|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Modigliani : เจิดจ้า ทระนง เปล่าเปลือยในวิถีแห่งศิลปิน
Amedeo Modigliani : เจิดจ้า ทระนง เปล่าเปลือยในวิถีแห่งศิลปิน
Title: Woman with Red Hair
ศิลปินสมัยใหม่คนหนึ่งของอิตาลีที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นผู้สร้างผลงานที่มีลักษณะเฉพาะตัวชัดเจนคนหนึ่งในวงการศิลปะสมัยใหม่ คือ อะเมดิโอ โมดิเกลิยนิ (Amedio Modigliani) โมดิเกลิยนิ เสียชีวิตในขณะที่มีอายุเพียง ๓๕ ปี เช่นเดียวกับฟาน ก็อก อัจฉริยะศิลปินชาวดัตช์ แม้โมดิลยานิจะไม่ได้ฆ่าตัวตายอย่างฟาน ก๊อก แต่ความกดดันทางจิตในทำให้เขาปล่อยตัวให้ถูกโรคร้ายคุกคามจนเสียชีวิตในที่สุด
ขณะที่ยังมีชีวิตทั้งสองคนต้องประสบกับความยากจนอย่างมาก และไม่มีผู้เข้าใจผลงานของเขาเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของทั้งสองคนยังคล้ายคลึงกันคือ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะตามความรู้สึกนึกคิดและความพอใจของตน โดยไม่ติดอยู่กับหลักเกณฑ์ทางศิลปะลัทธิใดลัทธิหนึ่ง จึงทำให้ผลงานของเขาก้าวกระโดดออกมา จากลัทธิศิลปะที่กำลังเป็นที่นิยมกันในขณะนั้น
โมดิเกลิยนิ เป็นเด็กที่รักและสนใจศิลปะแม้ครอบครัวของเขาจะมีฐานะไม่ดีนักก็ตาม แต่ผู้เป็นมารดาพยายามส่งเสริมลูกให้เรียนศิลปะในสถาบันที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ในปี ค.ศ. ๑๙๐๒ โมดิเกลิยนิ ได้เข้าเรียนศิลปะที่สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งนครฟลอเรนซ์ ซึ่งเขาได้ฝึกฝนเกี่ยวกับงานประติมากรรม แต่เรียนอยู่เพียงปีเดียวก็ย้ายไปเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งนครเวนิช หลังจากนั้นในปี ค.ศ. ๑๙๐๖ โมดินยานีได้เดินทางไปกรุงปารีส และได้เข้าศึกษาศิลปะที่ Academie Colorossi ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ชีวิตในนครปารีสเป็นชีวิตที่อิสระ เป็นแหล่งชุมนุมของศิลปินหัวก้าวหน้า ที่เดินทางมาจากประเทศต่างในยุโรป
โมดิเกลิยนิ ก็เหมือนศิลปินหนุ่มต่างชาติทั้งหลายที่มักเข้ามาใช้ชีวิตเสรี อยู่ที่ย่านมองมาร์ต (Montmartre) เขาได้เรียนรู้และเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น จากการสนทนาถกเถียงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และมีมองมาร์ตนั่นเอง เขาได้พบเพื่อนศิลปินต่างชาติเป็นจำนวนมาก บางคนได้คบเป็นเพื่อนที่สนิทสนมต่อมา เช่น บรานคูช ได้แนะนำให้เขารู้จักมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ทำให้ผลงานศิลปะของโมดิเกลิยนิ มีทั้งวาดเส้นจิตรกรรม และประติมากรรมอันมีลักษณะพิเศษเป็นของตนเอง ภาพบุคคลของเขามักมีใบหน้ายาว บางชิ้นมีการวางท่าคล้ายประติมากรรมขอม
เขาเดินทางกลับไปอิตาลีเพื่อไปสร้างงานในแห่งที่มีหินอ่อนคุณภาพดีที่เมืองคารารา (Carara) และแหล่งหินปูนที่เมืองลิโวโน (Livono) โมดิเกลิยนิ ชอบสลักหินปูนซึ่งมีเนื้ออ่อนกว่าหินอ่อน เขาได้สลักประติมากรรมรูปศีรษะ ในช่วง ค.ศ. ๑๙๑๑-๑๒ ไว้หลายชิ้น
ผลงานประติมากรรมเหล่านี้ แสดงให้เห็นอิทธิพลของศิลปะแอฟริกันปรากฏอยู่ คือโครงสร้างยาว ส่วนประกอบของศีรษะ เช่น จมูกจะยาวลงมาตามโครงหน้า ประติมากรรมเหล่านี้มีแต่ศีรษะลงมาถึงคอเท่านั้น ผลงานประติมากรรมของโมดิเกลิยนิแสดงให้เห็นว่า เขาพยายามจะสร้างรูปทรงขึ้นใหม่ โดยละทิ้งความเหมือนจริง ให้ความสำคัญกับปริมาณและองค์ประกอบของเส้นรอบนอกเป็นสำคัญ
ในปี ค.ศ. ๑๙๑๔ โมดิเกลิยนิหันมาสร้างงานจิตรกรรมและวาดเส้น ส่วนมากเป็นการเขียนภาพเหมือนและภาพเปลือย การวาดรูปของเขาเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับวงการศิลปะสมัยใหม่ในขณะนั้น เขาจะวาดรูปอย่างที่เขาอยากจะวาดตามแบบของเขา โดยไม่ยึดกฎเกณฑ์ของลัทธิศิลปะใดเป็นหลัก แม้เขาพยายามจะเป็นจิตรกร แต่ก็ยังติดอยู่กับรูปแบบประติมากรรมของตน ดังนั้นสิ่งที่เขาวาดมักจะมีใบหน้ายาวหรือคอยาว และเขียนส่วนอื่นๆ ด้วยเส้นที่สัมพันธ์กันอย่างง่ายๆ
