ความรู้อยู่รอบตัว รอเพียงเรายื่นมือไปสัมผัส
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
17 มิถุนายน 2552

ไทยรบพม่า ตอนที่ 4 มหาสงครามไทยพม่า สิ้นกรุงครั้งแรก

ตอนที่ 4
มหาสงครามไทยพม่า สิ้นกรุงครั้งแรก

หลังจากกรุงศรีแพ้สงครามและเสียช้างเผือกให้กับพม่า สงครามระหว่างสองอาณาจักรผู้ยิ่งใหญ่ในเอเชียอาคเนย์ก็ว่างเว้นมา 4 ปี พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองไม่สามารถเอาไทยมาเป็นเมืองเชลยอย่างเด็ดขาดแต่ยังมีความประสงค์ที่จะเอาไทยเป็นเมืองขึ้นให้ได้ ได้วางแผนทำให้ไทยแตกออกเป็นสองฝ่ายโดยการยกย่องเอาใจจนสนิทสนมกับ
พระมหาธรรมราชาให้มีอำนาจทางเมืองด้านเหนือ กีดกันและบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างพิษณุโลกกับอยุธยา จนไทยเกิดสงครามกันเองในที่สุด



ก่อนสงครามระหว่างไทยจะเกิดขึ้น พระเจ้าเชียงใหม่, น่าน, แพร่, เชียงแสนและลำปางเกิดตั้งแข็งเมืองกับหงสาวดี บุเรงนองจึงยกทัพหลวงมาตีเมืองเชียงใหม่และขอกำลังของพระมหาธรรมราชามาช่วย เจ้าเมืองเชียงใหม่และพระยาเชียงแสนเห็นสู้ไม่ไหวจึงมอบตัวกับพระเจ้าหงสา แต่พระยาอีกสามองค์หนีไปขอความช่วยเหลือจากพระไชยเชษฐาเจ้าเมืองศรีสัตนาคนหุต อาณาจักรล้านช้างหรือเวียงจันทร์ในปัจจุบัน บุเรงนองขอตัวพระยาทั้งสามจากพระไชยเชษฐา แต่เจ้าเมืองเวียงจันทร์ไม่ส่งตัวให้ จึงส่งกองทัพนำโดยพระมหาอุปราชยกไปตีนครเวียงจันทร์ พม่ายกทัพตีต่อเนื่องไปจนถึงเวียงจันทร์ พระไชยเชษฐาเห็นกำลังข้าศึกมากกว่ามากจึงพากองทัพทิ้งเมืองหนีออกจากเมือง กองทัพพม่าจึงยกเข้ายึดเมืองจับพระสนมและราชวงศ์เป็นจำนวนมาก เมื่อยึดเมืองได้แล้วก็ส่งกองทัพออกตามหมายจะจับตัวพระไชยเชษฐาให้ได้ ด้วยความชำนาญภูมิประเทศ พระไชยเชษฐาใช้กลยุทธการโจมตีแบบกองโจรดักโจมตีพม่าจนล้มตายแตกหนีหลายครั้ง เมื่อพม่ายกทัพใหญ่ออกมาจากเมืองพระไชยเชษฐาก็ยกทัพหนีเข้าป่า แต่เมื่อพม่ายกมาน้อยกว่าก็เข้าตีจนล้มตาย พม่าเห็นว่ากองทัพเสียหายมากจึงตัดสินใจยกทัพกลับกรุงหงสา แต่ระหว่างทางกลับทัพพระไชยเชษฐายกตีตามจนสุดดินแดนล้านช้าง จากชัยชนะในครั้งนี้ทำให้ชื่อเสียงท่านดังกระฉ่อนแผ่นดินเลยทีเดียว



แต่เมื่อพระไชยเชษฐากลับมาพำนักที่เมืองพบว่าพระสนมถูกจับไปเป็นเชลยที่หงสาหมดแล้ว พระองค์จึงส่งสาสน์มาถึงพระมหาจักรพรรดิเพื่อขอพระเทพกษัตรีมาเป็นพระมเหสีเพื่อสร้างสัมพันธ์กับอยุธยา พระมหาจักรพรรดิยินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับพระไชยเชษฐา แต่เนื่องจากพระเทพกษัตรียังป่วยอยู่จึงส่งพระแก้วฟ้าซึ่งเป็นลูกสนมมาให้ก่อน แต่พระไชยเชษฐาประสงค์จะได้เชื้อพระวงศ์ของยอดวีรสตรีพระศรีสุริโยไทเท่านั้น จึงโมโหและส่งพระแก้วฟ้าคืน



