พฤศจิกายน 2552

1
2
3
4
5
9
10
11
12
13
15
17
18
19
20
22
24
25
27
28
29
 
 
All Blog
หมอเถื่อน ณ บ้านไพร ตอนที่ 14

ตอนสายหลังเวลาอาหารผู้กอง จ่าแจ๋วและหมู่แม็กสามคนกำลังปรึกษาเกี่ยวกับแผนการเดินทางอยู่ภายในกระโจมพัก แผ่นแผนที่ภูมิประเทศทั้งขนาดใหญ่ ขนาดเล็กที่มีรายดินสอเขียนอยู่ทั่ว กระดาษโน้ตข้อความสำคัญและเครื่องจีพีเอสแบบมือถืออันวางอยู่บนโต๊ะก่อนหน้า ทำให้ผู้กองให้ความสนใจใช้ความคิดว่าใคร?ที่ใช้ของพวกนี้

 

หมู่แม็กที่กำลังง่วนอยู่กับเครื่องจีพีเอสอีกเครื่องที่เหมือนกัน

 

“คงจะเป็นคุณหมอหรือไม่ก็ผู้ช่วยที่ใช้ของพวกนี้นะครับ”หมู่แม็กที่พูดขณะที่ตายังเพ่งอยู่ที่เครื่องจีพีเอส

 

“ไม่น่าจะใช่ เพราะสองวันนี้ไม่เห็นสองคนนั้น มาที่จุดนี้เลยและที่สำคัญคือนี่!”ผู้กองหยิบสิ่งหนึ่งขึ้นมาชู ก้นบุหรี่เล็กๆแบบที่ใช้กระดาษมวนให้อีกสองคนดู

 

“ผู้กองตาไวจริงๆนะครับผมยืนอยู่ตรงนี้ก่อนตั้งนาน ยังไม่เห็นเลย"หมู่แม็กต้องเกาหัวตัวเองอยู่กรากๆ เพราะเขาเห็นก้นบุหรี่นี้ก่อนแล้วแต่หาได้เฉลี่ยวใจคิดอันใดไม่

 

“ผมเจอว่ามันซ่อนในซอกหลืบอยู่หลายอันเหมือนไม่อยากให้ใครเห็นผมดูหมอสองคนนั้น ไม่น่าจะใช้คนสูบบุหรี่เลย เพราะดูอนามัยจัดอย่างนั้นคนที่ใช้เครื่องมือพวกนี้ คงเป็นคนสูบ และเอาซ่อนไว้แล้วปิดไม่ให้สองคนนั้นเห็นมากกว่า”

 

ทุกรายละเอียดตรงหน้ามิอาจรอดพ้นจากสายตาของนายทหารคนนี้ไปได้  จ่าแจ๋วกำลังสูบบุหรี่ ถึงกับสะอึกควันรีบดับทันทีเพราะลืมไปว่าในนี้มันเต็นท์ของหมอ

 

ร้อยเอกแห่งกองทัพบกไทยยืนกอดอกนิ่ง จับจ้องมองสิ่งของบนโต๊ะตรงหน้าอย่างใช้ความคิด สักครู่ก็สูดลมเข้าปอดเฮือกใหญ่ จนแผงอกกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามในสองวงแขนกอดรัด ดันนูนเป็นสัน ข้อลำแขนอันใหญ่โตแลดูทรงพลัง ซ้ำยังเป็นชายหนุ่ม ซึ่งมีใบหน้าหล่อคมทรงเสน่ห์เยี่องชายชาติทหารดูน่าเกรงขามยิ่ง

 

“ต้องเป็นของเจ้าคนใช่แผนที่นี้แน่”เอามือกุมขมับ หัวคิ้วย่น นายทหารเดินวนเวียน ขณะใช้นิ้วชี้กระดิกๆอย่างใช้ความคิด ก่อนที่ดวงตาอันหรี่ซึมจะเบิกกว้างขึ้น วางมือตุ๊บ!ลงบนกระดาษแผนที่หันคอไปพูดกับจ่

