สิงหาคม 2552

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เมื่อถึงคราว..ข้าพเจ้า..เข้าห้องคลอด!!!!!
Wow wOw woW!!! และแล้วก็ถึงคราวของตัวเองได้มาบรรยาย และบอกเล่าเก้าสิบประสบการณ์ในห้องคลอดกันแล้วค่ะ.. ตื่นเต้นๆ..

เมื่ออายุครรภ์ ครบได้ 38 สัปดาห์ เป๊ะ! ก็โล่งอกโล่งใจกันได้ ทั้งหมอ ทั้งคุณแม่.. เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีอาการจะคลอดตั้งแต่ 34 สัปดาห์แล้ว.. แต่พอครบ 38 สัปดาห์ ให้โล่งใจได้ไม่ทันไร คืนนั้นเป็นคืนวันพฤหัส(คืนที่ครบ 38 สัปดาห์เป๊ะ) ก็ปวดท้องมากกกกกกกก แต่ก็ไม่ได้ไป รพ. เพราะว่า มันปวดมากๆอยู่ชั่วโมงกว่าๆ แล้วก็หายไปซะเฉยๆ(แน้)

นึกขึ้นได้ว่าอีก 2 วัน(วันเสาร์) มีนัดตรวจครรภ์ตามปกติ ก็เลยไม่รอค่ะ พอเช้าวันศุกร์ ก็แจ้นไปหาคุณหมอทันที!!

พอไปถึง รพ. ฉันแวะเข้าห้องน้ำก่อน (ปวดชิ้งฉ่องมาก) พอเข้าห้องน้ำ กำลังทำความสะอาด ฉันก็รู้สึกว่า เอ๊ะ!! มันมีของเหลวบางอย่าง ที่ไม่ปกติ!!! พอก้มลงไปดู..ว้าย ต๊ายตาย.. มูกปนเลือดออกมาแล้วจ้า!! ความรู้สึกตอนนั้นคือ ดีใจด้วย "เฮ้ย จะคลอดแล้ว กรี๊ดๆ ดีนะ ที่มาหาหมอวันนี้"

ว่าแล้วก็เดินเข้า ศูนย์สุขภาพสตรี ด้วยอารมณ์ตื่นเต้นๆๆๆๆ

คุณพยาบาลถามว่า

"วันนี้มีอาการอะไรคะ?"

ฉันก็ตอบอย่างตื่นๆว่า

"มาตรวจปกติค่ะ พอดีนัดไว้พรุ่งนี้ แต่ว่ากลัวว่าจะไม่ได้มา ก็เลยมาล่วงหน้า 1 วัน"
(ก็ไม่รู้ทำไม คิดยังไง ไม่บอกไปว่ามีมูกเลือด)

จากนั้นคุณพยาบาลก็ให้ฉันไปเก็บตัวอย่างปัสสาวะ(เข้าห้องน้ำอีกรอบ) พอเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณพยาบาลก็บอกว่าให้ไปตรวจสุขภาพลูกก่อน เราก็เกรงว่าจะเสียเวลาไปเปล่าๆปลี้ๆ เลยยอมบอกว่า

"พอดีเมื่อกี๊เข้าห้องน้ำ แล้วเห็นมีมูกปนเลือดออกมาด้วยอ่ะค่ะ"

เท่านั้นแหละค่ะ คุณพยาบาลก็ต่อสายในโทรหาคุณหมอทันที.. คุณหมอก็เลยเปลี่ยนแผน ขอตรวจก่อน แล้วค่อยว่ากัน

เข้าห้องตรวจ ปรากฏว่า ปากมดลูกเปิด 1 ซม. แล้วค่ะ!!! อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา..ปากมดลูกเปิดเพิ่มเป็น 2 ซม. เอ๊ะ ทำไมเร็วจัง??? เท่านั้นแหละ ก็เลยแอดมิทที่ห้องรอคลอดทันที..

ฉันส่งข้อความถึงสามี บอกว่าแอดมิทแล้วนะ แต่ไม่ต้องรีบเพราะปากมดลูกเพิ่งจะเปิดได้ 2 ซม. คุณหมอประมาณว่า น่าจะคลอดกลางคืน หรือไม่ก็เช้าวันรุ่งขึ้นปู๊นแน่ะ...

พอตกบ่าย คุณหมอมาตรวจอีก ปากมดลูกไม่เปิดต่อแฮะ.. มันอยู่ 2 ซม.ยังไง ก็ 2 ซม.อย่างงั้นเลย แล้วพอดีคุณหมอของฉันไม่สบายมาก ก็เลยฝากให้สามีของคุณหมอ ซึ่งเป็นหมอสูฯเหมือนกัน มาดูแลให้ ฉันเองก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จะต้องเปลี่ยนหมอชั่วคราว คุณหมอสูฯท่านใหม่มาตรวจ ก็บอกว่า ไม่น่าจะคลอดก่อนบ่ายวันรุ่งขึ้น ถ้าบ่ายๆไม่คลอดอีก ก็จะให้ยาเร่งคลอด

ฉันก็รอร้อรอ สามีก็มานั่งรอนอนรอ ฟังคนข้างห้องร้องโอดโอยไปหลายคนแล้ว ฉันก็ยังไม่มีวี่แววจะเจ็บท้องอีก.. จำได้ว่าคืนนั้นได้ยินเสียงเด็กร้องไป 4 คน... (แล้วฉันล่ะ??? มาก่อนใครเพื่อน แต่ก็ไม่คลอดซะที)

ต่อมา เช้าวันรุ่งขึ้น (วันเสาร์) ปากมดลูกก็ยังไม่เปิดอีก มันอยู่เท่าเดิมของมันเลยจริงๆ ก็ทำใจไว้แล้วค่ะ ว่าคงต้องเร่งคลอด.. ตอนนั้นไม่มีไอเดียอะไรเลย กะเต็มที่ว่าคลอดแน่ๆ แต่ด้วยบุญญาบารมีที่สั่งสมมาแต่ชาติปางก่อน (ว่าไปนั่น) พี่ จนท. ห้องคลอดท่านหนึ่ง ก็มา(แอบ)กระซิบถามว่า

“น้องอยากคลอดเองจริงๆใช่มั้ยคะ?”

