Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2548
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
13 มิถุนายน 2548
 
All Blogs
 

เที่ยวไปงงไป ตอน Inside Tokyo & Disney's Sea ตอนที่ 4/4

ถ้าเปิดมาพบหน้านี้ ขอเชิญอ่าน ตอนที่ 1/4 , ตอนที่ 2/4 และ ตอนที่ 3/4 ก่อนนะครับ เพื่อความสนุก






เหมือนเช่นเคยนะครับ สำหรับผู้ที่ตามอ่านกระทู้เที่ยวไปงงไป ผู้ปกครองควรพิจารณา ห้ามนำไปอ้างอิงเด็ดขาด เอิ๊กส์


วันนี้เราจะไปเที่ยวในโตเกียวครับ ในโตเกียวนั้นนั่งรถไฟง่ายมากครับ เพราะมี Yamonote line หรือ loop นั่งได้สะดวก และมีสถานี (เห็นเค้าเรียกกันว่า Eki) เป็นระยะ ๆ เกือบทุกร้อยเมตร

สำหรับคนที่มี JR Pass นี่ใช้ได้เกือบตลอดนะครับ เว้นรถใต้ดินนะครับ จะต้องจ่ายเอง ส่วนคนที่ไม่ได้มาด้วย JR Pass ขอแนะนำให้ซื้อตั๋ววันครับ ราคา 730 เยน ซื้อได้ที่ช่องซื้อตั๋วนี่ล่ะครับ กดเอา ถ้าทำไม่เป็นจะมีสาวในชุดยูนิฟอร์ม หน้าตาดี (แล้วแต่ดวงนะครับ เอิ๊กส์) มาช่วยสอนให้ ที่นี่เค้าจะมาจัดการให้จนได้ตั๋วนะครับ ประเภทแบบ ให้ทำเอง มองด้วยหางตาน่ะ ไม่มีครับ เค้าจะมาช่วยอย่างเต็มที่จริง ๆ

เพราะฉะนั้นผมก็ทำไม่เป็นทันที 5555

ถ้าต้องการกดเอง หรือว่าคนแนะนำเป็นคุณตาหงำเหงือก ก็มองหานะครับ จะมีเครื่องที่"ใช้"ภาษาอังกฤษอยู่บ้างหรอก


เริ่มที่วัดเจ้าแม่กวนอิมครับ หรือ asakusa kannon ถ้ามาจาก Ueno eki ให้ไปขึ้นรถใต้ดินนะครับ ราคาไปยัง asakusa ก็ 220 เยนครับ


พอขึ้นจาก eki ก็จะพบวัดอยู่เบื้องหน้าเลยครับ เห็นโคมไฟสีแดงเด่นเป็นสง่าอยู่ครับ ปกติคนเยอะทุกวันครับ


โคมไฟยักษ์มากที่หน้าประตูของ asakusa kannon






ประตูนี้ เรียกว่า kaminari mon (kaminari-สายฟ้า, mon-ประตู) เป็นที่นัดพบยอดนิยมครับ โคมแดง ๆ ที่อยู่หน้าวัดเป็นสัญลักษณ์


วัดนี้เล่ากันว่า มีชายชาวประมงสองพี่น้องไปหาปลาในแม่น้ำ Sumida แต่ว่าได้รูปสลักพระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตย์ไตร (ญี่ปุ่นเรียก kannon) มาน่ะครับ เลยเอามาถวายเจ้าเมืองขณะนั้น เลยสร้างวัดขึ้นเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียวก็ว่าได้ (เค้าว่ากันน่ะนะ ผมป่าวว่า)

ว่ากันว่า พระศรีอริยเมตย์ไตรนั้นจะมาปกครองโลกในวันสิ้นโลก จะนำมาซึ่งยุคที่สงบสุขครับ หรือเรียกกันว่ายุคพระศรีอารย์ ซึ่งตามตำราว่ากันว่าเป็นอวตารร่างหนึ่งของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับน่าจะเป็นเพศชายแต่ก็ว่ากันว่าพระฯ ท่านไม่มีเพศครับ ศิลปินบางท่านก็ทำรูปสลักได้อ่อนช้อยบางคนว่าเป็นหญิงไปเลย หรือเป็นเจ้าแม่กวนอิมนะครับ ก็จะมีคนบอกว่าเป็น คันนงพันมือ หรือเจ้าแม่กวนอิมพันมือ ทำนองนี้ครับ