และภาพสุดท้ายคือ ภาพชื่อ Jeanne Hebuterne เป็นภาพเหมือนของ Jeanne Hebuterne ภรรยาของโมดิเกลิยนิซึ่งเป็นผู้ให้ที่พักพิงแก่เขา และเป็นภรรยาของเขาในเวลาต่อมา และได้ให้กำเนิดลูกสาวคนหนึ่งในปี ค.ศ. ๑๙๑๘ ผลงานชิ้นนี้แม้จะมีโครงสีที่สดใจกว่าภาพเหมือนที่กล่าวมาก็ตาม แต่ท่าทางของเธอนั้นแสดงอารมณ์ที่เศร้าซึมอย่างลึกๆ
ในระหว่างปี ค.ศ. ๑๙๑๗ เป็นต้นมา โมดิเกลิยนิหันมาวาดภาพเปลือยมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่มีโครงสร้างและการจัดวางองค์ประกอบของภาพคล้ายคลึงกัน ผลงานเหล่านี้ไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนในสมัยนั้น และกลับถูกต่อต้านเสียอีก เขาถูกจัดเป็นจิตรกรและประติมากรชั้นเลว (Ies peintres maudits) และถูกเรียกอย่างดูถูกต่างๆ นานา เช่น Accursed
โมดิเกลิยนิทำงานอย่างจริงจังมากขึ้น ในปี ค.ศ. ๑๙๐๗ โมดิเกลิยนิ ได้พบกับ ดร.ปอล อะเล็กซานเดอร์ ซึ่งเป็นจิตแพทย์ที่เปิดคลีนิกอยู่แถวมองมาร์ตใกล้กับที่พักของเขา ดร.ปอล อะเล็กซานเดอร์ เป็นคนรักงานศิลปะและเป็นนักสะสมคิลปะ คงมองเห็นแววที่ก้าวหน้าของโมดิเกลิยนิ จึงให้การสนับสนุน และคอยซื้อผลงานวาดเส้นและผลงานจิตรกรรมของเขาอยู่เสมอ ทำให้โมดิเกลิยนิ มีเงินเลี้ยงชีพและทำงานศิลปะต่อไปได้ แต่ก็อยู่ในสภาพที่ยากจน เพราะผลงานของเขาขายได้เพียงชิ้นละไม่กี่ฟรังก์ แม้จะมีอาร์ตดีลเลอร์บางคนพยายามจัดแสดงผลงานให้เขาแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาหันไปดื่มสุราและใช้ชีวิตอย่างเสรี จนสุขภาพของเขาเสื่อมโทรมลงไปทุกทีๆ และเป็นคนเจ้าอารมณ์ แม้ใน ค.ศ. ๑๙๑๗ จะได้พบกับ Jeanne Hebuterne และได้อยู่ด้วยกันจนมีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่งก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. ๑๙๑๙ เขาเดินทางไปเยี่ยมแม่ภรรยา นำลูกสาวไปฝากสถานเลี้ยงเด็ก ในเดือนกรกฎาคมเขาได้จัดเแสดงผลงานของเขาในกรุงลอนดอน แล้วกลับไปปารีสใน เดือนมกราคม ค.ศ. ๑๙๒๐
โมดิเกลิยนิ ยังคงเที่ยวดื่มเหล้าไปตามถนนในกรุงปารีส เพื่อผ่อนคลายความทุกข์อยู่เสมอ เขามักกล่าวว่า I am going to drink myself death และในที่สุดความตายก็ย่างกรายมาหาเขา โมดิเกลิยนิ ป่วยหนักถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นอีกสองวันเขาก็เสียชีวิตในวันที่ ๒๔ มกราคม ๑๙๒๐
ต่อมาอีกวัน เมื่อ Jeanne Hebuterne ได้ข่าวการเสียชีวิตของสามี เธอจึงตัดสินใจกระโดดจากหน้าต่างที่พักของครอบครัวลงมา และเสียชีวิตในขณะที่เธอตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือน ร่างของคนทั้งสองถูกฝังไว้ ณ สุสาน Pere-Lachise ในฝรั่งเศสเป็นที่ซึ่งพ่อแม่ และลูกจะอยู่ด้วยกันไปชั่วนิรันดร์
แม้โมดิเกลิยนิจะสร้างงานจิตรกรรมและประติมากรรมไว้ไม่มากนัก แต่เขาเป็นคนชอบสเก็ตช์ด้วยดินสอและสีน้ำ และปรากฏว่าดร. ปอล อะเล็กซานเดอร์ซื้อผลงานของเขาไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมา โนเอล อะเล็กซานเดอร์ บุตรชายของดร.ปอล อะเล็กซานเดอร์ ได้รวบรวมผลงานวาดเส้นจำนวนกว่า ๔๕๐ ชิ้นมาพิมพ์ไว้ ในหนังสือชื่อ The Unknown Modigliani ทำให้ผู้สนใจศิลปะได้รู้ว่า ช่วงชีวิตสั้นๆ ของโมดิเกลิยนินั้นเขาสร้างสรรค์งานไว้ไม่น้อย
ในปี ค.ศ. ๑๙๘๔ สถาบันอะเมดิโอ โมดิเกลิยนิ (Amedeo Modigliani Institute) ได้รวบรวมผลงานศิลปะของเขามาจัดแสดง เพื่อเฉลิมฉลองวันเกิดปีที่หนึ่งร้อย ให้แก่ศิลปิน ผู้ซึงได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปินสมัยใหม่คนสำคัญ ผลงานแต่ละชิ้นของเขามีราคานับพันล้านบาท