ฉันก็ตอบไปตามอุดมการณ์อันแน่วแน่ว่า แน่นอนนนนนนน...

“เอางี้ พี่ไม่ได้สอนนะ แต่ลองถามคุณหมอดูมั้ยว่า ถ้าปากมดลูกมันไม่เปิดจริงๆ ขอกลับไปนอนบ้านก่อน แล้วรอเจ็บท้องมากๆ หรือน้ำเดิน ค่อยกลับมาคลอด ดีมะ?”

ฉันก็แบบว่า เฮ้ยยยยยยย ฉันลืมคิดไปได้ยังไงเนี่ย ???? อารมณ์นั้นแทบจะกระโดดกอดพี่เค้าเลย ก็จริงอย่างที่พี่เค้าว่า ฉันไม่ได้จำเป็นต้องเร่งคลอดวันนั้นซะหน่อย น้ำไม่ได้เดิน ท้องไม่ได้เจ็บ อายุครรภ์ไม่ได้เกินกำหนด ฉันไม่ได้มีความจำเป็นอะไรเลย ของฉันยังมีเวลาหลายสัปดาห์ด้วยซ้ำ... ฉันจึงลองขอคุณหมอ โดยที่ไม่ได้บอกว่าใครแนะนำมา (เดี๋ยวพี่เค้าจะโดนดุอ่ะ) แล้วก็สัมฤทธิ์ผล คุณหมอให้กลับบ้านแล้วบอกว่า ถ้ามีอาการ น้ำเดิน ท้องแข็งถี่ๆ ลูกดิ้นน้อยลง ให้มาโรงพยาบาลทันที ฉันก็ดีใจมากที่จะไม่โดนเร่งคลอด เพราะคุณหมอก็บอกเองด้วย ว่า ดีแล้วที่ไม่ใช้ยาเร่ง เพราะว่า ถ้าเร่งคลอดแล้ว ถอยหลังกลับไม่ได้ ถ้าปากมดลูกไม่เปิด ก็คือในที่สุดก็ต้องผ่า ง่ายๆคือ เสี่ยงดวงเหมือนกันนั่นแหละ ก็รอลูกอยากออกมาเมื่อไรค่อยให้เค้าออกดีกว่า

แล้วฉันก็ได้กลับบ้าน...ด้วยค่าเสียหายที่นอน รพ. 1 คืน เป็นเงินประมาณ 16000 บาท!!!

กลับบ้านมาบ่ายวันเสาร์... นอนที่บ้านดีๆได้ไม่กี่คืน เช้ามืดวันจันทร์ ประมาณตีสี่ ฉันสะดุ้งตื่นด้วยอารมณ์..

“เฮ้อ..ฉี่รดที่นอนอีกแล้วสิเรา..”

ฉันลุกไปเข้าห้องน้ำ ไปปัสสาวะ อะไรเรียบร้อย ก็รู้สึกว่า มันยังแฉะอยู่แฮะ.. กลับมานอนต่อได้ไม่ถึงนาที ฉันก็เอะใจว่า เอ๊ะ หรือน้ำเดิน?.. เท่านั้นแหละ วิ่งไปเข้าห้องน้ำใส่ผ้าอนามัยก่อน แล้วแปรงฟัน ปล่อยให้สามีนอนไปก่อน เพราะฉันเองก็ไม่แน่ใจว่ามันใช่น้ำเดินหรือเปล่า...

แปรงฟันได้ไม่ทันไร น้ำมันไหลออกมาจากช่องคลอดค่ะ..ไหลโจ๊กกกกกกก เลย ดีนะที่ใส่ผ้าอนามัยไว้ .. เท่านั้นแหละ ก็ออกจากห้องน้ำมาปลุกคุณสามีทันที เก็บข้าวของแล้วก็แจ้นไป รพ.ในทันใด!!!

โทรหาห้องคลอด บอกว่า กำลังจะเข้าไป เนื่องจากน้ำเดิน... เสียงปลายสายก็บอกว่าให้ติดต่อห้องฉุกเฉินก่อน..ฉันดีใจมาก เพราะฉันจำเสียงปลายสายได้ว่า เป็นพี่พยาบาลห้องคลอด ที่แนะนำให้ฉันกลับบ้านนั่นเอง..

