It's nothing like a love at first sight, more like a love in second sight and even more and more at third sight
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 มกราคม 2552
 
All Blogs
 

Turn back time : I'm Not Sure If This Is Love





จากนั้น ตอนเย็นฉันก็เห็นเธอเดินอยู่คนเดียวพอดี ก็เลยได้โอกาสลองเรียกชื่อดู

“ฮันเฮจินนนนนน” ฉันพยายามเรียกให้เธอได้ยิน เรียกครั้งแรกเธอไม่หัน เธอคงไม่ได้ยิน พอเรียกครั้งที่สอง

“นี้ นายนั้นเอง นายเรียก…” เธอเดินตรงมาที่ฉัน ท่าทางหาเรื่องน่าดู ฉันก็เลยชิงตัดบทซะก่อน

“อ่า ดีใจจัง เจอกันอีกแล้ว เอ๊ะ ทำไมต้องดีใจด้วยนะ เจอคนกวนแบบเธออีกนี่ สงสัยวันนี้จะกินข้าวไม่ลงแน่ๆ” แต่ก็ดีใจจริงๆนั้นแหละ ใช่ชื่อเธอจริงๆด้วย ^____^

“แล้วเรียกมามีอะไรรึป่าว ถ้าไม่มีฉันจะกลับบ้านละ” อ่า...จะยืดเวลาเธอไว้อย่างไงดีน้า คิดสิคิด

“เอ่อ นาย ประโยคที่เมื่อวันก่อนนายบอกฉันนะ นายไปเอามาจากที่ไหนรึป่าว” อ่า ดีใจจังแฮะ เธอหันหลังกลับมาพูดกับฉัน นึกว่าจะได้คุยไม่นานซะอีก

“ฮืม ก็คิดเอง มีอะไรรึป่าว ประโยคมันกินใจละสิ” ฉันทำหน้าภาคภูมิใจ

“เปล่า พอดีฉันคุ้นๆนะ เหมือนเคยอ่านเจอที่ไหน ก็จริงอย่างที่นายว่าแหละ ถึงร้องไห้ไปเขาก็ไม่รู้หรอกว่าเราร้องไห้ ” แล้วเธอก้มตัวลงนั่งยองๆ เหม่อมองออกไปตรงถนน

“เอ่อ เธอนี้คิดจะนั่งตรงไหนก็นั่งเลยหรอเนี่ย นี่มันป้ายรถเมล์นะ มีที่ให้นั่งดีๆทำไมไม่ไปนั่งละ” ฉันยื่นมือจะฉุดเธอขึ้นมานั่งตรงที่นั่ง แต่เธอกลับปัดมือฉันทิ้ง

“อือ ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ละ ดูไม่สมเป็นกุลสตรีเลยใช่มะ” แล้วเธอก็ยกมือมาขยี้ที่ตา

“อือ ไม่สมเป็นกุลสตรีจริงๆละ มองจากข้างหลังแล้วเหมือนลิงดีนะ ฮ่าฮ่าฮ่า นี่อย่าเอามือไปขยี้ตาดิ ตาก็แดงหมดดิ เฮ้อเป็นลิงแล้วยังจะตาแดงอีก” ฉันก้มลงนั่งยองๆ ข้างๆ เธอ แล้วยื่นทิชชู่ที่มีให้เธอไป เพราะรู้อยู่แล้วว่าตะกี้เธอคงร้องไห้ แต่คงไม่อยากให้เราเห็น

“ถ้าฉันเป็นลิง นายก็ลิงเหมือนกันนะแหละ ดูดิ นั่งท่าเดียวกัน แถมหน้านายนะเหมือนกว่าฉันอีก” เธอรับทิชชู่ไป แต่ก็ไม่วายหันมากัดฉันต่อ

“แล้วนี่นายจะมานั่งแบบนี้ทำไมละ ที่นั่งดีๆมีไม่นั่ง” นั้น เธอย้อนฉันอีกแล้ว

“ก็กลัวลิงสาวไม่มีเพื่อนนะสิ ลิงหนุ่มสุดหล่อก็เลยมานั่งเป็นเพื่อนไง ^__^”

