Open my world - day 2 ดมกลิ่นสวิตเซอร์แลนด์
Open my world

Day 2 : ดมกลิ่นสวิตเซอร์แลนด์



คืนแรกที่ออสเตรียผ่านไปอย่างเรียบร้อยทั้งที่หวั่นๆนิด เพราะว่าโรงแรม CD Hotel ใน Salzburg นั้น ดูเป็นแนวค่อนข้างจะอนุรักษ์นิยม ประตูยังใช้กุญแจไข ไม่ใช่คีย์การ์ด เฟอร์นิเจอร์ในห้องก็เป็นไม้แนวโบราณนิดๆ ยิ่งชั้นวางทีวีเป็นตู้ไม้ที่ต้องเปิดประตูตู้เพื่อดูทีวี(รุ่นเก่า) ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศชวนคิดว่าคืนนี้จะได้เจอเจ้าถิ่นไหม

แต่คืนนั้นในออสเตรียก็เรียบร้อยดี เราเข้านอนกันค่อนข้างเร็ว ถึงโรงแรมประมาณ 2 ทุ่ม นอนก็ประมาณ 4 ทุ่ม ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะรายการฟรีทีวีของที่ Salzburg ส่วนใหญ่เหมือนรายการแบบช่อง 11 เมื่อก่อนนี้ ดูจะเป็นพวกรายการการศึกษา หนังหรือละครไม่ค่อยมี แล้วก็พูดภาษาเยอรมันทั้งนั้น มีภาษาอังกฤษแค่ช่อง CNN เลยไม่รู้จะดูอะไร นอนดีกว่า

เช้าวันที่ 2 ตื่นมาตาม Morning call ที่ไกด์ตั้งไว้เป๊ะ แล้วก็ต้องเตรียมตัวขนย้ายของ เพราะวันนี้เราจะข้ามเมืองกันอีกและก็ย้ายโรงแรมอีกครั้ง
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าของที่ CD Hotel เป็นเครื่องยืนยันได้อีกว่าโรงแรมนี้คงเป็นโรงแรมของกรุ๊ปทัวร์จากเอเชีย เพราะนอกจากไส้กรอก แฮม เบคอน แบบอาหารฝรั่งทั่วไปแล้ว เรายังได้เจอหมี่ผัด น้ำเต้าหู้ อีกด้วย


หลังจากอิ่มกับอาหารเช้าแล้ว เราก็ออกเดินทางจาก Salzburg ไปยังที่หมายของการดูงานซึ่งคือเมือง Dornbirn แต่วันนี้อากาศไม่เป็นใจให้ชมวิว เพราะฝนตกเม็ดค่อนข้างหนามาตั้งแต่เช้า และก็ตกทั้งวัน ช่วงเวลาเดินทางบนรถเกือบ 5 ชม.จึงเป็นช่วงเวลาแข่งกันหลับซะมากกว่า



วิวของออสเตรียสวยทีเดียว อาคารใหญ่ก็เก๋ ดูดีมีดีไซน์ ในขณะที่ถ้าเป็นบ้านก็น่ารักดี แต่ละบ้านตกแต่งกันอย่างกะบ้านตุ๊กตา น่าเสียดายที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจให้ถ่ายรูปเลย

ผ่านการนั่งรถจาก Salzburg มา Dornbirn ประมาณ 5 ชม. เราก็แวะกินอาหารเที่ยงกันก่อน โดยอาหารเที่ยงมื้อนี้เป็นร้านที่ทางทัวร์จัดให้ เป็นอาหารฝรั่งแบบ set เริ่มด้วยซุปมักกะโรนีน้ำใส จากนั้นตามด้วยไก่อบ 1 ตัว (เป็นครั้งแรกที่ต้องกินไก่ 1 ตัว ต่อ 1 คน) แล้วปิดท้ายด้วยของหวานคือ พายแอ๊ปเปิ้ล มื้อกลางวันนี้หนักมากเหลือเกิน




หลังจากกินกลางวันอันหนักอึ้งเรียบร้อยก็เดินทางไปยังสถานที่ดูงาน ทำงานอยู่เกือบ 3 ชม. (นั่งรถยังนานกว่าเลย ) ก็ได้เวลานั่งรถข้ามเมือง ข้ามประเทศกันอีกแล้ว คราวนี้จะนั่งข้ามจาก Dornbirn ไปยังจุดหมายคือ Zurich Switzerland

เส้นทางจาก Dornbirn ไป Zurich ทำให้เราได้กำไรเพิ่มขึ้นมา 1 อย่างจากการแนะนำของคนขับรถชาวเยอรมันของคณะ ซึ่งทริปนี้คนขับรถคนนี้ช่วยเหลือพวกเรา (และไกด์) อย่างมาก เพราะว่าเส้นทางส่วนใหญ่ของคณะเราไม่ใช่เส้นทางท่องเที่ยวปกติ (ไกด์ยอมรับว่าหลายที่ก็เป็น First time ของเขา) คนขับต้องขับตาม GPS อย่างเดียว (แต่ GPS ของเขาแน่นอนมาก ไม่เคยพาหลง แต่บางครั้งอาจพาไปทางแปลกๆบ้าง) และหลายครั้งคนขับก็เป็นคนคิดโปรแกรมให้เราอีกต่างหาก ครั้งนี้ก็เช่นกันเขาเห็นว่าเส้นทางของเราต้องผ่านประเทศหนึ่ง และเวลาเรามีเหลือ เขาจึงแนะนำให้เราแวะที่นั่น “ Liechtenstein ”

