ฉันตื่นในเวลานั่นในเวลาที่ฉันเปิดเปลือกตามองเพดานและหลอนไฟที่ปิดติดอยู่บนเพดาน
ฉันรู้ฉันจำได้จากวันที่ล่วงเลยมาแล้วหนึ่งวันว่าวันที่ล่วงเลยมานั่นฉันต้องทำอะไรในวันนี้
เขาคนนี้เลยเดินไปทำความสะอาดร่างกายที่ถึงแม้จะทำความสะอาดมันอย่างไร ทำความสะ
อาดมันทุกวันมันก็ไม่เคยเลยสักวันที่จะสะอาดอย่างที่เราอยากให้มันสะอาดอย่างใจต้องการ
ความสะอาดนั่นมันก็อยู่ได้ไม่นาน
ฉันขับเคลื่อนยานพาหนะสองล้อไปยังร้านถ่ายเอกสารเพียงเพราะเครื่องปริ้นเตอร์ที่บ้านไม่
ทำงานอย่างที่มันควรจะทำงาน ฉันเปิดปากขึ้นเสมอก่อนที่ฉันจะสั่งปริ้นเอกสาร
ปริ้นงานเครื่องไหนครับ? ขาวดำหนึ่ง เสียงตอบของเธอกล่าวขึ้น ไม่นานฉันก็ได้เอกสาร
อย่างที่ฉันต้องการอยู่ในมือเรียบร้อย
ฉันเคลื่อนพาหนะสองล้อออกจากที่นั่นไปตามเส้นทางที่ทอดยาวคดเคี้ยว ช่วงหนึ่งของการ
เดินทาง เม็ดน้ำที่ล่วงลงจากปลายฟ้าบังเกิดขึ้นในเวลาฉับพลันในขณะที่ฟากฟ้ายังสดใส
และเม็ดน้ำนั่นก็รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ฉันตัดสินใจได้เพียงแค่ขับเคลื่อน
พาหนะฉันไปข้างหน้า ฉันรู้ว่าฉันเริ่มเปียก ฉันรู้ว่าหากฉันเปียกถึงบ้านฉันก็เพียงแค่เปลี่ยน
เสื้อผ้าใหม่ ฉันเลยขับเคลื่อนพาหนะอย่างไม่สนใจเม็ดฝนถึงแม้ข้างทางจะมีผู้ขับเคลื่อน
พาหนะท่านอื่นหลบเม็ดฝนอยู่ใต้ร่มไม้ การตัดสินใจของฉันครั้งนี้ไ่มใช่ครั้งแรกในชีวิต
ที่เกิดขึ้น เมื่อเม็ดฝนกระทบไปยังผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายมันซึมเข้าไปแฝงอยู่ในใยผ้าเวลา
ไม่นานมันก็ติดแนบกับผิวหนัง ความหนาวจึงบังเกิดเมื่อลมมากระทบผ้าที่เปียกชุ่มอยู่
บนเรือนกายมุนุษย์ผู้หนึ่ง ฉันเองก็ไม่ใช่คนเดียวที่เลือกตัดสินใจขับพาหนะสองล้อลุยฝน
ท้องฟ้าที่เคยใสเวลานี้มืดครึ้ม ถนนที่เคยแห้งกลับปกคลุมด้วยรอยน้ำที่ล่วงลงจากฟากฟ้า
ล้อยานยนต์ที่เคยสะอาดกลับถูกเกาะติดด้วยตะกอนดิน ร่างกายที่เคยสะอาดกลับไม่สะอาด