|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
Marie Antoinette : รองเท้าผ้าใบของพระราชินี
ใครทันได้เห็นรองเท้าคอนเวิร์สซุกอยู่ใต้โต๊ะ ในฉากที่พระนางมารี อังตัวเน็ต เลือกรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่บ้างไหมครับ ? คนฝรั่งเศส เชื่อว่า รองเท้าเป็นตัวแทนของคนใส่ มันบอกความเป็นทั้งหมดทั้งมวลของตัวคุณ เมื่อคุณบอกคนฝรั่งเศสว่า je suis bien dans mes pompes ( ฉันรู้สึกดีในรองเท้าคู่นี้ของฉัน ) นั่นแสดงว่าชีวิตของคุณราบรื่นและคุณมีความสุขกับชีวิตของคุณ แต่ถ้าเป็นตรงกันข้าม มันอาจจะไม่ได้หมายความแค่ว่าคุณต้องการเปลี่ยนรองเท้าคู่ใหม่ แต่หมายถึง เปลี่ยนชีวิตของคุณเสียใหม่ทั้งชีวิต ในหนังเรื่องล่าสุดของโซเฟีย คอปโปลา ผู้หญิงที่เขย่าหัวใจผมมาแล้วครั้งหนึ่งจาก Lost in translation เล่าเรื่องชีวิตตั้งแต่วันแรกของเจ้าหญิงออสเตรียที่ต้องเดินทางเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศสเพื่อสมรสทางการเมืองกับรัชทายาทของประเทศมหาอำนาจ ถึงวันที่เธอได้กลายเป็นพระราชินี จวบจนกระทั่งในช่วงท้ายสุดของชีวิต เท่าที่จำได้ เมื่อครั้งที่หนังไปเปิดตัวฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์นั้น มีข่าวว่าคนฝรั่งเศสลุกขึ้นโห่เมื่อหนังจบ ช่างคนฝรั่งเศสเถอะครับ พวกเขามีเลือดชาตินิยมอยู่ในตัวค่อนข้างสูง ( chauvinism ) จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เมี่อผู้หญิงอเมริกันคนหนึ่งลุกขึ้นมาสร้างหนังเรื่องของพระราชินีต่างชาติที่ต้องทุกข์ทรมานในราชสำนักฝรั่งเศสแล้วพวกเขาจะไม่พอใจ ทั้งที่จริงๆแล้ว ผมว่าหนังของโซเฟียไม่ได้ต้องการเน้นประเด็นสำคัญในส่วนของการวิพากษ์ระบอบราชสำนักฝรั่งเศสมากอย่างที่บางคนอาจจะตีความ ผมว่าประเด็นสำคัญของเธอ มีเพียงแค่ต้องการเสนอภาพของผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่งที่แปลกแยก และ กำลังค้นหาตัวตนที่แท้จริง ในโลกที่เธอไม่รู้จัก และ ไม่นึกฝันว่าจะได้เข้ามาสัมผัสต่างหาก ประเด็นของคนแปลกแยก คนเหงา ที่ถูกขังอยู่ในโลกที่ตัวเองไม่คุ้นเคยนั้น เป็นประเด็นที่ดูเหมือนว่าโซเฟีย คอปโปลา สนใจมาตั้งแต่ครั้งที่เธอทำ The virgin suicides ซึ่งแม้แต่ใน Lost in translation เอง ประเด็นที่ว่านั้นก็เด่นชัดเสียจนไม่อาจจะหลบหน้าหนีได้ มารี อังตัวเน็ต เป็นพระราชินีต่างชาติในราชสำนักฝรั่งเศสที่โดดเด่นเหลือเกิน และนั่นก็เป็นเพราะบุคลิกส่วนพระองค์ ความหลงใหลในแฟชั่น ความฟุ้งเฟ้อสารพันต่างๆของพระองค์นั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร ถ้านั่นไม่เป็นเพราะผลจากความอัดอั้น และโหยหาความสุข ลองนึกถึงเด็กสาวอายุ 14 ที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่เคยเห็นหน้า กับพิธีรีตองสารพัดสิ่งที่เธอต้องเจอตั้งแต่ตื่นนอน และ เมื่อเธอถูกปล่อยให้ยืนเปลือยกาย รอการแต่งตัวจากบรรดานางในราชสำนักลำดับขั้นต่างๆ เธอบ่นว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้น มันช่างไร้สาระสิ้นดี คำตอบที่ได้รับกลับเป็นว่า แต่พระนาง ที่นี่คือแวร์ซายน์ ใช่ครับ ที่นั่นคือแวร์ซายน์ และ มารี อังตัวเน็ต เริ่มรับรู้ เธอใช้มันเป็นหนทางไปสู่ความสุข และ พาตัวเองหนีจากระบบระบอบที่รายล้อมอยู่ เด็กสาววัยรุ่นคนหนึ่งจึงใช้ระเบียบที่กักขังตัวเธออยู่นั้นหนีไปสู่เสรีภาพ และคริสตีน ดันส์ ที่ไม่เคยสวยเลยในหนังกี่เรื่องต่อกี่เรื่องของเธอ ก็สามารถเป็นตัวแทนของเด็กสาวเจ้าปัญหาในโลกที่เธอไม่เคยรู้จักได้อย่างสมบูรณ์ และเมื่อรองเท้าคอนเวิร์สสีฟ้าคู่นั้น ถูกวางอย่างจงใจไว้ท่ามกลางรองเท้าส้นสูงสารพันแบบ ในฉากที่พระราชินีเลือกฉลองพระบาทคู่ใหม่ มันจึงไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแต่เพียงรองเท้าคู่หนึ่งของพระราชินีเท่านั้น หากแต่มันคือตัวแทนทั้งหมดของเธอ โลกทั้งโลกที่เธอโหยหา แต่ไม่มีวันที่จะได้ครอบครอง
ถึงวันที่คุณจะเลือกรองเท้าคู่ใหม่หรือยังครับ
Create Date : 19 มีนาคม 2550 |
Last Update : 19 มีนาคม 2550 3:04:28 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3737 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Lilac Girl วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:23:12:38 น. |
|
|
|
โดย: bua ja วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:13:35:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ดูมา 2 รอบแล้ว แต่ไม่ทันสังเกตรองเท้าผ้าใบ ดูหนังเรื่องนี้แล้วรู้สึกดีนะคะ (เว้นแต่ขอติตรงเพลงประกอบ)