หึ๋ย เผลอมีสาระซะแล้ว ผิด concept ครับ อันนี้เป็นทางเดินเข้าสู่ประตูใหญ่ครับ จะมีร้านขายของเรียงราย ขอบอกว่าของที่มีราคากันเอง พอซื้อได้แต่ว่าไม่ได้แปลว่าถูกนะครับ เดิมคงจะมีต้นซากุระเรียงรายแล้วขายของเป็นรถเข็น (สมัยเก่า) แต่ตอนนี้กลายเป็นห้องแถวหมดก็เลยเอากิ่งซากุระมาเสียบ ๆ ไว้อะครับ

ขอบอกว่า คนไทยเยอะมากครับ เดินไปได้ยินเสียงคนไทยคุยกันสนั่น
5555


ชาวบ้านเดินกันเบียดเสียดเยียดยัดเหมือนจัดงานเทกระจาด แต่ว่าของแพงสุด ๆ โดยเฉพาะเมื่อคิดเป็นเงินไทย




ร้านขายพัดกระดาษ สวยมากครับแต่ว่าคนขายนี่ต้องปรับปรุงอย่างมาก ของสวยมากครับ แต่ว่า ผมพูดไม่รู้เรื่องครับ เลยคุยไม่ได้ใครถามอะไรมาก็ wakaranai yo (ไม่เข้าใจครับ) nihongo wakaranai...(ภาษาญี่ปุ่นไม่เข้าใจคร๊าบบบ) ด้วยความอ้วนตี๋เลยมีญี่ปุ่นต่างจังหวัดเดินมาทักเป็นระยะ ถามรัวเชียว ครายยจะไปฟังออกอะครับท่านก็

เฮ้อ




คุณป้าหน้าตาสูงอายุ น่าจะเป็นเจ้าของร้าน แสดงว่าร้านนี้เก่าแก่มากทีเดียวครับ 5 5 5 อ่า ขอโทษครับคุณป้า จริง ๆ คุณป้าแบบนี้ล่ะ ถึงจะเข้ากับร้านขายของที่ระลึกแบบเก่า ๆ แบบนี้ครับ ดูขลังดี





ร้านนี้ขายอะไรสักอย่างที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ครับ เล่ากันว่าเก่าแก่มาก ๆ (ฟังเค้ามา จากไกด์ที่พูด ๆ ข้าง ๆ 5555 ไม่ได้ไปกับไกด์หรอกครับ)

ที่นี่จะมีของขายเยอะครับ พวก osenbei (อ่านเซมเบ้) เป็นพวกแป้งทอดกรอบ ๆ คล้าย ๆ ข้าวเกรียบ แพงมาก ๆ ครับ เค้าว่าเวลากินก็ให้กินประวัติศาสตร์ไปด้วย เอิ๊กส์ แพง ๆ ๆ


ร้านขายขนมญี่ปุ่นแบบเก่าครับ ลองชิมแล้วรสชาติจะออกหวาน ทำนองขนมกวนเราครับ ส่วน senbei อร่อยมาก ได้รับความนิยม (จากผมคนเดียวรึเปล่าหว่า...) อย่างสูง ว่ากันว่าเป็นขนมที่คนสูงอายุชอบกินกับน้ำชา (อ้าวว ตรู... ครับ แก่แล้วครับ รับก็ได้ ฮึ)





จากนั้นก็เดินฝ่าฝูงชน(ชาวไทย)เข้าไปที่ประตูใหญ่ครับ มีชื่อได้ยินว่าเรียก Hozomon น่ะครับ อันนี้แปลไม่ออกหรอก เข้าประตูไปก็มีเจดีย์ห้าชั้นด้านซ้ายครับผม เป็นเจดีย์ห้าชั้น เค้าเล่า(อีกนั่นแหละ คุณไกด์มะกี้หายไปไหนไม่รู้แล้วครับ T_T ) ว่าห้า (go ) มันเป็นคำที่มงคลแบบประมาณพ้องเสียงกันอ่ะครับ เลยชอบทำซะจริง เจดีย์ 5 ชั้นเนี่ย