Liechtenstein เป็นประเทศเล็กๆมีพื้นที่แค่ 160.4 ตารางกิโลเมตร เล็กมากๆจริง มีอยู่กระจุกเดียวก็ทั้งประเทศแล้ว เสียดาย(อีกครั้ง) ที่วันนี้ฝนตก ทำให้เราถ่ายรูปไม่ค่อยได้ และบรรยากาศดูหม่นๆ แต่ถึงดูหม่นๆก็ยังเห็นเค้าความสวยของประเทศนี้อยู่ดี

เราแวะที่ Vaduz เมืองหลวงของ Liechtenstein ซึ่งมีสถานที่ที่เป็นจุดขายที่จะเห็นได้ตามโปสการ์ดก็คือ Schloss Vaduz เป็นปราสาทของ Prince of Liechtenstein แต่ก็ทำได้แค่มองตัวปราสาทบนเขาจากข้างล่างเท่านั้น ไม่มีเวลาพอจะขึ้นไปดูใกล้ๆ เพราะเราเอาเวลาไปช้อบปิ้งกัน ไกด์กะคนขับรถคงเห็นว่าโปรแกรมของเราที่สวิตไม่มีช่องให้ shop เลยแวะให้ซื้อของซะหน่อย







หลังจาก shop กันหอมปากหอมคอแล้ว ก็นั่งรถยาวกันต่อ คราวนี้ฝนเริ่มหยุดแล้ว แต่ท้องฟ้ายังครึ้มอยู่ อากาศค่อนข้างเย็น ทำให้มีหมอก ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นหมอกจากฝนหรือหมอกจากความเย็นของเทือกเขาเอลป์กันแน่ เพราะเส้นทางที่ผ่านนี้เป็นเส้นทางที่มีเทือกเขาเอลป์ทอดตลอดอีกแล้ว แต่คราวนี้มีหมู่บ้านเล็กๆ น่ารัก กระจายอยู่ตามตีนเขา มีทะเลสาบ และก็มีน้ำตกอยู่เป็นระยะ โอ้ววววววววว ............. สวยมากกกกกกกกกกก วิวที่นี่ทำให้อยากได้กล้องตัวใหม่เลยทีเดียว เพราะความอ่อนด้อยของกล้องที่เรามี speed shutter มันช้ามาก กว่าจะกดได้แต่ละรูป วิวสวยๆมันผ่านไปหมดดดดดดดดด ถ่าย ได้มานิดหน่อย ที่เหลือต้องเก็บไว้ในความทรงจำแทน





หลังจากตื่นตากับความงามของหมู่บ้านตีนเขาแล้ว สักพักเราก็มาถึง Zurich มาถึงที่นี่ฝนก็เริ่มตกอีกครั้ง บรรยากาศเลยมืดๆ ไม่ค่อยได้เห็นอะไร รถเราเลยตรงไปกินข้าวเย็นกันเลย







อาหารเย็นวันนี้ก็เป็นอาหารจีนอีกครั้ง แต่เป็นร้านใน Zurich set อาหารจีนที่ทัวร์จัดให้เราเริ่มจับทางกันได้ก็มื้อนี้ มันจะต้องมีผัดปลา 1 อย่าง ผัดไก่หรือหมู 1-2 อย่าง ซุปหรือน้ำแกงอะไรจืดๆ 1 อย่าง ผัดผัก 1 อย่าง และที่ขาดไม่ได้ มีทุกที่ “ ไข่เจียว “ (แต่อาหารที่อร่อยสุดและหมดทุกครั้งก็ไข่เจียวนี่แหละ) กับส้มเป็นผลไม้ปิดท้าย ... เฮ้อ ...


การเดินทางในวันที่ 2 กำลังจะสิ้นสุดลง เราเข้าพักที่โรงแรม Park inn Zurich Airport ปลีกวิเวกสุดๆ ไม่ต้องคิดจะแอบแว้บไปไหนตอนกลางคืนเลย ดีที่โรงแรมนี้ค่อนข้างไฮเทค มี net ให้เล่นฟรีไม่อั้น (แต่ต้องต่อคิว เพราะมีคอมฯ สาธารณะแค่ตัวเดียว) มีฟุตบอลให้ดูในฟรีทีวี และที่สำคัญคืนนั้นเป็นคืนแข่งรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกนัดแรกของ ลิเวอร์พูล – เชลซี เพราะฉะนั้นก็เลยสถิตดูบอลอยู่ในห้องดีกว่า แต่คืนนั้นก็ต้องหลับไปแบบเซ็งๆ จากลูกโหม่งลูกนั้นของริเซ่






Create Date : 09 มิถุนายน 2551
Last Update : 10 มิถุนายน 2551 11:10:52 น.
Counter : 1014 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

อื่นๆอีกมากมายที่ไม่รู้
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



อื่นๆอีกมากมาย....

มากมาย .... ที่ไม่รู้

อาจจะจริงเราเห็นอยู่

แต่เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น
Group Blog
มิถุนายน 2551

1
2
3
4
5
7
8
11
12
13
14
15
16
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30