ชีวิตอิสระสไตล์ doctor-u
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
11 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
ตอน คริสติน่า(พลิกล็อค)

เล่าเรื่องข้ามมาถึงสมัย ผมเรียนจบเฉพาะทางสูติ บ้างนะครับ เรื่องนี้พิจารณาอยู่นานว่าผิดจรรยาบรรณรึเปล่า แต่ดูแล้วไม่น่าผิด เพราะไม่ได้เปิดเผยชื่อคนไข้ สถานที่ก็ไม่เปิดเผย นอกจากนี้เรื่องนี้ยังน่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับคนที่กำลังจะแต่งงานและอยากมีบุตร

หลังจากที่ผมเรียนจบเฉพาะทางสูติ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย(เหนื่อยจริงๆเรียนเฉพาะทาง 3 ปีเนี่ย เหมือนผ่าด้าน 18 มนุษย์ทองคำของเส้าหลินเลย เหอๆๆ) ก็กำลังตัดสินใจว่าจะทำงานรัฐหรือเอกชนดี พอดีจังหวะนั้นก่อนที่จะเรียนจบ4 เดือน คุณพ่อ(คนจีนเรียก เตี่ย) ป่วยเป็นมะเร็งพอดี ผ่าตัดเสร็จแล้วให้ยาเคมีบำบัดต่อ ก็เลยต้องหางานทำใกล้ๆบ้านหน่อย ตำแหน่งงานรัฐ ก็ไกลซะเหลือเกิน ก็เลยทำงานรพ.เอกชนเล็กๆในกรุงเทพเพื่อหาเงินมาช่วยค่ารักษาคุณพ่อ หลังจากทำได้ประมาณ 2 เดือน พ่อก็ expire ก็ทำต่ออีก 4 เดือน ก็ย้ายไปทำต่างจังหวัด แต่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ตอนนี้จะกลับเข้ารับราชการคงยากแล้ว ตัดสินใจทำเอกชนเลยดีกว่า

ได้งานที่จังหวัดนึง ก็ไปทำงานสูติ และช่วยตรวจคนไข้ทั่วไปบ้าง เนื่องจากคนไข้สูติ ไม่ค่อยเยอะ ทำงานที่นี่ก็สบายๆ ทำงาน 5 วัน ครึ่ง วันที่ว่างก็เที่ยวน้ำตกบ้าง รีสอร์ทบ้าง

วันนี้ไปทำงานตามปกติ มีคนไข้ผู้หญิงมาฝากครรภ์ (ต้องผู้หญิงซิ ผู้ชายคงไม่ฝากครรภ์หรอก อิ อิ) อายุน่าจะ 17-18 ปี
คนไข้มาคนเดียว แฟนไม่ได้มาด้วยเนื่องจากต้องทำงาน


อั้ม "มีอาการอย่างไรบ้างครับ"
คนไข้ "มีคลื่นไส้ อาเจียน นิดหน่อยค่ะ"
อั้ม "ตั้งครรภ์ 8 สัปดาห็ ก็แบบนี้แหละครับ อาการก็จะเป็นอย่างนี้ประมาณ ช่วง3-4 เดือนแรก เดี๋ยวก็ดีขึ้นครับ
ระหว่างก็กินยาแก้แพ้ไปก่อน"


หลังจากตรวจร่างกายคนไข้เสร็จ ก็ให้คนไข้ไปตรวจเลือดสำหรับการฝากครรภ์ แล้วนัดมาฟังผลเลือดอีก 1 สัปดาห์ หลังจากได้ผลเลือด ผมดูแล้วตกใจ รีบตามคนไข้มาด่วน
คนไข้ก็คงตกใจเหมือนกันว่าทำไมตามมาแบบด่วนมาก ที่จริงก็ไม่ต้องด่วนขนาดนั้นหรอกครับ แต่บังเอิญผมจบมาใหม่นะครับ มีอะไรต้องรีบบอกคนไข้ไว้ก่อน เดี๋ยวมีอะไรทีหลังเค้าฟ้องร้อง ผมหละแย่เลย


อั้ม "มีผลเลือดผิดปกติตัวนึงครับ"
คนไข้ "ร้ายแรงมากมั้ยค่ะ"
อั้ม "คุณมีเลือด กรุ๊ป บี ครับ"
คนไข้ "มีอะไรอีกค่ะ" คนไข้รีบถามอย่างเร่งรีบ ก่อนที่ผมจะพูดต่อ
อั้ม "ความเข้นข้นเลือด เม็ดเลือดขาว เกร็ดเลือด ปัสสาวะปกติครับ"
คนไข้ "ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ค่ะ" ขัดจังหวะเราอีกแล้ว
อั้ม "ผลซิฟิลิส กับตับอักเสบชนิดบี เป็นลบ แต่...."
คนไข้ "แต่อะไรค่ะ (แต่ ช้า แต่ หรือเปล่านะ)" ขัดอีกแล้ว
อั้ม "คุณมีผลตรวจเลือดเอดส์(Anti-HIV) เป็นบวกครับ"

คนไข้ เริ่มสีหน้าจะร้องไห้ปนตกใจ

คนไข้ "คุณหมอแน่ใจนะค่ะ แล้ว.. แล้วหนูต้องทำอย่างไรบ้าง"

อั้มต้องพยายามทำสีหน้าให้เรียบ ให้ดูหน้าเชื่อถือ(เมื่อยหน้าหมือนกันนะเนี่ย)
อั้ม "ผลยืนยันแน่นอนครับ ต้องเจาะเลือดแฟนเพิ่มครับ"
คนไข้ "แล้วติดถึงลูกมั๊ยค่ะ"
อั้ม "ติดต่อได้ครับ โดยเฉพาะระหว่างคลอดมีโอกาสสูงสุด แต่ก็ติดได้ตั้งแต่ก่อนคลอดแต่เปอร์เซ็นต์จะลดลง แต่ปัจจุบันมียากินป้องกันเด็กครับ โดยต้องกินยาตั้งแต่ 7 เดือน จนคลอด พอเด็กออกมาก็ให้ยาต่ออีกพักนึง
โอกาสติดต่อถึงลูกจะเหลือ 6-7 เปอร์เซ็นต์"

