จำไม่ได้ จำได้ว่ามีราวๆ 60000กว่าบาท ดิฉันจึงใส่ถุงกระดาษ แล้วนำไปฝากเข้าบัญชี โดยเห็นว่าจำนวนเงินมันเยอะ และประกอบกับพาลูกอ่อนใส่รถเข็นไปด้วย อาจจะไม่สะดวก และอีกอย่างก็คือ ยังไม่ได้นับเงินอีกครั้ง (นี่คือความผิดพลาดที่หนึ่งค่ะ)

ดิฉันจึง เดินเข้าไปกรอกใบนำฝาก โดยเว้นช่องที่ให้กรอกจำนวนเงิน เมื่อกรอกเสร็จ จึงหันมานับเงิน ซึ่งดิฉันนับสองครั้ง และมั่นใจว่า มีจำนวน 61300 บาท (ที่มั่นใจเพราะว่า นับสองครั้ง) โดยดิฉันจะนับเงินเป็นปึกๆ แบงก์พันและแบงก์ห้าร้อย นับรวม แยกกองละหมื่น (มีปนแบงก์ร้อยกับแบงก์ห้าร้อยบ้างบางกอง คือนับรวมให้ได้กองละหมื่น) แบงก์ร้อย นับรวม แยกกองละพัน มีแบงก์ห้าสิบสองใบ เข้ากองแบงก์ร้อย ...และนี่คือความผิดพลาดที่สอง

นับได้ดังนั้น ดิฉันจึงหยิบเงินจำนวน 1300 บาทออกจากกอง เพื่อฝากเงินเพียง 60000 บาท

ต่อ มา ดิฉันได้เดินตรงไปยังเคาน์เตอร์ของ teller โดยเข็นรถเข็นลูกไปด้วย และจอดอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วยื่นเงินจำนวนนั้นให้แก่พนักงาน พนักงานก็ชวนคุยตามปกติ ถามว่าขายของหรือเปล่า เห็นเงินเป็นแบงก์ย่อย ดิฉันบอกว่าเปล่าค่ะ แล้วยิ้ม แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรไปกว่านั้น พนักงานจึงสรุปเองว่า

"เก็บเองเหรอคะเนี่ย เก่งจัง"

ดิฉัน เคยอ่านเรื่องโจรสาวในคราบพนักงานแบงก์จากห้องสินธรมา เรื่องประมาณว่า ฝากเงินแสน พนักงานชวนคุย แล้วหยิบแบงก์พันจากปึกหนึ่งไปใส่รวมอีกปึกหนึ่ง แล้วทำเป็นว่า ปึกนั้นเงินไม่ครบ ดังนั้น ดิฉันก็เลยพยายามจับตาดูทุกอิริยาบทที่พนักงานท่านนั้นทำ

พนักงาน ท่านนั้น ไม่ได้นับเงินเหมือนที่ดิฉันนับ พนักงานท่านนั้น แยกเงินออกตามประเภทธนบัตร คือ แบงก์พัน แบงก์ห้าร้อย แบงก์ร้อย และแบงก์ห้าสิบ

แต่ประเด็นอยู่ตรงนี้ค่ะ

คิดว่ยังไม่ทันได้ เริ่มนับ ที่บอกว่าคิดว่า เพราะเห็นว่า พนักงานเหมือนจะเรียงๆธนับัตรและกำลังเริ่มนับ แต่แล้ว ก็มีพนักงานอีกท่านหนึ่ง เดินเข้ามา ขอแลกแบงก์ย่อย โดยยื่นแบงก์พันให้

คุณ ขา เคาน์เตอร์มีตั้งหลายเคาน์เตอร์ และแต่ละเคาน์เตอร์ ก็เล็กๆทั้งนั้น เคาน์เตอร์อื่นที่ไม่ได้มีรถเข็นเด็กจอดอยู่ ทำไมไม่รู้จักไปแลกคะ เห็นไหมคะว่าดิฉันกำลังทำรายการ เงินไม่ใช่ร้อยสองร้อย พนักงานก็กำลังนับเงินให้ดิฉันอยู่ แล้วคุณเดินเข้ามา"แทรก" ทำให้ดิฉันซึ่งไม่ได้ยืนชิดเคาน์เตอร์เท่าไรเพราะรถเข็นลูก ก็มองไม่เห็นว่า เงินของดิฉันที่อยู่ในมือของพนักงานท่านนั้น มีชะตากรรมอย่างไรบ้าง

