"ประกายไฟน้อยๆ ลามทุ่งได้"

<<
กรกฏาคม 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
4 กรกฏาคม 2552
 

ดื้อยา-แพร่เชื้อไวดังไฟลามทุ่ง อาการหวัดที่โลกตระหนักแล้ว แต่รัฐไทยยังงึกๆงักๆ

จนถึงวันนี้รัฐบาลไทยยังคงแสดงท่าทีต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่
ในลักษณะการรับมือเชื้อหวัดใหญ่ธรรมดาอยู่เหมือนเดิมครับ
กล่าวคือยังคงคิดว่าเป็นปัญหาทำนองฤดูกาล คือเดี๋ยวมันก็เผ่านไป แล้วทุกอย่างก็คงจะดีขึ้นเอง

แรกเริ่มเดิมทีออกมาบอกทำนองว่าจะไม่มีคนไทยเสียชีวิตจากเชื้อหวัดนี้
ผมยังคิดเลยว่าอย่าพูดไปก่อนจะดีกว่า เดี๋ยวเกิดมีคนไทยตายขึ้นมาจริงๆ รัฐบาลจะเสียหน้า
และขาดความน่าเชื่อถือลงไป พูดไม่ทันไร ถึงวันนี้พิสูจน์คำพูดชนิดกลอนพาไป
ของรัฐบาลด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิต 5 ศพแล้วนะครับ

ยังไม่แค่นั้น ยังมีความพยายามให้ข้อมูลต่อไปในเชิงที่ว่า
ที่เสียชีวิตนั้นเป็นเพราะอาการจากโรคอื่นเป็นเหตุ เช่นจากไตวาย หัวใจวาย ฯลฯ
ทำให้คนเข้าใจผิดๆว่า ถึงติดเชื้อหวัดก็ไม่เป็นไร ถ้าไม่ได้เป็นโรคหัวใจหรือโรคไตมาก่อน

ทั้งๆที่จริงๆแล้วควรจะบอกว่า ถ้ารู้ตัวว่าป่วยให้รีบไปหาหมอ
ถ้าปล่อยไปนานก็อาจหัวใจวายหรือไตวายได้

โดยสรุปจะเรียกว่ายังไงดี เรียกว่ารัฐบาลมองปัญหาเรื่องนี้ว่าเป็นปัญหา "ตัวใครตัวมัน"
เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกันทั้งโลก เราจะไปทำอะไรได้ หรือเปล่าไม่รู้?
แต่เท่าที่เห็นรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงสารธารณะสุขไม่ได้มีการปูพื้นความคิด
และแนวทางปฎิบัติ ณ ปัจจุบัน และ ณ อนาคตอันใกล้
หากสถานการณ์ผันแปรหนักหนาขึ้นตามลำดับ
ให้แก่ประชาชนได้รับรู้เข้าใจอย่างเป็นรูปธรรมอย่างใดเลย

เพราะอย่างน้อยก็ควรจะบอกว่า หากเชื้อหวัดขยายตัวลุกลามมากขึ้นไปกว่านี้
ประชาชนคนไทยควรจะทำอย่างไรกันบ้าง หนึ่ง สอง สาม สี่ ...
ไม่ใช่บอกซ้ำๆแค่ว่าให้ล้างมือ ล้างปาก บ่อยๆ แลวก็จบกันไป
แล้วก็ได้แต่ปลอบใจคนไทยว่า ยาที่สั่งไว้กำลังจะมาถึง

แต่ถ้าการแพร่ระบาดยังเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ
อีกไม่นานคงไม่ต้องคิดถึงว่ายาที่สั่งมาจะพอรักษาหรือไม่
เพราะโรงพยายาลหรือหมอจะเพียงพอต่อการรับผู้ป่วยหรือเปล่ายังสงสัย

วันนี้มีข่าวว่า เริ่มพบผู้ป่วยที่ดื้อยาบ้างแล้ว เป็นเหตุให้แพทย์ต้องทดลองนำยาตัวอื่นมาใช้กับผู้ป่วยแทน นั่นคือสัญญาณที่ส่อว่า มีความเป็นไปได้ที่เชื้อหวัดที่ฝังอยู่ในตัวมนุษย์ต่างพันธุ์
ต่างสภาพกันนั้น มีโอกาสจะกลายพันธุ์ได้ ซึ่งไม่ทราบว่าหากกลายพันธุ์ต่อไป
ผลของการติดเชื้อหวัดนี้จะเป็นยังไง จะร้ายแรง รวดเร็ว มากขึ้นมากน้อยแค่ไหน
ในฐานะคนไทยคงจะทำได้แต่แค่เพียงสงบจิต ภาวนาว่าอย่าให้เป็นเช่นในนั้นเลย

