Enjoy every moment

dolores
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ความงามในส่งที่คนเราพูด
เหมือนความงามของใบหน้าที่น่ารัก

the beauty of what you say
as the beauty of wonderful face

มีเสียงเสนาะในวาทะเหมือนมีความกลมกลืน
เหมือนมีความกลมกลืนในจักรวาล

There is symphonies measure in speech
as the unity of universe.

ทักษะการพูดเหมือนเงาของหยาดน้ำค้าง หรือ
การประสานกลีบของดอกไม้

Speaking skill like waterdrop's shadow
sharmony of patals.


ขอบคุณเพื่อน blogger ที่มอบโค้ด และ คำแนะนำใน
การทำ blog เสมอ
คุณ flueri, fuku, นุ้ยundersunshine*
meaw_kk and ป้ามดค๊า และทุกท่านที่เข้าเยี่ยมจ้า
< > dolores Made with My Cool Signs.Net
Google
Color Codes ป้ามด Kantanyashop

โฆษณาหน้าของคุณด้วยเลยสิ
New Comments
Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add dolores's blog to your web]
Links
 

 

การใช้น้ำมันหอมระเหย และ สรรพคุณ

ถ้าเพื่อนๆ ไม่แน่ใจ ว่าจะซื้อสินค้า น้ำมันหอมระเหย กลิ่นไหนดีน๊า
ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ จะได้มีไอเดียดีๆ


ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำในการใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างปลอดภัย
พึงระลึกไว้เสมอว่าน้ำมันเป็นสิ่งที่ติดไฟได้ง่าย

วิธีการดมเอากลิ่นโดยตรง - หยด น้ำมันหอมระเหย 3-4 หยด บนกระดาษทิชชู่ แล้วดมน้ำมันหอมระเหยจาก
กระดาษทิชชู่

วิธีการ แบบใช้ไอน้ำ - ต้มน้ำ 2 ถ้วย แล้วรินน้ำร้อนไปที่ชาม จากนั้นหยดน้ำมันหอมระเหย 3-7 หยด ให้สูด
เอากลิ่นไอจากชาม

วิธีการให้ความสดชื่นแด่ห้องคุณ - ใช้วิธี แบบใช้ไอน้ำดังที่กล่าวมาแล้ว แต่ไม่ได้สูดเอากลิ่นจากชามโดยตรง
แต่สูดกลิ่นที่กระจายอบอวลทั่วห้อง

กลิ่นที่ใช้ ใช้ตั้งแต่ 10 หยด ขึ้นไป ทั้งนี้ต้องดูว่าน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด เพราะมีกลิ่นมากน้อยต่างกัน

วิธีการใช้ในบ้าน - หยด น้ำมันหอมระเหยลงไปในถังขยะ ถังซักผ้า ที่กำจัดน้ำทิ้ง เครื่องกรองฝุ่น
หรือที่วางกระดาษทิชชู่ จะทำให้เกิดกลิ่นหอม

ในการนวด - ให้ใช้น้ำมันหอมระเหย 20 หยดขึ้นไป ต่อน้ำมันนวด 1 ออนซ์ ในการนวดตัว

ในอ่างอาบน้ำ - หยดน้ำมันหอมระเหย 5 -7 หยด ต่อน้ำ 1 ออนซ์ แล้ว ผสมลงไปในน้ำที่เปิดทิ้งไว้ให้ผสม
กันดีในอ่าง

น้ำมันหอมระเหยที่คุณหายใจเข้าไปในปอด เชื่อว่ามีประโยชน์ทั้งด้านจิตวิทยาและระบบร่างกาย
นอกจากน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติที่กระตุ้นสมอง แล้ว สารเคมีจากธรรมชาติที่ไปสู่ปอดยังช่วยใน
ระบบร่างกายอีกด้วย