คนสร้างนี่คือ Tokugawa Iemitsu (โตกุกาว่า อิเอมิตสึ) เป็นโชกุนสมัยนั้นอะครับ

โคมยักษ์อีกเช่นเคยครับ ได้รับความนิยมมาก ๆ จริง ๆ เค้ามีความหมายต่าง ๆ กันไปตามตัวหนังสือที่เขียนบนโคมล่ะครับ แต่ว่า ไกด์ของกลุ่มคนไทยเมื่อสักครู่นี้หายไปแล้วอ่ะครับ เราก็งงกันต่อไปตาม concept เที่ยวไปงงไปแล้วกันครับ





ด้านขวาเป็นร้านขายธูปเทียนเครื่องลางครับ


ที่เห็นอยู่คือกระถางธูปครับ ที่ญี่ปุ่นจะนิยมพัดควันธูปเข้าหาตัวเพื่อให้เกิดมงคลครับ ตาคุณลุงด้านขวากระถางปะหน้าซะเต็ม ๆ ครับ แบบนี้มงคลมาก ๆ ครับคุณลุง 5 5 5 5

ด้านหลังเป็นวัด asakusa ครับ



ว่ากันว่าควันธูปที่จุดนั้นจะก่อให้เกิดสิริมงคลครับ ตามปกติแค่พัด ๆ เอาให้ควันผ่านหน้าแล้วก็ไหว้ก็พอครับ พอสังเขป






เจดีย์ที่ว่าครับผม



ญี่ปุ่นนี่เค้าจะชอบเลข 5 ครับ เพราะคำว่า Go ที่แปลว่า 5 มันพ้องเสียงกับความหมายอันเป็นมงคล ส่วนจีนจะชอบเลข 9 ตามความเชื่อล่ะนะครับ




เนื่องจากคนมหาศาลมาก ผมไม่สามารถถ่ายรูปมุมสวยได้ครับ เลยไม่ได้เอาภาพในวัดมาปะครับ อืม วัดนี่มีหลายคำเรียกนะครับ เห็นญี่ปุ่นเรียน จิ (ji) แต่คำบรรยายอังกฤษนี่มีทั้ง temple, shrine ... รู้แต่ว่าเป็นศาสนสถานแต่ว่าแปลมะออก

เลยมาถ่ายมุมนี้แทนครับ เห็นซากุระอยู่นิดนึงอะครับ

จะเห็นว่าต้นไม้อื่น ๆ เริ่มมีใบ ซากุระก็จะร่วงไปตามระเบียบครับ






มีลำธารเล็ก ๆ ผ่านข้าง ๆ วัดด้วยครับ (ด้านซ้าย) มีปลาคาร์ฟในลำธารมีคนโยนเหรียญลงไปด้วยอะครับไม่รู้ทำมะเนียมเหมือนกันว่า โยนทำไม

นกตัวนั้นหน้าตาหิวข้าวมาก ๆ ครับ 5555 ถ้าปลาเผลอมีอันเป็นไปแหงม ๆ


คนญี่ปุ่นชอบเลี้ยงปลาคาร์ฟมาก ๆ ครับโดยเฉพาะสถานที่ราชการ บ้านเราถ้าเป็นวัดเห็นจะเป็นปลาดุกปลาช่อน แถมด้วยซุ้มขายขนมปังแน่ ๆ





ถ้าหิวละก้อ ก็หาอะไรกินนะครับ มีของขายหลายอย่าง

อันนี้เป็นเนื้อย่างเสียบไม้ yakiniku อะครับ มีแต่มัน ๆ แบบนี้คนไทยไม่นิยมแต่ขอบอกว่าคนญี่ปุ่นชอบมาก เนื้อที่มีมันแทรกในเนื้อจัดเป็นเนื้อราคาแพง