 

“จีพีเอสแม่นยำก็จริงแต่ในแผนที่มีระบุชื่อหมู่บ้านชาวเขา มีจุดสีแดงระบุพื้นที่อันตรายเช่นแนววางกับระเบิด เส้นทางเดินทัพของพวกทหารในป่าในฝังพม่า ที่ไม่มีระบุในจีพีเอสนี้มันจะมีประโยชน์มากในด้านทหารแล้วยังมีโน้ตจิปาถะเช่นถ้ำ แหล่งพืชซึ่งผมไม่เข้าใจอีกมาก คนๆนี้รู้จักประยุกต์ใช้ระบบหาตำบลที่ด้วยดาวเทียม(จีพีเอส)ร่วมกับข้อมูลจากพื้นที่จริงแสดงว่าเขามีความเชี่ยวชาญในฝังโน่นมากที่เดียว”

 

“มันจะนั่งเทียนเขียนขึ้นข้อมูลขึ้นเองหรือเปล่าครับผู้กอง”จ่าถาม

 

นายทหารร่างใหญ่พลันกอดอก เอานิ้วมือเสยคาง ขยับเดินสองสามก้าวด้วยท่าทางครุ่นคิด ก่อนหันขวับมองไปที่คนถาม

 

“ไม่น่าจะใช่ เพราะข้อมูลในนี้เป็นข้อมูลจริงที่ตรงกับข้อมูลลับทางทหารที่เรามีอยู่แล้ว คนๆนี้ถ้าได้มาเป็นสายให้กองทัพจะเยี่ยมมากที่เดียว"นายทหารพูดแต่สายตากวาดมองข้อมูล ในแผนที่รวมทั้งข้อมูลในแผ่นโน๊ตเล็กๆอันกระจายอยู่บนโต๊ะ ซึ่งแต่ละข้อมูลในแผนที่ส่วนใหญ่รวมทั้งในกระดาษโน้ตมันเป็นข้อมูลทางพลเรือน หาญศึกพยายามประมวลข้อมูลทั้งหมดครุ่นคิดไม่รู้ว่าเจ้าของแผนที่ฉบับนี้กำลังหาอะไร

 

หมู่แม็กละสายตาจากหน้าจอ วางเครื่องลง หันมาออกความเห็นบ้าง

 

“จะใช่?!นายสัณฑ์นั้นหรือเปล่าครับผู้กอง”

 

“อือม์..เป็นไปได้มากที่เดียวหมู่” เขาพยักหน้าตอบรับ


 

เที่ยงวัน ณ ตลาดชุมสิงอันมีคนพลุ่กพล่านเช่นเคย ในหมู่ผู้คนยังมีชายคนหนึ่งนอนเอกเขนกอย่างเกียจคร้าน อยู่บนรถจิ๊บสวมแว่นดำ สองเท้าพาดอยู่บนเบาะหลับอย่างไม่สนใจใยดีผู้คนอันเดินผ่านไปมา มาดของเขาเวลานี้แม้แต่นักเลงประจำถิ่นยังไม่กล้าเข้าใกล้

 

“นายสัณฑ์ครับ!..ได้ของครบแล้วครับ”เสียงปลุกเรียกของเล่าอูที่มาวิ่งอย่างกระหืดกระหอบ มาหยุดยืนอยู่ข้างรถแล้ว

 

ร่างผอมเกร็ง แยกเขี้ยวขาวเป็นการตอบรับใต้แว่นดำ“เออว่ะได้มันมาหรือยัง”ขาที่พาดเบาะรถอยู่อย่างนั้น คนหน้าหนวดเอามือปิดปากหาวหวอด ก่อนถอดเอาแว่นดำออกเอานิ้วสีขี้ตาหันมองมา

 

“ได้ของมายัง

 

คนร่างผอมเกร็งยืนยื้มทำท่ากลืนน้ำลาย ยื่นสิ่งของอย่างหนึ่งเป็นขวดมีน้ำสีอำพัน“นี่ครับน้ำมันสมุนไพรงาที่นายอยากได้แฮะๆจะเอาทาหนวดเคราหรือครับ

 

ไม่มีเสียงตอบจากจากชายหนุ่มที่ยังนอนขี้เกียจอยู่บนเบาะรถ เพียงยืนมือไปรับของ หมวกกรีนเเบเล่ต์ซึ่งเขาสวมใส่คิ้วเข้มจมูกโด่งเป็นสันหนวดเคราดกหนาผมยาวถึงบ่าผอมกระหร่องและขมุกขมอมไปทั้งตัว

 

“เออ...จะว่ายังงั้นยังงี้เลยนะครับนายสัณฑ์”เล่าอูหัวเราะคริคริ มายืนกระลิ้มกระเหลี่ยอยู่ข้างรถ

 

“ผมมีเรื่องอยาก..จะพูดจริงๆคือ..ว่าตั้งแต่ผมเกิดมาเป็นไอ้เล่าอูนี้ ยังไม่เคยเห็นใครมีหนวดเครางาม และหล่อเหลา อย่างนายสัณฑ์เลยนะครับ เทียบกันแล้วนายทหารคนไทยคนที่พึ่งมาอยู่แค้มป์ ที่ชื่อหาญศึกอะไรนั่นหน้าตาเค้าก็งั้นๆแหละ เทียบกันกับนายของเล่าอูไม่ติดซักกระติ๊ด...แฮะๆพูดจริงนะครับ”คนขี้ประจบพูดจนน้ำลายกระเด็น ไปโดนขากางเกงสีม่อมของนายสัณฑ์ กุลีกุจอเอาแขนเสื้อของตนเองรีบเช็ดให้อย่างเอาใจสุดฤทธิ์

 

คิกๆๆ..

 

เสียงหัวเราะดังอย่างกวนประสาท อย่างชอบอกชอบใจของชายหน้าโหด(ที่เกตุว่า)ผู้มีบุคลิกอันน่าหมั่นไส้ระคนกวนบาทายิ่ง จะหาความเจริญหูเจริญตาซักนิดไม่มี นายกับบ่าวสองคนผู้สมกันเหมือน ผีเน่ากับโลงผุ ในสายตาของชาวบ้านร้านตลาด

 

“แต่เมื่อเช้านี้มีผู้หญิงคนหนึ่งคิดว่าฉันเป็นผี”

 

คนชอบฟังคำเยินยอเริ่มขัดเคือง คนช่างประจบถึงกับทำตาโตโบกมือว่าเป็นไปไม่ได้ “ไม่จริงไม่จริงครับ ผู้หญิงคนนั้นช่างไม่มีตาเล้ย...จริงๆผับผ่า ที่มาโมเมว่าเทพบุตรของชาวกะเหรี่ยงอย่างนายสัณฑ์ได้”คำพูดสรรเสริญยกยอของเล่าอูเอาใจสุดฤทธิ์สุดเดช คนถูกเยินยอหัวเราะฟันกระทบกันดังกึกๆอย่างชอบอกชอบใจก่อนลุกขึ้นหยิบขวดเหล้าโรงที่พึ่งซื้อมาตบรางวัลคนพูดถูกใจหนึ่งขวดเล่าอูมือสั่นระริกรีบรับมาเปิดขวดเทเหล้าเข้าปากอย่างกระหาย สมประสงค์ที่ใจอยากทันที

 

เหล้าพร่องไปกว่าครึ่งขวด ตาขี้เมาจอมปะเหลาะก็เชมาเกาะประตูรถสอพอต่อ

 

“อีกเรื่องหนึ่ง นานาย ผมรู้นะว่าเมื่อคืนเป็นนายที่จัดการพวกทหารห้าคนนั้น นายเจ๊ง เจงๆ คนเดียวจัดการสะเรียบวุธ ไอ้พวกทหารป่ามันชอบมากร่างแถวนี้หายหัวไปหมดเลย บารมีนายสัณฑ์แท้ๆเพราะมีนายสัณฑ์กะนายหมออยู่ทำให้ชาวเผ่าแถบนี้ถึงได้อยู่อย่างสงบสุข”

 

รอยยิ้มนั้นหุบทันทีนายสัณฑ์ที่จ้องมาส่ายหน้าเป็นเชิงไม่ให้พูดเรื่องนี้ เล่าอูที่พูดไปก็กรึ๊บเหล้าไปถึงกับสะดุดเหล้าอึกในคอกะเหรี่ยงขี้เหล้าวัยกลางคนที่พูดไทยได้เป็นน้ำใช้คารมปะเหลาะแลกเหล้าคนไปทั่วรู้ดีว่านายสัณฑ์คนนี้ยามปกติก็พูดเล่นชวนหัวได้อยู่หรอกแต่ยามจริงจังขึ้นมานั้นน่ากลัวมากโดยเฉพาะดวงตาที่คมกริชคู่นั้นเห็นแล้วเลือดแทบแข็งตัวที่เดียว

 

นายสัณฑ์ที่พรวดลุกไปนั่งเบาะคนขับสตาร์ทเครื่องยนต์รถทันที

 

“ไปโว้ยเล่าอูเอาของขึ้นรถ! ไร้สาระมาตั้งนานแล้ว”

 

“ได้ครับลูกเพ่...” เอามือตะเบ้ะ แบบทหาร สปริงตัวโดดวูบเข้าไปอยู่ตอนท้ายกะบะ การพูดหยอกเล่นของพวกเขาจบลงแล้ว

 

“คราวนี้เราต้องเอาสมุนไพรไปมากหน่อย แน่ใจนะว่าได้สมุนไพรที่สั่งมาครบน่ะ

เทพบุตรหน้าโหดหันกลับถามอย่างเป็นการเป็นงาน

 

ร่างเจ้าขี้เมานอนแอ่งแม้งตอบมา“ได้ครบครับนาย คราวนี้ได้สมุนไพรเด็ดๆหลายตัวที่เดียว ว่าแต่คราวนี้เราจะไปไหน?ต่อนะ”เล่าอูที่รีบซุกขวดเหล้าไว้หลังรถแล้วยกเอากระสอบผ้าที่บรรจุสมุนไพรไว้ท้ายรถจิ๊บยาสมุนไพรที่เพิ่งซื้อจากในตลาดนี้เอง

 

“ไปโน่น เมืองตานพยูซยัดในรัฐมอญของสหายซอว์สตีฟไง”

 

“เเล้วอย่าลืม ไปถึงแค้มป์แล้วรีบเอาใบฝรั่งมาเคี้ยวดับกลิ่นเหล้าด้วย ปะเดี๋ยวนายหมอได้กลิ่นเหล้าเข้า จะว่าได้ จะพาลตำหนิถึงฉัน หมอกฤษณ์ยิ่งจู้จี้จุกจิกนิสัยเหมือนยายแก่อยู่ด้วย”

 

“แล้วกัลนายสัณฑ์จะไม่กลับเข้าแค้มป์เหรอเล่าอูที่ถามจากที่นั่งเบาะหลัง

 

“ไม่ไปโว้ย!ขี้เกียจเจอหน้ายัยเด็กบ้านั้น ไม่รู้จะดั้นด้นมาทำไมถึงนี้! ฉันจะส่งถึงแค่ปากทางแล้วนายเดินแบกของเข้าไปเอง เออ แล้ว..อย่าลืมเรื่องดับกลิ่นปากซะล่ะ”

 

“ครับผม!ลูกเพ่แต่…เอ? นายทำยังกะว่ารู้จักคุ้นเคยกับผู้หญิงคนนั้นล่ะ”

 

“ก็คงงั้นล่ะวะ!”กระชับแว่นดำเข้าดั้ง ก่อนมือสับเข้าเกียร์ จิ๊บเก่ารุ่นสงครามโลก เร่งเครื่องเสียงดังกระหึ่ม เพราะคนขับเหยียบคันเร่งพุ่งทะยานออกไป

 

หม้อต้มซุปใบใหญ่ตั้งไฟบนหินก้อนเส้า ส่งกลิ่นและควันโขมง จ่าแจ๋วพุงโตนั่งคุมหม้อคุมไฟด้วยตนเอง ใบหน้าดำอวบกลม มีไรหนวดเล็กน้อยใส่เสื้อยืดสีดำตัวคับๆ รัดพุงแทบไม่อยู่ ใส่สายสร้อยพระเครื่องชะเต็มคอ นั่งยองๆ เอาทัพพีตักคนหม้อ ก่อนวักน้ำซุปข้นขึ้นมาซดเสียงดังโฮกก...

 

“กำลังทำอะไรกินอยู่จ่า กลิ่นหอมโชยมาเลย ท่าทางน่าอร่อย”

 

ผู้กองเดินมาดูอย่างอารมณ์ดี สูดกลิ่นไปด้วย

 

“ต้มยำงูสิงครับผู้กอง หมู่แม็กกับทองปามันไปได้งูสิงมา”

 

เลียริมฝีปากไปด้วยเพราะความเผ็ดร้อน ดึงชายเสื้อยืดมาเช็ดปากและลำคออวบใหญ่ ที่ตอนนี้ใบหน้ากำลังมันเยิ้มจากความร้อนหน้าเตาไฟ ผู้กองลงมานั่งยองๆชะโงกหน้าดูในหม้อ ดูเครื่องแกงและเนื้อ(งู)ที่กำลังเดือดพล่าน ส่งไอร้อนขึ้นมา

 

“อืม..แต่ผมรู้มาว่า งูสิงตอนหน้าฝน ถ้าเอามาทำแกง มันจะคาวไม่อร่อยนี้ จ่าทำยังไงถึงทำแกงซะหอมโซยขนาดนี้นะ”ก้มลงชะโงกหน้าไปใกล้หม้อ จมูกไล้สูดกลิ่น คนเป็นทหาร ต้องกินง่ายอยู่ง่ายเช่นนี้เสมอ โดยเฉพาะจ่าแจ๋วเป็นพ่อครัวหัวป่าที่สามารถปรุงอาหารจากสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ชีวิตในป่าทำให้ทหารอย่างพวกเขาต้องกินไม่เลือก

 

“ไม่มีปัญหาครับผู้กอง ผมมีสูตรพิเศษในการแกง ใส่ขิง ข่า ตะไคร่ พริกแห้งเยอะๆหน่อย คือใส่เครื่องแกงเยอะๆ เพื่อตัดคาว เคี้ยวไฟแรงนานๆแค่นิ อร่อย”ซูดปากไปด้วย เผ็ดเสียจริง จ่าต้องเอานิ้วมือปาดเหงื่อที่คิ้วพลางซูดปาก ก้มๆเงยๆ เอาฟืนซุนเข้าเตาไฟอย่างว่องไว

 

“เออ แล้วนี่จ่าเห็นน้องเกตุหรือเปล่า?เห็นหายไปตั้งนานแล้ว”ผู้กองขอทัพพีมาตักชิมน้ำแกงบ้าง ถามขึ้น

 

“เห็นหนูเกตุบอกว่า จะไปช่วยคนของหมอเก็บฟืนที่ชายป่าใกล้ๆนี้เอง พวกคง เดช โย่งก็ไปด้วย เห็นสามคนนั้นร่ำๆ ว่าจะขอกินต้มยำงูด้วย รอพวกนั้นขนฟืนกลับมาก่อน แล้วเราจะได้กินพร้อมกันเลย”

 

นายทหารหนุ่มถือทัพพีค้าง ถึงชะงักเงยหน้ามองท้องฟ้า บัดนี้เค้าลางเมฆฝนก่อตัวดำทะมึน ลมแรงจากหน้าผาพัดยอดมะม่วงดังครืน..เปลวไฟในเตา ลุกวูบวาบตามกระแสลม

 

“แล้วกัน คงจะไม่เปียกฝนกลับมาซะก่อนนะ ดูท้องฟ้าตอนนี้ชิเมฆฝนดำทะมึนกำลังมาทางนี้ด้วย”

 

ชายป่าใต้เนินต่ำลงไปจากแค้มป์พัก ป่าไผ่โค้งทึบคล้ายเป็นหลังคาป่า มีทางเดินแคบๆ รกทึบด้วยวัชพืชท่วมหน้าแข้ง กลุ่มคนที่ยืนประจันหน้ากันสองฝ่าย  คง โย่ง เดช รับหน้าที่เก็บฟืน บัดนี้กำลังยืนขวางทางนายสัณฑ์เคราดำ การมาเจอะมาเจอกันอย่างบังเอิญที่สุด คนหน้าหนวดต้องเอามือกุมขมับ หายใจออกแรงดังเฮือก! อุตส่าห์เลี่ยงหลบมาเดินในป่าแล้วแท้ๆ ยังเจอกันอีก ถนนมันแคบเหลือเกิน

 

“เฮ้ย!!”

 

วัยรุ่นตัวจี๊ดและเลือดร้อนอย่างคง ชี้หน้า เปิดฉากก่อนทันที

 

“ไอ้โจรป่า! แกกับพวกเรามีเรื่องต้องสะสางกันโว้ย! เรื่องเมื่อเช้าที่แกกล้าแกล้งหลอกผี ลูกพี่หญิงของพวกกู ลูกพี่เค้าฝากมาเอาคืนโว้ยถึงจะตัวเล็ก แต่ก็แสบสุด เยียดขาถีบอากาศ ดีดเศษดินติดรองเท้าใส่หน้าวืดๆ

 

คนหนวดเคราทำปากบื้อ พองลมในปากราวกับเบื่อชีวิตนี้ที่เกิดมา แว่นดำทึบปิดพรางดวงตาจนมองสีหน้าอารมณ์ไม่ออก ยืนนิ่งเป็นหุ่น บนบ่าสะพายเป้ข้ามไหล่ ทำปากบูดบึ่งแล้วหันหน้าไปทางอื่นเสีย ราวกับไม่อยากจะสนใจ ว่าใครที่ยืนขวางหน้า มาดยียวนของเขาเวลานี้ระดับตุ๊กตาทองทีเดียว

 

เห็นท่าทางไม่รู้ร้อนหนาว นักเทควันโดวัยรุ่นร่างเล็กครางฮึ่ม! แหมมันยวนนักกางแขนกั้นเพื่อนวัยรุ่นอีกสอง ยังไงก็จะขอเปิดศึกเป็นคนแรก ชี้นิ้วด่าท้าทายอีกครั้ง

 

“เฮ้ย!!ไอ้บ้า!กูกำลังพูดกับมึงอยู่ไม่ได้ยินเรอะ!หูแตกรึไง!?”

 

ถลนแขนเสื้อ เดินรี่เข้าแล้ว อีกฝ่ายยังเฉย เชิดหน้าสูง

 

“ไม่ต้องห่วง! กูจะดวลกับมึงตัวต่อตัวเอง ไม่มีรุมแน่นอน”คนร่างเล็กแต่สุดห้าวเหลือเกิน เริ่มเต้นฟุตเวิร์ก ตั้งอยู่ในท่าพร้อมสู้แบบเทควันโด้สไตล์ และเตรียมชาร์จเข้ามาได้ทุกวินาทีแล้วกับคนมาดกวนตรงหน้า

 


 

 




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 28 เมษายน 2556 9:04:27 น.
Counter : 2819 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แจ็ค ในสวนถั่ว
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



ยินดีต้อนรับสู่บ้านของคนชอบคิดชอบเขียนครับ
New Comments