แต่ ก็พอจะทราบว่า พนักงานท่านนั้นได้เปิดลิ้นชัก..แล้วยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้พนักงานที่มาขอ แลกเงิน...ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเกือบ 1 นาที..(นานจังค่ะ)
ไม่ได้จับ เวลาหรอกนะคะ แต่ก็ประมาณได้ เพราะว่า มันนานขนาดว่า เมื่อมองไม่เห็นชะตากรรมของเงินในเคาน์เตอร์ ดิฉันเลยก้มลงไป ปลดล็อคเข็มขัดลูกจากรถเข็น แล้วเอาแขนลูกสองข้างออกจากรถเข็น แล้วอุ้มลูกขึ้นมา..ก็ยังไม่เสร็จอ่ะ คิดดู (แล้วอุ้มลูกจากตรงนั้นไม่ได้ทำง่ายๆนะคะ เนื่องจากว่าเคาน์เตอร์มันแคบ แถมมีพนักงานอีกคนเข้ามาแทรก มันไม่ได้มีที่ขนาดที่จะอุ้มขึ้นมาง่ายๆ แน่นอนว่าก็ทุกลักทุกเลพอดู)

ต่อมา พนักงานคนที่เดินมาแลกเงิน เดินออกไป ดิฉันเห็นพนักงานที่รับฝากเงิน ปิดลิ้นชัก แล้วเอาแบงก์พันของพนักงานที่เดินมาแลกเงินวางลงบนกองแบงก์พันของดิฉัน ที่ทราบเพราะว่า ก่อนหน้านี้ดิฉันเห็นแล้วว่าเธอเรียงเงินแยกประเภทธนบัตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว ค่ะ แต่จุดนี้ดิฉันไม่ได้ติดใจเพราะคิดว่าคงทำไปเพื่อให้นับง่ายๆ หรือไม่ดิฉันก็อาจจะเข้าใจผิด แบงก์พันใบนั้นอาจจะเป็นใบจากกองของดิฉันเองก็เป็นได้ แล้วพนักงานท่านนั้นก็ทำหน้าที่นับเงินด้วยมือ แล้วแยกเป็นปึกๆ แล้วนับเครื่องต่อ

ปรากฏว่า คำนวณออกมาแล้ว เงินของดิฉันเหลือเพียง 59000 บาทเท่านั้น!!!!

เฮ้ย หายไปไหนพันนึง ก็นับมาดีแล้วนะ นับมาสองรอบและค่อนข้างมั่นใจว่านับไม่ผิด แต่พนักงานก็ยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่ามีเท่านี้จริงๆ นับให้เราดูเห็นๆ เงินที่วางบนเคาน์เตอร์มีเท่านั้นจริงๆ แล้วมันหายไปไหนฟระ ตั้งพันนึงเลยนะเว้ย

สมมติว่าถ้าเป็นกรณีที่เราเห็นทุกอิริยาบท และมีเงินบนเคาน์เตอร์ที่พอจะให้เช็คให้ได้ เราคงไม่ยืนบื้อแล้วส่งเงินให้หล่อนไปอีกพันนึงแน่นอน แต่นี่ คิดเอาเองว่า สมมติว่า ถ้าเงินมันไปอยู่ในลิ้นชักนั่นแล้ว...ก็หมดวิธีพิสูจน์ค่ะ..ก็เลยต้องมอง หน้าเธออย่างอึ้งๆ แล้วส่งให้เธอไป 1000 บาท (เท่ากับว่า ที่นับมาว่าได้ 61300 บาท ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าเหลือแค่ 60300 บาทเท่านั้น เศร้ามาก เพราะเงินทำบุญนะคะ)

ต่อมา พนักงานท่านนั้นหันไปเห็นแบงก์ร้อยอีกสี่ใบ ก็บอกว่าดิฉันให้เงินไปเกิน จริงๆต้องแค่ 400 บาทเท่านั้น เธอจึงคืนมา 600

อ้าว เฮ้ย เมื่อกี๊บอกมีเงิน 59000 ถ้าจะเอาให้ครบหกหมื่นก็ต้องเพิ่ม 1000สิฟระ แต่กำลังอึ้ง ด้วยความสัตย์จริง ไม่ได้คิดจะโกงเค้า ไม่ใช่ว่ารู้แล้วเงียบไว้นะ แต่ตอนนั้นคิดว่า เราให้เงินไปครบแล้ว เค้านับไม่ครบหรือเปล่า เค้าหาเงินไม่เจอหรือเปล่า เงินมันไปซุกที่ไหนในเคาน์เตอร์หรือเปล่า ก็เลยคิดว่า สงสัยเจอเงินเพิ่มอีก400 ก็เลยไม่ได้ท้วง