ตัดซีนมาที่ห้องรอคลอดเลยก็แล้วกัน..(ไม่งั้นจะยาว)

ฉันถึง รพ. ตอนตีสี่เกือบครึ่ง (ประมาณตีสี่ยี่สิบกระมัง) นอนไป ก็เริ่มเจ็บท้องขึ้นเรื่อยๆ แรกๆก็เจ็บแบบทนได้อยู่ แต่ไปๆมาๆชักจะไม่ไหวแล้ว มันไม่ได้เจ็บเจียนตายหรอกนะคะ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่มันเจ็บแบบว่า ไม่สามารถอยู่เงียบๆได้ เท่านั้นเอง ต้องตะโกน ต้องแหกปาก ทำอะไรสักอย่าง (แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หายเจ็บท้องหรอก แหะๆ) พี่พยาบาล(ท่านเดิม) ก็เข้ามาถามว่าจะเอายาแก้ปวดอะไรหรือเปล่า แรกๆฉันก็ทำเก่ง บอกไปว่ายังทนไหว เอาไว้ก่อน แต่ถ้าจะเอา ไม่เอาบล็อกหลัง.. ขอยาแก้ปวดธรรมดา พี่เค้าก็โอเค..

ฉันมาถึง รพ. แล้วแอดมิทเข้าตอนตีสี่เกือบครึ่ง... ประมาณ เจ็ดโมงสิบห้า ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันก็เลยขอยาแก้ปวด 1 เข็ม.. พี่พยาบาล(เจ้าของไข้ท่านเดิม) ก็โทรหาคุณหมอทันที บอกว่าคนไข้ไม่เอาบล็อกหลัง ขอแต่แก้ปวด.. คุณหมอเห็นว่า ฉันท้องแรก และจากครั้งที่แล้วปากมดลูกก็เปิดช้า คุณหมอจึงสั่งให้ยาแก้ปวดแค่นิดเดียว ไม่ได้ให้เต็มๆ เนื่องจากยาพวกนี้มันมีผลกับลูกในท้องด้วย

ฉีดไปได้ไม่ทันไร ก็เริ่มสลึมสลือ (วะฮ่ะๆ) อาการปวดไม่ได้หายไป แค่ทุเลาลงนิดหน่อย จนกระทั่ง เก้าโมงกว่า ฉันชักแหกปากอีกรอบแล้ว คราวนี้ไม่โอยเฉยๆด้วยนะ แต่กรี๊ดด้วย.. ตาคุณสามีก็ทำอะไรไม่ถูกเนอะ ก็มาจับมือเอาอย่างเดียว ง่วงก็ง่วง แต่พอได้ยินเสียงเมียตะโกน ก็คงจะหายง่วงไปในทันใด อิอิ

เก้าโมงยี่สิบ คุณหมอสั่งให้ยาแก้อักเสบ (หรือยาฆ่าเชื้อนี่แหละ จำไม่ได้) เพราะฉันมีปัญหาลิ้นหัวใจหนานิดหน่อย ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นโรคหัวใจ แต่ก็ให้ยาไว้เพื่อความชัวร์.. ได้ยินเสียงพยาบาลคุยกันว่า ยัง ฉันยังคลอดไม่ได้ เพราะว่าเพิ่งให้ยาฆ่าเชื้อ จะคลอดได้ก็อีก 1 ชั่วโมงหลังจากให้ยานั่นแหละ

ประมาณเกือบสิบโมง พี่พยาบาลเจ้าของไข้ มาขอตรวจปากมดลูก ฉันเองก็เจ็บท้องจนไม่อยากขยับ ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น แต่ก็ต้องยอมให้ตรวจ

“ปากมดลูกเปิด 8 ซม. แล้ว เราช่วยเบ่งหน่อยได้มั้ย หัวเด็กยังไม่ลงเชิงกราน เดี๋ยวพี่ช่วยๆๆๆ”

ฉันก็อารมณ์แบบว่า ไม่เอา ไม่อยากเบ่ง เจ็บท้อง อยากนอนเฉยๆ ก็บอกพี่เค้าว่า

“ไม่เอาๆ ไม่เบ่งๆๆๆ เดี๋ยวก่อนนะคะ ปวดท้อง แป๊บนึงๆ ขอนอนเฉยๆแป๊บนึง”

พี่เค้าก็ความพยายามดีมาก ก็เอามือคาอยู่อย่างนั้น รอฉันพร้อมเบ่ง.. พอถึงจังหวะที่ไม่เจ็บท้อง ฉันก็บอกพี่เค้าว่า “เอาล่ะน้าาาา”
แล้วฉันก็เบ่ง พี่เค้าก็ทำอะไรไม่รู้แหละ แล้วหัวลูกก็ลงเชิงกราน ฮิ้วววววววววววววววววว

ฉันลืมเล่าว่า ทุกครั้งที่ฉันจ็บท้องในวันนี้.. ฉันจะท่องพระคาถาชินบัญชร (ฉบับเต็ม) ทุกครั้ง ท่องจบ 16 บทแล้ว ถ้ายังไม่หายเจ็บก็จะกลับมาท่องใหม่ แต่ส่วนมาก จะท่องได้จบเดียว ก็จะหายเจ็บท้อง (ก็นะ บทสวดมนต์ยาวซะขนาดนั้น) ฉันได้เทคนิคนี้มาจากพยาบาล รพ. เกษมราษฎร์ ประชาชื่น เมื่อครั้งไปอบรมคุณแม่มือใหม่.. พี่เค้าเล่าว่า มีคนไข้คนหนึ่ง ท่องคาถาชินบัญชร ตอนรอคลอด เชื่อไหมว่า พี่พยาบาล แทบจะไม่ได้ยินเสียงร้องเจ็บท้องของคนไข้คนนั้นเลย...แล้วในที่สุดก็คลอดง่ายมากๆ..ฉันก็เลยทำตาม กะเต็มที่ว่า ท่องแล้วจะไม่เจ็บท้อง..ที่ไหนได้...หึหึหึ

ฉันท่องคาถาชินบัญชร (ฉบับเต็ม) มาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เจ็บท้อง แต่ของฉันไม่เหมือนคนไข้คนนั้น..ฉันสวดคาถาชินบัญชร..แต่ก็ยังต้องร้องโอ๊ยอยู่เรื่อยๆ..จนกระทั่ง เมื่อปากมดลูกเปิดเยอะๆแล้ว ฉันก็ยังคงพยายามท่อง..ท่อง...ท่อง..แล้วก็...