รสชาตินี่ไม่แน่ใจครับ แต่ไม่เห็นคนกินแฮะ วันนั้น

ไก่ย่าง เนื้อย่าง หอมมาก น้ำลายสอเลยครับ





จริง ๆ มีเป็นซุ้มขายอาหารเลยครับ บ้านเราก็คงประมาณร้านขายขนมจีนร้านก๋วยจั๋บครับ ที่นี่เป็นพวก yakisoba ครับ


ของเล่นก็มีนะครับ ลุงเจ้าของร้านจะเปิดน้ำให้ไหลวน แล้วก็ให้ช้อนเอาของรางวัลครับ


ร้านนี้ใช้ทัพพีครับ แต่บางร้านจะให้เอากระชอนกระดาษบาง ๆ ตักตุ๊กตุ่นตุ๊กตาที่ลอยเท้งเต้งไปมานั่นล่ะครับขึ้นมา สนนราคาต่อ 1 กระชอนก็ 500 yen ครับ ดีแต่ว่า ส่วนใหญ่ถ้าเด็กเล่นก็เห็นคุณตาคนเฝ้าเค้าตัก ๆ แถม ๆ ให้ไป บางร้านก็เป็นปลาทองครับ แต่ว่าคงจะไม่สวยมาก ผ่านมาหลายมือแล้วนี่






บริเวณนั้นจะมีของขายมากมายครับ สาวญี่ปุ่นใส่กิโมโนก็เห็นมีประปรายแต่มักจะเป็นวัยกลางคนเป็นต้นไปครับ สาว ๆ จะแต่งตัวทันสมัยมาก


ร้านขายของก็ขายของแพงครับ มองตาละห้อย อาหารหน้าตาน่ากินร้านเก่าโทรมมาก ๆ แต่ราคาแพงสุด ๆ เค้าเล่ากันว่า ร้านพวกนี้อยู่มานานมาก ประมาณว่ากินลงไป แล้วก็นึกภาพไปด้วยว่า มีซามูไรมานั่งกินข้าง ๆ รสชาติแบบเดียวกัน ทำนองนี้ครับ

ผมขอไปกิน Makudonarudo (แมคฯ) ดีกว่า กินไปหลับตานึกถึงเด็ก ๆ ไปด้วย หึ หึ


ชาวญี่ปุ่นที่แต่งกิโมโนเดินตามถนนนี่ยังถือเป็นปกตินะครับ จะต่างจากบ้านเรา ใครใส่ชุดไทยมาเดินถนนเห็นจะโดนแอบมองว่าบ้าไปแล้นนน ทำนองนี้...





จากนั้นไปที่ชินจุกุ (shinjuku) ครับ ไปเที่ยวตึกสูง ๆ กันดีกว่า


ตึกที่ว่าคือ tokyo metropolitans tower ครับ ว่ากันว่าเป็นที่ทำการของราชการด้วย แต่จะมีหน่วยงานอะไรบ้าง อ่านไม่ออกครับ ผ่าน...


ตึกแถว ๆ นั้นล่ะครับ ไม่รู้จักเค้าหรอก เห็นเค้าสูงดี ถ่ายซะ...





ตึกนี้มีอาณาบริเวณเป็นลานกลม ๆ ครับ รอบด้านมีตึกล้อมรอบเป็นวงกลมครับ

ในลานมีสถาปัตยกรรมมากมาย แถมแถวนั้นมีห้างใหญ่ ๆ เต็มไปหมดครับ

อาคารรูปวงกลมนี้วนรอบลานกลม ๆ ครับ อีกด้านเป็นตึกสูงที่ถ่ายรูปมาข้างบนนู้นนน






ตึกสูง ๆ ล้อมรอบ


มองจากอาคารโค้ง ๆ เป็นวงกลม





ทางเดินเข้า tokyo metropolitans tower ครับ

เห็น lomo ฮิต ขอสักภาพแระกัน (เป็นคำแก้ตัวของการถ่ายภาพไม่ชัดได้ดีมาก 5 5 5)

