|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
มองตลาดค้าปลีกในญี่ปุ่น
ร้านค้าปลีกที่คนไทยได้ยินเดี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น เช่น Family Mart หรือ 100 Yen Store น่าจะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันดี
ในประเทศไทยผู้เขียนไม่แน่ใจว่ารูปแบบของโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้บริโภคหรือประชาชนในราคาที่ถูกกว่าร้านค้าปลีกและเป็นสิ่งที่คนไทยยอมรับหรือไม่ยอมรับ แต่ถ้าบรรดาร้านค้าปลีกหรือร้านค้าโชวห่วยตามชุมชน ตลอดจนห้าวสรรพสินค้าหรูต่างๆ ยังคงขายราคาแพง เอาเปรียบผู้บริโภค การค้าปลีกในรูปแบบของโมเดิร์นเทรดคงจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้บริโภคคนไทย ที่ประเทศญี่ปุ่นธุรกิจค้าปลีกโดยเฉพาะปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงที่สูง สิ่งที่เป็นคำสำคัญของธุรกิจค้าปลีกคือ การห้ำหั่นกันด้วยราคา นั่นคือที่มาของดีสเคานต์สโตร์ (Dis-count Stores (DS)) เป็นผู้ริเริ่มในเรื่องนี้ ปัจจุบันนี้ห้างซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าก็โดดเข้าร่วมการแข่งขันด้วยเหมือนกันโดยเฉพาะมีการขายสินค้าในราคาที่ต่ำบางรายการ เมื่อผู้บริโภคเริ่มคิดถึง คุณค่าที่จะได้รับจากเงินที่จ่ายไป ร้านลดราคาหรือดิสเคานต์สโตร์ใหม่ๆ จึงกลายเป็นที่ติดตลาด ซึ่งในระยะแรกๆ สินค้าจากโรงงานไปยังร้านค้าปลีกยังไม่ได้ถูกลงเพราะต้องผ่านระบบจัดจำหน่าย แต่ในปัจจุบันสามารถขายลดราคาได้เพราะมีการลดต้นทุนในส่วนการจัดจำหน่ายได้ รูปแบบดีสเคานต์สโตร์ในญี่ปุ่นโดยทั่วไปจะเป็นดังนี้
การแข่งขันของดีสเคานต์สโตร์มีสูงมากขึ้น จึงเกิดรูปแบบใหม่ของดีสเคานต์สโตร์เนื่องจากไม่มีใครที่จะควบคุมราคาขายได้จึงทำให้เกิดรูปแบบใหม่ของร้านค้าปลีกโดยเฉพาะในประเภทดีสเคานต์สโตร์ ซึ่งรูปแบบใหม่ของดีสเคานต์สโตร์ในญี่ปุ่นจะมี เช่น Hyper Market, Clearance Stores, Outlet Stores, Dollar Discount Chain Stores, Home Centers และ Wholesale Clubs.
ร้านค้าปลีกอีกลักษณะหนึ่งที่มีเป็นจำนวนมากคือ ร้านโชวห่วยติดแอร์หรือร้านคอนวีเนี่ยนสโตร์ ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วเร็วมาก มีสินค้าหลากหลาย เปิดทำการ 24 ชั่วโมง พื้นที่ขายมากกว่า 90 ตรม. มีสินค้า 3,000 รายการ ซึ่งในปี 2000 มีร้านคอนวีเนี่ยนสโตร์ในญี่ปุ่นมากถึง 50,000 ร้าน ที่ดังๆ เช่น 7-11, Lawson, Yamazaki, Family Mart ฯลฯ ส่วนใหญ่แล้วร้านคอนวีเนี่ยนสโตร์จะเป็นในรูปของแฟรนไชนส์ คนที่จะเปิดร้านแบบนี้ได้ต้องมีทุนประมาณ 2.5-3 ล้านเยน (8-9.6 แสนบาท) ดูๆ แล้วบ้านเราก็แข่งขันรุนแรงไม่แพ้กัน!!
Dr.Danai Thieanphut Managing Director DNT Consultants
Create Date : 04 กรกฎาคม 2551 |
Last Update : 4 กรกฎาคม 2551 23:26:52 น. |
|
3 comments
|
Counter : 3912 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ศิริกัลยา (YUCCA ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2551 เวลา:23:59:19 น. |
|
|
|
โดย: Devonshire (Devonshire ) วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:13:19:10 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำด้านจัดการกลยุทธ ( ผู้นำและริเริ่มการจัดทำ Balanced Scorecard & KPIs) การบริหาร HR ที่เน้นความสามารถ (Competency Based Approach) การพัฒนา HRD-KM และ การจัดการสมัยใหม่ *************************
|
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อปีที่เเล้วที่เมืองไทยถ้าจำไม่ผิดล้านหรือล้านห้าหมื่นบาท เราเเพงกว่าญี่ปุ่นอีกเหรอเนียย?
ที่ญี่ปุ่นมองไปไหนก็ร้านคอมบิทั้งนั้น ตัังเป็นดอกเห็ดมากกว่าเมืองไทยอีกค่ะ