“ตรงไหนกัน ที่ว่าหล่อ” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืน

“รถเมล์มาแล้ว ขอบใจสำหรับทิชชู่นะ คิมดองวาน” แล้วเธอก็ขึ้นรถเมล์ไป เอ๊ะ ตะกี้ เฮ้ย จิงๆด้วย เธอพูดชื่อผม เฮจินรู้จักชื่อผมด้วย >w<  อ้ากกกกกกกก ดีใจสุดๆเลย

อือ

ว่าแต่ - - ทำไมฉันต้องดีใจด้วยวะเนี่ยยยย

อ้าว - - ลืมดูเลยว่าเธอขึ้นรถเมล์สายอะไร อ้ากกก ทำไมช้าแบบนี้นะ แต่ไม่เป็นไร  ไว้คราวหน้าคงได้เจอกันอีกนะเฮจิน   ^___^

.............................
..................
......

“อ้าก ลุง ชักอยากเห็นหน้าพี่เฮจินแล้วละสิ” แอนดี้พูดขึ้น

“พี่จองอันก็ยังอยากเห็นอยู่นะ อยากเห็นทั้ง 2 คนเลยอ่า ลุงเอามาให้ดูหน่อยน้า” จอนจินก็ขอมั้ง

“จองอันนะ ยังพอมีอยู่บ้าง แต่เฮจินเนี่ยดิ ไม่มีรูปเลยวะ เฮ้อ…” ดองวานตอบพร้อมทำหน้าเศร้าๆ

“ลุงมันได้เจอเฮจินแค่ไม่กี่ครั้งเองหลังจากวันนั้น ขนาดพี่ยังเคยเจอแค่ครั้งเดียวเอง พอขึ้น ม.6 ก็แทบจะไม่ได้เจอเลย ก็เลยไปสืบจากเพื่อนสาวคนเดิมของพี่ ได้ความว่าเฮจินย้ายโรงเรียนไปแล้ว”

“โฮ้…ทำไมมันเศร้าแบบนี้ละเนี่ย แล้วลุงรักเขาแล้วทำไมไม่บอกเขาไปละ” จอนจินพูด

“ก็ ได้เจอกันแค่ไม่กี่ครั้งเอง แถม บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจด้วยว่านี้คือรักหรือเปล่า ฉันยอมรับว่าคงชอบเขา  แต่ถึงขั้นรักรึป่าวเนี่ย จนถึงป่านนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” ดองวานแอบถอนหายใจ

“แล้วรักกับชอบมันต่างกันยังไงละลุง ยังไงมันก็เป็นความรู้สึกดีๆที่เรามีต่อคนๆหนึ่งเหมือนกันไม่ใช่หรอ?” แอนดี้ถาม

“เอ่อ จริงของแอนดี้มันวะ ฉันว่าแกนะทั้งรักทั้งชอบเขาเลยวะ แต่ตอนนั้นแกคงปฏิเสธตัวเองอยู่ คงคิดว่ามันเร็วไป ใช่มะ” มินอูหันหน้าไปถามดองวาน

“อือ ก็จริงอย่างที่ทั้งแกทั้งไอ้ดี้พูดนะแหละ ก็ มันไม่เหมือนตอนฉันชอบจองอันนิหว่า ฉันก็เลยไม่แน่ใจ แล้ว…ที่จริงฉันก็...แอบกลัว...กลัวว่าจะเจ็บเหมือนกับตอนที่เลิกกับจองอัน ก็เลยยังไม่อยากคิดเรื่องนี้จริงจัง” ดองวานตอบ

“ถ้าแกไม่รักเขา ป่านนี้แกคงลืมเขาไปแล้วละ” มินอูพูด

“เฮ้อ...ก็…คงจะจริงอย่างที่แกพูดละวะมินอู ถ้าตอนนั้นฉันรู้ใจตัวเองสักนิด ฉันก็คงจะบอกเธอไปแล้วละ ว่าฉันชอบเธอ ถ้าย้อนเวลาได้ก็ดีนะสิ” ดองวานตอบด้วยสีหน้าเศร้า