ห้องน้ำจะอยู่คนละด้านนะครับ ซ้ายชาย ขวาหญิง คนละฟากตึกเลยครับ

ใต้ตึกที่ทำการรัฐบาลสักอย่างที่เล่าว่าไม่รู้จักชื่อนั่นละครับ จริง ๆ เค้าชื่อ Tokyo metropolitans building ชั้นสูง ๆ เปิดให้ชมวิวด้วยครับ






บนยอดตึกก็จะเห็นภาพดังนี้แล

ตึกมันจะมีสองข้างอะครับ เป็น north wing กะ south wing เปิด-ปิด บางวันครับ ไม่ได้เปิดพร้อมกันทุกวัน ข้างบนเป็นลานขายขอวที่ระลึกขายกาแฟ และมีที่ให้ชมเมืองไปทั่ว ๆ มองไปเห็นโตเกียวโดมได้ครับ

มีแผนที่อยู่ครับบนนั้น เป็นภาษาอังกฤษ (ไช โย!!!)


sky view ของเมืองโตเกียว...






จากนั้นไป Ueno koen ครับ เป็นสวนสาธารณะที่มักมาดูดอกไม้กันครับจะมีลานกว้าง มีต้นซากุระ 2 ข้างทางสวยมากครับ

ตามจริง ข้าง ๆ asakusa kannon ก็มีสวยแบบนี้นะครับแต่ไม่ได้ไป


พอออกจากสถานี Ueno ข้ามทางใต้ดินมาที่สถานีอีกด้านซึ่งจะมี narita express มาลงได้ครับ ที่นี่จะมีทางขึ้นสวนเป็นบันไดกว้าง

ที่เชิงบันไดมีชายชราชาวญี่ปุ่น มาวาดภาพพู่กันจีนขายครับ สวยดีรอบ ๆ ก็มีศิลปินอิสระมาวาดภาพ portrait กันเยอะแยะครับ


อันที่จริงภาพที่คุณตาเขียนสวยดีมีพลังทีเดียวครับ แต่ว่าได้แต่มองผ่าน ๆ คุยกันไม่รู้เรื่องแน่ ๆ





ด้านบนเป็นลานกว้างครับ ลมพัดเฉื่อยฉิว สบายดีมากครับ

คนวันที่ไปไม่มากแล้วเพราะซากุระมันโรยไปหมดแล้วครับ


สวนสาธารณะนี้อยู่เหนือสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินครับ ใครที่เดินทางมาจากสนามบินด้วยรถใต้ดินคงเคยผ่านบ้างแล้ว




แต่ว่าก็ยังเห็นเทศกาลยังทิ้งร่องรอยไว้ครับ มีการตกแต่งสถานที่ด้วย

ข้างบนนี้มีร้านอาหารอยู่ร้านนึงครับ รสชาติ... ไม่พูดถึงแล้วกันครับแต่ว่าอาหารเป็น buffet ราคาไม่แพง พันกว่าเยนครับ รสชาติก็... ไม่พูดครับ 5555


บริเวณนี้กว้าง น่านั่งเล่นนอนเล่นมาก ๆ ครับ

ดอกซากุระที่ยังหลงเหลือไม่ร่วงอวดโฉมข้างทางหลังจากที่ส่วนใหญ่ร่วงไปหมดแล้ว




ด้านบนก็มีวัดอีกครับ แต่ห้ามถ่ายภาพครับ ลานบนนั้นก็มีต้นไม้มากมาย สวยดีครับ

ลป เครื่องลางที่นี่แพงครับ

มองจากวัดลงมาด้านล่าง




เดินมาเรื่อย ๆ จะถึงถนนที่นำไปสู่ศาลาว่าการเมืองครับ ถนนเส้นนี้จะเป็นเส้นที่มีคนมาปูเสื่อ รับประทานอาหาร ร้องรำทำเพลงกันเยอะแยะ ช่วงที่ผมไปซากุระร่วงเกือบหมดแระครับ



ทางเดินครับ ขนาดไม่เห็น ซากุระยังสวยเลยครับ อีกอย่างคนมีระเบียบมากครับ ถ้าเป็นหลังเทศกาลบ้านเราคงจะสกปรกน่าดู แต่ในภาพแทบไม่เห็นร่องรอยของงานฉลองเลยครับ