ต่อมาดิฉันทำรายการเสร็จ พนักงานโทรมาบอกว่า เธอคำนวณผิด ดิฉันก็เข้าใจว่าเธอจะคืนเงินให้ดิฉัน แต่ไม่ใช่ เธอบอกว่า ที่จริงดิฉันให้ไปหนึ่งพันบาทน่ะถูกแล้ว จึงขอเงินคืนจากดิฉันอีก 600 บาท ดิฉันก็ให้ไปค่ะ

แล้วก็เดินออกจากธนาคารมาอย่างงงๆ

ดิฉันยอมรับว่าครั้งนี้เป็นบทเรียนจริงๆค่ะ
----------------------------------------------------------------------------------

สรุปประเด็นนะคะ

ดิฉันไปฝากเงินที่เคาน์เตอร์ธนาคาร เพราะเครื่องฝากเงินอัตโนมัติจำกัดจำนวนฝากต่อครั้ง และตอนนั้นดิฉันมีรถเข็นลูกไปด้วย

ดิฉันนับเงินสองครั้งหลังจากที่กรอกใบนำฝาก ว่าได้จำนวน 61300 บาท ดิฉันจึงฝากเพียง 60000 บาท

ดิฉัน ไปทำรายการที่เคาน์เตอร์ มีรถเข็นลูกไปด้วย พนักงานกำลังจะนับเงิน แต่มีพนักงานท่านอื่นเดินมาแลกเงิน ดิฉันมองไม่เห็นว่าเค้าทำอะไรกันในเคาน์เตอร์

พนักงานที่เดินมาแลกเงินเดินออกไป

เงินดิฉันหายไป 1000บาท โดยพนักงานคาดว่า ดิฉันอาจจะนับมาไม่ครบ
----------------------------------------------------------------------------------

ดิฉันไม่ได้บอกว่าพนักงานสองท่านนั้นรู้เห็นเป็นใจกัน และไม่ได้เชื่อเต็มที่ว่า พนักงานที่ทำรายการให้จะตั้งใจหยิบเงินของดิฉันออกไป

แต่ การที่กำลังวุ่นวายอยู่กับเงินจำนวนอาจจะไม่มากนัก แต่ส่วนมากเป็นแบงก์ย่อย (เพราะเป็นเงินทำบุญมา) ก็สับสนพอแล้ว แต่ดันมีคนเข้ามาแทรก ทำให้งงมากกว่าเดิม

หรือแม้กระทั่ง อาจเป็นได้ว่าดิฉันงงเอง นับเงินมาผิดเอง ก็ตาม
แต่การที่ให้ลูกค้าได้เห็นกันชัดๆ เห็นกันจะจะไปเลย จะทำให้ลูกค้าสนิทใจกว่า ว่า นับมาผิดเองจริงๆค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------

ที่อยากฝากไว้คือ

1 เวลานับเงิน โดยเฉพาะจำนวนเงินเยอะๆ อย่าทำแบบดิฉัน ให้นับว่า มีแบงก์พันกี่ใบ แบงก์ห้าร้อยกี่ใบ แบงก์ร้อยกี่ใบฯลฯ เนื่องจากว่า เวลาพนักงานนับเงิน หรือเวลาเอาเข้าเครื่องนับเงิน จะได้ทราบว่า มันมีเท่าที่เรานับมาจริงหรือไม่ กรณีของดิฉัน พลาดตรงนี้ด้วย เพราะพนักงานอ้างว่า ดิฉันนับมาไม่ครบ และควรให้ชะตากรรมของเงินที่เรานำมาฝาก อยู่ในสายตาไม่ให้คลาดแม้วินาทีเดียว

2 เวลาไปทำรายการฝากเงินอย่างเดียว ถ้าเป็นแม่ๆที่มีลูกอ่อนไปด้วย แนะนำว่าก่อนยื่นเงินให้พนักงาน ควรอุ้มลูกขึ้นจากรถเข็นมาเลย หรือไม่ ก็ใช้บริการเครื่องฝากเงินอัตโนมัติค่ะ เพราะเครื่องรับฝากเงิน โอกาสโกงเรา น้อยมากๆ หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ

3 ฝากถึงพนักงานทุกท่าน ที่ทำรายการให้ลูกค้าอยู่ และที่คิดจะเข้าไปรบกวนขณะที่ท่านอื่นทำรายการ ควรมีมารยาทนิดนึงนะคะ เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์แบบที่ดิฉันเจอ ลูกค้าจะไม่สนิทใจค่ะ แม้ว่าอาจจะเกิดจากการที่ดิฉันนับมาไม่ครบเองหรือเปล่าก็ตาม แต่ถ้าหากดิฉันได้เห็นทุกๆอิริยาบท และไม่มีอาการงุนงงของพนักงานเทลเลอร์ให้เห็น ดิฉันคงจะเชื่ออย่างสนิทใจว่า ดิฉันนับมาไม่ครบเอง (ทั้งๆที่นับมาสองรอบแล้วก็ตาม)

4 ฝากถึงผู้บริหารทุกท่าน รบกวนดูแลเรื่องนี้ด้วยค่ะ

--------------------------------------------------------------------------

เราเข้าไปชี้แจงในกระทู้ด้วยค่ะ พอดีเอาไปตั้งกระทู้มาด้วย




ความคิดเห็นที่ 9 [ถูกใจ] [แจ้งลบ]


พอดีเข้าไปอ่านในบล็อกที่ลงเอาไว้ มีคนคิดว่า เราบอกว่า พนักงานสองท่านนั้นรู้เห็นเป็นใจกัน

เผื่อว่าใครอ่านแล้วจะเข้าใจแบบนั้น ขออนุญาตแจ้งนะคะว่า

เราเองก็เชื่อว่าพนักงานแบงก์ส่วนมากจะไม่ทำแบบนี้ กรณีนี้เราก็ยังเชื่ออยู่ แต่ว่า

เราก็บอกอยู่นะคะว่า เราไม่ได้คิดว่าสองท่านนี้รู้เห็นเป็นใจกัน และไม่ได้พูดประชด คือ ไม่ได้คิดคือไม่ได้คิดจริงๆค่ะ
และ เราคิดว่า ถ้าหากว่ไม่ใช่ว่าาเรานับมาผิดเอง ก็คงจะเป็นตอนที่พนักงานอีกท่านเดินเข้ามาแลกเงินค่ะ เพราะพนักงานที่เคาน์เตอร์ เธอดูจะสับสนหลังจากนั้น ว่าอันไหนเป็นของกองไหน

ประเด็น ที่เราอยากจะสื่อก็คือว่า พนักงานแบงค์ทั้งหลาย การเข้ามารบกวนสมาธิในขณะที่ลูกค้าทำรายการ โดยเฉพาะจำนวนธนบัตรเยอะๆขนาดนั้น มันมีสิทธิ์ทำให้งงได้ค่ะ

นอกจาก นี้ ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวเราเองที่นับไปผิดเอง แต่การที่มีพนักงานอีกคนเดินเข้ามาแทรก ทำให้เราต้องเขยิบที่ให้เค้า มันทำให้เรามองไม่ถนัดค่ะว่าเงินในนั้นยังวางกองอยู่ตามนั้นหรือไม่ ประเด็นนี้คือ เพื่อความสนิทใจค่ะ เป็นประโยชน์กับทางแบงก์เอง ควรให้ลูกค้าเห็นชัดๆ ว่าคุณไม่ได้ทำอะไรกับมันค่ะ

ไม่ได้กล่าวหาพนักงานสองท่านนั้นแต่อย่างใดจ้าาาาาาาาา

แต่ เพื่อความสนิทใจของทั้งลูกค้าและพนักงานแบงก์ คุณลูกค้าก็ควรจะจับจ้องเงินให้ดีๆ และอย่าชวนพนักงานคุย(เราไม่ได้ชวนนะ อันนี้เพิ่มคำแนะนำให้) เพราะถ้าหากเงินหายไปแล้ว มันจะมีคำถามมากมายว่า

มันหายไปตั้งแต่ตอนไหน ใครทำหาย แล้วมันหายไปอยู่ที่ไหน

ซึ่งแน่นอนว่า ลูกค้าก็บอกว่านับมาดีแล้ว (แต่อาจจะนับผิดเองก็ได้)
พนักงานก็ต้องบอกว่า นับอีกรอบแล้ว

หรือมันอาจจะไปตกระหว่างทางที่เดินหิ้วเงินมาจนถึงเคาน์เตอร์ก็เป็นได้ค่ะ

ซึ่งการที่มีคนเข้ามาขัดจังหวะการทำรายการก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ต้องเอาเข้ามาร่วมด้วยว่า มันหายไปตอนนั้นหรือเปล่า

ทางที่ดี รอให้ทำรายการให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเข้ามาดีกว่าค่ะ คุณพนักงาน

Create Date : 05 สิงหาคม 2553 Last Update : 5 สิงหาคม 2553 15:09:34 น. Counter : 891 Pageviews.		9 comments
Share Tweet