พระวิสุทธิกษัตรีพระมเหสีของพระมหาธรรมราชาไม่เห็นชอบด้วยเพราะกลัวพระเจ้าหงสาวดีจะส่งกองทัพไปตีเมืองศรีสัตนาคนหุตแล้วน้องจะเป็นอันตราย พระมหาธรรมราชาจึงให้ม้าเร็วส่งข่าวไปบอกพระเจ้าหงสาวดีให้ส่งกำลังมาดักซุ่มชิงตัวระหว่างทาง เชิญตัวพระเทพกษัตรีไปอยู่ที่เมืองหงสา พระมหาธรรมราชาทำทีไปบอกกับพระมหาจักรพรรดิว่าพระเจ้าหงสาวดีส่งคนมาลักพาตัวไป แต่พระมหาจักรพรรดิรู้ทันแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงบุเรงนองอยู่ ท่านรู้สึกอดสูมากจึงตัดสินใจสละบัลลังออกผนวชโดยพระมหินทรขึ้นว่าราชการแทน ด้วยความที่ท่านเป็นที่รักของข้าราชการทำให้ข้าราชการจำนวนมากกว่าครึ่งราชสำนักออกบวชตาม สถานการณ์ในกรุงศรีเริ่มแย่ลงความขัดแย้งแตกแยกระหว่างพระมหินทรกับพระมหาธรรมราชาก็เริ่มหนักขึ้นทุกวันๆ

พระมหินทรจึงวางแผนลอบฆ่าพระมหาธรรมราชาเสียโดยให้พระไชยเชษฐาเจ้าเมืองศรีสัตนาคนหุตทำทียกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก แล้วให้พระยาสีหราชเดโชและพระยาท้าน้ำยกกองทัพจากพระนครทำทีจะมาช่วย แล้วท่านจะยกทัพหลวงตามมาจับพระมหาธรรมราชาฆ่าเสีย แต่เมื่อไปถึงเมืองพิษณุโลกพระยาทั้งสองกลับบอกกล่าวความจริงกับพระมหาธรรมราชาจนหมดสิ้น พระมหาธรรมราชาจึงส่งม้าเร็วขอกองทัพจากพม่ามาช่วย บุเรงนองยิ้มดีใจที่ในที่สุดไทยก็แตกกันอย่างที่หวังไว้ จึงสั่งให้พระยาพุกามกับพระยาเสือหาญยกทัพไปช่วยพิษณุโลก ทัพพระไชยเชษฐารบพุ่งหวังจะเข้าชิงเมืองแต่ไม่สามารถตีหักเอาเมืองพิษณุโลกได้ พอรู้ข่าวว่าพระเจ้าหงสาวดีส่งทัพมาช่วยจึงยกทัพกลับไป ทางด้านกองทัพหลวงของพระมหินทรยกไปไม่ถึง เห็นดังนั้นจึงยกกลับมาพระนคร จากเหตุการณ์นี้ทำให้ความสัมพันธ์ของหัวเมืองฝ่ายเหนือและอยุธยาขาดสะบั้นลง

พระมหาธรรมราชาจึงขอเป็นประเทศราชของหงสาวดีได้รับอภิเษกให้เป็นพระศรีสรรเพชญ์ เจ้าฟ้าเมืองสองแคว

พระมหินทรเมื่อยกทัพกลับถึงพระนครจึงขอร้องให้พระบิดาสึกออกมาว่าราชการ เพราะเกรงว่าจะรับมือศึกใหญ่ไม่ไหวแล้วเดินทางไปเมืองพิษณุโลกเพื่อรับตัวพระวิสุทธิกษัตรีมาที่กรุงศรีหวังจะให้พระมหาธรรมราชากับบุเรงนองไม่กล้ายกทัพมาตีกรุง ทัพหลวงกรุงศรียกไปตีเมืองกำแพงเพชรซึ่งอยู่ใต้อำนาจพิษณุโลก ด้วยความประมาทเนื่องจากไม่คิดว่าข้าศึกจะสู้จึงเสียทีให้กับขุนอินทรสุนทรและขุนต่างใจที่รักษาเมืองกำแพงเพชรจนต้องตัดสินใจยกทัพกลับกรุงศรี

