อรุณสวัสดิ์ เช้าวันที่ 2 ในสิงคโปร์
ตื่นกันแต่เช้าค่ะ
(ไปเที่ยวกับเรา ต้องตืนเช้ากลับดึกค่ะ 555)

โรงแรมไม่มีอาหารเช้าให้นะคะ
ไม่มีปัญหา เพราะเรากะจะไปกิน Ya Kun Kaya Toast  อันโด่งดัง ที่สาขา Bugis
คราวที่แล้วไม่ได้กิน เพราะร้านปิดปรับปรุง

แต่เนื่องจากสาขาต้นตำรับยังไม่เปิด (เพิ่ง 7 โมงกว่าๆ เอง)
เราเลยไปกินที่สาขา Bugis ค่ะ

ต้องนั่งรถสาย 2 ไป ก็สายเมื่อวานที่เราไม่ได้นั่งไปนั่นแหละ
จาก Stop No. 80069 Opp Mohd Salleh Mque ไป Stop No. 01119 Bugis Junction
ประมาณ 8 ป้ายรถเมล์ค่ะ

บริเวณป้ายรถเมล์ มีคนรอคึกคักเหมือนเดิม

รอประมาณ 5 นาทีกว่าๆ รถก็มา พุ่งตรงไป ฺBugis อย่างช้าๆ แต่แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
10 นาทีเองมั้ง

บริเวณป้ายรถเมล์ Bugis Junction สังเกตอาคารแบบนี้ไว้ค่ะ

ลงแล้ว .. แล้วไงต่อ ยังเช้าอยู่ ห้างไม่เปิด
แล้วเข้าทางไหนว้าาาาาาาาาาา
เดินงงๆ อยู่สักพักก็เจอบันไดเลื่อน ทางลง MRT Bugis
ก็เลยเดินลงไป
ปรากฎว่ามีทางเข้าชั้นใต้ดินของห้างอยู่ทางขวามือ หลังจากลงบันไดเลื่อนไปแล้ว
เลี้ยวขวาไป ขึ้นบันไดเลื่อนต่อ (จะขึ้นๆ ลงๆ ทำไมนิ )
ร้านอยู่ใกล้ๆ กับบันไดเลื่อนเลยค่ะ

ร้าน Ya Kun Kaya Toast สาขา Bugis

จากนั้นพวกเราก็จัดแจงสั่งอาหารเช้า ส่วนใหญ่เป็นขนมปังคายากับไข่ลวกและเครื่องดื่ม
คือรู้ว่าร้านอร่อย แต่เมนูอะไรอร่อยนั้น ไม่ได้ดูมาค่ะ
สรุป ไม่ค่อยปลี้ม คายานั้นคล้ายสังขยา แต่หวานมาาาาาาาาาก กินเยอะแล้วเลี่ยน
ต้องไปสืบว่าเมนูไหนอร่อยละ

เมนูที่สั่ง

กินเสร็จก็เดินช็อปนิดหน่อย ซื้อน้ำมาด้วยขวด 1.5 ลิตรนี่ $1+
เราซื้อขวดเล็กหลายๆ ขวดจะได้พกได้
จากนั้นก็ออกมาป้ายรถเมล์เดิมค่ะ
จากนั้นนั่งสาย 2, 12, 33 (คือจำไม่ได้ แต่ทั้งสามสายนี้ไปได้ค่ะ)
ไปป้าย Stop No. 04229 High St Ctr ประมาณ 4 ป้าย


เส้นทางไป High St Ctr


ป้าย High St Ctr ฝั่งตรงข้ามจะเป็นตึกหลากสีค่ะ


อาคารหลากสี

อาคารหน้าต่างสีสวยใกล้ๆ กับสะพานบริเวณ Clarke Quay
อดีตใช้เป็นสถานีตำรวจ
ปัจจุบัน อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทเดอะมีเดีย

ถ่ายรูปกันพักนึง
แต่เนื่องจากเราทำเวลาได้ดีอ่ะ มาก่อนกำหนดชั่วโมงนึง
เลยตกลงกันว่า ไปเดิน Clarke Quay ก่อน

ปกติเป็นร้านอาหาร และบาร์ ยามค่ำคืนค่ะ
ตอนกลางวันร้านปิดหมด
ก็ไปชมบรรยากาศตอนคนไม่มีนี่แหละ