“ในเมื่อย้อนเวลาไม่ได้ ก็เริ่มต้นใหม่สิพี่ดองวาน เดี๋ยวพวกเราจะช่วยกันสืบหาพี่เฮจินให้ แต่คราวนี้ถ้าเจอ พี่ต้องอย่าปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปอีกนะ” จอนจินพูดพร้อมทำสีหน้าจริงจัง

“แล้วเราจะเริ่มจากไหนดีละเนี่ย รูปก็ไม่มี...เฮ้อ” แอนดี้ถอนหายใจ

“ฉันว่าวันนี้พวกเรากลับบ้านไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่า แล้วค่อยคิดหาหนทางกันอีกที ขอบใจมากนะจอนจิน แอนดี้ที่พาพี่มาเลี้ยงราเมง ป่ะ วานนี่กลับรังรักของเรากันเถอะ” พูดจบมินอูก็จูงมือดองวานออกจากร้านไปทันที ทิ้งให้แอนดี้กับจอนจินซึ่งยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ต้องมองหน้ากัน แล้วจำใจควักเงินออกมาจ่ายค่าราเมงในที่สุด

เช้าวันใหม่ ณ Production House ที่เดิม

แต่วันนี้แอนดี้ไม่ออกโรง เพราะต้องพานักแสดงไปให้เจ้าของโฆษณาเลือก ที่ office จึงเหลือแค่ดองวานกับจอนจิน

“ลุงๆ ผมคิดออกแล้วละ หนังสือรุ่นไง ลุงยังเก็บไว้อยู่รึป่าว ”

“ลืมไปได้เลย ฉันเคยรวบรวมความกล้าโทรไปตามเบอร์ในหนังสือรุ่นแล้ว ก็เลยรู้ว่าเฮจินย้ายบ้านไปแล้ว” 

“ลุงๆ แล้วพี่เฮจินนี่เขาอยู่ห้องเดียวกับพี่จองอันใช่มะ ทำไมลุงไม่สืบจากพี่จองอันดูละ”

“ฉันก็เคยคิดอยู่เหมือนกัน แต่…ตอนนั้นไม่อยากยุ่งกะจองอันเท่าไร ก็เลย ได้แต่ทำใจ” ดองวานพูดจบแล้วก็นิ่งไป สักพัก…

“แต่ว่าตอนนี้ ฉันไม่คิดอะไรเรื่องจองอันแล้ว ตอนนี้ฉันอยากเจอเฮจินเขาอีกสักครั้งมากกว่า เออ แกพูดขึ้นมาก็ดีเหมือนกันวะจิน ขอบใจมากจินนี่ ^_^”

“แล้วพี่ยังมีเบอร์พี่จองอันเขาอยู่หรอ เรื่องมันตั้งแต่สมัยลุงยังนุ่งเกงขาสั้นผูกโบว์ไปโรงเรียน ป่านนี้พี่เค้าคงเปลี่ยนเบอร์ไปแล้วละมั้ง”

“อ้อ เรื่องนี้ไม่ยาก เพราะเท่าที่ได้ยินมา จองอันยังไม่ย้ายบ้าน เดี๋ยวไปคุ้ยหาเบอร์บ้านจากหนังสือรุ่นเอาได้ ^_^ ” พูดจบ ดองวานก็เก็บของ สะพายกระเป๋าพาดบ่า แล้วเตรียมจะเดินออกไป

“เฮ้ย ลุง นี่ลุงจะไปไหนเนี่ย ยังเช้าอยู่เลยนะ”

“อ้อ อยากกลับบ้านไปรื้อหาหนังสือรุ่นแล้วละวะ ใครถามหาบอกว่าไปช่วยแอนดี้ที่บริษัทลูกค้านะ ฝากนัดแนะกะแอนดี้ด้วย ขอบใจมากเว้ยจิน ไปละ~”

“โฮ้ ลุงเล่นงี้เลย แต่เอาเถอะ ยอมให้เพราะเห็นว่าเป็นพระเอกหรอกนะ โทรไปหาแอนดี้ดีกว่า...”