เมื่อกลับมาถึงกรุงทั้งสองพระองค์รู้ว่า พระเจ้าหงสาวดีต้องยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาอย่างแน่นอนก็ไม่รอช้า จัดแต่งกรุงรอรับศึกพม่าทันที ตามพงศาวดารกล่าวว่า มีการตระเตรียมป้อมเพชรและ สร้างหอรบในระยะ 1 เส้น (ประมาณ 20 วา หรือ 40 เมตร) วางปืนใหญ่ขนาดใหญ่บนกำแพงเมืองในทุกๆระยะ 10 วา และ ปืนใหญ่ขนาดย่อมในทุกระยะ 5 วา เป็นตลอดแนว และตั้งค่ายติดตั้งปืนใหญ่นอกกำแพงเมืองอีกชั้นหนึ่งด้วย เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง รวมถึงมีการตั้งหอรบกลางน้ำเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าศึกเอาเรื่อมาประชิดกำแพงเมืองได้โดยง่าย

ครั้งพอปลายฤดูฝน ณ วันอาทิตย์ เดือน 11 ปีมะโรง พ.ศ. 2111 พระเจ้าหงสาวดีก็ยกทัพขนาดมหึมาหมายเข้ายึดกรุงศรีอยุธยาให้จงได้ โดยยกทัพมาครั้งนั้นมีทั้งหมด 7 ทัพประกอบด้วย
1. พระมหาอุปราช
2. พระเจ้าแปร
3. พระเจ้าตองอู
4. พระเจ้าอังวะ
5. พระราชบุตรเมืองหงสาวดีสมทบกับพระเจ้าเชียงใหม่และเชียงตุง
6. ทัพหลวงพระเจ้าหงสาวดี
7. พระมหาธรรมราชา
โดยทุกทัพจะมีกองทัพไทยสมทบอยู่ทั้งหมด
ตามพงศาวดารพม่ากล่าวว่ากองทัพทั้งหมดมีจำนวนราว 500,000 เศษ

พม่าเดินทัพมาถึงกรุงศรีทางด่านแม่ละเมา โดยชุมนุมทัพกันที่เมืองกำแพงเพชรก่อน ทางฝ่ายไทยเห็นข้าศึกยกมาเหลือกำลังก็ไม่ออกมาสู้นอกเมืองได้แต่พระนครเป็นที่มั่น เมื่อกองทัพหลวงขอบุเรงนองยกมาถึงทุ่งลุมพลีและ พยายามจะตั้งค่ายบริเวณนั้น ทหารไทยยิงปืนใหญ่จากช่องสบสวรรค์จนพม่าล้มตาย และถอยทัพหลวงไปตั้งที่บ้านมหาพราหมณ์แทน
แล้วให้ทัพทั้งเจ็ดตั้งรายล้อมกรุงไว้ ด้วยคูน้ำที่รายรอบกรุงศรีอยุธยานั้นจะแคบที่สุดทางด้านตะวันออก จึงสั่งให้ทัพของพระมหาอุปราชกับพระมหาธรรมราชาตั้งรั้งไว้ ส่วนทัพที่เหลือก็ตั้งไว้โดยรอบทุกด้าน ไทยเองรู้ข้อนี้ดีจึงให้พระยากลาโหม พระยาพลเทพ พระยามหาเทพป้องกันอย่างแน่นหนา ทางด้านตะวันออก พระยาคลังและพระยาอินทรานครบาลป้องกันทางด้านใต้ พระยาท้ายน้ำคุมทางด้านตะวันตก พระยาสีหราชเดโชและพระยาธรรมาป้องกันทางด้านเหนือ