"ไม่เอาแล้วโว้ยยยยยยย ไม่ท่องแล้ว"

แล้วฉันก็เปลี่ยนเป็นแหกปากร้อง "โอ๊ยยยยยยยยยย" แทน

สิบโมงนิดๆ มาตรวจภายในอีกรอบ... คราวนี้พี่พยาบาลไม่ได้พูดอะไร แต่ฉันไม่ไหวแล้วฉันขอยาแก้ปวดอีกเข็ม แต่ก็ไม่ได้ เพราะว่ายาแก้ปวดต้องฉีดห่างกัน 3 ชม. ซึ่งตอนให้ยาครั้งแรกนั้น ฉีดตอนเจ็ดโมงเกือบครึ่ง กว่าจะได้อีกเข็มก็ต้องรอพ้นสิบโมงครึ่งไปก่อน ฉันจึงบอกว่า

“ขอบล็อกหลังได้มั้ยคะ หนูไม่ไหวแล้ว ปวดท้องๆๆ” (เห็นแมะ ตอนแรกทำเก่ง บอกไม่เอาแม้แต่ยาแก้ปวด 555)

พี่พยาบาลท่านเดิมก็บอกว่า.. “เฮ้ย จะเอาบล็อกหลังเหรอ จะคลอดอยู่แล้วนะ ทนไหวมั้ย?”

ฉันจึงถามไปว่าปากมดลูกเปิดเยอะหรือยัง ก็ปรากฏว่า เปิด 9 ซม.แล้ว.. ก็เลยตัดสินใจ..ไม่บล็อกหลัง ไม่เอายาแก้ปวด..ทนต่อไป...(ฮือๆ)

ทีนี้ พอปากมดลูกมันเปิดจะหมด ความรุนแรงในการเจ็บครรภ์ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ...มันก็ยังไม่ได้เจ็บเจียนตายอยู่ดี แต่มันเจ็บแบบทนไม่ได้ มันอยากอยู่นิ่งๆ แต่มันก็ต้องตะโกนอะไรสักอย่างออกมา

ฉันลืมตาขึ้นมา ด้วยอาการเมายา (สลึมสลือจากยาแก้ปวดนั่นแหละ) ก็เห็นทีมพยาบาลครบเซ็ตออกอยู่รอบเตียง อยู่ซ้ายคนนึง ขวาคนนึง อีกคนอยู่ปลายเตียง รอก็แต่คุณหมอมา..

พยาบาลท่านหนึ่งบอกว่า เวลาปวดให้เบ่ง วิธีเบ่งให้เบ่งแบบไม่มีเสียง แล้วให้เบ่งออกทางก้น ฉันเองก็ไม่ไหว มันปวดจนทนไม่ได้ สงสัยว่า เวลาปวดน่ะ มันอยากอยู่เฉยๆ ไม่อยากทำอะไรสักอย่าง รอให้อาการปวดมันหายไปเอง มันไม่มีอารมณ์อยากเบ่งอะไรเลย แล้วจะมาบอกให้เบ่งได้ไง ไหนล่ะลมเบ่ง ไม่เห็นมี.. แต่จนแล้วจนรอด มันปวดนี่ ก็ต้องลอง.. เบ่ง เบ่งจนกระทั่งพยาบาลต้องบอกให้หยุดเบ่ง (น้าน)

เวลาเบ่งนั้น คนปกติเค้าจะนอนหงายเบ่งใช่ไหมคะ แต่ฉัน..ด้วยความที่ เจ้าตัวเล็กไม่ได้อยู่ในท่าที่จะทำให้คลอดง่าย..คือเค้านอนตะแคง ไม่ได้นอนคว่ำ ปกติแล้ว ท่าเตรียมคลอดของเด็ก นอกจากจะกลับหัวแล้ว ยังจะต้องคว่ำหน้าอีกด้วย... ทีนี้ เวลาฉันเบ่งฉันก็ต้องนอนตะแคงเบ่ง แล้วพอเบ่ง พี่พยาบาลก็จะมากดสะโพกด้านข้าง ให้ลูกเปลี่ยนท่าจานอนตะแคง เป็นท่าคว่ำ..

และพอฉันจะเบ่ง ขาฉันก็จะขอถีบใครก็ได้ที่ยืนอยู่ปลายเตียง ไม่รู้แหละ พยาบาลคนไหนบ้างก็ไม่ทราบที่โดนฉันถีบ.. มือข้างขวาของฉัน สามีกุมเอาไว้ พอเบ่งที ฉันก็จิกมือสามีที.. ส่วนมือข้างซ้าย มันไขว่คว้าหาอะไรมาจิก ไม่งั้นแรงไม่มี แต่มองไปแล้วหาไม่เจอ เจอแต่พี่พยาบาล ฉันก็ไม่ลังเลเลย ที่จะเอื้อมไปจับพุงพี่เค้า แล้วจิกๆๆลงไป พี่พยาบาลก็พูดด้วยน้ำเสียงอันเป็นมิตรว่า.."จิกได้ค่ะ เอาเลยๆๆ" ฉันบิดมือ บิดไปบิดมา ก็ปล่อยพุงพี่เค้า (กลัวพี่เค้าเจ็บ) แล้วเปลี่ยนเป็นบิดเสื้อพี่เค้าแทน.. แต่สารภาพว่าแรงมันมาจริงๆค่ะ