โล่งดีค่ะ
แต่กลิ่นไม่ไหวนะ ยังกะคลังบุหรี่

Clarke Quay

เดินครบ 1 รอบ ก็เดินต่อไปเพื่อจะหารูปปั้น
ท่านเซอร์โทมัส แสตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์
นักสำรวจชาวอังกฤษ ที่ถูกส่งมาเพื่อติดต่อค้าขาย และทำสนธิสัญญาการค้าร่วมกัน จนเกาะแห่งนี้กลายเป็นเมืองท่าปลอดภาษีที่รู้จักไปทั่วโลก

โดยเราจะเดินเลาะริมน้ำไปเรื่อยๆ ค่ะ

รูปปั้นท่านเซอร์

บริเวณรูปปั้นท่านเซอร์เป็นตำแหน่งที่ท่านได้เหยียบแผ่นดินสิงคโปร์
ตึกในสิงคโปร์ ถูกกำหนดให้มีความสูงไม่เกิน 280 เมตร เพื่อไม่ให้บดบังรัศมีของ 3 ตึกสูงเบื้องหลังท่าน
UOB Center
UOB Plaza
Republic Plaza

ถ่ายรูปกับท่านเซอร์เรียบร้อย ก็เดินต่อไปที่สะพาน Cavenagh Bridge

บริเวณริมน้ำจะประดับประดาไปด้วยรูปปั้นแสดงถึงวิถีชีวิตริมน้ำในอดีต
เพราะเมื่อก่อนแถวนี้ก็เป็นท่าเรือนั้นแหละ

รูปปั้นริมน้ำ

ข้ามสะพาน Cavenagh Bridge ไปก็จะเป็น โรงแรม Fullerton


โรงแรม Fullerton


Cavenagh Bridge

ก่อนที่เราจะข้ามฝั่งไป ก็แวะกินไอติมขึ้นชื่อของที่นี่ซะก่อน
เป็นไอติมประกบด้วยวาฟเฟิล
รสชาติไอติมเหมือนไอติมกะทิบ้านเรา
แต่มีหลายรสมากๆ
เดินมาร้อนๆ เหนื่อยๆ ดับกระหายได้ดีนักแล
ฝั่งนี้ $1 แต่ถ้าข้ามไปอีกฝั่งจะ $1.2 นะ


ไอติมขึ้นชื่อ


ไอติมวาฟเฟิลขึ้นชื่อ อันนี้เป็นของเก่า ถ่ายไว้คราวที่แล้ว

ระหว่างที่เพือนๆ กำลังรุมไอติมอยู่นั้น
เราก็เดินไปถ่ายรูปกับท่านเซอร์โทมัส แสตมฟอร์ด ราฟเฟิลส์สีดำ
บริเวณนี้จะมีสถานที่สำคัญๆ มากมาย


พิพิธภัณฑ์อารยธรรมเอเชีย


อนุสาวรีย์ดาลเฮาซี่ (Dalhousie Obelisk)


โรงละคร วิคตอเรีย

นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างซึ่งเป็นทั้งอาคารและอนุสรณ์สำคัญอื่นๆ อีก
แต่ไม่ได้ถ่ายมาค่ะ

คราวที่แล้วโซนนี้ปิดปรับปรุงเกือบหมดเลย


รูปปั้นท่านเซอร์สีดำ ตัวต้นแบบสร้างจากทองสัมฤทธิ์

จากนั้นเดินข้าม สะพาน Cavenagh Bridge ไปถ่ายรูปกับ รูปปั้นเด็กกระโดดน้ำ


รูปปั้นเด็กกระโดดน้ำ (อย่าถามว่าทำไมต้องถ่าย เห็นทุกคนมาก็ถ่ายรูปรูปปั้นนี้กัน)

ต่อไปก็เดินไปสวัสดีเมอร์ไลออน
โดยเดินอ้อมโรงแรมไป
ข้ามถนน แล้วมุดใต้สะพาน
จะโผล่ไปเมอร์ไลอ้อนพาร์คพอดี




ทางไปเมอร์ไลอ้อน

คนเยอะตามคาด


เมอร์ไลอ้อนตัวเล็ก




เมอร์ไลอ้อน

ถ่ายรูปจนหนำใจก็แวะไปพักที่ Starbucks
ก่อนจะข้ามกลับไปโรงแรม Fullerton
แต่ครั้งนี้เปลี่ยนเส้นทางใหม่
เดินลัดใต้อาคาร One Fullerton แทน
จะมีบันไดเลื่อนลงไปข้างล่าง และต่อด้วยทางเลื่อน
จากนั้นจะเจอบันไดเลื่อน ออกไปโผล่หน้าโรงแรมพอดี

