"Art for art's sake" "Art for art's sake" ♣ ♣♣ ♣♣ ♣ ผู้ใดพบเห็นความหมายของสิ่งน่าเกลียดในสิ่งงาม เป็นผู้ไม่ซื่อตรงต่อความมีอยู่ของความงาม นี่แหละคือมายา ผู้ใดพบเห็นความหมายของความงามในสิ่งงาม คือผู้กำลังบ่มเพาะ สำหรับคนเหล่านี้ ยังคงมีความหวัง พวกเขาเป็นผู้ตัดสินว่าสิ่งใดงาม เพียงความงามเท่านั้น ..................... ใครเห็นแต่ผิวนอกก็เป็นอันตราย ใครก็ตามอ่านพบเพียงสัญลักษณ์ ก็เป็นอันตราย เขาต่างเป็นเพียงผู้ดู หาใช่ชีวิตไม่ ศิ ล ป ะ เ ป็ น ก ร ะ จ ก อ ย่ า ง แ ท้ จ ริ ง Oscar Wilde ชื่อภาพ: พุทธบริษัท หมายเลข 4 รางวัลเหรียญเงิน ศิลปกรรมแห่งชาติ-ศิลปินรุ่นเยาว์ ปี 2548 ศิลปิน : อนุพงษ์ จันทร ♣ ♣♣ ♣♣ ♣ ภาพแรก : ภิกษุสันดานกา รางวัลเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองประเภทจิตรกรรม รางวัล ศิลปกรรมแห่งชาติ ปี 2550 ศิลปิน : อนุพงษ์ จันทร "ผลงานของเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องบาปบุญคุณโทษ โดยผลงานล่าสุดนี้ มีแรงดลใจจากพฤติกรรมพระภิกษุสงฆ์ในยุคปัจจุบัน ที่พบเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ เปรียบเปรยกับอีกา ซึ่งใช้เทคนิคสีอะคริลิกวาดลงบนเฟรมที่ขึงด้วยจีวรพระ .." ♣ ♣♣ ♣♣ ♣ "ข้าพเจ้าต้องการแสดงภาพลักษณ์ของเปรตกับผู้คนในสังคมปัจจุบัน ที่มีแนวความคิดจากคติธรรมของไทย โดยนำความเชื่อเรื่อง เปรตภูมิ ซึ่งเป็นกุศโลบายใช้เตือนสติมนุษย์ ให้มีความเกรงกลัวต่อผลแห่งกรรม และสร้างสำนึกให้อยู่บนรากฐานของศีลธรรม มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ เพื่อถ่ายทอดความคิด อารมณ์ และความรู้สึกตามทัศนคติส่วนตน ออกมาเป็นผลงานศิลปะไทยร่วมสมัย.." ชื่อภาพ: ผีบุญ-ทุศีล รางวัลยอดเยี่ยม ศิลปกรรม "นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต" ปี 2547 ศิลปิน : อนุพงษ์ จันทร .................... "ฉันไม่ได้มองที่ต้นไม้ที่ดอกบานสะพรั่งแม้ขุนเขาอันสง่า ฉันไม่ได้เห็นสิ่งที่สายตาสัมผัส แต่อารมณ์ที่คุโชติช่วงอยู่ภายใน อันเกิดจากการเห็นนั่นแหละ คื อ สิ่ ง ที่ ฉั น เ ขี ย น อ อ ก ม า.." ฟรังซ์ ไคน์ ♣ ♣♣ ♣♣ ♣   Create Date : 03 ตุลาคม 2550 42 comments Last Update : 3 ตุลาคม 2550 15:32:03 น. Counter : 5125 Pageviews. Share Tweet

กำลังเป็นที่สนใจอยู่เลยค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้ชม   โดย: printcess of the moon 3 ตุลาคม 2550 10:08:32 น.