คุณหมอเองก็กำลังเดินทางมา.. พอเห็นหน้าคุณหมอปุ๊บ ฉันล่ะภาวนาให้คุณหมอมาดึงลูกออกไปซะเดี๋ยวนี้เลย แต่คุณหมอก็...ต้องเปลี่ยนเสื้อก่อนทำคลอด... (เพื่อความสะอาดน่ะค่ะ) ฉันล่ะไม่ทันใจหมอเล้ยยยยยยยยยยยยย เจ็บท้องเหลือเกิน.. พยาบาลก็บอกว่าอย่าเพิ่งเบ่ง ให้ฉันรอคุณหมอก่อน

แต่ฉันไม่รอค่ะ ฉันไม่รอใครแล้ว ฉันเจ็บท้อง จะเบ่งๆ ฉันก็ส่งสัญญาณบอกทีมแพทย์และพยาบาล ว่า “ไม่รอแล้วนะ เบ่งแล้วนะ” แล้วฉันก็เบ่ง...

เบ่งโป๊ะแรก หัวลูกก็หลุดพ้นเชิงกรานมาแล้ว คุณหมอเห็นก็ส่งสัญญาณบอกว่า “ว้าย หัวแหลมออกมาแล้วค่ะ”
แล้วฉันก็เบ่งๆอีกสองสามโป๊ะ...จนคุณหมอและพยาบาลบอกให้หยุดเบ่ง.. แล้วทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่า คุณหมอลงมีดที่ฝีเย็บฉันแล้ว... (เพิ่งมาทราบเอาทีหลังค่ะ ว่า ที่จริงแล้วคุณหมอใช้กรรไกรตัดฝีเย็บ ไม่ได้ใช้มีดกรีด เพราะใช้กรรไกร ปลอดภัยกว่า เนื่องจากจังหวะตัดคือจังหวะที่เห็นหัวเด็กแล้ว ถ้าใช้มีด อาจจะกรีดพลาดไปโดนหัวน้อยๆเข้าได้ค่ะ)

ความรู้สึกโดนตัดฝีเย็บ มันน่าจะเจ็บ คือที่จริงมันคงจะเจ็บล่ะ ถ้าตอนนั้นไม่ได้เจ็บท้องอยู่... แต่ฉันก็ไม่สนใจอะไรใดๆทั้งสิ้น คิดแต่จะเบ่งๆๆๆอย่างเดียว

ทีนี้พอปวดอีกรอบ คุณหมอให้ฉันเบ่ง ฉันเบ่งอีกโป๊ะนึง คุณหมอบอกอีกว่า “ โหย แก้มยุ้ยออกมาเชียว” แล้วสั่งให้ฉันหยุดเบ่ง... ฉันนึกในใจ เฮ้ย ไม่เอา เจ็บท้องจะแย่แล้ว .. แต่ก็หยุดเบ่ง (ฉันเป็นคนว่านอนสอนง่ายค่ะ)

แล้วคุณหมอก็จัดการ ดูดน้ำคร่ำ อะไรต่อมิอะไรออกจากปากจากจมูกลูก(ที่ทราบเพราะแอบผงกหัวไปดูค่ะ สงสัยน่ะว่าทำไมต้องให้หยุดเบ่งด้วย) แล้วบอกให้ฉันเบ่งต่อ พอฉันเบ่งอีกโป๊ะนึง คุณหมอก็ดึงลูกออกมาทั้งตัว... แล้วบอกฉันว่า “ผู้หญิงค่ะ”

สามีของฉันยืนกุมมือฉันอยู่ตลอดกระบวนการคลอด.. วินาทีแรกที่เขาเห็นลูกหลุดออกมาพ้นจากตัวฉัน เขาก้มลงมาจูบหน้าผากฉัน หอมแก้มฉัน เป็นเชิงให้กำลังใจ แบบไม่ต้องใช้คำพูด .. ที่ฉันเข้าใจได้ว่า หากตีเป็นคำพูดแล้ว เขาคงจะพูดว่า “เก่งจังเลยที่รัก” ประมาณนั้นล่ะมั้ง...

(แต่ไม่แน่ อาจจะหมายความว่า.. หุบปากได้ซะทีนะที่รัก ..ก็เป็นได้ แหะๆ)

ณ ขณะนั้น สารภาพว่า ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรใดๆทั้งสิ้น ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าคุณหมอจะพูดว่าได้ลูก ผู้หญิงหรือผู้ชาย ฉันรู้แต่ว่า ความเจ็บปวดทั้งหมดมันหายยยยยยยยยไปสิ้น... มันแบบว่า โอ๊ย รอดแล้วเรา... แล้วฉันก็ลืมตา เงยหน้าไปมองลูก...