เมื่อกองทัพพม่าล้อมกรุงได้แล้วก็ประชุมศึกกันทันที น่าหดหู่ใจมากที่ในที่ประชุมศึกของกองทัพพม่าเพื่อเข่นฆ่าคนไทยในคราวนั้นมีแม่ทัพไทยทั้ง ทัพพระมหาธรรมราชาเจ้าเมืองสองแคว พระเจ้าเชียงตุงและเชียงใหม่รวมอยู่ด้วย มติที่ประชุมสรุปว่าจะโจมตีทางด้านตะวันออกเพราะคูแคบที่สุด พระมหาธรรมราชาเสนอว่าที่กรุงนั้นมีพระยารามที่สู้รบเข้มแข็งที่สุด ถ้าสามารถจัดการกับพระยารามได้แล้วจะสามารถตีกรุงศรีได้ง่ายขึ้น จึงวางแผนเขียนจดหมายลับส่งไปที่พระวิสุทธิกษัตรีว่าให้ส่งตัวพระยารามมาให้ เพราะเป็นตัวการทำให้พี่น้องทะเลาะกันจนเกิดศึกไทยพม่าในครั้งนี้ พระมหินทรได้เห็นจดหมายก็เรียกประชุมทันที ที่ประชุมมีมติว่าควรส่งตัวพระยารามให้พม่าเพราะข้าศึกมาคราวนี้เหลือกำลัง เห็นจะสู้ไม่ไหว พระมหินทรเห็นชอบด้วยส่งตัวพระยารามไปให้แก่พม่า เมื่อได้ตัวพระยารามแล้วพม่าก็เรียกประชุมทันทีว่าจะเอาไทยเป็นพันธมิตรแล้วยุติสงครามหรือว่าอย่างไรดี แต่ขุนนางพม่าเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาเหมือนเป็นลูกไก่ในกำมือ ควรจะตีเอามาเป็นเมืองขึ้นซะ จึงสั่งการโจมตีกรุงศรีทันที โดยแผนการก็คือจะยกทัพเข้าสร้างสนามเพาะเป็นแนวป้องกันปืนใหญ่ เป็นสามแนวโดยแต่ละแนวจะเข้าใกล้กรุงศรีอยุธยามากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเข้าประชิดกำแพงเมืองได้ พม่าพยายามสร้างสนามเพาะอยู่หลายเดือน เสียทหารไปมากมาย ทหารท่ายก็เอาศพมาถมคูเมือง จนในที่สุดก็สามารถสร้างสนามเพาะเข้ามาใกล้กำแพงกรุงได้

ในขณะที่พม่าล้อมกรุงอยู่นั้นพระมหาจักรพรรดิก็เสด็จสวรรคตอีก ทำให้ชาวเมืองรู้สึกว้าเหว่ แต่ชาวเมืองก็ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งจนสามารถชนะพม่าได้ทุกครั้งที่พยายามข้ามาโจมตี



ต่อมาพระมหาจักรพรรดิส่งม้าเร็วไปขอความช่วยเหลือจากพระไชยเชษฐา ฝ่ายพระไชยเชษฐาก็ยกทัพลงมาช่วยทันที เมื่อเห็นเช่นนั้นพระมหาธรรมราชาจึงใช้อุบายเกลี้ยกล่อมให้พระยารามเขียนจดหมายส่งไปยังพระเจ้าลาวว่า ขณะนี้ทัพไทยด้านทางพม่าไว้ได้ จนทำให้ทัพพม่าเกิดระส่ำระสายแล้ว ขอให้ทัพพระไชยเชษฐาเข้าโจมตีแล้วทางอยุธยาจะตีขนาบ ทางพระไชยเชษฐาหลงกลจึงยกทัพเข้ามาหวังจะตีพม่า แต่ที่ไหนได้พม่าซุ่มโจมตีจนกองทัพเจ้าล้านช้างแตกพ่ายกลับ หลังจากนั้นพม่าก็ล้อมและพยายามเข้าตีไทยอีกหลายครั้งแต่ก็ต้องล้มตายถอยกลับค่ายตลอด จนเข้าสู่เดือน 7 พม่าก็ยังไม่สามารถยึดอยุธยาได้ บุเรงนองจึงส่งพระมหาธรรมราชาหวังจะเกลี้ยกล่อมให้อยุธยายอมแพ้ แต่ชาวเมืองแค้นที่พระมหาธรรมราชาไปเข้ากับพวกพม่ามาตีคนไทยด้วยกันจึงไล่ยิงจนต้องหนีออกมา

