ไหว้พระ 9 วัด จ.อยุธยา ตอนที่ 2
สวัสดีค่ะ ทุกท่าน

ดีใจจังเลยค่ะ ที่ทุกท่าน แวะมาเยี่ยมเยือนกันอีก

วันนี้ เดือนก็จะมาต่อ จากตอนที่แล้วนะคะ

เอ๊ะ มีใครจำได้มั้ยเอ่ย

คราวที่แล้ว เดือนพาไปเที่ยววัด กี่วัดแล้ว

มีวัดอะไรบ้าง

ฮั่นแน่ ลืมกันล่ะซิ อิอิ

ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเดือนก็ลืมเหมือนกัน ( อ้าววว )













ต่อจากตอนที่แล้วนะคะ

วัดสุดท้ายจากตอนที่แล้ว ที่เดือนพาไปชม

ก็คือวัดที่ 4 วัดดุสิดาราม

วัดที่มีโบสถ์เก่าแก่มาก ๆ

คงมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแหล่ะค่ะ

ข้าง ๆ โบสถ์ นอกจากเป็นกุฏิพระแล้ว

ก็ยังมี ศาลาอเนกประสงค์ และสถูปเจดีย์

รวมไปถึง.....

......เอ่อ.....

เอ่อ ไปดูกันเองนะคะ

เดือนไม่รู้จะเรียกว่าอะไรค่ะ

อีกอย่าง กลัว ๆ เหมือนกันที่จะเอ่ย

( กราบขออภัยดวงวิญญาณเจ้าของด้วยนะคะ

มิได้มีเจตนาลบหลู่แต่อย่างใด

เพียงแต่ว่า ประทับใจ

จึงถ่ายรูป และนำมาฝากเพื่อน ๆ ที่บล็อคน่ะค่ะ

อย่าถือโทษโกรธกันเลยนะคะ สาธุ







อีกหนึ่งภาพประทับใจของเดือนค่ะ









ส่วนภาพนี้ ตอนถ่ายก็แอบสงสัยในใจ
ว่าทำไม พระพุธทรูปองค์นี้ ลักษณะแปลกจัง
แต่ก่อนถ่ายก็ยกมือไหว้ไว้ก่อนค่ะ สาธุ






หลังจากถวายสังฆทานวัดที่ 4 วัดดุสิดาราม เรียบร้อยแล้ว

ก็ออกเดินทางต่อ ไปยังวัดที่ 5

แฮ่ะ ๆ จำชื่อวัดไม่ได้อีกแล้วค่ะ ท่านผู้ชม

วัดนี้ ก็เป็นวัดธรรมดาวัดนึง ขอข้ามไปละกันนะคะ





ก่อนจะทิ้งท้ายไปเบรค

หาอะไรอร่อย ๆ ทานกัน เพราะล่วงเลยเวลา เที่ยงกว่าเข้าไปแล้ว

ก็ไปต่อกันที่วัดที่ 6 วัดมเหยงค์

วัดที่เป็นสำนักปฏิบัติธรรม

คนในอยุธยาส่วนใหญ่ ชอบมาถือศีล และบวชพราหมณ์ที่นี่กันค่ะ

เพราะเงียบสงบมาก ๆ เลยค่ะ











หลังจากถวายสังฆทานวัดที่ 6 เสร็จแล้ว

พวกเราก็มุ่งหน้าไปในเกาะเมืองอยุธยา

เพื่อที่จะเดินทางไป อีกฝั่งนึง ของเกาะเมืองอยุธยา

ขับรถอ้อมไปทางประตูชัย

ออกไป ทางที่จะไปอ่างทอง

หน้าวัด พนมยงค์ มีก๋วยเตี๋ยวเรือไก่ฉีกต้มยำ รสเด็ด





ขอบอกค่ะ เจ้านี้ อร่อยที่สุดในอยุธยาแล้ว

รับรอง ใครได้ลิ้มรส ติดใจทุกราย

ทุกครั้งที่เดือนไปอยุธยา ไม่เคยพลาดเจ้านี้สักครั้ง

ยกเว้นร้านปิด กับคิวยาว ไม่มีโต๊ะอ่ะค่ะ แฮ่ะ ๆ

( อ้าว ไหนบอกว่าไม่เคยพลาดไง อิอิ

)










พออิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยแล้ว

ก็ต่อกันที่วัดพนมยงค์เลยค่ะ

วัดนี้ เดิมชื่อ วัดแม่นมยงค์

เป็นชื่อ แม่นม ของพระมหากษัตริย์

แต่ท้ายที่สุด ก็เรียกต่อ ๆ กันมา จนเพี้ยนเป็น วัดพนมยงค์

อย่างที่เรียกกันเนี่ยแหล่ะค่ะ

วัดนี้สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาเหมือนกันค่ะ

หลวงพ่อท่านบอกว่า

โบสถ์ของวัดนี้ พระมหากษัตริย์เป็นคนสร้าง

( เดือนจำชื่อพระมหากษัตริย์องค์ที่สร้างวัดนี้ไม่ได้แล้วค่ะ )

หลวงพ่อบอกว่า โบสถ์หลังนี้พิเศษตรงที่ มี 3 ประตู

ประตูด้านนึง สำหรับพระสงฆ์

ประตูด้านนึง สำหรับคนทั่วไป

ส่วนประตูตรงกลาง สำหรับพระมหากษัตริย์เท่านั้น

หลวงพ่อจึงนำโต๊ะหมู่บูชามาขวางตรงประตูกลาง

เพื่อไม่ให้ใครมาใช้ประตูนี้เข้าออก







เห็นมั้ยคะ มีสามประตู ประตูกลาง สำหรับพระมหากษัตริย์ค่ะ




เอ๊ะ กี่วัดแล้วคะเนี่ย

อ้อ วัดต่อไป เป็นวัดที่ 8 แล้วใช่มั้ยคะ

วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากวัดพนมยงค์เท่าไหร่

อยู่ในซอยถัดจากวัดพนมยงค์อีกทีนึงค่ะ

เพื่อนเดือนบอกว่า วัดนี้มีเกจิอาจารย์ชื่อดังค่ะ

ชื่อวัด ศาลาปูน

ส่วนเกจิอาจารย์ชื่อดังนั้น เดือนไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ





















หลังจากถวายสังฆทานวัดศาลาปูนเรียบร้อยแล้ว

พวกเราก็เดินทางต่อไปยังวัดที่ 9

จุดมุ่งหมายสุดท้าย ที่สำคัญที่สุดของพวกเรา

เพราะเดือนประทับใจวัดนี้มากที่สุด มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว



วัดหน้าพระเมรูค่ะ

วัดนี้เป็นวัดเดียวที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

ที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุดนับจากสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน

เพราะในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้น

พม่าได้มาตั้งกองทัพที่วัดนี้

และได้เผาวัดทุกวัด ในอยุธยา

พระพุทธรูปทุกองค์ ล้วนทำด้วยทองคำ

แต่พม่าก็ได้เผาเอาทองไปหมด

เหลือเพียงแต่ วัดหน้าพระเมรุเท่านั้น ที่ไม่ถูกพม่าเผา

พระประธานในโบสถ์วัดหน้าพระเมรุงดงามมาก ๆ เลยค่ะ






ข้างในวัด ยังงดงาม

ทุกครั้งที่เข้าไปยืนในโบสถ์ทีไร

ก็นึกถึงพื้นโบสถ์จุดที่ตัวเองยืนอยู่

แล้วลองนึกย้อนไปสมัยกรุงศรีอยุธยา

ว่าตอนนั้น เราอาจจะเคย มาเหยียบพื้นที่ตรงนี้แล้วก็เป็นได้

ช่างเป็นบุญเหลือเกิน ที่ได้มายืนที่วัดนี้อีกครั้ง

( อ๊ะ ๆ อย่าแซวค่ะ รู้นะ กำลังคิดว่าเดือนเพ้อ เพราะดูหนังมากไปใช่มั้ยคะ อิอิ )

