Group Blog All Blog
|
บทรำพัน: โซ่ตรวนแห่งลมหายใจ โซ่ตรวนแห่งลมหายใจ ๑. ห้วงมฤตยูค่อยคลืบคลาน ทีละนิด... ทีละนิด... โอ้... ช่างเจ็บปวดทรมานเหลือจะกล่าว.. ดังเหมือนมีมือล่องหนซ่อนกลมาขย้ำบีบเหนือร่าง เหนื่อยเหลือเกิน... เจ็บปวดเหลือเกิน.. เหงื่อรินไหล น้ำตาหลั่งร่ำไห้ อยากหยุดหายใจ... อยากหยุดแค่นี้... ต้องทนไปอีกนานเพียงใด การมีชีวิตเหมือนไม่มีเฉกเช่นนี้ อยากหลุดพ้นจากไปเสียที ปลดปล่อยฉันไปเถอะ... ให้ฉันได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้านภาลัย... อย่าเอาโซ่ตรวนแห่งลมหายใจ มาล่ามกันไว้อีกเลย... ได้โปรด... ฉันไม่รู้ หลังความตายมีอะไรซ่อนอยู่ หากแต่ ฉันไม่ต้องการฝืนทนอีก... ได้โปรด.. ปลดปล่อยชั้นไปเถิด... [เงาดำหลังม่าน พร้อมเสียงกึกก้อง !] ๒. เธอ ! ขายวิญญานให้ฉันไหมหล่ะ ! หยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา ! ยื่นมันมาสิ ! ฉันจะทำให้เธอหายทรมานทันที ฉันจะปลดปล่อยเธอไปจากความเจ็บปวดนี้เอง ข้อแม้มีเพียงหนึ่ง คือ จงตกเป็นทาสแห่งเราตลอดนิรันด์กาล ข้อแม้ง่ายดายเพียงเท่านี้ ชีวิตจะปลิดปลิวง่ายดายดังพลิกมือ จงเชื่อเราสิ ! [แสงขาวสว่างวาบ แลเสียงกระซิบแผ่วแบา] ๓. ลูกเอ๋ย... ทางเลือกที่ถูกนั้นเลือกยาก ลูกเอ๋ย... จงยอมรับความเจ็บปวดนี้เถอะ โอบล้อมกอดรัดมันไว้ด้วยเมตตา แม่รู้... ว่าเจ้าเจ็บปวดมากเพียงใด แต่ลูกเอ๋ย... หากเจ้าขายวิญญาณนี้แก่มัน มันเป็นทางที่ถูกหรือไร ? ลูกเอ๋ย... มีทางที่ง่าย และลัดอย่างนั้นหรือ ? จงกล้าหาญเถิด.. หายใจลึกเข้าอย่างอ่อนโยน แม่รู้... เจ้าเจ็บปวดทรมานยิ่งนัก หากการเอาชนะมันยาก อยากยอมแพ้.. จงยอมแพ้พ่ายต่อความเจ็บนี้เสีย ปล่อยให้มันเป็นส่วนหนึ่งของเจ้า... แล้วใช้วันเวลาทำสิ่งสว่างดีงามไม่ดีกว่าหรือ ? เจ้าหวังอะไรในหลังความตายนั้น.. เจ้าหวังสิ่งใดกัน... หากเจ้าคิดว่าตายแล้วสบายดั่งนิทรา จงคิดใหม่เถิด... มันไม่มีความแน่นอนใดใดเลย จงคิดใหม่เถิด... จงโอบกอดความทรมานนี้อย่างเต็มใจ มันเป็นเพียงบทหนึ่งแห่งชีวิน สิ่งง่ายล้วนได้ยาก... สิ่งยากล้วนให้ค่า... หากเจ้ายอมรับมันเป็นส่วนหนึ่ง เจ้าจะเป็นอิสระที่แท้... อิสระที่เจ้าฝันหา... อิสระแห่งปีก... อิสระที่ท้ายกลับคืนสู่ความว่างเปล่า... นี่ไซร้คือคุณค่าที่แท้แห่งลมหายใจฯ . . . วนานันทน์ ปลายนิ้วลั่น ณ ๐๙.๑๑.๒๕๕๕ :๒๒.๓๐ น. ขัดเกลา ณ ๑๐.๑๒.๒๕๕๕ ทักทายก่อนจะไปนอนครับ
โดย: story_dnp วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:1:15:46 น.
ประเทศจีนมีที่เที่ยวสวยๆเยอะมากๆค่ะ
แต่ไม่ชอบอย่างเดียวที่คนเค้าสูบบุหรี่กันเยอะค่ะ แสบจมูกทุกที่ที่ไป ^^ โดย: never the last วันที่: 10 ธันวาคม 2555 เวลา:9:52:41 น.
อิสระที่เจ้าฝันหา...
อิสระแห่งปีก... อิสระที่ท้ายกลับคืนสู่ความว่างเปล่า... กรีสสสสสสสสส ชอบๆๆๆๆ โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 14 ธันวาคม 2555 เวลา:19:15:34 น.