ผมเชื่อเหลือเกินว่ายังไงคุณก็ต้องกลับมาที่บล็อกผมครับ เพราะผมหล่อกว่าตาบิ๊กเยอะ 555555 เพียงแต่แต่งกลอนสู้น้องไม่ได้เท่านั้นเอง ........................... วันนั้นผมนอนดูเรื่องนี้ที่รายการ "ตาสว่าง" ไม่ตัดสินถูกผิด แต่ตั้งคำถามง่ายๆว่า มีดีจริงไหม มีเลวจริงไหม ถ้ามีทั้งดี-เลว ทำไมต้องแบ่งแยกว่านำเสนอ "ความจริง" ได้แค่แง่มุมเดียว คือ ด้านที่ดี ............................ หรือว่าแท้จริงแล้ว สังคมเรายอมรับ "ความจริง" แค่ด้านที่เราพึงใจเท่านั้น ถ้ารับได้แค่นั้น "ความจริง" ก็ไม่ได้เป็น "ความจริง" อีกต่อไป   โดย: กะว่าก๋า (กะว่าก๋า ) 3 ตุลาคม 2550 10:19:04 น.

ได้ยินข่าวเรื่องภาพชุดนี้ แต่เพิ่งเห็นรูปจากบล็อกคุณยิปซีนี่เองค่ะ ขอบคุณที่นำมาลงนะคะ ความเห็นส่วนตัวของหมีมืดๆ ตัวหนึ่ง ชอบคำนี้ของออสการ์ไวล์ด์จัง "ใครเห็นแต่ผิวนอกก็เป็นอันตราย ใครก็ตามอ่านพบเพียงสัญลักษณ์ ก็เป็นอันตราย" ดูแล้วก็เกิดคำถามว่า พวกที่ออกมาประท้วงเรื่องภาพนี่ ...ไม่พอใจเพราะแทงใจดำหรือไร หึหึ   โดย: แพนด้ามหาภัย 3 ตุลาคม 2550 10:20:20 น.

โ ป ร ด ท ร า บ อยากชวนเพื่อนไปอ่านแง่มุมของภาพ และแรงบันดาลใจของศิลปิน "ภิกษุสันดานกา" ในความหมายที่ลึกซึ้ง น่าสนใจยิ่ง ที่บล็อกพ่อพเยีย ตามลิงค์ที่เฟรนด์บล็อกนี้นะคะ   โดย: ยิปซีสีน้ำเงิน 3 ตุลาคม 2550 10:32:11 น.

พี่ยิปซีฯคะ ขอบคุณสำหรับภาพที่นำมาให้ชม นกได้เห็นเฉพาะภาพแรกที่มีข่าวเท่านั้น แปลกเนอะ ทั้งๆ ที่มีสิ่งสะท้อนความดี ความเลว ทำไมรับไม่ได้ก็ไม่รู้ เห็นด้วยกับคุณแพนด้าฯ ..สงสัยจะแทงใจดำ..   โดย: หทัยชนก (Nok_Noah ) 3 ตุลาคม 2550 10:44:29 น.

สวัสดีครับคุณยิปซี ถ้าทุกคนเปิดใจให้กว้าง และยอมรับในความคิดของคนที่คิดไม่เหมือนที่เราคิด อย่าคิดว่าใครที่คิดไม่เหมือนเราคิดนั้นผิด อย่างนี้ไม่เหมาะสมครับ   โดย: ลุงกล้วย 3 ตุลาคม 2550 10:49:17 น.

ไม่ได้ข่าวเรื่องนี้นะครับ ถ้าถามว่าเห็นภาพแล้วรู้สึกอย่างไร คงตอบว่าไม่ชอบ พยายามถามตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ชอบ ก็คงเป็นเพราะนับถือศาสนาพุทธ พระสงฆ์เป็นสัญลักษณ์อันดีงามอย่างหนึ่งในบวรพระพุทธศาสนา เห็นรูปอย่างนี้แล้วรู้สึกเหมือนโดนลบหลู่ โดนตบหน้าฉาดใหญ่ เจ็บนะครับ ไม่ชอบเลย หากงานศิลป์ลบหลู่ความเชื่อความ ศรัทธาอันดีงามของผู้เสพย์บางกลุ่ม ไม่ได้กีดกั้น เปิดใจชมได้ รับความจริงที่มีอยู่ในสังคม แต่นี่ก็เป็นความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากการชมภาพจริงๆ และไม่คิดว่างานประเภทนี้จะช่วยจรรโลงจิตใจได้แต่อย่างใด บางสิ่งบางอย่าง คนเรารับรู้ว่ามีจริงอยู่ ไม่คิดว่ามีใครจะปฏิเสธความจริง แต่จำเป็นด้วยหรือที่ต้องสร้างสรรค์งาน "ศิลปะ" เพื่อกรีดอารมณ์ และยำยีความศรัทธาผู้เสพย์งานศิลป์   โดย: กะได 3 ตุลาคม 2550 10:58:44 น.