ที่บ้านดองวาน

“อ่า...ในที่สุด ก็เจอ หาแทบตาย เอาวะ สู้เขาคิมดองวาน Hwaiting!!!”

หลังจากเรียกขวัญกำลังใจให้ตัวเองเสร็จ ก็ลงมือกดโทรศัพท์ตามเบอร์ในหนังสือรุ่นทันที

“สวัสดีค่ะ ต้องการเรียนสายกับใครคะ?”

“อ่า เอ่อ อ่า ไม่ทราบว่าคุณแชจองอันอยู่รึป่าวครับ” ดองวานตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ

“อ้อ ค่ะ สักครู่นะคะ...”

ตอนนี้ดองวานตื่นเต้นมาก ในหัวเริ่มคิดฟุ้งซ่านมากมาย ครั้งล่าสุดที่ได้คุยกันก็ตอนวันเรียนจบม.6 จองอันเป็นฝ่ายมาอวยพรให้เขาโชคดีกับการเรียนมหาลัยและก็บอกลา ตอนนั้นเขาตอบกลับไปแค่คำเดียวว่า ลาก่อน…

“สวัสดีคะ จองอันพูดคะ”

“เอ่อ จองอันหรอ นี้ดองวานเองนะ จำได้ไหม?” อ่า หวังว่าเธอยังไม่ลืมเราน้า...

“อ้อออ ดองวาน คิมดองวานหรอ ว่าแล้วว่าเสียงคุ้นๆ” จองอันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“เอ่อ อืมๆ อ่า ขอบใจนะที่ยังจำกันได้ อ่า คือ...”

“มีเรื่องจะให้ช่วยใช่ไหมละ ไม่งั้นก็คงไม่โทรมาหรอก…ดองวาน ยังไม่หายโกรธฉันอีกหรอ”

“เรื่องมันก็นานมากแล้วละ ฉันไม่เคยโกรธเธอเลยนะจองอัน ก็แค่เสียใจแค่นั้นละ แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้วละ”

“ได้รู้ว่าดองวานไม่โกรธ ฉันก็ดีใจแล้วละ ฉันว่าเราไปคุยกันที่ร้านไอติมร้านเดิมดีกว่า หวังว่าคงจำได้นะ”

“อืม ได้ เดี๋ยวเจอกันนะจองอัน”

ณ ร้านไอติม

“อ่า…ไม่น่าเชื่อว่าร้านนี้ยังเปิดอยู่นะเนี่ย นานแค่ไหนแล้วน้า...” ดองวานคิดในใจ เขารู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ไม่ได้เจอจองอันมานานมากแล้ว เธอจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนน้า 

“หวัดดีดองวาน ยังเหมือนเดิมเลยนะ” จองอันเดินมาพร้อมกับรอยยิ้ม แบบที่ครั้งหนึ่งดองวานและใครๆก็เคยตกหลุมรักรอยยิ้มแบบนี้

“อ้าว จองอัน มาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ฉันนั่งจ้องประตูอยู่ ไม่เห็นเธอเปิดประตูเข้ามาเลย”

“อ้อ ฉันมาได้สักพักแล้วละ ไปเข้าห้องน้ำมานะ”

“อืม... เราไม่เจอกันนานแค่ไหนแล้วนะ เธอเองก็ยังไม่เปลี่ยนเลยนะจองอัน”

“อะไรกัน ฉันไม่สวยขึ้นเลยหรือไงน้า จะชมให้ดีใจหน่อยก็ไม่ได้” จองอันทำหน้างอ จนดองวานอดคิดถึงตอนที่คบกันไม่ได้

“ฮ่าๆ ไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆละจองอัน แม้กระทั่งหน้างอๆแบบนี้ เวลาเธองอนทีไร ชอบทำหน้าแบบนี้ทุกที แล้วฉันก็ใจอ่อนทุกทีด้วยสิ”

