|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
The Departed กินกันไม่ลง
(ช่วงนี้งานยุ่งมากตั้งแต่ปฎิรูปการปกครอง จนมาถึงช่วยน้ำท่วม พึ่งได้พักเนี่ยแระ เฮ้อเหนื่อยจริงทหารไทยยุคนี้ แต่ได้รอยยิ้มจากประชาชนนี่แระความเหนื่อยก้อหายเป็นปลิดทิ้งเลย)
บทความนี้เฉลยเนื้อเรื่องบางส่วน แต่ถ้าผู้อ่านดู Infernal Affairs แล้ว อ่านได้ครับ
มาร์ติน สกอเซซี่ บอกว่าจะไม่ดู Infernal Affairs ก่อนที่ The Departed ของเขาจะออกฉาย แต่เมื่อหนังของเขาออกฉายกลับกลายเป็นว่าหนังของเขามีส่วนคล้ายตัวหนังต้นฉบับของ แอนดรู เลา อย่างไม่น่าเชื่อ
The Departed เป็นเรื่องของการหักเหลี่ยมเฉือนคมของแก็งมาเฟียชาวไอร์ริสและตำรวจในเมืองบอสตัน เมื่อแก็งมาเฟียใหญ่ต้องการความแน่นอนในการประกอบธุรกิจ จึงต้องส่งสายเข้าไปอยู่ในกรมตำรวจเพื่อที่จะติดตามความเคลื่อนไหว แล้นำมารายงานได้ทันท่วงทีส่วนทางด้านของตำรวจเองก็พยายามส่งสายสืบเข้ามาอยู่ในแก็งมาเฟียด้วยเช่นกัน มันเป็นเหมือนเกมของทางตำรวจและแก็งผู้มีอิทธิพล โดยมีตัวหมาก 2 ตัว คือสายสืบของทั้ง 2 ฝ่ายนั่นเอง
ตำรวจ
คนที่รับหน้าที่สายของกรมตำรวจคือ บิลลี่ คอสติแกน(ลีโอนาโด ดีคาปริโอ) ส่วนในต้นฉบับของทางฮ่องกงทำไว้ เหลียงเฉาเหว่ย ได้รับมอบหน้าที่นี้ไว้ แล้วทำได้ดีเสียด้วย คาแร็คเตอร์นี้เป็นคาแร็คเตอร์ที่มีผลกระทบต่อคนดูสูงมาก ผมจำได้ว่าเมื่ิอดูต้นฉบับ 2คน 2คม พี่เหลียงนี่แระทำให้ผมนั่งแทบไม่ติดที่นั่ง ไม่รู้แกเล่นยังไงถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ แต่พี่ลีโอนี่ดิ แกเล่นตรงนี้ได้ยังไม่ถึงเท่าพี่เหลียง ความกดดันที่มีในต้นฉบับหายไปเกือบหมดหรืออาจจะเป็นเพราะว่าผมดูอย่างเปรียบเทียบกันมากเกินไปก็ไม่รู้สินะ
ตัวอย่างฉากทีเด็ดในต้นฉบับที่เหมือนตบหน้าคนดูเข้าอย่างจังก็คือ ฉากที่สารวัตรเพียงคนเดียวที่รู้ว่าเหลียงเป็นสายลับของทางกรมกอง ตกลงมาจากตึกโดยฝีมือลูกน้องของแซม(หัวหน้ามาเฟียในต้นฉบับ) เหลียงยืนมองดูภาพที่คนสุดท้ายที่รู้ว่าเขาคือใครตกลงมาเสียชีวิต บวกกับเสียงดนตรีที่บีบคั้นอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง ผมเชื่อแน่คนดูทุกคนเข้าใจถึงความรู้สึกเหลียงในตอนนั้น ว่าคนที่รู้ประวัติว่าเขาเป็นตำรวจที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว กลับตายไปต่อหน้าต่อตา มันเหมือนกับถูกจับโยนลงเหวยังไงยังงั้น
แต่ฉากเดียวกันในหนังของสกอร์เซซี่ กลับไม่ได้มีความรู้สึกนั้นอยู่เลยเพราะการที่สกอเซซี่จะนำคนดูไปสู่จุดจบของเรื่องฉากนี้เลยไม๋น่าตื่นเต้นเท่าที่ควร เพราะคนที่ตกลงมา สารวัตรโอริเวอร์ ควีแนน(มาร์ติน ชีน) ไม่ใช่คนสุดท้ายที่รู้ว่าคอสติแกนเป็นสาย แต่มี จ่าดิ๊กแนม(มาร์ค วอลเบิร์ก) เป็นอีกคนหนึ่งที่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคอสติแกนฉากที่ว่านี่ในฉบับของฮอลลีวู้ดเลยไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นซักเท่าไหร่ เพราะคนดูก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่ายังมีดิ๊กแน่มที่รู้ว่าคอสติแกนเป็นใครอยู่อีกคน
ตำรวจ?