ศิลปะก็คือศิลปะ แม่นก่อนิ... เฮาดูแล้ว มองแล้วทำให้จินตนาการไปไกลเลย ว่า ทั้งงามและเป็นจริง... และเราจำเป็นต้องยอมรับความจริง เมื่อผมสัมผัสกับพระบางรูป เป็นทั้งเจ้าอาวาส ที่แอบชอบเล่นสีกา และเล่นหวย แต่ชาวบ้านก็ยังยกมือไหว้อยู่... ชาวบ้านบอกว่า ช่างเถอะ...ก็พระดีๆ ตอนนี้หายาก และเขาก็เป็นพระนักพัฒนาด้วยนิ นี่ยังไม่ต้องนับถึงเรื่อง พระปลุกเสก จตุคาม นะครับ... อยากให้ทุกคนที่เป็นชาวพุทธ(จริงๆ ) ได้หาเวลาไปอ่านธรรมะของ ท่านพุทธทาส กันเยอะๆ เนอะ หรือยิปซีสีน้ำเงิน ว่าไง...   โดย: pu_chiangdao 3 ตุลาคม 2550 11:07:18 น.

ตกข่าวค่ะ แต่เห็นภาพแล้วก็เศร้า มันสะท้อนเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคมเรา ไม่ว่าชอบ-ไม่ชอบ อย่างน้อยก็เผยแพร่เพื่อเตือนใจละนะ   โดย: เป๋อน้อย 3 ตุลาคม 2550 11:38:42 น.

คุณยิปซีฯ ขา จริงแล้วความศรัทธาที่มีต่อสถาบันศาสนา และตัวบุคคลไม่ได้ลดน้อยลง แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของตัวแทนสัญญลักษณ์ ภิกษุสันดานกา ของ : อนุพงษ์ จันทร ถามว่าเราเห็นด้วยหรือชื่นชมในแง่มุมของการมองมั้ย ชื่นชมในการถ่ายทอดที่ชัดเจนและเป็นตัวตนของเจ้าของผลงาน แต่ภาพที่สะท้อนมันชัดเจน จนยากที่จะยอมรับในพฤติกรรมของสัญญลักษณ์ที่เราชาวพุทธเคารพและศรัทธา เพราะทุกวันที่เราเห็น พบเจอ พระสงฆ์เดินบิณฑบาตร เราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่า จะเป็นพระภิกษุสงฆ์ หรือ "ภิกษุสันดานกา" สาธุ   โดย: โมกสีเงิน 3 ตุลาคม 2550 11:47:07 น.

ความจริงก็คือความจริง ..ถ้าจะห้ามแสดงผลงานชุดนี้ ก็น่าจะห้ามเสนอข่าวเกี่ยวกับ พระที่ทำตัวนอกลู่นอกทาง.. -ใจคอจะไม่รอให้แผลหายดีก่อนหรือครับ แล้วค่อยมาอัพบล็อก-   โดย: พุกไม้ 3 ตุลาคม 2550 12:07:50 น.

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพ้องกับเหตุการณ์ที่ภิกษุพม่าออกมาเดินขบวนพอดี ขณะที่ภิกษุบ้านเรา(หลายๆรูป)มัวแต่ออกมาแสดงความยึดเหนี่ยวเพื่อปกป้องภาพลักษณ์ของสถาบันตน..... ป.ล. ภาพปกหนูจ๋า&เบบี้น่าจะเป็นนักเขียนการ์ตูนตลกรุ่นเก่าๆนะครับ เสียดายมากที่ผมลืมชื่อเสียแล้ว หาม่ายเจอ...   โดย: wayakon IP: 58.9.235.147 3 ตุลาคม 2550 12:34:17 น.