“ดีใจจังที่ดองวานยังจำได้ แล้วเรื่องที่ดองวานจะให้ฉันช่วย มันเรื่องอะไรหรอ” 

“ก็ จองอันจำเฮจินได้ไหม ที่เคยอยู่ห้องเดียวกับเธอนะ”

“อ้อออ จำได้สิ ฮันเฮจินใช่ไหม ทำไมหรอ”

“เอ่อ...เธอมีเบอร์ติดต่อเฮจินรึป่าว หรือว่าพอจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้เฮจินเขาเป็นยังไงบ้าง ทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน อะไรประมาณนี้นะ”

“เอ๋ เดี๋ยวก่อนนะ เฮจินนี่เขาเป็นเพื่อนสนิทกับเฮซองใช่ไหม เฮซองเขาเคยเล่าให้ฉันฟัง แล้ว ว่าแต่ดองวานมาถามหาเฮจินนี่ มีอะไรหรือเปล่า”

“อืมๆ ใช่ๆ เฮจินเขาเป็นเพื่อนสนิทกับเฮซอง แล้วก็เหตุผลที่ฉันตามหาเฮจินก็เพราะว่า เอ่อ ฉัน...ฉันก็แค่อยากเจอเฮจินอีกสักครั้ง”

“เอ๋ ไม่ยักกะรู้นะ ว่าดองวานรู้จักกับเฮจินด้วย ฉันนี่ตกข่าวจริงๆ แล้วทำไมดองวานถึงอยากเจอเฮจินละ เอ๊ะ หรือว่าดองวานแอบหลงรักเฮจินหรอ ว้าววว”

“ก็ ก็ อ่า คงจะประมาณนั้น แต่มันก็นานมากแล้วละ”

“นานมากแล้ว แล้วทำไมอยู่ๆถึงเพิ่งจะตามหาละ”

“มันก็แปลกดีนะ แม้ช่วงเวลาที่ฉันได้ใช้ร่วมกันกับเค้าจะเป็นแค่เวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้ฉันคิดถึงเค้ามาโดยตลอด ฉันก็เลย อยากจะเจอ อยากจะได้พูดคุยอีกสักครั้งก็ยังดี”

“ว้าววว~ น่าอิจฉาเฮจินจัง เค้าจะรู้ไหมน้า ว่ามีชายคนหนึ่งกำลังตามหาเค้าอยู่”

“แล้วเธอละจองอัน ตอนนี้มีแฟนหรือยัง ต้องมีแล้วแน่ๆเลย เนื้อหอมจะตายไปจองอันน่ะ”

“ก็ไม่ปฎิเสธหรอกนะว่าเนื้อหอม เฮ้อ แต่ความจริงแล้ว ตั้งแต่เลิกกับเฮซองมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คบใครเป็นตัวเป็นตนเลยละ ดองวานไม่สนใจรีเทิร์นกลับมาลองคบกับฉันดูใหม่หรอ”

“เอ่อ ไม่ดีกว่า เกรงใจนะ ฮ่าๆ รอคนที่เขาดีกว่าฉันก็แล้วกันนะจองอัน”

“บ้า ดองวานนะเป็นคนดีออกจะตายไป ฮ่าๆ แต่ตะกี้นี้ฉันพูดเล่นนะ ไม่ต้องซีเรียส อืม ฉันว่ามันก็คงเป็นกรรมจากที่ฉันได้ทำกับเธอไว้นะดองวาน รู้ไหมว่าจริงๆแล้วเฮซองเขาเป็นคนบอกเลิกกับฉันนะ คิดแล้วก็แอบเจ็บอยู่เหมือนกัน แต่มันก็สมควรแล้วละ แต่ตอนนี้ฉันกับเฮซองก็กลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแทน วันนี้ฉันก็เลยดีใจมากที่ดองวานโทรมา เพราะที่จริงแล้วตั้งแต่ที่เราเลิกกัน ฉันก็ยังอยากเป็นเพื่อนของเธอนะ แต่เจอทีไร ดองวานต้องหลบหน้าฉัน ไม่พูดไม่จากับฉันทุกที ฉันก็เลย...”  