ทว่า...ในขณะที่เขามีชีวิตอยู่กลับถูกจัดว่าเป็นศิลปินชั้นเลว ไม่มีใครเห็นคุณค่าในผลงานของเขาเลย....
ขอบคุณ : ข้อมูลประวัติศิลปินจาก ห้องศิลป์บุญชัย
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 1 มีนาคม 2551 14:36:20 น. |
|
36 comments
|
Counter : 6108 Pageviews. |
|
|
|
โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:17:00 น. |
|
|
|
โดย: cottonbook วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:18:31:35 น. |
|
|
|
โดย: be-oct4 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:02:49 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:37:42 น. |
|
|
|
โดย: waidhaya วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:2:05:57 น. |
|
|
|
โดย: ม่วนน้อย วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:08:43 น. |
|
|
|
โดย: ม่วนน้อย วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:11:37 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:24:54 น. |
|
|
|
โดย: KOok_k วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:39:53 น. |
|
|
|
โดย: น้องบี...สีไวโอลิน (be-oct4 ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:14:41:53 น. |
|
|
|
โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:38:38 น. |
|
|
|
โดย: `ช่อชบา (HHG ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:32:34 น. |
|
|
|
โดย: ช่อชบา (HHG ) วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:21:45:32 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:3:59:08 น. |
|
|
|
โดย: พุกไม้ IP: 222.123.20.234 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:8:10:21 น. |
|
|
|
โดย: หทัยชนก IP: 202.29.129.10 วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:9:37:53 น. |
|
|
|
โดย: ป้าซ่าส์ วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:25:45 น. |
|
|
|
โดย: ป้าเเอ๊ด (addsiripun ) วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:16:44 น. |
|
|
|
โดย: กะได วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:23:08 น. |
|
|
|
โดย: Chini วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:6:00:25 น. |
|
|
|
โดย: ปลายแปรง วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:7:53:24 น. |
|
|
|
โดย: ช่อชบา IP: 58.9.165.196 วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:13:37:06 น. |
|
|
|
โดย: wayakon วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:20:18:46 น. |
|
|
|
โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:02:54 น. |
|
|
|
โดย: คนขับช้า วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:31:13 น. |
|
|
|
โดย: คนทับแก้ว วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:23:44:16 น. |
|
|
|
โดย: พ ร า น IP: 222.123.138.101 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:10:47:38 น. |
|
|
|
โดย: nu-an วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:16:57:06 น. |
|
|
|
โดย: veerar วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:41:16 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:39:27 น. |
|
|
|
โดย: gluhp วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:16:40:09 น. |
|
|
|
|
|
|
โมดิเกลียนี่เป็นผู้ใช้สีน้ำตาลได้วิเศษสุด
และเขียนผู้หญิงได้อ่อนหวานสุด
เราว่าเขารู้จักธรรมชาติและอารมณ์ผู้หญิง
มากกว่าศิลปินคนไหนในยุคเดียวกัน
(พิกัสโซเหรอ ไม่ติดฝุ่น ดีแต่แฟนสวยและละอ่อนกว่านิ)
รัก...(โมดิเกลียนี่) จ้ะ