ครั้งนี้...งานศิลปะทำหน้าที่ได้โดยตัวงานเอง ยิ่งถูกกล่าวถึงเท่ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีกับงานและจิตรกรมากเท่านั้น...   โดย: ตาพรานบุญ 3 ตุลาคม 2550 12:36:06 น.

คารวะศิลปินผู้เขียน.. จากใจ ศาสนา ถ้าเราไม่ช่วยดูแลกันดีๆ ก็จะเป็นอย่างในภาพ   โดย: กายแก้ว 3 ตุลาคม 2550 16:35:20 น.

อืม... เพิ่งจะมีข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์วันนี้เอง เรื่องพิธีลามกจกเปรต ที่สีกาต้องเปลือยท่อนบนให้หลวงพี่ลงอักขระให้ น่าประณามทั้งพระทั้งสีกาเลย จะลองตามเข้าไปที่บล็อกของคุณ "พ่อพเยีย" ดูนะครับ   โดย: คนทับแก้ว 3 ตุลาคม 2550 16:46:58 น.

หนูยิปซีสีน้ำเงิน เราใจเดียวกันจริงๆเลยนะเนี่ยะงานนี้   โดย: พ่อพเยีย IP: 124.121.21.121 3 ตุลาคม 2550 17:27:10 น.

ต้องขออภัยด้วยตอนนี้งานเยอะมากงานหลวงยังไม่เสร็จต้องขอเวลาหน่อยนะครับสำหรับเวียนนา "นิทรา ฝันดี ที่เวียนนา   โดย: tingpositive (tingpositive ) 3 ตุลาคม 2550 19:00:44 น.

แวะมาเยี่ยมชมครับ ผมไม่ค่อยถนัดงานศิลปะประเภทภาพวาดครับ เพราะว่าสายตาของผมคงมองไม่ถึงครับ อิอิ   โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 3 ตุลาคม 2550 19:37:11 น.

แหม เจ้าของภาพคงมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีต่อพระ(บางคน)นะครับ   โดย: ลุงแมว 3 ตุลาคม 2550 19:55:38 น.

ที่เว็บเสรีไทยก็พูดถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ พระภิกษุบางรูปที่ออกมาประท้วงเรื่องนี้ หรือว่าเรื่องไหนดูน่าเกลียดมาก ตามทัศนะของตัวเองพระภิกษุต้องสำรวมค่ะ ดีใจที่ได้มาอ่านในบล็อกคุณยิปซีฯอีกครั้ง   โดย: แซนด์ซี 3 ตุลาคม 2550 20:09:43 น.

อ่านแล้วแอบคิดและนิยมคอมเม้นท์ของคุณกะไดอ่ะคะ ...   โดย: JewNid 3 ตุลาคม 2550 20:40:07 น.

มาเยี่ยมค่ะคุณยิปซี ภาพวาดสวยและให้แสงสีที่งาม สะท้อนความเป็นจริงบางส่วน แต่ส่วนตัวดูแล้วไม่ค่อยชอบค่ะเพราะดูแล้วไม่สบายใจ มองแล้วไม่รื่นรมย์ และไม่อยากให้ต่างชาติมาเห็นภาพนี้ เพราะพุทธศาสนาในสายตาของต่างชาติส่วนใหญ่(ที่ไม่เข้าใจหลักของศาสนาพุทธ) ก็แย่พออยู่แล้ว เกรงว่าภาพเหล่านี้จะยิ่งทำลายภาพลักษณ์ของศาสนาไปกันใหญ่ค่ะ ขอบคุณที่เอามาให้ชมนะคะ   โดย: the Vicky 3 ตุลาคม 2550 21:12:21 น.