เดินต่อไปที่ MRT Raffles Place
เพื่อไป Chinatown ซึ่งเราต้องเดินผ่านย่านการค้าไชน่าทาวน์ เพื่อไป ศูนย์อาหาร Maxwell
(จริงๆ ไปลง MRT Outram Park อาจจะเดินใกล้กว่านะเนี่ย)


เส้นทางไป Chinatown


เส้นทางการเดินไป Maxwell Food Center

ไปทานข้าวมันไก่เลื่องชื่อกัน คราวที่แล้วพลาด 555
แถวนั้นมีร้านดังสองร้าน
แถวยาวมากกกกกกกกกกก ทั้งสองร้าน ขนาดวันอาทิตย์

แต่เมื่อมาถึงแล้ว ต้องได้กิน
เราซื้อไก่ 1 ตัว แล้วก็ข้าว 6 จาน แล้วก็ของกินอย่างอืน
ค่าเสียหายประมาณคนละ $6 กว่าๆ


ต่อคิวกินข้าวมันไก่


ข้าวมันไก่ที่สั่ง

กินเสร็จก็เข้าไป วัดพระเขี้ยวแก้ว
คนที่แต่งกายไม่เรียบร้อย มีผ้าถุงกะเสื้อคลุมให้


วัดพระเขี้ยวแก้ว

เนื่องจากคราวที่แล้วมาแล้ว เราเลยไม่ค่อยได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ

เกือบสองชั่วโมงในนั้น ในที่สุดก็ได้เวลาเดินทางต่อ
เราเดินลัดย่านไชน่าทาวน์
ดูของฝาก (ดูเฉยๆ นะ เผื่อกลับมาซื้อ)

จากนั้นนั่ง MRT Chinatown ไป MRT Bayfront เพื่อไป ห้างบริเวณตึกเรือ


เส้นทางไป Bayfront


บรรยากาศไชน่าทาวน์

ขึ้นมาจาก MRT Bayfront ก็จะเจอห้างเลย


โผล่มาในห้าง

คุณเพื่อนอยากเข้าคาสิโน ส่วนเราขอบาย เพราะเข้ามาแล้ว
เลยมาส่งเฉยๆ


Casino

คราวที่แล้ว คาสิโน ไม่ให้เราเอาอะไรเข้าไปเลย นอกจากพาสปอร์ตกับเงิน
คราวนี้เอาเข้าได้ทุกอย่าง ยกเว้นกล้อง (แล้วมือถือมันไม่มีกล้องหรอฟะ )

คาสิโนนั้นมีอยู่รอบๆ ห้างเลยค่ะ ไม่ต้องกลัวหาไม่จอนะคะ เดินวนๆ มีทางเข้าตลอด
ทางเข้าเยอะมาก แต่ไม่ได้เชื่อมถึงกัน
น้ำฟรี นี่แหละเริ่ด! แถมมีขวดน้ำให้อีกต่างหาก

ระหว่างที่เพื่อนเข้าบ่อนกัน
เราก็เดินออกไปด้านหน้าของห้าง
ดูมาริน่าเบย์ยามเย็น
แต่ท้องฟ้าขุ่นมัวมากกกกกกกกก


หน้าห้าง

น้ำวนหน้าห้าง

เดินกลับไปหลังห้าง นั่งคิดว่า กุจะไปไหนดี 555
ไปน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง ก็ยังไม่ใช่เวลาที่เปิดให้สัมผัส

ไป Marina Barrage (อ่างเก็บน้ำ) ก็ไปยังไงหว่า?
กว่าจะหาวิธีไปได้ เวลาก็ผ่านไปครึ่งชม.

เหลือเวลาอีกครึ่งชม. (เพราะนัดเพื่อนไว้)
เราเลยตัดสินใจไป Gardens by the Bay
เดินไกลนิดนึง เราเดินข้ามฝั่งไปทางโรงแรมตึกเรือ
จากนั้นมุดลงทางลง MRT Bayfront
จะมีทางเชื่อมไปยัง Gardens by the Bay เส้นทางนี้เดินค่อนข้างไกล

ไปถึงก็ซื้อตั๋วขึ้น OCBC Skyway
มองหา Super Tree  ที่มี OCBC Skyway แขวนอยู่ แล้วขึ้นลิฟต์ตรงโคนต้นไม้ขึ้นไปด้านบน

