Group Blog
 
<<
กันยายน 2560
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 กันยายน 2560
 
All Blogs
 
โอวาทหลวงพ่อฯ จะเข้าพระนิพพาน สังโยชน์10ช้าไป ทำแบบนี้ดีกว่า

โอวาทหลวงพ่อฯ เล่ม 3 หน้า12
จะเข้าพระนิพพานสังโยชน์ ๑๐ช้าไปทำแบบนี้ดีกว่า

องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า คนที่คิดว่าตัวจะตาย ถ้าคิดต่อไปว่า
ถ้าเราเป็นพระโสดาบัน เราจะต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์กับเทวดาสลับกันไป ความเหนื่อยยากในกายยังมีอยู่ องค์สมเด็จพระบรมครูตรัสว่า ถ้าอย่างไรก็ดี
ตัดความเกิดเสียให้สิ้น จุดหมายปลายทางก็คือพระนิพพาน การจะเข้าพระนิพพาน ถ้าจะว่ากันตามสังโยชน์ ๑๐ ประการ ก็รู้สึกว่าจะช้า
เราก็ไปรวบยอดกันตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนไว้ใน
มหาสติปัฏฐานสูตร ที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า
เราจงอย่าสนใจร่างกาย กายในกาย ได้แก่กายของเรา จงมีความคิดว่า กายนี้มันสักแต่ว่าเป็นกาย กายนี้สักแต่ว่าเป็นเรือนร่างที่อาศัยชั่วคราว
มันมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง
มีการสลายตัวไปในที่สุด เราคือจิตที่เข้ามาอาศัยอยู่ในกาย
ถ้ากายมันพังเราก็ต้องไป ไปแล้วถ้าหากว่าเรายังต้องหากายมาเป็นที่เกิดอีก เราก็มีความทุกข์อย่างนี้ องค์สมเด็จพระชินศรีรวบรัดตัดใจความว่า
เธอจงอย่าสนใจในกายของเธอ ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็ทำงานหาอาหารเลี้ยงมันหาผ้านุ่งผ้าห่มให้แก่มัน เพื่อเป็นการป้องกันการหนาว
การร้อน และการหิวกระหายในอาหาร แต่ทว่าจงอย่าคิดว่า เรากับร่างกายนี้
จะอยู่ร่วมกันไปตลอดกาลตลอดสมัย ให้มีความรู้สึกเสมอว่า ร่างกายไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา เราคือจิตที่เข้ามาอาศัยร่างกายชั่วคราวเท่านั้น เมื่อมันสลายตัวเมื่อไรเราก็ต้องไป
องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงแนะนำว่าจงอย่าผูกฟันในร่างกายต่อไป เราจงคิดไว้เสมอว่า ร่างกายเป็นแดนของความทุกข์ เป็นปัจจัยของความทุกข์
ไม่ได้บันดาลความสุขให้แก่เรา เมื่อร่างกายนี้หมดไปเมื่อไรขึ้นชื่อว่าร่างกายอย่างนี้สำหรับเราไม่มีอีก และก็ทรงแนะนำว่าแม้แต่ร่างกายของบุคคลอื่น
เราก็ไม่ต้องการ และก็ไม่ต้องการ ไม่ผูกพันในวัตถุทุกสิ่งทุกอย่างในโลก ถือว่าสมบัติของโลกมันก็เป็นสมบัติของโลก
ในเมื่อชีวิตอินทรีย์ของเรานี้หมดไป ก็เป็นสาเหตุสุดวิสัย
ที่เราจะปกครองสมบัติของโลกต่อไปได้
ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย คิดอย่างนี้เป็นปกติ และแถมต่อไปอีกสักนิดว่า ถ้าเราตายคราวนี้ เราขอมีพระนิพพานเป็นที่ไป
มนุษยโลกก็ดี เทวโลกก็ดี พรหมโลกก็ดี ไม่เป็นที่ยินดีสำหรับเรา
เราต้องการอย่างเดียวคือ พระนิพพาน ถ้าอารมณ์ใจของบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านคิดไว้อย่างนี้เป็นปกติ อารมณ์ความรักในเพศ
อารมณ์ความโลภในทรัพย์สิน อารมณ์ความโกรธความพยาบาททั้งหลาย ความหลงใหลใฝ่ฝันในรูปโฉมโนมพรรณ
ร่างกายและทรัพย์สินทั้งหลายก็สลายตัวไปจากจิต อย่างนี้
องค์สมเด็จพระธรรมสามิสรกล่าวว่า ท่านเป็นผู้เข้าถึงซึ่งอารมณ์แห่ง พระนิพพานรวมความว่าเป็น พระอรหันต์ ตายจากชาตินี้แล้วก็ไป
พระนิพพาน ทันที
...

...

...


Create Date : 16 กันยายน 2560
Last Update : 16 กันยายน 2560 9:59:28 น. 0 comments
Counter : 1214 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

doraeme
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add doraeme's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.