มีนาคม 2554

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
เจ้าชายหิ่งห้อยกับเจ้าหญิงแสงจันทร์ บทที่ 12
“มันจะดีหรือครับ ให้ผมนุ่งผ้าขนหนูแค่ผืนเดียว”

บุญส่งยิ่งอิดออด เมื่อต้องมานุ่งผ้าแค่ผืนเดียวอยู่กับผู้หญิงสองต่อสอง ภายหลังวิภาแกล้งทำเครื่องดื่มหกรดเสื้อผ้าของเขา ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการของสาวประสบการณ์สูงที่ต้องการรสรักครั้งแรกของเด็กหนุ่ม ถึงเวลานี้บุญส่งก็ใช่จะซื่อนักเพราะรู้ว่าเธอต้องการอะไรจากเขา เงินเป็นปึ๊กกว่าห้าหมื่นมันเป็นเงื่อนไขที่ปฎิเสธไม่ได้จริงๆ

ประสบการณ์รักครั้งแรกของบุญส่งกำลังจะเริ่มขึ้น

ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!

“มีดอกไม้มาส่งค้า!”

เสียงเคาะประตูยิ่งถี่รัว คนข้างนอกยิ่งเคาะแรงรบกวนภารกิจรักของคนทั้งคู่ยิ่งนัก วิภาพาลหมดอารมณ์ที่กำลังมาได้ที่ รู้สึกฉุ่นเฉียวยิ่งนัก สวรรค์ของเธอกับเด็กหนุ่มนักส่งดอกไม้กำลังจะได้ที่อยู่แล้วเซียว

“เอะ! ใครกันก็ฉันไม่ได้สั่งอะไรไปนี่”

ออกไปได้ คนข้างนอกเจอดีแน่ หล่อนก้าวเดินหุนหันไปเปิดประตูแล้วก็ต้องร้องกรี๊ด! สุดเสียง เมื่อมีผู้หญิงถือไม้ยืนจังก้าอยู่หน้าประตู นัยน์ตาขวางบ่งบอกว่าจะมาหาเรื่องแน่ แนนนี่เที่ยวทุบประตูทุกห้องตามหาจนมาถึงห้องนี้จนได้ แขกเรื่อทั้งชั้นวิ่งวุ่นแตกตื่นกันหมด

นางเสือสาวชี้กระบองใส่หน้าวิภาตะคอกเสียงดัง

“เธอไม่เกี่ยวถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปให้พ้นหน้าฉันเดี๋ยวนี้!”

ไฟราคะของวิภาแทบจะหมดเชื้อในทันที ผู้หญิงตรงหน้าเหมือนคนบ้าหรือเมายา ยังไงหล่อนก็ห่วงชีวิตของตนเองมากกว่าเรื่องอื่นแน่ ขืนช้าหล่อนอาจจะโดนฆาตกรรมเลยรีบวิ่งหนีออกไปทั้งที่ใส่แค่เสื้อคลุมตัวเดียว

“เราพบกันอีกจนได้นะ”

แนนนี่ยังทำใจเย็น หันไปมองบุญส่งที่นุ่งแต่ผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว ธนบัตรใบละพันหว่านอยู่ทั่วเตียง มันช่างเป็นวิมานที่เต็มไปด้วยเงินทองและราคะยิ่งนัก พฤติการณ์มันเป็นไปตามที่เธอคาดไว้ทุกอย่างบุญส่งเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัวเห็นแก่เงิน เธอจะปล่อยให้คนพรรค์นี้ลอยนวลต่อไปได้อย่างไร

“มะ.มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณแนนนี่ คะ..คุณกำลังเข้าใจผิดนะครับ”
หัวใจเหมือนจะหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ผู้หญิงนัยน์ตาขวางคนนี้คงจะเชื่อสิ่งที่เขาพูดได้ยาก ทุกสิ่งที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้มันยากจะแก้ตัวว่าเขากับวิภาจะทำอะไรกัน

เพี๊ยะ!