บุเรงนองเห็นว่าขืนปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปคงไม่สามารถยึดกรุงได้เพราะฤดูน้ำจะมาแล้ว ต่อมาพระยาจักรีที่ถูกจับมาเป็นตัวจำนำเมื่อสงครามครั้งที่แล้วก็อาสาเข้ามาเป็นไส้ศึก โดยทำทีเป็นหนีออกมาจากคุกของพม่าได้ทั้งที่ยังมีโซ่ตรวนอยู่ พม่าทำทีเอาผู้คุมมาตัดหัวประจานอยู่หน้าค่าย 30 คน ทางไทยเห็นอย่างเช่นจึงหลงเชื่อเข้าช่วยเหลือและนำตัวเข้ามาในวัง พระมหินทรได้เจอพระยาจักรี ก็ดีใจมากเพราะเคยสู้รบกับพม่าด้วยกันมาก่อน ด้วยความรักและไว้ใจจึงให้ตำแหน่งพระยาจักรีเช่นเดิน ทั้งยังให้อำนาจสูงสุดในการปกครองพระนครด้วย พระยาจักรีดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน จัดแจงโยกย้ายเอาคนที่ไม่ถนัดการรบไปรักษาเมืองในจุดที่สำคัญๆ ส่วนคนที่ชำนาญการรบก็ย้ายเข้าไปอยู่ที่ที่ไม่มีข้าศึกมา เมื่อเห็นกรุงศรีอยุธยาอ่อนแอถึงขีดสุดแล้ว พระยาจักรีจึงส่งสัญญาณให้พม่าเข้าตีพร้อมกันทุกด้าน จึงเสียกรุงแก่พระเจ้าหงสาวดีในวันอาทิตย์ เดือน 9 แรม 11 ค่ำ ปีมะเส็ง 2112 รวมพม่าตั้งล้อมกรุงนานถึง 9 เดือน

หลังจากได้กรุงไม่นานน้ำก็ท่วมบ่า นี่ถ้าไทยไม่ทรยศไทย พม่าก็คงแพ้กลับไปแน่นอน ผมอ่านถึงตอนนี้ทีไรจิตใจมันหดหู่ถึงที่สุด ว่าทำไมไทยไปเข้ากับพม่าแล้วมาห้ำหั่นไทยด้วยกัน และทำไมไทยต้องทรยศบ้านเมืองซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของตัวเองด้วย

คนทรยศใช้ว่าจะอยู่สบายครับ หลังกรุงแตกแล้ว พระยาจักรีไปเป็นเจ้าเมืองสองแควอยู่ได้ไม่นานเพราะไม่กล้าสู้หน้าคนไทยด้วยกัน จึงขอย้ายเป็นข้าราชการในกรุงหงสาวดี แต่อยู่ได้ไม่นานพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองก็หาเรื่องประหาร เพราะรังเกียจที่เป็นคนทรยศไม่รักชาติพันธุ์ตนเอง

พม่าได้ไทยเป็นประเทศราชสมใจแล้ว ก็ยึดทรัพย์สมบัติและกวาดต้อนผู้คนรวมทั้งพระมหินทรและพระญาติวงศ์รวมทั้งผู้คนไปด้วย แต่พระมหินทรไปไม่ถึงหงสาก็สวรรคตกลางทาง พระเจ้าหงสาวดีพำนักอยู่ที่กรุงศรีจนสิ้นฤดูฝน มอบเมืองให้กับพระมหาธรรมราชาและมอบทหารักษากรุงอีก 3000 นาย ก่อนจะเดินทัพกลับไป หลังจากนั้นไทยก็ตกอยู่ในฐานะเมืองเชลยของพม่าอยู่ถึง 15 ปี

ไทยเราจะสามารถกลับมาเป็นอิสรภาพอีกครั้งได้อย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไปครับ


แหล่งข้อมูล พงสาวดารเรื่อง ไทยรบพม่า, สมเด็จพระยาดำรงราชานุภาพ
พ่อ, ปองพล อดิเรกสาร





 

Create Date : 17 มิถุนายน 2552
2 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2552 1:01:11 น.
Counter : 4124 Pageviews.

 

whenever you felt that your heart is going to breakdown
feel it with the love of God ask for his and then you will
find out what is the truth love in Your life as he does for me!

GOD always forgive your mistake
the one that you cant even forget,
he always does it and always being with us
to help and blesss us for us whose heart is full of him

 

โดย: da IP: 124.122.247.144 18 เมษายน 2553 22:29:18 น.  

 

ต้องขอบอกว่า สมัยนั้นอย่าเรียกว่าไทย
สุโขทัย กับ อยธยา คนละเมืองกันแต่แต่งงานกัน จึงได้รวมเมือง ดังนั้น ถ้า เราเป็น สุโขทัย รักษาชีวิตพี่น้องไว้ได้ ก็ยอม ตี อยุธยา

 

โดย: เอก IP: 125.26.73.246 19 กันยายน 2555 9:25:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สวนิต
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Custom Search
free counters เกมส์หมากรุก เกมส์หมากฮอส เกมส์ Four in Row เพิ่มบ้านของต้นไม้เป็น Favorites
[Add สวนิต's blog to your web]