คนไข้น้ำตาไหลแล้วอ่ะ ผมก็พยายามปลอบอยู่พักนึง คนไข้พูดเหมือนโกรธแฟนมาก หลังจากนั้นคนไข้ก็ลากลับไป

ถัดมาอีก 1 วัน คนไข้พาแฟนมาตรวจเลือด พยาบาลบอกว่าทะเลาะกันก่อนเข้าห้องตรวจ ผมต้องอธิบายให้สามีคนไข้ฟังก่อน สามีก็ตกลงเจาะเลือด(คงไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน)

หลังจากได้ผลเลือดทำให้ผมปวดหัวขึ้นมาทันที เรื่องใหญ่อีกแล้ว จะอธิบายอย่างไรดีฟะ หลังจากเรียบเรียงคำอยู่พักนึง ก็เรียกคนไข้กันแฟนเข้ามาพบ


อั้ม "ผลเลือด คุณผู้ชาย(เรียกซะหรู) เป็นลบ ไม่มีเชื้อเอดส์ในร่างกายครับ"

ผู้ชายแทบกระโดดตัวลอย เอาหละซิ ตอนแรกผู้หญิงเหมือนจะกินผู้ชาย ตอนนี้ผู้ชายแทบจะกินผู้หญิง

อั้ม "ถ้าอย่างงั้น ผมขอคุยกับคนไข้หน่อยนะครับ เดี๋ยวแฟนรอข้างนอกก่อนนะครับ"

อั้ม "ต้องถามคุณตรงๆนะครับ เคยมีแฟนมาก่อนรึเปล่า"(ถามในแง่ดี ไม่กล้าถามว่ามีกิ๊กรึเปล่า)
คนไข้ "เอ่อ เคย.. เคยค่ะ เพิ่งเลิกกันได้ 4-5 เดือน ก่อนมีแฟนคนนี้แหละค่ะ"
อั้ม "แฟนคนปัจจุบัน รู้มั๊ยครับ"
คนไข้ "ไม่รู้ค่ะ"

ผมก็อธิบายเรื่องโรคต่ออีกเล็กน้อย หลังจากนั้นคนไข้ก็ลา
กลับ ผู้ชายก็คงอยากถามผมแหละว่าของเค้าเป็นลบ แล้วทำไมผู้หญิงถึงเป็นบวก แต่คงไม่กล้าถาม พลิกล็อคพอสมควรตอนแรกคิดว่าผู้หญิงติดเชื้อมาจากแฟนใหม่แน่นอน แต่กลายเป็นแฟนใหม่ปกติ ที่ไหนได้ติดมาจากแฟนเก่า เฮ่อ กรำ


เรื่องนี้เคยเจอครั้งนึงตอนเรียนเฉพาะทาง ไม่นึกว่าจะมาเจอข้างนอกอีก น่าสงสารทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ผู้หญิงก็ติดมาจากแฟนคนก่อน ส่วนแฟนคนปัจจุบันก็โชคดีที่ไม่ติดเชื้อ แต่ก็เริ่มไม่ไว้ใจแล้วว่าผู้หญิงมีกิ๊กรึเปล่า คงต้องเครียร์กันอีกเยอะ หลังจากนั้นผมก็ไม่เจอคนไข้คนนี้อีกเลย



Create Date : 11 มิถุนายน 2552
Last Update : 12 มิถุนายน 2552 9:31:49 น. 3 comments
Counter : 407 Pageviews.

 

เข้ามาบันเทิงและเก็บความรู้กลับไปอีกแล้วคร่า ^^



โดย: แม่ค้าหน้าหวานเจี๊ยบ วันที่: 12 มิถุนายน 2552 เวลา:6:16:37 น.  

 
น่าสงสารผู้หญิงกับลูกในท้องนะคะ

แต่กรณีนี้ผลเลือดแฟนใหม่เป็นลบ สงสัยว่าอาจจะต้องนัดมาตรวจซ้ำรึเปล่าคะ กลัวว่าอาจจะยังอยู่ในช่วง window period น่ะค่ะ


โดย: Beam of Love วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:20:30:19 น.  

 
ผมให้ข้อมูลไม่ครบ ให้เพิ่มเติมละกันอย่างว่าเรื่องมันผ่านมา อาจลืมๆบ้าง

ที่จริงช่วง window period ติดได้ก็จริง แต่โอกาสไม่เยอะ(เพราะปริมาณเชื้อยังไม่เยอะ) คนนี้ตั้งครรภ์ 8 สัปดาห์ ไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกือบ 6 สัปดาห์ immune น่าจะต้องขึ้นแล้ว (ถึงแม้จะใช้ถึง 3 เดือนก็เถอะ) ที่จริงคนนี้
ผมก็เคยตั้งข้อสังเกตเหมือนน้อง BOL ว่านั่นแหละ นัดเค้ามาตรวจ แต่เค้าก็หายไปทั้งคู่
สมัยเรียนที่บอกเจอนั่นตรวจเลือด 2 ครั้ง ปรากฎว่าสามีลบทั้ง 2 ครั้ง โคตรโชคดี ปรากฏว่าผู้หญิงเคยมีสามีมาก่อน


โดย: big head วันที่: 13 มิถุนายน 2552 เวลา:23:30:27 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

big head
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]








Friends' blogs
[Add big head's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.