^
@ K. แฟนlinKinPark : กรีสสส เรยหรอ อิอิ ดีใจที่ชอบนา โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 19 ธันวาคม 2555 เวลา:3:19:04 น.
ดีครับ คิดตามภูมิและจินตนาการของแต่ละคน คงแตกต่างกัน ได้ความรู้สึกที่ดีครับ ให้รู้จักต่อสู้ อดทนกับความยากลำบาก ทำใจให้ชินกับความลำบาก มันคือบททดสอบให้แกร่งขึ้น นั่นเอง
โดย: story_dnp วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:11:30:59 น.
^
คุณ story_dnp: ขอบคุณค่ะ นึกว่าจะอ่านแล้วเศร้ากันซะอีก คุณตีความได้ไกลกว่าที่นันทน์คิดเยอะเลย โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:15:51:02 น.
เป็นบทกวีใช่ไหมครับน้องนันทน์
อ่านแล้วต้องจินตนาการตามไปด้วย ตีความได้หลากหลายเลยครับ ปล. พี่ก๋ากำลังเพิ่งหยิบคู่มือมนุษย์มานั่งอ่านใหม่อีกรอบครับ เพิ่งเริ่มอ่านเมื่อเช้านี้เองครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 ธันวาคม 2555 เวลา:20:58:34 น.
บทกลอนนี้ใช้ได้เลย อ่านแล้วชอบๆ
ร้านFabulous อยู่ตรงตรอกต้มยำกุ้ง โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 22 ธันวาคม 2555 เวลา:0:21:31 น.
^
พี่ กะว่าก๋า: เป็นบทอะไรไม่รู้ค่ะ นันทน์เรียกไม่ถูก น่าจะใช้ บทกวี แหละค่ะ คือ มันอยู่ดีดีก็ไหลออกมาเองค่ะ งานกวีชิ้นนี้ น่าจะชิ้นแรกค่ะ นันทน์ไม่เคยเขียนแบบนี้เลย อยากได้คำวิจารณ์ค่ะ พี่ก๋าตีความประมาณไหนอ่ะคะ (แอบอยากรู้ รับได้ทั้งบวกและลบค่ะ แต่ไม่บอกก็ได้ค่ะ อิอิ) โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 22 ธันวาคม 2555 เวลา:5:11:56 น.
คุณ แฟนlinKinPark:
ขอบคุณมากมายยยยยค่าาาา โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 22 ธันวาคม 2555 เวลา:5:12:55 น.
อรุณสวัสดิ์ครับน้องนันทน์
ในบทที่ 1 อ่านแล้วนึกถึงบทกวีที่เขียนโดยคนที่ป่วยหนัก แล้วแว๊บนึงก็คิดถึงความตายในบทที่ 2 เป็นการคิดถึงความตายด้วยความสงสัย ก่้อนที่จะคลี่คลายความคิด ด้วยการคิดถึงบทสนทนากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (หรืออาจกำลังพูดคุยกับตนเอง) ในบทที่ 3 คือ พี่ก๋าอ่านแล้วตีความได้ทั้งสภาวะป่วย หรืออาจเป็นความเจ็บปวดทางใจแบบสุดๆก็ได้ครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2555 เวลา:5:57:36 น.
โดย: พันคม วันที่: 22 ธันวาคม 2555 เวลา:16:49:58 น.
บทกวีต้องเขียนบ่อยๆครับ
พี่ก๋าว่าต้องฝึกเขียนให้เหมือนเป็นไดอารี่เลยครับ รู้สึกอะไรก็เขียนเก็บไว้น่ะครับ ภาษาที่น้องนันทน์ใช้ เป็นภาษาที่สวยงามครับ เหมือนเป็นบทกวีเลย โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 ธันวาคม 2555 เวลา:23:59:39 น.
^
พี่ก๋า: แอบตัวลอยนิดๆเลย อิอิ นันทน์คงต้องพยายามฝึกเขียนบ่อยๆเรื่อยๆ เพราะ บางทีพออยากเขียนแบบนี้กลับเขียนไม่ได้ เหมือนมันฝืนพิกล K. never the last : สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ คุณ พันคม: สุขสันต์วันอาทิตย์ค่ะ โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:13:28:32 น.
ขอบคุณนะค่ะ ที่แวะไปเที่ยวที่บล็อก
ยินดีต้อนรับเสมอค่ะคุณวนานันทน์ ขอให้มีความสุขและสนุกกับการอัพบล็อกค่ะ โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:17:41:37 น.