แต่ก็หันไปเห็นพอดีครับ มีซากุระยังบานอยู่อีกต้นนึงครับ บริเวณหน้ารูปปั้นคนขี่ม้า เข้าใจว่าเป็นโชกุนหรือขุนศึกสักคนครับ


ของเหลือครับ แหะ แหะ





เดินสุดถนนก็จะพบศาลาว่าการครับ มีชาวญี่ปุ่นมานั่งพักผ่อนกันมากมายครับ

ถ้าเลี้ยวซ้ายไป จะไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะได้ครับ เสียค่าเข้าชมเป็นเงินจำนวนนึง



ซึ่งแพงงงงง เฟ้ย งือ ๆ


วันที่ไปจะมีนิทรรศการกรีก-โรมันพอดีครับ

ลานน้ำพุหน้าศาลาว่าการ มีคนมานั่งเล่นอาบแดดด้วย และก็นั่งพักก่อนไปที่อื่นครับ ตอนนั้นอากาศยังเย็นค่อนข้างมาก ต้องใส่เสื้อ sweater อยู่เลย





หลังจากนั้นขอเชิญ shopping ตลาดสดญี่ปุ่นครับ ไปที่สถานีรถไฟ Ueno ด้านล่างสถานีจะมีตลาดใหญ่มาก มีคนขายของมากมาย ราคาไม่แพง มีทั้งของสดของแห้ง สินค้าแบรนด์เนมลดราคาก็มีครับพวกน้ำหอมเครื่องสำอาง เสื้อผ้าแถวนี้มีของเล่น disneys ขายด้วยครับ เป็นบางร้าน มีทอง platinum เพชรขายเยอะเหมือนของราคาถูกเลยครับ เพียบ ๆ แต่ว่า

มัวแต่ดูของ ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลยครับ T_T


แล้วก็นั่งรถกลับบ้านดีกว่า ...' - -




สถานีรถไฟ Ueno ครับ






โปรดติดตามตอนต่อไปครับผม





[สมุดเยี่ยม]












 

Create Date : 13 มิถุนายน 2548
8 comments
Last Update : 2 ธันวาคม 2549 23:34:52 น.
Counter : 1637 Pageviews.

 

ปายด้วยยยย

 

โดย: monkeygig 13 มิถุนายน 2548 11:13:12 น.  

 

ตามมาติดๆ มาเที่ยวด้วยคน555

 

โดย: zaesun 13 มิถุนายน 2548 16:09:05 น.  

 

โห...ดูคนเยอะมั่กเลยอ่า

พูดถึงขนม พี่ชายกลับมาซื้อมาเต็มเลย
ออกหวานจัดอย่างพี่ยูว่าอ่ะแหล่ะ

 

โดย: กระดิ่งลม IP: 203.151.87.86 13 มิถุนายน 2548 22:56:52 น.  

 

เห็นภาพแล้วคิดถึงอยากกลับไปอีก...

ที่วัดอาซาคุซะ...ตอนปัดควันเข้าหน้า...เบียดกันน่าดูเลยอ่ะค่ะ

 

โดย: nagoyalover 2 กรกฎาคม 2548 17:40:03 น.  

 

แวะมาตามทัวร์เจเปนจ้า...จะรอตอนต่อไป

 

โดย: marinesnow 8 กรกฎาคม 2548 13:46:06 น.  

 

อยากไปเหมือนกัน แต่ไม่มีโอกาสสักทีคะ

 

โดย: Angel Tanya 9 กรกฎาคม 2548 5:34:00 น.  

 

กำลังจะไปญี่ปุ่นปิดเทอมนี้..ช่วยแนะนำที่พักหน่อยคะ

 

โดย: Kanya IP: 202.5.88.155 29 สิงหาคม 2548 11:18:57 น.  

 

ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ .... หุหุ
ไว้ต่อไป เราจะไปสัมผัสที่นั่นด้วยตัวเองเรย
ตอนนี้ ต้องสัมผัสตามบล๊อกนี้ไปก่อน

 

โดย: MeTaBoLism IP: 61.91.110.36 6 กันยายน 2548 16:38:19 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


dont wanna no
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add dont wanna no's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.