space
space
space
 
สิงหาคม 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
18 สิงหาคม 2559
space
space
space

toefl (2)
เราแอบเหนแก่ตัวอีกล่ะ คือช่วงนี้เราว่างอยุ่ ใครจะฝึกเขียน essay เพื่อการใดก้อตาม แล้วหาคนช่วยตรวจ ก้อส่งมาให้เราช่วย (com)ment ได้ เพราะนิ้กช่วยเรา ก้อเพื่อให้เราไปช่วยคนอื่นต่อ (น้องเปนคนที่ mindset สวยงามมาก)
'Ask not what your country can do for you, ask what you can do for your country', JFK.

ก่อนอื่นคงต้องดูว่าจะไปเรียนที่ไหนด้วย จะได้ตั้งเป้าถูกว่าา ต้องพุ่งชนเป้าที่เท่าไหน ซึ่งตอนแรกเรากะไปเรียนอยุ่ 2 ที่ คือ ญี่ปุ่นที่ Hitotsubashi กะที่สิงคโปร์ Nanyang แล้วก้อเรียน mba อีกใบ เค้าก้อ require toefl 100ibt กับ GMAT ...เราก้อเลย drop mail ไปหาเพื่อนที่เรียนเอกอยุ่ที่อังกฤษ เหนว่าเค้าดูน่าจะหนทางสู่ดาว ยากกว่าเรา เพื่อนเราก้อ phone in มาทันที บอกว่าให้เราตั้งใจให้มาก ไม่มีอะไรยากเกินไป แต่ดร.แมน ตะก่อนตอนเรียนวิดวะด้วยกัน เรียนได้แย่พอกัน ภาษาอังกฤษอยุ่ระดับเดียวกัน เลยพอเอามาเทียบกันได้ ..55 เราก้อเลยตัดสินใจเริ่มที่ toefl ก่อนนี่แหละ (เพื่อนเราความคิดเค้าสุดยอดมากนะ เค้าตั้งใจจะพัฒนาการศึกษาของเด้กไทย ด้วยการอยากเรียนให้สูง เพื่อมาเปนอาจารย์ และต้องการเปนนักวิจัย ตอนที่เพื่อนเราค้นพบตัวเองเมื่อเกือบ 10ปีที่แล้ว เพื่อนเราบออกว่า นี่คือทางของเค้าที่ทำให้เค้ามีความสุข ต้องดีใจกับนิสิต ที่กำแพงแสนด้วย ที่ได้เจอเพื่อนเราเปนอาจารย์ เพราะเพื่อนเราชอบสอน มีอะไรก้อแชร์ ไม่มีกั๊ก และยินดีกลับไปใช้ทุน ที่บ้านเกิดตนเอง ขอย้ำว่า ไม่หนีทุน คร่ะะะ) ..แต่เราขอเล่าถึงความโลเลเราเพิ่มอีกหน่อยว่า สุดท้ายเราไม่ได้ไปสอบ GMAT นะ เพราะค่าสอบแพง และเน่ื้อหาเยอะมาก เราเลยเปลี่ยนไปดูว่าจะเรียนเอกแทน เพราะดูการแข่งขันจะต่ำกว่า mba แล้วก้อไปปรึกษาอ.พี่กร ที่เพิ่งได้เปนอ.มหาลัยดังตอนนั้น ที่จบ mba มาด้วยกัน โดยคุณพี่จบวิดวะจุฬา และพบทางที่ชอบคือ การได้เปนอาจารย์เช่นกัน ตอนนั้นเราสอบ toefl ได้ 81 แล้ว แต่งงว่าไงต่อดี เอกเปนคำตอบจิงรึเปล่าว
พี่ : จะไปเรียนเพราะอะไร
เรา : อยากได้ภาษา
พี่ : ไม่เหนด้วย
เรา : อ้าววว ทีพี่ยังไป
แล้วพี่เค้าก้อร่ายยาวให้เราฟังว่า การจะไปเรียน มันต้องมี inspiration มากกกว่านี้ ไม่งั้นจะท้อเลยนะ เพราะกว่าจะเรียนจบ นานมากกก ..อันนนี้ก้อยอมรับว่า เพิ่งตระหนักตอนพี่เค้าพูด เพราะจิงอ่ะ เพื่ิอนเรา พี่เค้าเอง ..โอ้ว ไม่ใช่แค่ 2หรือ 3แต่มันมากว่านั้น แล้วพี่เค้าบอก แค่เรียนภาษา เรียนแบบอื่นดีกว่า อย่าให้ยุ่งยาก ก้อเลยล้มไปอีกรอบ อันนี้เราเลยกลับมาคุยกะน้อง กะเพื่อน ทุกคนบอกแายุเยอะแล้ว ..ทำงานองค์กรฝรั่งสิ จะได้ฝึกภาษา ใช้ภาษา และเราก้อเอาคะแนน toefl ไปเปน reference เราด้วยตอนสมัครงาน และสุดท้ายก้อได้ใช้มันทุกวัน ฝึกมันเข้าไป ในองค์กรฝรั่งน้านแหละ

