With all your imperfections, you can do anything.
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
1 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 
ป่าอุกกาบาต ตอนที่ 16

ตอนสิบหก อาจตกใจ ในความมืด
ต้องนั่งยืด หืดขึ้นคอ รอฉากผี
ยิ่งคนดู อยู่กันน้อย ไม่ค่อยมี
สยองดี มีสะดุ้ง ตุ้งแช่กัน



ใบไม้กรอบ รอบข้าง ดังกวนหู
เพ่งตาสู้ ดูไม่ชิน ริมหินผา
ชายชุดขาว เครายาวเฟื้อย ลอยเอื่อยมา
ยื่นมือคว้า หาคอฉัน พลันบีบแรง

หน้าเหี่ยวย่น บ่นพึมพำ ผิวดำคล้ำ
หมาหอนนำ ทำฉันกลัว ทั่วทุกแห่ง
มือเย็นเยือก เมือกน้ำเยิ้ม เริ่มบีบแรง
เลือดสีแดง แข่งกันไหล จากนัยน์ตา

คล้ายกระเดือก โดนเชือกรัด มัดไว้แน่น
ในอกแค้น แหงนหน้าขึ้น ตื่นมองฟ้า
ชายแก่กลาย เป็นรากไทร ส่ายไปมา
ฉันหันหน้า หาปิ่น ดิ้นตัวงอ

รากแกว่งกวัด รัดตัวฉัน พันไปทั่ว
ปิ่นสั่นกลัว ตัวดิ้นเร่า เจ้ารากจ่อ
ฉันจับจุด ฉุดตัวนั่ง ตั้งใจรอ
เมื่อนิ่งพอ ก็กำเนิด เกิดพลัง

ความร้อนเพิ่ม เริ่มจากท้อง ท่องทั่วกาย
รากเริ่มคลาย เลื้อยหายไป ไกลจากฉัน
เจ้าปลวกตื่น ขึ้นมา พาโรมรัน
แทะรากกัน พลันต้นไทร ไหวไปมา

เกิดเสียงร้อง ก้องทั่วป่า พาหนวกหู
ฉันรับรู้ คู่สัญญาณ สารจากฟ้า
ส่งคำแปล ยอมแพ้แล้ว นะแก้วตา 
ฉันพูดจา พาปลวกนิ่ง ทุกสิ่งคลาย

เกิดเป็นเงา ปู่เครายาว ก้าวเดินมา
แล้วพูดจา ปราศัย ให้ความหมาย
ตัวปู่นี้ เป็นผีไพร ไร้ร่างกาย
ใจวุ่นวาย เมื่อเห็นเรา เข้ามากวน

ปู่สอบถาม ตามสงสัย ในเรื่องราว
ฉันได้เล่า ให้เขาฟัง หมดทั้งม้วน
ปู่เล่าเพิ่ม เติมข้อความ ตามสำนวน
พวกเราล้วน ชวนกันฟัง นั่งเบิ่งตา

บำเพ็ญเพียร เรียนรู้ อยู่พันปี
วันหนึ่งมี ผีพุ่งไต้ ตกจากฟ้า
แตกกระเด็น เป็นหินม่วง ร่วงลงมา
หลังภูผา ปรากฎมี วิหารทอง

เจ้าหินเพี้ยน เปลี่ยนบางอย่าง ให้ต่างไป
เกิดสัตว์ร้าย กายแปลกตา น่าสยอง
ส่วนพวกยักษ์ มักออกล่า มาจับจอง
หวังครอบครอง เก็บหินม่วง ทั้งปวงไป

เรื่องราวจบ สลบนอน พักผ่อนจิต
รออาทิตย์ เริ่มทำงาน เช้าวันใหม่
เติมพลัง หลังจากนี้ ไม่มีภัย
ทำจิตใจ หายกังวล กรนเสียงเบา  

ฟ้าเจิดจ้า สกุณา ออกหากิน
ฉันปลวกปิ่น ดิ้นตัวแดง เพราะแสงเผา
หาเสบียง เลี้ยงท้อง ย่องตีนเบา
แต่เลือกเอา ของที่รู้ ดูปลอดภัย

ลูกไม้ป่า พากันกิน สิ้นความหิว
แล้วเดินลิ่ว ดูทิวทัศน์ วัดจุดหมาย
ทำแผนที่ ชี้เข็มทิศ คิดว่องไว
เพื่อมุ่งไป ในวิหาร ด้านหน้าเรา

ปลวกนำวิ่ง ดิ่งลงในรู สู่จุดหมาย
คราวนี้ง่าย แรงไหลส่ง ลงจากเขา
ถึงปลายทาง ด้านล่างแล้ว เร็วไม่เบา
ออกจากเขา เราวิ่งเล่น เห็นแสงทอง

เลยเขตเขา เราต้องลา จากเพื่อนปลวก
ไม่สะดวก ปลวกไม่อยู่ คู่เราสอง
ต้องกลับรัง วังของมัน หันไปมอง
จำใจต้อง หมองเศร้า เรากอดกลม

ฉันและปิ่น ดิ้นรนต่อ ไม่รอกาล
เดินเลยผ่าน ลำธารแดง เปล่งแสงส้ม
ปิ่นมองเห็น เป็นสนิม ลิ่มไม่จม
พื้นใต้ตม บ่มเหล็กไว้ ในร่องรู

พวกเราบึ่ง ถึงไร่ร้าง กลางป่าดง
ไร่อ้อยหลง ในพงไพร ใคร่อยากรู้
คนไหนปลูก รุกผืนป่า กล้าน่าดู
เราทั้งคู่ ผู้กล้า เดินฝ่าไป

เสียงกรอบแกรบ ทำแสบหู คล้ายขู่เรา
ใบบาดเข่า เท้าเจ็บ แสบถึงไหล่
อ้อยคมคาย ทำกายคัน มันกวนใจ
ก้าวเดินไป ไม่ท้อแท้ ยอมแพ้มัน

เร่งเดินไป คล้ายคนตาม ทำสงสัย
หยุดเดินไป แกล้งไม่มอง แล้วลองหัน
เสียงเหยียบดิน ยังได้ยิน ปิ่นยืนยัน 
สิ่งใดกัน มันตามติด ชีวิตเรา

*** โปรดติดตาม ตอนต่อไป ***



Create Date : 01 ธันวาคม 2556
Last Update : 1 ธันวาคม 2556 3:53:09 น. 0 comments
Counter : 472 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dragonfly7Colors
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add Dragonfly7Colors's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.