ส่วนสายของทางมาเฟียผู้ที่รับบทในต้นฉบับคือ หลิวเต๋อหัว พี่หลิวแกเล่นได้ถึงกึ๋นมากในบทนี้ ยิ่งบวกกับหน้าตาแกที่ฉลาดแกมโกงเป็นทุนด้วยแล้วล่ะก็ ต้องบอกได้เลยว่าพี่แกสวมบทบาทได้กินขาดจริงๆ ส่วน แม๊ต เดม่อน ซึ่งมารับบทเป็นตำรวจหนุ่มชื่อ โคลิน ซูลิแวน ซึ่งคาแร๊คเตอร์นี้เขาต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีความมั่นใจในตัวเองค่อนข้างสูง แต่แม๊ต เดม่อนยังไม่ใช่คนที่จะเข้าถึงในบทนี้หน้าตาของเขามันค่อนข้างที่แสดงความโง่เขลาออกมาหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งจริงๆแล้วคาแร๊คเตอร์นี้ต้องแสดงความเลวเร้นออกมาทางสีหน้าเป็นอย่างเป็นอย่างมาก สถานะด้านการทำงานของเขาเลื่อนเร็วเป็นอย่างมาก ชีวิตที่ดูมั่นคง มั่นคงจนเกินไป พูดอีกอย่างก็คือการจัดสรรเวลาในเนื้อเรื่องดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับต้นฉบับ
นั่นคือจุดที่สกอเซซี่พยายามที่จะให้มันเป็น แต่มันกลับกลายเป็นจุดด้อยที่เขายังตีความไม่แตก เหมือนที่หลิวเต๋อหัวเคยออกมาพูดไว้ก่อนที่สกอเซซี่จะสร้าง The Departed ไว้ว่า
"ชาวตะวันตกจะตีความปรัชญาของชาวตะวันออกได้หรือเปล่า"
เหมือนที่คอสติแกนตกลงปลงใจจะมาเป็นสายให้ตำรวจ แต่ในเวลาเพียงหนึ่งปีทำเขาบ้าคลั่งจนแทบไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ตรงจุดไหนของชีวิต เขายืนอยู่กึ่งกลางระหว่างความดีกับความเลว เช่นเดียวกับซูลิแวนที่ต้องการจะปรับตัวให้เข้ากับสถานะการเป็นตำรวจ แต่ในกรณีเขามันเป็นการกระทำซึ่งค่อนข้างเห็นแก่ตัว เขาเลือกทางเดินที่ผิดมาตั้งแต่เริ่มต้น เขาหลงละเลิงนึกว่าตัวเองเป็นคนดี การกลับตัวจึงเป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถที่จะเลือกได้ เหมือนที่ชีวิตของเขาถูกเลือกมาให้เป็นสายโดยไม่มีแม้ทางเลือกอื่นให้เดิน
พ่อ
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่านี่เป็นคาแร็คเตอร์ที่เปรียบเสมือนเป็นพ่อของทั้ง 2 ตัวแสดงนำ ต้นฉบับ เจินจื้อเหว่ย เล่นเอาไว้ การเป็นนักเลงในเกาะฮ่องกงเหมือนจะดูดิบเถื่อนในแบบเอเชียดี ส่วนใน The Departed ถูกปรับเปลี่ยนเป็นแก๊งมาเฟียไอริสอารมณ์ในหนังจึงเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ คนที่มารับบทเดียวกับเจินจื้อเหว่ยคือ แจ๊ค นิโคลสัน(แฟรงค์ คอสเตรโล่) ในที่นี้ตัวละครนี้เปรียบเสมือนพ่อของทั้ง2ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเต็มใจเคารพ(แล้วตบหัวทีหลัง) ส่วนอีกฝ่ายจำใจเคารพ แต่ถือว่าได้เรียนรู้สังคมชาวแก๊งจากคอสเตรโล่ไปด้วย คอสเตรโล่เลยเป็นเหมือนตัวที่เชื่อมทั้ง2เข้าด้วยกันในแง่ของการทำงานและการใช้ชีวิต คอสเตรโล่ในมาดแจ๊ค นิโคลสันจึงดูดีในมาดของพ่อของทั้งซูลิแวนและคอสติแกน ส่วนอีกคนหนึ่งที่เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้ง2โดยความบังเอิญก็คือ
ผู้หญิง
มาโดลีน(วีร่า ฟรามิก้า) หมอลีในต้นฉบับ เวอร์ชั่นนี้หญิงสาวของ 2 นักแสดงนำเป็นหมอรักษาผู้ป่วยทางจิตเหมือนเดิม เธอเป็นคนเดียวที่ยอมรับฟังในใจของคอสติแกน และเป็นภรรยาที่ดีของซูลิแวน โดยที่ไม่รู้เบื้องลึกของทั้ง2คนเลย จนท้ายที่สุดผู้ที่กำหนดชาตะชีวิตของทั้ง2คนก็ไม่พ้นตัวของพวกเขาเอง
สุดท้ายผมยังยินดีนะที่จะกล่าวว่า The Departed เป็นหนังที่ดีที่สุดในปีนี้ของฮอลลีวู้ด แต่กลิ่นของมันยังไม่หอมหวนเท่าต้นฉบับแค่นั้นเอง
Create Date : 08 พฤศจิกายน 2549 |
|
5 comments |
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2549 5:29:37 น. |
Counter : 1036 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ดาวสีแดง (ดาวสีแดง ) 8 พฤศจิกายน 2549 13:29:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: duldb 9 พฤศจิกายน 2549 7:32:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: gareth Jo IP: 118.174.89.161 28 พฤศจิกายน 2551 14:58:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
แต่ข้อดีของ เวอร์ชั่นฮอลลีวูด คือ ดูเข้าใจง่ายกว่าเยอะเลย ทำดีมาตั้งแต่ต้นเรื่อง กลายเรื่อง แต่ว่าจบง่ายไปหน่อย....