หนังสือเล่มนี้มีขายครับ
อ่านง่าย แต่ปฏิบัติตามยากครับ 555 แต่ไม่ยาก ถ้าเราจะลองปฏิบัติ ............. พี่ก๋าเป็นคนใจร้อนมาก นั่นก็ไม่แปลกที่มักจะคิดขัดแย้งกับพ่อเสมอ 4 ปีแรกที่พี่ก๋าทำงานที่ร้านไม่เคยมีความสุขเลยครับ เพราะคิดไม่เหมือนพ่อ พี่ก๋าอยากเป็นครู อยกาเป็นสถาปนิก ไม่เคยอยากเป็นพ่อค้าเหมือนพ่อ แต่สุดท้ายต้องมาช่วยงานที่ร้าน ทั้งๆที่ตัวเองไม่ชอบงานที่ทำ เลยไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำ จนวันหนึ่งระเบิดเลยครับ 555 สติแตก 555 แต่วันนั้นก็เป็นวันที่ไ่ด้คิดว่า เราเปลี่ยนพ่อตัวเองไม่ไ่ด้ เขาเกิดมาก่อนเรา ใช้ชีวิตและมีความเชื่อแบบนี้มาตลอดชีวิต แล้วเราเป็นใครถึงจะเปลี่ยนพ่อตัวเองให้เป็นเหมือนที่เราต้องการได้ พอคิดแบบนี้ได้ มันกระตุกให้คิดเลยว่า เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนมุมมองที่เรามีกับคนๆนั้นได้ พอไปเมืองจีนเจอภูเขาลูกหนึ่งสอนเราว่า "เราไม่ไ่ด้ยิ่งใหญ่อะไรเลย เราเป็นเพียงฝุ่นผงในจักรวาล" พอคิดแบบนี้เสร็จ เปลี่ยนตัวเองได้ทันทีเลยครับ อัตตามันหายไป เรารู้แล้วว่าเราไม่ไ่ด้ยิ่งใหญ่อะไรเลย ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ พี่ก๋าเปลี่ยนตัวเองไปเลยครับ ใจเย็นลง รู้เลยว่าที่ผ่านมาเราขยายอัตตาตัวเองเยอะขนาดไหน เราเผลอทำร้ายความรู้สึกของคนที่เรารักมากขนาดไหน ตอนนี้พี่ก๋าเห็นข้อดีของงานที่ตนทำ ทำงานอย่างมีความสุข มองเห็นข้อดีในตัวคนอื่น มองหาข้อเสียในตัว แล้วพยายามปรับปรุง เล่ามาให้ฟังซะเยอะเลยครับ 555 คือพี่ก๋าอยากจะบอกว่า พี่ก๋าเชื่อว่าคนทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ครับ แต่เราต้องกล้าที่จะยอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ เมือ่ยอมลดอัตตาตัวเองได้ จะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่มีกับคนอื่น ก็ไม่เรื่องยากแล้วล่ะครับ เป็นกำลังใจให้น้องนันทน์ได้เปลี่ยนตัวเองด้วยนะครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:19:35:55 น.
วันหยุดช่างสั้นจังเลยค่ะ มีวันหยุดกับเขาแค่ 1 วันก็ยุ่งหัวปั่น แทบไม่ได้นอน เซ็งมากๆ เลยค่ะ
โดย: ประกายพรึก วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:21:29:36 น.
แวะมาเยี่ยมค่า ขอบคุณนะคะที่แวะไปเยี่ยมเยียนกันค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยค่ะ โดย: narumol_tama วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:23:00:17 น.
ด้วยความยินดีและเต็มใจเลยครับน้องนันทน์
...................... 'อัตตา' นี่มีมาก ทำให้เรามองไม่เห็นใครในสายตาเลยนะคะ น่ากลัวมากค่ะ . . . พี่ก๋าเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เป็นนักศึกษาเลยครับ 555 ไม่รู้อะไรหล่อหลอมให้เป็นคนแบบนี้ เป็นคนจริงจัง ทุ่มเท แต่สุดท้ายทำงานกับใครไม่ค่อยได้ครับ 555 แต่ถ้าเปลี่ยนตัวเองได้ สบายเลยนะครับ คราวนี้จะมองคนแบบชัดเจน รู้ทันคนเลย ทำงานกับใครก็ได้ครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 ธันวาคม 2555 เวลา:23:37:34 น.
มาทักทายยามค่ำคืน อยากเหนขนมที่เจ้าของบล๊อคนี้ทำอีกจัง :)
โดย: แฟนlinKinPark วันที่: 24 ธันวาคม 2555 เวลา:0:25:30 น.
^
อร้ายยยย เค้าก็อยากลงนะ แต่งานสุมมากมาย ฮืออออออออ โดย: วนานันทน์ (eat pray love ) วันที่: 24 ธันวาคม 2555 เวลา:2:19:10 น.
|
eat pray love
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] :: ยินดีต้อนรับค่ะ :: :: รู้อะไร ไม่สู้รู้ 'ใจ' ตัวเอง :: พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหลายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา (กฤษณาสอนน้องคำฉันท์) มีคนมาเยือนแล้ว [บทความและรูปภาพใน blog นี้] - หากนำไปใช้เพื่อการศึกษา ยินดีค่ะ แต่รบกวนแจ้งกันนิดนึงและให้เครดิตด้วย เพื่อยกระดับการศึกษาไทย - หากนำไปใช้เพื่อการค้าหรือผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต จะดำเนินคดีตามกฏหมาย |