กลิ่นน้ำมันหอมระเหย ที่ได้รับความนิยม ได้แก่

1. น้ำมันหอมระเหย - โรสแมรี่ ช่วยขจัดแบคทีเรีย-ขับเชื้อโรค ทำให้สดชื่นแจ่มใสช่วยให้มีสมาธิและมีกำลังใจ ถ้าใช้ในการนวดจะให้ความอบอุ่นกระตุ้นและปรับตัว เหมาะสำหรับผิวมัน



2. น้ำมันหอมระเหย - ลาเวนเดอร์ ช่วยกำจัดแบคทีเรีย และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายขับเชื้อโรคออกไป ทำให้สงบ และผ่อนคลาย ช่วยให้อารมณ์ เกิดความสมดุล ถ้าใช้ในการนวด จะช่วยให้นอนหลับสบายและผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ทำงานหนัก ถ้าใช้ผสมกับครีม-โลชั่นจะช่วยบำรุงผิวและลดความมันบนใบหน้า และยังช่วยสมานแผลได้อีกด้วย


3. น้ำมันหอมระเหย คาโมมายล์ ช่วยทำให้ผิวสะอาด ช่วยให้จิตใจแจ่มใส มีสมาธิแน่วแน่ ถ้าใช้นวดจะช่วยให้รู้สบาย และสงบเหมาะกับผิวแห้งและธรรมดาช่วยให้ผิวหนังรู้สึกผ่อนคลาย


4. น้ำมันหอมระเหย-ยูคาลิปตัส ช่วยให้หายใจโล่ง ช่วยให้มีความกระจ่าง ปลอดโปร่งและมีสมาธิ มีคุณสมบัติ ในการขจัดแบคทีเรียอีกด้วย ถ้าใช้นวด จะช่วยให้สดชื่น และฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกายเหมาะกับผิวธรรมดาถึงผิวมัน


5. น้ำมันหอมระเหย-เป๊ปเปอร์มินต์ ช่วยกำจัดแบคทีเรีย ช่วยให้จิตใจแจ่มใส ปลอดโปร่ง ช่วยให้สดชื่นและมีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับผิวมัน ไม่ควรใช้กับผิวที่แพ้ง่าย


6. น้ำมันหอมระเหย-มะนาว (เลมอน) ช่วยให้สดชื่น แจ่มใส มีสมาธิ ถ้าใช้นวดจะทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น จะช่วยให้รู้สึกร่าเริงและกระตือรือร้น


7. น้ำมันหอมระเหย-เบอร์กาม็อท ช่วยดับกลิ่นและให้ความสดชื่น และเสริมสร้างอารมณ์ให้มีทัศนะในทางบวกมากขึ้น เหมาะสำหรับผิวมัน


8. น้ำมันหอมระเหย-กระดังงา (อีแลงอีแลง) ช่วยให้มั่นใจ และจิตใจสบาย ให้ความรู้สึกคลาสสิก ให้ความอบอุ่นและอารมณ์ รัญจวน ถ้าผสมกับครีม-โลชั่นจะช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ เหมาะสำหรับผิวทุกประเภท


9. น้ำมันหอมระเหย-มะลิ (จัสมิน) ช่วยให้เกิดความมั่นใจ มองโลกในแง่ดี ช่วยผ่อนคลายและเกิดอารมณ์รักใช้ได้กับทุกประเภทผิว และดีมากสำหรับผิวแห้ง


10. สารสกัดจากการบูร ใช้รักษาหนังศีรษะ

11. น้ำมันหอมระเหย จากต้นชา (Tea tree) ช่วยทำความสะอาดผิวได้

12. น้ำมันหอมระเหย-ไม้ซีดาร์ ช่วยให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย

13. น้ำมันหอมระเหย-จากส้ม ช่วยให้การเผาผลาญพลังงาน เป็นไปตามปกติ ช่วยให้สดชื่น ผ่อนคลายความตึงเครียด จากการทำงานหนักมาทั้งวัน และยังให้ความรู้สึกเย้ายวน