พร้อมๆกันกับข่าวผู้ป่วยดื้อยานั้น ที่ลอนดอนก็มีรายงานว่ารัฐบาลได้ออกมายอมรับ
เมื่อวันพฤหัสบดี(2) ว่าอังกฤษอาจพบผู้ติดเชื้อหวัดมรณะนี้ 100,000 คนต่อวัน
ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม ก็เป็นได้ แต่ก็ย้ำว่าไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกแต่อย่างใด
เพราะเป็นแค่เพียงการคาดการณ์เท่านั้น

ข่าวระบุว่า แอนดี เบิร์นแฮม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า
ตัวเลขดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้หากแนวโน้มผู้ติดเชื้อในอังกฤษยังคงเป็นไปตามทิศทางปัจจุบัน
ที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 เพิ่มเป็นสองเท่าในแต่ละสัปดาห์และเวลานี้มีผู้ติดเชื้อเกือบ
7,500 รายแล้ว




"ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุกสัปดาห์ และตามทิศทางแบบนี้เราอาจมีผู้ติดเชื้อกว่า 100,000 คน
ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม แต่ผมย้ำว่ามันเป็นเพียงการคำนวณล่วงหน้าเท่านั้น"
เบิร์นแฮม บอกกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร "สถานการณ์นี้อาจเปลี่ยนแปลงได้
และแน่นอนเราต้องมีแผนสำหรับกรณีที่ยุ่งยากกว่าที่เป็นอยู่"

สำหรับในเมืองไทยเรา เอาเฉพาะ ณ เวลานี้นะครับ ตัวเลขอัตราการติดเชื้อ
(ที่ไม่รู้ว่าจะเชื่อถือได้แค่ไหน) ยังคงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าอังกฤษด้วยซ้ำไปซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ต้องให้ถึงวันละ 1 แสนคนหรอกครับ เอาแค่หลักพันต่อวัน

ก็คงจะเกิดเป็นกลียุคกันแล้ว

จะว่าไปก็ไม่ไกลแล้วนะครับ ทุกวันนี้ก็มีตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นทางการเกือบ 100 คนต่อวันแล้ว
กว่าจะลากไปถึงเดือนสิงหาคม ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น แต่เลวร้ายลงไปอีก
ถึงวันนั้นเราคงต้องเตรียมข้าวสารอาหารแห้ง ตัวใครตัวมันแล้วก็เป็นได้

ความน่าสะพรึงกลัวทั้งหลายไม่เกิดขึ้นหรือบรรเทาเบาบางลงก็ดีไป
แต่ถ้าเป็นในทางตรงกันข้าม ก็อย่าไปคิดว่ามันจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ เพราะถ้ายังเป็นอย่างนี้อยู่ต่อไป
ไม่นานคุณจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ได้เข้ามาพัวพันอยู่ใกล้ตัวคุณมากขึ้นทุกทีๆ

ถ้าถึงเวลานั้น อย่าได้คิดหวังพึ่งพาภาครัฐโดยเด็ดขาดครับ ปัจจุบันเอาแค่เจ็บป่วยด้วยโรคภัยธรรมดาสามัญก็หาเตียงอนาถาในโรงพยายาลรัฐแทบจะไม่ได้อยู่แล้ว สำมะหาอะไรกับสถานการณ์ถ้าโรคระบาด

พึงช่วยเหลือตนเองและครอบครัวเอาเองเถิดครับ
ต้องสังเกตสังกาเรื่องสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวให้มาก

เตรียมคิดเรื่องการเก็บเงินสดและของมีค่าที่แปลงเป็นเงินได้ทันทีไว้กับตัวบ้าง
เรื่องที่อยู่อาศัยบ้างและความปลอดภัยในเวลาที่ผู้คนวุ่นวายฉวยโอกาสบ้าง
อาหารและเครื่องนุ่งห่มบ้าง

ใครที่บอกว่าเรื่องนี้ไม่น่ากลัว บ้าบอกันไปเกินเหตุ ก็ไม่เป็นไรครับ คนเรามองโลกต่างกันได้
แค่คิดเตรียมการให้มากอย่างมีสติเข้าไว้ คงไม่เสียหายอะไรกระมังครับ .




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2552
0 comments
Last Update : 4 กรกฎาคม 2552 10:56:27 น.
Counter : 509 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

อาบูหะซัน
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add อาบูหะซัน's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com