... อ่านเจอในหนังสือพิมพ์ว่า ภาพเขียนภิกษุสันดานกา ไม่เหมาะสมอะไรทำนองนี้ล่ะค่ะ ถ้าให้มองแค่ภาพอย่างเดียว คงบรรยายความรู้สึกยากเหมือน เพราะเคยชินกับภาพงดงามในศาสนา แต่พออ่านคำอธิบายภาพของคนวาด แล้วก็เข้าใจเจตนาของเขาค่ะ .. .. อืมมม...แต่นึกไม่ออกเหมือนกันนะคะว่า ถ้าแม่และยายที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในร่มเงาของศาสนา เห็นและกราบไหว้แต่พระพุทธรูปงดงาม ท่านจะตกอกตกใจแค่ไหนเวลาเห็นภาพนี้   โดย: ระเบียงดอกไม้ IP: 203.151.46.130 3 ตุลาคม 2550 21:40:19 น.

ภาพนี้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนความเป็นจริงในสังคม แต่น่าเสียดายที่บางกลุ่มในสังคมไม่อาจยอมรับภาพความเป็นจริงนั้นได้ เพราะมีภาพเงาและมายาคติเพี้ยนๆ ครอบงำบังตาเอาไว้อยู่ ภาพเขียนชุดนี้ ช่วยกะเทาะเปลือกเพื่อเตือนให้เราเข้าถึงแก่น ใช่ไหมเอ่ย?   โดย: waidhaya 3 ตุลาคม 2550 22:45:19 น.

การให้ระงับการแสดงภาพนี้ ใช่ว่าจะทำให้แก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพุทธศาสนาได้ ในทางกลับกันจะเป็นการทำให้ศิลปินผู้ที่ต้องการจะวาดภาพเกี่ยวกับพุทธศาสนา ไม่ว่าจะในแง่สวยงาม หรือการสะท้อนปัญหา ย่อมต้องรู้จักศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพุทธศาสนาให้มากๆ มนุษย์ถูกสอนให้กำหนดรู้ที่จิต รู้สึกจากสัมผัส ตัดสินทุกอย่างด้วยสายตา จึงถูกครอบงำด้วยการมองเห็น ด้วยสายตาของชาวพุทธที่เห็นห่มเหลืองเดินกันอยู่ทั่วไป เราคงต้องตรองด้วยปัญญา และถามอีกครั้งว่า พระคุณท่านเป็นพระแล้วรึยัง ?   โดย: ช่อฃบา (HHG ) 4 ตุลาคม 2550 0:51:48 น.

โดย: ป้าซ่าส์ 4 ตุลาคม 2550 6:43:15 น.

เป็นรูปที่แปลกตา สวยแต่ดูแล้วน่ากลัว   โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท 4 ตุลาคม 2550 8:51:48 น.

ชอบภาพนี้ค่ะ เห็นปุ๊ป ก็ชอบปั๊ปเลย ตอนแรกที่เห็นนึกว่าเป็นภาพสะท้อนสังคมซะอีก แต่พออ่านบทสัมภาษณ์ถึงรู้ว่ามาจากพระพุทธภาษิต ถือเป็นภาพที่สื่อออกมาได้ชัดเจน ตรงประเด็นดีค่ะ   โดย: Charlotte Russe 4 ตุลาคม 2550 9:43:10 น.

คุณยิปซีคะ วันนี้มาคุยด้วย เช้านี้เป็นงัยบ้างค่ะ งานยุ่งมั้ย อยู่ที่ทำงานรึอยู่บ้านคะ คิดถึงค่ะถ้ามีที่อยู่ก็ว่าร่อน โปสการ์ด หา รู้สึกเป็น จริงจับต้องได้มากกว่าค่ะ ถ้าคุณยิปซีฯ เป็นนักเขียน ก็คงเป็นนักเขียนคนแรกในดวงใจที่อยาก เขียนจดหมายถึง ฐานะแฟนคลับ...อิ อิ อิ คงน่ารักดีนะคะ วันนี้อากาศเมืองแปดริ้ว ลมเย็น ๆ นะคะ คงเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว หรือจะรู้สึกไปเองก็ไม่รู้ได้ ทุกครั้งที่ลมหนาวมาเยือน อารมณ์จะเหงาๆ มั้ยคะ บ่งบอกได้หลายอย่างเชียว ใกล้สิ้นปี เข้าสู่เทศกาล ปีใหม่ วันเวลากำลังหมุนเวียนเปลี่ยนไป ... กำลังจะแก่ขึ้นอีกปี (ตรงนี้ใจหายหนัก)เหมือนเป็นฤดูกาลแห่งการจากลา ว่ามั้ยคะ เคยอ่านข่าวจากต่างประเทศนะคะ เค๊าบอกว่าฤดูหนาว เป็นฤดูที่ทำให้อารมณ์ เศร้า เหงา อ้างว้าง เปล่าเปลี่ยวโดดเดี่ยว ว้าเหว่ ดีนักแล ....ฮา และที่สำคัญทำให้วัยรุ่นในต่างประเทศ เหงามากถึงขั้นทำร้ายตัวเอง(ไม่อยากใช้คำที่แรงกว่านี้) โดยเฉพาะ ฤดูที่หิมะตก คุณยิปซีฯ คงสงสัย....เอ๊...มาอารมณ์ไหน(ฉันปรับตามไม่ทัน) ดีใจที่ได้รู้จักนะคะ แค่เพียงโลกไซเบอร์ก็ตาม ขอบคุณสิ่งดีดี   โดย: โมกสีเงิน 4 ตุลาคม 2550 9:55:42 น.