“ขอโทษด้วยนะ จองอัน ตอนนั้นฉันยังทำใจไม่ได้จริงๆ ก็เลยต้องทำตัวแบบนั้น”

“ฉันตั้งหากละที่ต้องขอโทษ ดองวานไม่ผิดสักหน่อย ฉันนะผิดเองที่หลอกเธอ แต่ตอนนั้นที่ฉันพูดไปตอนที่ขอเลิกกับเธอ ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆนะ เพราะดองวานดีกับฉันมาก ฉันอยากให้ดองวานมีความสุข ฉันว่ามันคงดีแล้วละที่ฉันจะปล่อยให้ดองวานไปเจอผู้หญิงที่ดีกว่าฉัน”

“จองอัน ฉันไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องนั้นอีกแล้วละ ฉันเข้าใจ ฉันว่าเรื่องเก่าๆก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ตอนนั้นพวกเราก็ยังเด็กมากด้วย จากนี้ไปเรามาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแทนก็แล้วกันนะ ^____^ ”

“ได้เลยดองวาน เพื่อนคนนี้จะช่วยสืบเรื่องคนรักของเพื่อนให้เองนะ ไว้ฉันจะถามเรื่องเฮจินจากเฮซองให้ละกัน รายนั้นน่าจะรู้เรื่องเฮจินเยอะสุดแล้วละ ฉันเองก็ไม่ได้เจอกับเฮจินเลยตั้งแต่ทำงาน แต่ตอนนี้เฮซองเขาอยู่ที่ญี่ปุ่น คงต้องรอเขากลับมาก่อน แล้วฉันจะนัดให้ละกัน ดองวานไม่ต้องเป็นห่วง ^^”

“ขอบคุณมากเลยจองอัน อ่า แต่อย่าพูดว่าคนรักเลย เขิลลล >w< ”

จากนั้นทั้ง 2 ก็พูดคุยกันต่ออีกสักพัก แล้วร่ำลา แยกย้ายกันกลับบ้าน


ขณะที่ดองวานยืนอยู่หน้าร้านไอติม เขาก็นึกขึ้นได้ว่าร้านไอติมกับโรงเรียนอยู่ใกล้กัน ดองวานเลยเดินไปที่โรงเรียนมัธยมที่ๆเขาเคยเรียนอยู่ กะจะมาเดินเล่นซะหน่อย ไหนๆก็ผ่านมาแถวนี้แล้ว ขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าโรงเรียน ดองวานก็เห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงป้ายรถเมล์หน้าโรงเรียน เพียงอึดใจเดียว เขารีบวิ่งไปยังป้ายรถเมล์ทันที พลางคิดในใจว่าขออย่าเพิ่งให้มีรถเมล์คันไหนมาจอดที่ป้ายนี้ทีเถิด…




 

Create Date : 05 มกราคม 2552
2 comments
Last Update : 30 มีนาคม 2552 0:59:43 น.
Counter : 292 Pageviews.

 

อ๊ากกกก ลุงจะวิ่งไปทันมั๊ยเนี่ย ลุ้นๆ

ตอนแรกที่อ่าน แวบแรกนึกว่าจองอันเจอลุงแล้วอยากจะกลับมาจุดถ่านไฟเก่าซะอีก 555

ขอบคุณน้องนาจ้า อ่านแล้ว อยากกลับไปตามหาแฟนสมัยมัธยมมั่งจัง ^^

 

โดย: KoYoJunG IP: 202.176.158.187 10 มกราคม 2552 11:20:39 น.  

 

โอ้ เธอมาแบบผลุบๆโผล่ๆ
ดูเป็นเรื่องรักวัยขบเผาะดีอะ

 

โดย: เพื่อนเอิบ IP: 125.25.186.152 15 มกราคม 2552 1:53:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


da friday child
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add da friday child's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.