14. น้ำมันหอมระเหยจาก-องุ่น ช่วยให้อารมณ์แจ่มใส สดชื่น

15. น้ำมันหอมระเหย- ตะไคร้หอม Lemongrass ช่วยทำความสะอาดผิวได้ดี

16. น้ำมันหอมระเหย-มินต์ ช่วยลดอาการบวมน้ำ และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดี

17. สารสกัดจากกำมะถัน ช่วยให้การเผาผลาญพลังงาน ให้เป็นไปตามปกติ

18. น้ำมันหอมระเหย-ดอกบัว (Lotus oil) ใช้บำรุงผิว

19. น้ำมันจากผลอะโวคาโด ใช้ผสมครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย

20. น้ำมันจากจมูกข้าวสาลี ใช้ผสมครีมบำรุงผิวหน้าและผิวกาย



กลิ่นหอมกับความรู้สึกที่แตกต่าง



1. กลิ่นโรแมนติคหอมหวาน มักเป็นกลิ่นดอกไม้ หอมเรียบง่าย งดงามชื่นใจ เช่น กลิ่นดอกมะลิ ดอกกล้วยไม้ ดอกมูเกต์ ดอกกุหลาบ



2. กลิ่นหอมเร่าร้อน-หยิ่ง-ทะนง-กล้าหาย ได้จากกลิ่นหอมตระกูลเครื่องเทศผสมกับดอกไม้ที่มีกลิ่นไม่แรงนัก ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า รู้สึกถึงความมีอิสระ ความกล้า หยิ่ง ทะนงในตัวเอง เช่น กลิ่นดอกพีโอนี ดอกซาตินวู้ด ดอกแซนดัลวู้ด ไม้แทงก้า



3. กลิ่นแห่งความลึกลับ ค้นหา คล้ายๆ กับกลิ่นหยิ่ง ทะนงแต่ร้อนแรงกว่า มักได้มาจากกลิ่นดอกไม้แรงๆ เช่น ไฮยาซินท์ ราตรี นางกวัก ไม้กระวาน กระดังงา ไลแล็ก มิโมซา โบตั๋นขาว ผกากรองหอมและเครื่องเทศแรงๆ บางชนิด จะทำให้เกิดความรู้สึกเร่งเร้า เข้มข้น รุนแรง และลึกลับ น่าค้นหา


4. กลิ่นหอมเย็นของดอกไม้-พรรณพฤกษา บอกถึงพลังอิสระ เช่นกลิ่นหอมซาบซ่านของ มะนาว มะกรูด มะกรูดอิตาเลี่ยน มินต์ บัวส์เดอโรส น้ำมันพริกไทยดำ ส้มซ่า เฟิร์นหอม เพราะเป็นกลิ่นหอมของสีเขียว จึงให้กลิ่นที่หอมเย็น ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา สดชื่น มักเป็นกลิ่นของผู้ชาย และผู้หญิงแกร่งเก่งและกล้า


5. กลิ่นของความเสน่หา เป็นกลิ่นที่มีความหอมฉุน อบอวลให้ความรู้สึกที่ลึกล้ำ หอมชวนคลั่งไคล้ร้อนแรง มักได้จากกลิ่นหอมที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศ เช่น ขมิ้น กำยาน ยางสน หรือกลิ่นอำพัน กลิ่นชะมด เพราะเป็นกลิ่นที่เร้าใจ เรียกร้องให้ไขว่คว้า


เราจะไม่ใช้น้ำมันหอมระเหยโดยตรง จะต้องผสมกับน้ำมันตัวนำพา เรียกว่า carrier oil ซึ่งเป็นน้ำมันพืช เช่น น้ำมัน grapeseed oil, jojoba, coconut oil or olive oil









 

Create Date : 08 กันยายน 2553
0 comments
Last Update : 9 กันยายน 2553 11:01:08 น.
Counter : 1796 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.