แวะมาเยี่ยมด้วยความคิดถึงค่ะ   โดย: มณีไตรรงค์ 4 ตุลาคม 2550 9:58:29 น.

สวัสดีค่ะยิบซีสีน้ำเงิน วันนี้ได้โอกาสแล้วล่ะ อั๊พบล๊อกใหม่ แล้วเจอยิบซีที่ไปเม้นท์ไว้พอดี เลยถือโอกาสแอ๊ดไว้ซะเลย เวลาแวะมาจะได้ง่ายขึ้น ที่ผ่านมาคิดถึงนะแต่เวลาจะแวะมา ดันหาไม่เจอว่าพี่ยิบซีของนิกไปอยู่ตรงไหนน้อ..ก็เลยไม่ได้แวะมาด้วยประการฉะนี้ จ้า...เหาอ่ะน่ากลัวเนอะ เล่าซะเห็นภาพเลยนะ ไม่รู้ว่า เหามันกลัวแดด พี่ยิบซีน่าจะไปบอกตั้งนานแล้วนะ ไม่งั้นจะขจัดมันให้ตายไป แม่น้องนิกมัวแต่ตกใจ เลยไร้สติสิ้นดีเลย   โดย: แม่น้องนิก (Mommy and me ) 4 ตุลาคม 2550 10:25:57 น.

เข้าใจว่าผู้วาดภาพนี้คงมีเจตนาดีสื่อถึงคนบางคนที่มาอาศัยผ้าเหลืองอยู่... น่าเห็นใจ ส่วนคนที่มองว่าภาพนี้เป็นการลบหลู่พุทธศาสนา ก็ต้องเห็นใจในมุมมองของพวกเขาด้วย ... ท้ายสุดการทำความเข้าใจกัน ลดราวาศอกกัน ย่อมเป็นวิธีที่จะสามารถแก้ข้อบาดหมางลงได้   โดย: ลุงแอ๊ด 4 ตุลาคม 2550 11:01:49 น.

เฮาซิมาแล้วเด้อ... มาแว๊บ...ไปแว๊บก่อนเด้อ.... อีกาเข้าสิง..ต้องบินแล้วก๊า คุยกันหลายบ้านดีเนอะ....ชอบจัง คนทำงานศิลปะ อยากให้คนวิจาร ณ์มากๆเด้อ..... ร้อยตาพิศ.....ร้อยจิตจินตนา ภาพแทนภาษา.....วาจาแก้ต่างใจ พินิจภาพเช่นไร.... ใจอาจคิดอย่าง.... ปากอาจไปอย่าง..... ข้างใน...ใครรู้.... งานนี้...ภือว่า.....เจ้าของงานประสบความสำเร็จระดับหนึ่งแล้วค่ะ เพราะคนชมภาพร้อยคน...ร้อยความคิด.... งานศิลปะ...อย่าดูแคลนความคิดผู้เสพ อย่าดูหมิ่นจินตนาการผู้ชม.... ใครคิดเช่นไร....ดูเบื้องหลังความคิดได้ ที่การสำแดงวาจากับงานชิ้นนั้น เป็นงานที่ทำให้เห็นคนค่ะ.....   โดย: ปลายแปรง 4 ตุลาคม 2550 12:12:28 น.