“ต๊าย ตัวแดงออกมาเชียว ยัยตัวแสบ อิอิ”

ฉันจำได้ว่า ลูกสาวฉันคลอดออกมาในสภาพ สลึมสลือ ลืมตาออกมาเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน หน้าตาดูงุนงงมาก ขมวดคิ้วแล้วมองไปรอบๆห้องรอคลอด(ที่มันเป็นห้องคลอดสำหรับฉัน) และ ไม่ส่งเสียงร้องเลยสักแอะเดียว!! ฉันก็งงอยู่เหมือนกัน เพราะปกติเด็กหลุดออกมาจะต้องส่งเสียงร้องจ๊ากทันทีอยู่แล้ว คุณหมอก็ตกใจ เอ๊ะ ทำไมไม่ร้อง... แต่ไม่ทันไร..พอเจ้าตัวเล็กตั้งสติได้เท่านั้นแหละ ร้องจ๊ากกกกกกกกกก ไม่หยุดเลย.. คุณหมอว่า “โล่งอกไปที”

หลังจากที่ได้กอดลูก ได้ให้ลูกดูดนมอะไรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เวลาบ่ายโมงตรง (นอนรอดูอาการที่ห้องคลอด 2 ชั่วโมงค่ะ) ก็ย้ายฉันไปห้องพักฟื้น และย้ายลูกไปที่ห้องเนอร์สฯ (เนอร์สเซอรี่) อาบน้ำ ชั่งน้ำหนัก อะไรต่อมิอะไร คนเก่งของฉัน น้ำหนักแรกคลอด 3070 กรัมค่ะ!!! ดีใจจังเลย ขนาดไม่ได้บำรุงอะไรเป็นพิเศษนะเนี่ย นี่ถ้าไปคลอดเอา 40 สัปดาห์ สงสัยจะไม่ต่ำกว่า 3500 แน่ๆ ชัวร์!

พอบ่ายสามปุ๊บ..ฉันก็ชวนสามีเดินไปดูลูกที่ห้องเนอร์สเซอรี่.. (ที่ไม่ให้พามาที่ห้องพักฟื้น เพราะว่ามีแขกมาเยี่ยม ฉันยังไม่อยากเสี่ยงค่ะ.. คนที่บ้านฉันก็เป็นโรคปอด แม้จะไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ก็กันไว้ก่อนดีกว่า..) พอคุณหมอทราบว่าฉันลุกเดินได้ภายในเวลาแป๊บเดียวก็ชมเปลาะเลย ว่าเก่งจัง ตอนคลอดก็ไม่บล็อกหลัง แถมแรงเบ่งก็สุดยอด หนำซ้ำ คลอดแล้วยังไม่รู้จักเจ็บฝีเย็บอีกต่างหาก เดินปร๋อแล้ว..(แหะๆ)

(โปรดติดตาม เรื่องราวหลังคลอดนะคะ)



Create Date : 05 สิงหาคม 2552
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 21:12:01 น.
Counter : 27373 Pageviews.

37 comments
  

เล่าเรื่องได้น่ารักดีค่ะ เห็นภาพเลย
แต่แอบกลัวอะ T___T


ยังไงก็ เอาใจช่วยคุณแม่มือใหม่นะคะ
โดย: ชีวิตชีวา วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:14:26:40 น.
  
เล่าเรื่องได้ตื่นเต้น สนุกจังเลย..
อยากให้หน้าลูกสาว ที่น่ารัก
จะติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ..
โดย: Prettymaew วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:15:04:29 น.
  
อ่านแล้วอินจังเลยค่ะ

คงมีความสุขมากๆที่ได้เห็นลูกน้อย (อ่านล้วจะร้องไห้ อิอิ อินไปไหมเนี่ย)

ยังไม่มีลูก มาอ่านเป็นประสบการณ์ค่ะ
เก่งจังเลยคลอดเอง ไม่ผ่า

ขอให้เด็กคนนี้แข็งแรงและเลี้ยงง่ายๆนะคะ คุณแม่เก่งขนาดนี้
โดย: StarInDark วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:15:08:34 น.
  
เก่งจังค่ะ มองเห็นภาพตัวเองตอนคลอดรางๆ แต่ไม่เก่งเท่า เพราะพี่บล็อคหลัง 555

แต่เรื่องอยากตะโกน ร้องกรี๊ดนี่ เหมือนกันเลย

รอดูน้องนะคะ ^.^
โดย: Thee-T'sMom วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:15:43:16 น.
  
Congratulations na ka..
โดย: CrackyDong วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:22:21:56 น.
  
น้องน่ารักมากค่ะ
โดย: โยเกิตมะนาว วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:23:31:23 น.
  
ยินดีด้วยจ๊ะน้องน้ำหวาน ส่วนพี่ณัฐสันนี้ก็ 38 w เต็มแล้วยังไม่มีอาการใดใดเลย อยากเห็นหน้าลูกแล้วนะ

ดูแลสุขภาพด้วยจ๊ะขอให้น้องเลี้ยงง่ายโต ไวไวนะจ๊ะ


พี่ณัฐ
โดย: rosecottage IP: 125.26.150.124 วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:9:38:21 น.
  
ดีใจด้วยจ้าคุณ elin ของเราเด๋วตามไปติด ๆ

เราคิดไว้แล้วเชียวว่าคุณ elin ต้องไปคลอดน้องแล้วแหง๋ ๆ เพราะไม่เห็นหลายวันเลย

เรามีอาการคล้ายคุณ elin ตั้งแต่ 34 วีคเหมือนกัน นี่ 37 วีค 3 วันแล้ว ปากมดลูกยังปิดสนิท ลุ้น ๆ จะได้คลอดตอน 38 วีคเหมือนกันป่าว อิอิ

ปล. น้องน่ารักม๊ากกกก
โดย: นนนี่ IP: 117.47.46.16 วันที่: 6 สิงหาคม 2552 เวลา:11:38:57 น.
  