ไปชมภาพกันดีกว่าค่ะ























ภาพสุดท้าย เป็นภาพ พระประธานในโบสถ์ค่ะ

งดงามมาก ๆ เกินคำบรรยายจริง ๆ นะคะ

ว่าง ๆ อย่าลืมแวะไปนมัสการ กราบไหว้ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตนะคะ




ก่อนลาไป ขอทิ้งท้ายไว้อีกสักรูปนึงนะคะ

เป็นรูปบรรดา คนสวยที่มีจิตใจงดงามใฝ่ธรรมะน่ะค่ะ






อิอิ ไม่มีเดือนนะคะ เดือนเป็นตากล้องค่ะ งานนี้



Create Date : 21 พฤษภาคม 2549
Last Update : 21 พฤษภาคม 2549 5:21:29 น.
Counter : 1371 Pageviews.

10 comments
  
อ๊ะ ๆ ใครยังไม่ได้ ตอนที่ 1
แวะไปอ่านตอนที่ 1 ก่อนนะคะ
โดย: duen_narak (duen_narak ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2549 เวลา:6:33:51 น.
  
สวยดีจัง
โดย: เบิร์ด IP: 202.57.149.82 วันที่: 21 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:08:31 น.
  
แล้วไม่เห็นรูปเดือนเลย
พี่เต้สวยดีเสือขาวน่ารักดี
โดย: เบิร์ด IP: 202.57.149.82 วันที่: 21 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:20:27 น.
  
เป็นคนที่ฉี่(4) รูปสวยดีขอรับ อยากไปมั่งจังแต่คงจะหาโอกาสน้อยเหลือเกิน เพราะอยู่ ตจว. เดินทางเข้า กทม. ถึงจะผ่าน อยุธยา แต่ก้อคงเข้าไปไม่ถูกคงต้องมีคนนำทางให้ แต่ไม่รู้จะมีอาสาหรือเปล่า อยากไปชิม กะเต๋วรสเด็ด ที่นู๋เดือน โคสะนา(แอบได้ค่าโคสะนาปะเนี่ย) มีโอกาสจะต้องไปทำบ้างดีก่า 10 วัดเลยอ่ะ นานๆ ทำครั้งนึง
โดย: I am Jack IP: 203.114.117.216 วันที่: 26 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:53:16 น.
  
อยากไปเที่ยวบ้างจัง
โดย: พี่เบิร์ดเอง IP: 202.57.149.82 วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:45:48 น.
  

โดย: ลั่นทมสีแสด วันที่: 30 พฤษภาคม 2549 เวลา:1:16:57 น.
  
ผมมาดูแล้วนะตามที่คุณเดือนได้เข้ามาดูบอร์ดผม อิอิ เว็ป คุณสวยดีจัง ชอบๆๆ ว่างๆจะแวะมาอีกงับ
โดย: boyba_007 /กู้ชาติ!!!อิอิ IP: 61.91.46.115 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:21:30:20 น.
  
โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 14 มิถุนายน 2549 เวลา:18:05:43 น.
  
คุณทำให้ผมยิ้มแบบปลื้มไปด้วย

รู้ไว้ด้วย...คุณเดือน


M.Manuel
โดย: ยิ้มยาก_MetroManina IP: 61.9.17.71 วันที่: 24 มิถุนายน 2549 เวลา:13:25:53 น.
  
มาเพื่อพัก...และจะขอมาใหม่

อยู่ มากาติ,Metro มะนิลา..

ไม่ใช่มาเพื่อลา...มามิลา

หากเรียนจบ School of Government,

Ateneo de Manila..

จะกลับไปพัฒนา..บ้านเรา(เมืองไทย)

อีกแค่ 2 ปีเอง
โดย: M. Manuel IP: 61.9.17.71 วันที่: 29 มิถุนายน 2549 เวลา:15:30:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

duen_narak
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



พฤษภาคม 2549

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
Friends Blog
[Add duen_narak's blog to your weblog]
MY VIP Friend