เหล่า Super Tree

ขาสั่นค่ะ คือกลัวความสูง 5555
วิวสวยดี ถ้าไม่มีอิสายเคเบิลนี่มาบัง
และท้องฟ้าขุ่นมัว ก็ดูไม่เหมาะกับการถ่ายรูปเอาซะเลย

OCBC Skyway

ชมวิวอยู่พักนึงก็ได้เวลาที่นัดแนะกับเพื่อนไว้แล้ว
เดินกลับไปที่ศูนย์อาหารใน The Shoppes @ Marina Bay Sands

ศูนย์อาหาร

ศูนย์อาหารอยู่ไกลมาก ควรเผื่อเวลาเดินสัก 15 นาที
ราคาแพงกว่าศูนย์อาหารทั่วไป $1-$2
มื้นี้หมดไปประมาณ $8

ตอนนี้มืดแล้ว
พวกเราเดินต่อไปยัง Gardens by the Bay (คือชั้นต้องเดินไปกลับ 2 รอบเลยนะเนี่ย )
ต้องขึ้นไปชั้น 4 ของห้าง แล้วเดินผ่านทางเชื่อมไปตึกเรือ แล้วไปตรงจุดชมวิว Gardens by the Bay
เส้นทางนี้จะเดินใกล้กว่า เพราะตรงไปที่ Super Tree ได้เลย

ทางเชื่อมจากโรงแรมไป Gardens by the Bay

ถ่ายรูปการแสดงยามค่ำคืน
การแสดงมี 2 ช่วงแค่นั้นนะ ค่ะ ประมาณ 19.45 และ 20.45
สิงคโปร์ชอบมีการแสดงอะไรแบบนี้เนอะ เล่นกับน้ำ เล่นกับไฟ

การแสดง ณ Gardens by the Bay

ต่อไปตั้งใจจะขึ้นตึกเรือ
แต่เรามีประสบการณ์กับ OCBC Skyway มาแล้ว
จะขึ้นตึกเรือ คงต้องขอทำใจนานหน่อยนะ
ที่สำคัญท้องฟ้าขุ่นมาก ถ่ายรูปไม่สวยอ่ะ

สรุปไม่มีใครขึ้น
ปล. สามารถขึ้นตึกเรือโดยไม่ต้องซื้อตั๋วค่ะ โดยไปที่รานอาหารชั้นบน (หรือร้านเครื่องดื่ม) สั่งเครื่องดืมมากิน (หรือไม่สั่งก็ได้) ก็จะได้ทั้งเครื่องดื่มและชมวิวไปด้วย (ราคาพอๆ กัน)

เดินกลับไปที่ฝั่งห้าง
แต่ระหว่างนั้นเห็นคนเดินตรงไปโดยไม่ลงจากชั้น 4
ด้วยความสงสัย เลยเดินตาม (อ่าวเห้ย! พวกใจง่าย )

ไปเจอจุดชมวิว ที่มองไม่ค่อยจะเห็นวิว เพราะหลังคาชั้นล่างบัง 555
มีการแสดงหน้า Marina Bay พอดีนั่งดูตรงนั้น
การแสดงจะมีเป็นรอบๆ
วันอาทิตย์ - พฤหัสบดี รอบ 20.00, 21.30 น.
ส่วนวันศุกร์ - เสาร์ รอบ 20.00, 21.30 และ 23.00 น.

บนนี้มองไม่ค่อยสะดวก เพราะหลังคาบัง ต้องหาช่องหลังคาดู
มองลอดช่องไป (นี่สินะ ที่มาของลอดช่อง )

การแสดงหน้า Marina Bay

การแสดงจบเกือบ 4 ทุ่มแล้ว เราลงไปด้านล่าง
ชมวิวอ่าวยามค่ำคืน

จุดต่อไปคือ The Helix แต่เนื่องจากดึกแล้ว
ระยะทางจากที่เราอยู่ไปสะพานแล้วย้อนกลับมา MRT นี่เหนื่อยเอาเรื่อง
(ยกเว้นจะเดินต่อไปหรือนั่งรถเมล์กลับ)

สรุปคือไม่ไป (เป็นครั้งที่สองที่พาเพื่อนมาแล้วไม่ได้ไป The Helix แต่เราได้ไปแล้วนะ พอดีครั้งที่แล้วไป Singapore Flyer เลยผ่านสะพานนี้ด้วย )

กลับด้วย MRT

ก่อนกลับซื้อน้ำเปล่า 1.5 ลิตร ขวดละ $1.2 ที่มินิมาร์ทแถวสถานี ติดไม้ติดมือไปด้วย
เสียค่าโง่อีกแล้ว