ขอบอกว่าเล่าได้ตลก และสะใจมากๆ
เสียดายตังค์แทน ตั้งหมื่นหก
ดีแล้ว ที่น้ำเดินก่อน แล้วไปปวดท้องทีหลัง
เพราะท้องที่แล้ว พี่ก็น้ำเดิน
ท้องนี้ก็อยากให้น้ำเดินก่อนเหมือนเดิม
เพราะไม่ต้องทนปวด ระหว่างเดินทางไป รพ.

น้อง อลิษา น่ารัก ผมดกดีจัง
พี่ก็อยากให้น้องผมดกๆ ดำๆ น่ะ
เพราะสามีก็ผมสีน้ำตาล ส่วนพี่ดำสนิท
วันนี้พี่ก็ 32 weeks แล้ว อีกเดือนกว่าๆ เอง
ตื่นเต้นๆ

โดย: เจ้าแม่แฟชั่น วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:22:56:31 น.
  
แหะๆ ลืมเล่าค่ะ ว่าตอนเจ้บท้องอยู่ ท่องคาถาชินบัญชรด้วย เจ็บทีก็ท่องที แรกๆก็ท่องทุกทีที่เจ็บท้อง พอหลังๆไม่ไหวแล้ว ก็เลยไม่ท่องแล้ว

แต่ชะรอยจะเป็นเพราะคาถาชินบัญชร ก็เลยทำให้คลอดง่ายค่ะ เอิ๊กๆ
โดย: elin วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:12:57:22 น.
  
ขอปรบมือให้เลยค่ะ
คุณแม่มือใหม่
โดย: ส้ม IP: 58.9.96.234 วันที่: 8 สิงหาคม 2552 เวลา:13:11:39 น.
  
เก่งจังน้องเรา (พี่กิ๊กเองจ้า)
โดย: ข้าวโพดหอม IP: 10.226.40.112, 203.185.129.243 วันที่: 10 สิงหาคม 2552 เวลา:11:10:30 น.
  
น้องน่ารักมากค่ะ
โดย: GolFy JuSt OrdiNaRy GirL วันที่: 11 สิงหาคม 2552 เวลา:14:06:22 น.
  
สวัสดีค่ะคุณ elin

คุณแม่เก่งและแข็งแรงจังเลยค่ะ ไม่ต้องบล๊อกหลังด้วย อ่านไปก็เห็นภาพเลยค่ะ น้องก็น่ารักมากค่ะ ผมดกดีจังเลย

ดีใจด้วยนะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่และคุณลูกค่ะ
โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:22:59:46 น.
  
คุณ elinnnn มันส์ม๊ากค๊า
โดย: แพนด้า-ดาว วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:21:12:28 น.
  
สวัสดีค่ะคุณ elin

แวะมาเยี่ยมคุณแม่และคุณลูกค่ะ ยุ่งมากไหมคะช่วงนี้ น้องเลี้ยงง่ายไหมคะ ขอให้เลี้ยงง่ายๆ นะคะ คุณแม่จะได้ไม่เหนื่อยมากค่ะ

นอนหลับฝันดีนะคะ
โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:21:05:13 น.
  
น่ารักมากเลย ไม่รู้ว่าตัวเล็กของเราจะน่ารักเหมือนกันหรือป่าว
โดย: นุ้ย IP: 202.41.167.241 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:16:03:21 น.
  
สวัสดีค่ะ

สบายดีไหมคะ แวะมาส่งความสุขปีใหม่ค่ะ ขอให้ปีหน้าเป็นปีที่ดีๆ มีความสุขทั้งครอบครัว สุขภาพแข็งแรงนะคะ
โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:22:46:32 น.
  

สุขสันต์วันคริสมาส ขอให้มีความสุขนะค่ะ


โดย: brackleyvee วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:3:56:26 น.
  
สวัสดีปีเสือค่ะ
โดย: CrystaL_32 วันที่: 1 มกราคม 2553 เวลา:22:08:41 น.
  
แวะมาสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังค่ะ
น้องน่ารักจัง บล๊อคก็สวยจริงๆค่ะ
โดย: ผักบุ้งตาสวย วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:16:26:16 น.
  
Love love ^__^
โดย: Matang IP: 206.53.152.14 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:59:43 น.
  
ตื่นเต้นจังเลยไกลคลอดแล้วลูกของคุณน่ารักมากเลยทำให้อยากเห็นหน้าลูกของตัวเองบ้างว่าจะเป็นอย่างไรตอนคลอดกลัวเจ็บเหมือนกันกลัวพยาบาลแกล้งด้วยเพราะน้องสาวเคยโดนมาแล้วแต่ไม่ว่าจะต้องเจอกับอะไรก็จะอดทนเพื่อลูก
โดย: แม่มือไหม IP: 114.128.141.96 วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:12:21:18 น.
  
ยินดีด้วยกับคุณแม่คนใหม่นะคะ ทั้งที่เพิ่งคลอด้อง และกำลังจะคลอดในอีกไม่ช้า

ความรู้สึกของคนเป็นแม่ มันยิ่งใหญ่บอกไม่ถูกจริงๆใช่ไหมคะ ถึงขนาดที่คิดว่า เสียดายแทนคนที่ไม่มีลูกเลย ที่เค้าจะไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้...