กลับมาที่ toefl เราดูข้อมูล ของทหาลัยที่ต้องการเสร้จ ก้อเริ่มมาหาเทคนิคการสอบ toefl ..แน่นอน อ่านจาก pantip คนที่เรามักจะอ่าน comment คือ คุณ K.Senior ในกรณีเปนเม้นท์สไตล์แมนๆ straight forward กะคุณ Fortuneteller ซึ่งจะออกจิกกัด ดราม่าหน่อย (ขอโทดที่ขอแอบวิจารณ์ค่ะ) แต่ 2ท่านนนี้ แนะนำได้ดี แก้ประโยคมาให้ แบบทำเพื่อสังคมจิงๆ โดยเฉพาะคุณ fortune ศัพท์สวยมากก เราท่องไปใช้เลยทีเดียว ขอแทรกเทคนิคของ writing ดังนี้
1.มันมีข้อสอบ 2 แบบใน writing คือมีแบบฟังเสร้จ แล้วถาม ให้เขียนความเห้น กะไม่มีอะไรให้ฟัง ให้เขียนความเห้นเลย แบบแรกเราไปสอบ 2ครั้ง เจอแบบเดียว คือ คิดว่าไอ้นี่เปนแบบ 1)หรือแบบ2) เราบอกเลยว่า ควรเลือกตอบเลยว่า จะอยุ่ฝั่งไหน เพราะเวลาเขีียนจะง่ายกว่า แค่ใส่ supporting idea จากที่ฟังมาเขียน ใช้ศัพท์ต่างๆ ให้หลากหลาย เช่น person people human ไรแบบนี้,การจะ take note ก้อง่าย เลือกฝั่งได้ อะไรก้อง่ายเหยียบเรือสองแคม จะยากตลอด
2.และที่สำคัญ มี template พร้อมในการเขียนไปเลยคร่ะะ จะได้ไม่ต้องไปคิดลีลาท่ายากในห้องสอบ เพราะจะไม่ทัน
3.ท่องศัพท์สวยๆฟรุ้งฟริ้งๆ (อย่างเราก้อแบบที่ยกตัวอย่างไป inevitable,extraordinary, nevertheless ,,etc.) ไปเรียกคะแนน ก้อท่องหน้าห้องไปเลยค่ะ เปนชุดคำ ไม่ว่าจะตอบอะไรยังไงต้องดึงศัพท์พวกนี้ไปใช้ให้ได้ เข้าห้องสอบปุ๊บ ก้อเขียนลงในกระดาษ a4 ที่เค้าให้ในห้องสอบไว้เลย (อันนี้เปนวิธีเอาตัวรอด แบบคนไม่เก่งแบบเรานะ แต่ถ้าคุณสามารถทำให้ศัพท์พวกนี้ลึกเข้าไปใน DNA ...ขอยืมคำพุดบุญชัยมาใช้ ..ได้ ก้อจะดีสุด จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาจดแบบเรา)
4.ทุกอย่างต้องฝึกบ่อยๆค่ะ แต่อย่าฝึกแบบเลื่อนลอย ไม่รุ้ที่ถุกคืออะไร ถ้าไม่หาคนช่วยตรวจ ก้อทิ้งไว้ 3วัน แล้วมาตรวจด้วยตนเอง ก้อพอเจอจุดผิด ให้แก้ได้ค่ะ

ต่อไปเราก้อหาๆๆใน pantip อีกว่า สถานที่สอบไหนดี เพราะเตรียมตัวดี แต่ไปห่วยวันจิง ไม่มีประโยชนค่ะ ..ทำไมเรามาใหเความสำคัญกะสถานที่สอบตอนต้นๆขนาดนี้ เพราะที่สอบที่เราเล็งไว้ ไม่ได้จัดสอบทั้งปีทั้งงชาติ รอบที่จะต้องส่งคะแนนไปที่ U แล้วต้องสอบเสร้จก่อน เปนได้ว่าที่สอบที่เราเล้ง อาจไม่จัดสอบ ก้อจะทำให้เราต้องไปหาที่สอบตรงอื่น ..the best place ของเราคือตึก kenetic ตรงรัชดาฯ ตรงข้ามศาสฎีกา ใกล้ม.ราชภัฎจันทรเกษม คนคุมสอบใจดี ห้องน้ำมีน้อย แต่ไม่เคยต้องยืนรอ และสะอาด ที่นั่งเล่นเหลือเฟือ มีของกินเล่นขาย ที่จอดรถก้อเหลือเฟือ ตึกเปิดเร้ว ไปนั่งรอในตึกได้เลย ไม่ต้องแกร่วตากแดดนอกตึก

ต่อไปก้อหาหนังสืออ่าน เราดู youtube ช่วยด้วย และลองสอบพวก free online test อย่างเว้บ testden
//www.testden.com/challenge/free-toefl.asp อันนี้มีเฉลย แต่ส่วนที่เปน reading และ listening ค่ะ) writing วิธีฝึก อย่างที่บอกไป แต่ speaking ยากนิดนึง ฝึกด้วยตนเองค่ะ และสร้าง templateง่ายๆ ไปอีกเช่นกัน อันนี้เราทำตามที่ barron ไกด์ในหนังสือเลยค่ะ การฝึก listening เราเน้นฟังให้ผ่านหู อาจไม่ได้ตั้งใจฟัง แต่ก้อให้มันผ่านหู เหมือนแทนที่จะนั่งฟังเพลงตอนทำงาน ก้อเปลี่ยนมาเปิดเทป toefl ฟังแทน


Create Date : 18 สิงหาคม 2559
Last Update : 18 สิงหาคม 2559 14:05:10 น. 0 comments
Counter : 497 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

สมาชิกหมายเลข 2938038
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 2938038's blog to your web]
space
space
space
space
space