หนึ่งฝ่ามือตบใบหน้าของชายหนุ่มจนหน้าหัน

นัยน์ตาของเธอแดงช้ำ กัดริมฝีปากจนห้อเลือด

“นี่สำหรับพ่อโรสของฉันที่นายนอกใจเขา”

จะแก้ตัวยังไงข้อกล่าวหาของลูกสาวเจ๊โรสที่มีต่อเขาคงแก้ไม่ขึ้น นางเสือสาวเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อเขาให้ได้ หยิบธนบัตรมาปาใส่หน้า เหวี่ยงหมอนทุบซ้ำ ยิ่งทุบหนักขึ้น บุญส่งได้แต่ปิดป้องจากแรงบ้าของเธอ น้ำตาและความแค้นคับอกมันผสมโรงออกมา เธอทั้งทุบทั้งต่อว่าต่อขาน ก่อนหน้าเธอพยายามมองชายคนนี้ในแง่ดีตามที่พ่อขอร้องแต่เวลานี้ถึงต้องฆ่าคนต้องติดคุกเธอก็ไม่กลัวอีกแล้ว

“โอ๊ย! โอ้ย!พอทีเถอะครับคุณแนนนี่”

“ไอ้ผู้ชายขายตัว!นายอย่าอยู่ให้หนักโลกเลย”

บุญส่งทำได้แค่กัดฟันทั้งหลบทั้งปิดป้องจากแรงบ้าของเธอ

“ผู้ชายเฮงซวย!”น้ำตาของเธอยิ่งไหลพรากลงสองแก้ม“นายมั่วกับคนอื่นไปทั่ว นอนได้ทั้งผู้ชายผู้หญิงไม่เว้นเพียงเพื่อขอให้ได้เงิน นายเคยคิดถึงพ่อของฉันมั้ยว่านายอาจจะติดโรคร้ายมาปล่อยใส่พ่อของฉันเข้าสักวัน นายเคยคิดถึงหัวอกของลูกเมียกับญาติพี่น้องของคนที่นายไปมั่วบ้างมั้ย!”

คราวนี้เป็นกระบองหวดลงไม่ยั้ง บุญส่งรับด้วยสองมือแต่ผ้าผืนน้อยเจ้ากรรมปมมันจะหลุดลุ่ย ผ้ามันจะหลุดเอาให้ได้ เขากำลังจะเปลือยกายต่อหน้าผู้หญิงเป็นครั้งแรก ไม่ใช่วิภาที่ซื้อเขาด้วยเงินแต่เป็นแนนนี่ลูกสาวของเจ๊โรส คนที่เกลียดเขาจนอยากจะฆ่าให้ตายในตอนนี้

ผ้านุ่งก็จะหลุด กะบาลก็จะโดนตี

สถานการณ์คับขันมีแต่เขายังมีฝีมือพอจะเรียกกุหลาบแดงออกมา

“กุมารแดงช่วยพ่อด้วย!”

เรดโรสสีเลือดนกทิ่มไปโดนจมูกของนางแบบสาวทันทีเลยสูดเอาเกสรกรุ่นกลิ่นกามเทพเข้าไปแบบเต็มที่ยิ่งออกฤทธิ์เร็ว กะบองร่วงหล่นหลุดจากมือ ร่างบางโงนเงน ร่วงผล็อยลงไปนั่งกับพื้น กระโปรงสั้นหมิ่นเหม่มิได้ตั้งใจจะให้เปิดหวอออกมา เสื้อคอกว้างเนินหนันจึงล้นทะลักยั่วยวนต่อสายตา เธอได้แต่สะบัดหน้าเร่าๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง ความโกรธเกลียดเมื่อครู่เหมือนมีบางสิ่งพัดพาจนไปไกลลิบ

เลือดกำเดาของชายหนุ่มแทบพุ่งเมื่อเห็นแพนตี้ตัวจิ๋วเข้าเต็มตา อารมณ์ทะลึ่งไม่รู้เวลามันดันเกิดขึ้น

“บ้าจริงๆ”

ร่างน้อยในผ้านุ่งดันตื่นตัวขึ้น ดันผ้าจนหลุดหมดสิ้นกันสิ่งอันควรปิดบัง บุญส่งอายแทบไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน รีบเอามืออุบเป้าไว้ ทั้งที่กับวิภาเมื่อครู่มันกลับหลับใหลไม่กระดุกกระดิก รึว่ากลิ่นของกุมารแดงก็เล่นงานเขาด้วยมันถึงเป็นเช่นนี้

นางแบบสาวได้แต่นั่งนิ่งงัน มืออังสองแก้ม อายจนผิวหน้าแดงเป็นลูกตำลึงจะด้วยฤทธิ์กามเทพแดงหรือสัญชาตญาณที่เธอมาเห็นสิ่งอันต้องปิดบังนั้นเข้าเต็มตา หัวใจเต้นแรงเหมือนมีกลองตีกระหน่ำอยู่ข้างใน ความโกรธเกลียดปานจะฆ่าฟันกันเมื่อกี้แทบจะถูกล้างไปจนหมดสิ้น เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตนเองเลย ภาพทุกอย่างที่เห็นมันจึงดูสวยงามไปหมด

“บุญส่ง..”

เธอเรียกชื่อเขาเสียงสั่น หายใจออกยืดยาว ดวงตาเว้าวอนในความเสน่หา

“หากนายต้องการเงินละก้อฉะ..ฉันจะให้เงินนายเอง”

<><><><><><><><><><><><><><><><>




กรุ๊งกร๊ง กรุ๊งกริ๊ง

“ดอกไม้มาส่งครับ..”

เสียงกระดิ่งทองของบุญส่งดังอยู่ที่ปากประตู ญาดารีบดันตัวลุกขึ้นนั่งทันทีจากที่นอนเตียงคนไข้มาทั้งวัน บุญส่งกับดอกไม้ของเขาเป็นสิ่งเดียวที่เธอรอคอยมาตลอดทั้งวัน วิมลกำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้ให้คนไข้สาวอยู่ได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจ หลายวันมานี้บุญส่งช่างเป็นคนที่สม่ำเสมอในการนำดอกไม้มาเยี่ยมไข้ญาดาเสียจริงรวมทั้งเมื่อได้ฟังเรื่องราวแต่หนหลังของอดีตศิษย์วัดทั้งสอง ทำให้ผู้จัดการส่วนตัวอย่างเธอไม่อยากจะกีดกันบุญส่งอีกต่อไป
สิ่งที่แปลกไปจากวันแรกที่พบเขาก็คือ รอยพกซ้ำตามใบหน้าหรือว่าส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายของหนุ่มหน้าสวย วันนี้ก็มีพลาสเตอร์แปะที่หน้าผาก ญาดานึกแปลกใจถามว่าไปโดนอะไรมา บุญส่งเพียงหลบสายตากลัวเผยพิรุธบอกเพียงว่ามันเป็นอุบัติเหตุ

แนนนี่ช่างใจร้ายนัก ตั้งแต่โดนเธอพบที่โรงแรม เขาถูกเธอตบตีมาตลอด รอยพกช้ำตามเนื้อตัวล้วนมาจากนางแบบสาวเจ้าอำรมณ์ เพื่อปิดความลับไม่ให้นางแบบสาวบอกเจ๊โรสรู้ว่าเขาคิดจะหาเงินจากการขายตัว บุญส่งเลยต้องยอมเธอ โชคดีในโชคร้ายที่แนนนี่เสนอเงินให้เดือนละแสนบาทเพื่อแลกกับที่เขาไม่ต้องหาเงินจากการค้าประเวณีอีก

พวกผู้หญิงนอกจากพี่ญาดาเป็นอะไรที่บุญส่งไม่เข้าใจเอาเสียเลย

“วันนี้พี่ญาดาดูสดใสขึ้นนะครับ”เขาเปลี่ยนเรื่องคุย

หญิงสาววันนี้ยังคงมีความแช่มชื่นทานข้าวและผลไม้ได้มาก วิมลรายงานมาให้เขาฟังอย่างอารมณ์ดี

หลายสัปดาห์ผ่านไปที่อาการป่วยของญาดายังคงทรงตัวอยู่และทำท่าจะอาการดีขึ้นจนเป็นที่แปลกใจของเหล่าแพทย์ที่ทำการรักษา มีการวิเคราะห์ค้นหาสาเหตุเพราะกรณีของคนไข้สาวต่างกับคนป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายอื่นๆ มีบางสิ่งที่ไปค่ำจุนอาการป่วยของเธอไว้ เซลล์มะเร็งหยุดการแพร่กระจายจนพวกหมอต้องรีบศึกษาหาสาเหตุจนไปพบว่าสิ่งใกล้ตัวของคนไข้สาวนั่นคือเหล่ากุหลาบแสนสวยที่บุญส่งเพียรเอามาเยี่ยมไข้ทุกวันมีผลต่ออาการป่วยของเธอ

ญาดาบอกว่าดอกกุหลาบของเขามีกลิ่นที่พิเศษมาก จนคุณหมอเอาไปตรวจในห้องแล็ปแล้วก็พบสารเคมีบางอย่างที่น่าจะเอามาใช้ในประโยชน์ทางการแพทย์ อาการของญาดาที่ทรงตัวอยู่ได้อาจจะเพราะดอกกุหลาบของเขาก็เป็นได้

“หากเป็นไปได้จริง ดอกกุหลาบของบุญส่งอาจจะช่วยพี่หรือคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งได้ทั่วโลกเลยนะ พวกหมอ พากันตื่นเต้นกันยกใหญ่ พากันสอบถามหาต้นตอของกุหลาบเหล่านี้ ไม่แน่อาจถึงกับค้นพบตัวยาชนิดใหม่ของโลกในแปลงดอกไม้ของบุญส่งก็เป็นได้”

บุญส่งไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสำคัญกับญาดาได้ถึงขนาดนี้

“ดอกกุหลาบของผมช่วยพี่ญาดาเอาไว้”

มันคือข่าวดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา ดอกไม้หาใช่มีค่าแค่เอาไว้ชื่นชม

“พี่ญาดาเชื่อในเรื่องปาฎิหาริย์ไหมครับ”

เขาตื่นเต้นจนดูเหมือนเด็ก ญาดาได้แต่หัวเราะอย่างเอ็นดู

“พี่เชื่อซิจ้ะตั้งแต่ได้พบกับบุญส่งพี่ก็เชื่อแล้วว่าปาฏิหาริย์มีอยู่จริง”

ทุกสิ่งในโลกช่างแปลกยิ่งนัก เธอป่วยด้วยโรคร้ายแต่กลับยังเต็มไปด้วยความหวังในการมีชีวิตตั้งแต่ได้พบกับเด็กหนุ่มคนนี้ เธอรู้สึกเหมือนตนเองได้ย้อนเวลาไปอยู่โรงเรียนวัดกับเณรน้อยแก่แดดที่ไม่ยอมโตคนนี้อีกครั้ง

“ถ้าเช่นนั้นแต่ผมเชื่อว่าปาฏิหาริย์อยู่ตรงหน้าของผมแล้ว”

ดวงดาวในดวงตาของหญิงสาวท่อประกายมิรู้จบสิ้น บุญส่งกำลังหลงไปในหมู่มวลดารานั้นอย่างมิอาจถอนตัว เธอส่งมือให้ หนุ่มร่างเล็กในชุดทักซิโด้น้อมกายเข้าหาจนได้รับรอยจูบรสสัมผัสที่หน้าผากอย่างนุ่มนวล ณ วินาทีนี้เขาเชื่อแล้วว่าเธอคือยอดเสน่หาเป็นปาฏิหาริย์ในชีวิตของเขา

ต่างโอบกอดกัน บุญส่งยิ่งสัมผัสถึงไออุ่นที่ใฝ่หามานาน ความรักจากเพศแม่ที่เขาแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าเคยได้รับจากที่ไหนมาก่อน กับรินและแนนนี่ เขารู้สึกใจเต้นและร้อนรุ่มราวกับคนกระหายน้ำกลางทะเลทราย ต้องการดื่มให้ดับร้อนเพียงชั่วครู่เท่านั้นแต่กับญาดาเธอคือความสงบเยือกเย็นดั่งในท้องมหาสมุทร จะไม่มีวันทุกข์ร้อนอีกต่อไป

“ปล่อยพี่ได้แล้ว”

เธออึดอัดเพราะบุญส่งกอดจนแน่นเกิน

“ขอโทษครับพี่ญาดา”

“ไม่เป็นไรจ้ะ”

ญาดานึกสงสารบุญส่งมากกว่า เด็กคนนี้ขาดความรักจากคนเป็นแม่เลยหลงทางคิดว่าเขารักเธอแบบหนุ่มสาว แต่ยังไงเธอก็ยินดีเป็นพี่สาวให้ได้ ความสุขและรอยยิ้มของบุญส่งก็คือความสุขของตนเช่นกัน

“ต่อไปนี้พี่จะเรียกชื่อจริงของเธอนะ พี่จำชื่อของเณรน้อยในอดีตได้แล้วนะ
คนอย่างเธอคงจะเป็นที่รักของทุกคนสมกับชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้มา”ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับแก้มของน้องชายที่น่ารักอีกครั้ง เอ่ยชื่อของเขานุ่มนวล

“ดวงหทัยของฉัน”

<><><><><><><><><><><><><><>

สตูริโอ ท่ามกลางไฟแสงสี คนทำงานกำลังวิ่งกันวุ่นกับการเตรียมฉากถ่ายแบบถัดไป นางแบบสาวอาศัยช่วงพักกอง ออกมาเดินข้างนอกรอคนของเธอ

“ทำไมนายบุญส่งตัวดียังไม่มาอีกนะ นี่จะให้ฉันคอยไปถึงไหนกัน”
เธอบ่น รู้สึกไม่ได้อย่างใจเอาเสียเลย

ผู้จัดการสาวแตกเดินส่ายสะโพกแน่นหนายักย้ายตามมา มือถือตลับเครื่องสำอางมาด้วย

“เดี๋ยวบุญส่งก็มาเองนะ ก็ทุกวันเขาออกจะตรงเวลาดีนี่นา”เจ๊นายแอบปลื้มบุญส่งอยู่ไม่น้อย พักหลังนี่ได้เจอหน้ากันทุกวันจนเริ่มคุ้นเคยแต่ก็ไม่เข้าใจแนนนี่เอาเสียเลยที่เหมาจ่ายดอกไม้จากร้านของพ่อ ให้บุญส่งเอามาส่งทุกวันอยู่ได้ เจ๊นายไม่อยากจะคิดว่าเธอจะอยากเหมาตัวคนส่งดอกไม้ด้วยหรือเปล่าก็บุญส่งเป็นเด็กในออฟชั่นของเจ๊โรสพ่อของเธอเองนี่นา

สกู๊ดเตอร์สีชมพูพึ่งจะเดินทางมาถึง ท้ายรถบรรทุกช่อกุหลาบสีสวย นางแบบสาวดูเวลาบนนาฬิกาข้อมืออย่างหงุดหงิด บุญส่งมาช้ากว่าเวลานัดหมายไปมาก เธอเดาได้ไม่ยากเลยว่าบุญส่งมาช้าเพราเหตุใดก็คงจะเหตุผลเดียวคือไปออดอ้อนญาดาที่โรงพยาบาลมาอีกแน่

ชายหนุ่มในชุดทักซิโด้หอบเอากุหลาบมาถึงตรงหน้าหญิงสาว คุกเข่าลงข้างหนึ่งแล้วยื่นดอกไม้ให้แก่เธอ สาวประเภทสองยืนดูอยู่ถึงกับใจเต้นระริกระรี้เป็นปลื้มอย่างมาก บุญส่งทำราวกับมาขอแนนนี่แต่งงานเลย

“ขอบใจ”

เธอกระแทกเสียง

หญิงสาวรับเอาช่อดอกไม้มามองอย่างเฉยชา ดอกไม้ช่อนี้ไม่คู่ควรกับเธอ ทันใดนั้นก็โยนมันลงถังขยะทันทีชนิดที่เจ๊นายอยากจะกรี๊ดลั่นเพราะเสียดายดอกไม้สวยๆ บุญส่งมองตามตาละห้อย เธอทำร้ายจิตใจของเขาด้วยการทำร้ายดอกไม้ที่ไม่มีความผิดได้ลงคอ

เพี๊ยะ!

เธอสะบัดหลังมือกระทบใบหน้าของบุญส่งแม้ไม่แรงแต่มันคือการลงโทษ

“นี่คือบทเรียนของนายที่ปล่อยให้ฉันมายืนคอย”เธอเกลียดผู้ชายมักมากในกาม เจ้าชู้หลายใจที่สุด บุญส่งคือตัวแทนของผู้ชายที่เธอเกลียดทั่วโลก
“ฉันซื้อตัวนายเดือนละแสน หวังว่านายคงจะจำมันได้ อย่ามาขัดใจฉันอีกเป็นครั้งที่สอง”






Create Date : 14 มีนาคม 2554
Last Update : 14 มีนาคม 2554 18:15:09 น.
Counter : 578 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แจ็ค ในสวนถั่ว
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]



ยินดีต้อนรับสู่บ้านของคนชอบคิดชอบเขียนครับ
New Comments