เหนื่อยแค่ไหนก็ทนไหวค่ะเพื่อลูก ทุกอย่างไม่ยากเกินไปค่ะ
ตอนคลอดไม่ต้องกลัวเลยค่ะ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
เลี้ยงลูกค่ะ โหดกว่าเยอะ.....แต่โหดแค่ไหนก็ทนได้ค่ะเพื่อแก้วตาดวงใจของแม่..
โดย: elin วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:14:40:43 น.
  
น้องน่ารักจังเลยค่ะ เก่งมากเลยค่ะคุณแม่ เป็นเราไม่รู้จะทำได้ไหม
โดย: ##TUKTA## วันที่: 27 มีนาคม 2553 เวลา:0:46:28 น.
  
คุณน้องน่ารักมากๆ
คุณพ่อต้องหล่อคุณแม่ต้องสวยแน่ๆ ถึงได้พิมพ์นี้
ขอให้สุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่คุณลูกนะครับ
โดย: samr IP: 58.8.86.132 วันที่: 22 เมษายน 2553 เวลา:12:22:49 น.
  
เล่าได้เห็นภาพเลยค่ะอ่านไปเกร็งไปด้วยเลยจริงๆค่ะ
ยินดีด้วยนะค่ะ จะคอยติดตามเรื่องราวหลังคลอดนะคะ
โดย: สาวพิษณุโลก** วันที่: 7 พฤษภาคม 2553 เวลา:11:49:29 น.
  
อ่านไปขำไป แล้วก็แอบเบ่งตามไปด้วยอ่ะ 555+++

คุณแม่แข็งแรงและเก่งจัง ขอให้น้องแข็งแรงเลี้ยงง่าย ๆ

และเก่งแบบคุณแม่นะคะ
โดย: กึมฯ IP: 124.120.26.19 วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:9:18:06 น.
  
โห คุณแม่elin เล่าได้มันส์มากเลย
น้องก็น่ารัก ค่อด ค่อดเลยค่ะ
อยากเก่งแบบนี้บ้างจัง แต่ใจกลัวเหลือเกินค่ะ
ไม่รู้ว่าจะทำได้แบบนี้มั้ย

ขอให้แข็งแรงทั้งคุณแม่คุณลูกนะคะ
โดย: ซาโยริจัง (ซาโยริจัง ) วันที่: 30 สิงหาคม 2553 เวลา:20:43:05 น.
  
โหหหหหหหหหหหหหห...เล่าได้เห็นภาพตามเลยค่ะ
เป็นคุณแม่ที่แข็งแรงและอดทนมากๆๆๆๆๆจริงๆๆ

ขอให้คุณแม่และคุณลูกแข็งแรง และสุขภาพดีตลอดนะคะ
โดย: ~ k E t S y ~ IP: 81.104.230.36 วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:14:49:07 น.
  
เราขำไปหลายช็อตเรยอ่ะค่ะ เล่าได้สนุกมาก ๆ

ตอนนี้ท้องได้ยี่สิบหกสัปดาห์ กลัวเหมือนกันแต่ก็ต้องสู้ค่ะ

ขอให้มีความสุข สุขภาพแข็งแรงกันทั้งครอบครัวเรยนะค่ะ

ลูกน้อยน่ารักมาก ๆ ค่ะ



โดย: โอเชี่ยน IP: 178.198.162.6 วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:23:15:02 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งประสบการณ์กันค่ะ..เสียดายเราอยากคลอดเองแทบแย่ แต่ดันไม่ได้คลอดเอง เสียดายที่ไม่ได้อ่านประสบการณ์ของเพื่อนๆ ให้เยอะกว่านี้ ไม่งั้นเราคงไม่ต้องเสียเงินค่าผ่าเยอะแยะเลย...เฮ้อ..ไว้ท้องหน้าค่อยว่ากันใหม่นะ..
คุณelinเก่งมากเลยค่ะคลอดเองได้ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ..ขอชมเชยจากใจ.
โดย: แม่กะทิ IP: 223.205.34.217 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:10:04:45 น.
  
เก่งจัง
โดย: แม่เหมียว IP: 192.168.31.113, 110.77.226.44 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:2:32:50 น.
  
มันส์มากค่ะ !!!!
โดย: April Bunny IP: 58.8.67.172 วันที่: 11 มีนาคม 2554 เวลา:4:47:07 น.
  
อินตามเลย เห็นภาพทุกประโยคเลยจ้า
โดย: แป้งกับก๋อย IP: 110.170.185.100 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:32:05 น.
  
ตอนนี้นี้38สัปดาห์แล้ว😀
อ่านไปก็หัวเราะชอบอิอิ "อีกไม่นานก็คิวเราแหกปากร้อง"😨😨😂
อาการนี้แบบเดียวกันตอนคลอดน้องลีโอเลย ลูกชายคนที่สาม กำลังจะคลอดลูกสาวคนที่สี่อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า 😀
โดย: แก้วกัลยา IP: 212.47.252.101 วันที่: 29 กรกฎาคม 2560 เวลา:22:13:41 น.
  
ตอนนี้นี้38สัปดาห์แล้ว😀
อ่านไปก็หัวเราะชอบอิอิ "อีกไม่นานก็คิวเราแหกปากร้อง"😨😨😂
อาการนี้แบบเดียวกันตอนคลอดน้องลีโอเลย ลูกชายคนที่สาม กำลังจะคลอดลูกสาวคนที่สี่อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า 😀
โดย: แก้วกัลยา IP: 213.67.203.64 วันที่: 29 กรกฎาคม 2560 เวลา:22:14:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

elin
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments