|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
กลยุทธ์โตแนวลึก แผนปั้นรายได้ สยามแม็คโคร
เมื่อถึงยุคต้องโฟกัสจุดเด่นของตัวเองให้ชัดเจนเพื่อความอยู่รอดในสนามแข่งขันที่รุนแรง สยามแม็คโคร จึงเลือกโตด้วยกลยุทธ์แนวลึก มุ่งทำธุรกิจสินค้าและบริการด้านอาหารแบบครบวงจรเท่านั้น
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : ตอนนี้การแข่งขันรุนแรง ทุกคนควรมีจุดยืนของตัวเองชัดเจน ไม่ใช่เก่งไปหมดทุกอย่าง อย่างเราเลือกโตในเชิงลึกทางด้านอาหาร เพราะช่วยให้วางไดเร็คชั่นและการตลาดได้ตามตรงจุด ซึ่งเราต้องการเจาะลึกไปเลยว่า อาหารประเภทไหนเหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มไหน สุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผล พร้อมเสริมว่า
โดยการโตด้วยกลยุทธ์แนวลึก จากการรุกสินค้าและบริการด้านอาหารอย่างเต็มตัว ถูกกำหนดเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของทางแม็คโคร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและการเติบโต ที่แม็คโครทุกแห่งทั่วโลกต้องดำเนินการ
สำหรับประเทศไทยได้เห็นภาพตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2546 ในการปรับปรุงและพัฒนานโยบายเรื่องของอาหารให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มจำนวนและความวาไรตี้ ตลอดจนเพิ่มพื้นที่ขายสินค้าอาหารทั้งประเภทสดและแห้ง
จนปัจจุบันสินค้าและบริการด้านอาหาร สร้างยอดขายให้กับแม็คโครคิดเป็นสัดส่วน 85% จากยอดขายทั้งหมด ซึ่งถือเป็นรายหลักที่สำคัญก็ว่าได้
และชัดเจนยิ่งขึ้นกับการโตในแนวลึก เมื่อล่าสุดตัดสินใจขายหุ้นแม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์ บริษัทที่ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน ภายใต้ชื่อ ออฟฟิศเซ็นเตอร์ ซึ่งทางสยามแม็คโครถือหุ้นอยู่ 99.99% และสร้างรายได้อยู่ที่สัดส่วน 2% จากรายได้ทั้งหมด ให้กับทางบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ ซีอาร์ซี
โดยพนักงานจำนวน 365 คน และสาขาทั้ง 16 สาขา ของออฟฟิศเซ็นเตอร์ จะถูกโอนให้ทางซีอาร์ซี (แท้จริงแล้วออฟฟิศเซ็นเตอร์มีสาขาทั้งหมด 18 สาขา แต่มี 2 สาขาตั้งอยู่ในตัวห้างแม็คโคร คือ สาทร และแจ้งวัฒนะ โดยทั้งสองสาขาจะถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่อย่างอื่นและไม่ได้ถูกโยกให้กับซีอาร์ซี)
การขายหุ้นครั้งนี้ เหตุผลนอกจากทาง สุชาดา ต้องการโฟกัสธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจด้านอาหาร ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หลักแล้ว
อีกส่วน มาจากความแตกต่างในการบริหารจัดการธุรกิจ กล่าวคือ แม็คโคร เป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าแบบชำระด้วยเงินสดและบริการตนเอง (Cash and Carry) ที่มุ่งเน้นธุรกิจด้านอาหาร ขณะที่ออฟฟิศเซ็นเตอร์ค้าปลีกสินค้าด้านอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานที่ต้องมีบริการจัดส่ง
การขยายสาขา ก็ถือเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ในการสร้างการเติบโตให้กับทางสยามแม็คโคร ซึ่งปีนี้เตรียมงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะนำไปปรับปรุงสาขาเดิมให้อยู่ในรูปแบบใหม่ที่เอื้อกับการโฟกัสธุรกิจอาหาร
โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโฮเรก้า ที่ประกอบด้วยกลุ่มภัตตาคาร และร้านอาหาร โดยเตรียมนำรูปแบบใหม่นี้ไปใช้ปรับสาขาในทำเลแหล่งท่องเที่ยว ที่เป็นศูนย์รวมโรงแรมและร้านอาหาร เช่น กระบี่ เกาะสมุย และเตรียมนำไปใช้ในสาขาภูเก็ต
ส่วนสาขาใหม่ ยังไม่มีแผนขยายสาขา ด้วยเหตุผลไม่มีใบอนุญาตก่อสร้าง เนื่องจากความไม่ชัดเจนของกฎหมายค้าปลีกค้าส่ง หรือ พ.ร.บ.ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ที่ไม่สามารถออกมาบังคับใช้ได้ตามกำหนด
ทั้งนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เชื่อว่า การโฟกัสการโตในแนวลึกจากการมารุกสินค้าและบริการด้านอาหารแบบครบวงจร จะส่งผลให้บริษัทมีการเติบโตประมาณ 22% จากปีที่ผ่านมาปิดยอดขายรวมไป 63,934 ล้านบาท
จาก กรุงเทพธุรกิจ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2551 08:00:00//www.bangkokbiznews.com/
Create Date : 06 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 6 มิถุนายน 2551 13:29:10 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2780 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]
|
ที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำด้านจัดการกลยุทธ ( ผู้นำและริเริ่มการจัดทำ Balanced Scorecard & KPIs) การบริหาร HR ที่เน้นความสามารถ (Competency Based Approach) การพัฒนา HRD-KM และ การจัดการสมัยใหม่ *************************
|
|
|
|
|
|
|
|