เป็นงานที่ควรสรรเสริญ เพราะวิพากษ์ และวิจารณ์ สภาพพระ(บางส่วนที่ไม่ดี) ในปัจจุบันได้อย่างชนิดที่เรียกว่า แทงใจดำกันไปข้างนึงเลย   โดย: ถ่านหินจำศีล 4 ตุลาคม 2550 12:34:35 น.

มาอีกรอบแล้วค่า   โดย: มณีไตรรงค์ 4 ตุลาคม 2550 13:54:24 น.

So sorry naa kaa and thank you so much for everything kha... You are so nice to me kha. Love your writing as always and this time...love the paintings too kha. Be happy naa kaa. Wil be right back kha.   โดย: CSULB@FineArt 4 ตุลาคม 2550 14:25:57 น.

เห็นแล้วรันทดจังแหะ   โดย: d_regen 4 ตุลาคม 2550 18:27:41 น.

ฝีมือเขาสุดยอดจริงๆ   โดย: filmgus 4 ตุลาคม 2550 19:57:45 น.

หลังชมภาพจากข่าว ผมเห็นว่าให้ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เท่านั้น สิ่งภายนอกเป็นภาพลวงตา สิ่งที่เกิดขึ้นในรูปเป็นส่วนน้อย พระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบยังมีอีกมาก เปรียบต้นไม้ทั้งป่า ใบไม้ใบเดียวไม่สามารถทำให้ต้นไม้ล้มได้ ขอเชิญไปนิทรา ฝันดีที่เวียนนา   โดย: tingpositive 4 ตุลาคม 2550 20:40:05 น.

คิดถึง คิดถึงค่ะ ยุ่งนิดหน่อย ไว้จะแวะไปหานะจ๊ะ เทคแคร์ค่ะ จุ๊บ จุ๊บ   โดย: สักกะนิด 4 ตุลาคม 2550 22:06:12 น.

โอ้ววพลาดตรงนี้ไปได้ยังไง จริงๆเห็นหลายฝ่ายออกมาโต้กันเหมือนกันค่ะ ถ้าถามในแง่ศิลปะ เราว่าสวย ภาพสวย ถามในแง่สะท้อนสังคม ต้องบอกว่าชื่นชมความกล้าของศิลปิน ที่กล้าที่จะพูดออกมาชัดเจน ต้องชื่นชมข้อนี้มากๆ แต่ถ้าถามว่าเห็นด้วยมั้ย ข้อนี้ 50-50 ค่ะ เพราะสังคมไทยละเอียดอ่อน และเรื่องศาสนาเป็นเรื่องที่แตะต้องยาก แต่อีกครึ่งหนึ่ง ก็เห็นด้วย เพราะถ้าไม่มีใครออกมาพูดความจริง ว่าส่วนหนึ่งในสังคมเป็นแบบไหน เราก็จะปิดตา ทำไม่รู้ไม่ชี้ แล้วปล่อยให้คนบางกลุ่มลอยนวลต่อไป อีกครึ่งที่เห็นด้วย คือการช่วยกันทำความสะอาดศาสนา ให้ศาสนาเป็นเรื่องบริสุทธิ์จริงๆ ปล. เรายังไหว้พระ สวดมนต์ และนับถือในศาสนาไม่เปลี่ยนแปลง แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นนับถือมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าเราช่วยกันทำความสะอาดส่วนที่ไม่ดีออกไป   โดย: KOok_k 15 ตุลาคม 2550 19:10:17 น.

ได้ตามเรื่องนี้อยู่ประมาณนึงครับ เข้าใจว่าวัฒนธรรมขององค์กรคือสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ ผมแอบนึกว่าถ้าไม่ได้เขียนภาพพระ แต่เป็นทหาร แล้วจะเกิดอะไรขึ้น เพิ่งรู้ว่าขึงเฟรมวาดบนจีวรครับ โอ....   โดย: พลทหารไรอัน 18 ตุลาคม 2550 13:05:06 น.