'คาร์ฟูร์'ลงทุน4พันล.สยบข่าวขายบิ๊กซี คาร์ฟูร์ปฏิเสธลั่น ไม่ขายกิจการให้บิ๊กซีตามข่าวลือ เปิดแผนลงทุนต่อเนื่อง ประกาศทุ่มงบฯ 4 พันล้าน เปิดสาขาเพิ่มอีก 28 สาขา ภายใน 3 ปี พร้อมตั้งเป้าโกยกำไรทะลุพันล้าน พร้อมวางตำแหน่งแบรนด์พรีเมี่ยมหนีแข่งราคา เล็งเพิ่มสินค้าเฮาส์แบรนด์เพิ่มจาก 3,000 เอสเคยู หลังจากเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา (25 เมษายน) มีข่าวว่าคาร์ฟูร์จะขายกิจการให้กับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เนื่องจากผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย นายฟิลิปป์ โปรยานิโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทขอปฏิเสธข่าว ข่าวที่ลงไปโดยส่วนตัวไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็สามารถสร้างความปั่นป่วนและเสียหายให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนของพนักงานกว่า 7,000 คน ที่เริ่มวิตกกังวลกับอนาคตของบริษัทหลังจากที่มีข่าวดังกล่าวออกมา และในส่วนของซัพพลายเออร์ที่โทรศัพท์เข้ามาสอบถามต่อเนื่องตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นบริษัทได้ชี้แจงกับพนักงานเป็นการภายในเพื่อสร้างความเข้าใจและให้ทำงานตามปกติ สำหรับซัพพลายเออร์คงไม่ต้องชี้แจงเพราะบริษัทถือโอกาสชี้แจงผ่านทางสื่อมวลชน "ที่ผ่านมาคาร์ฟูร์มีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนจริง แต่หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน พร้อมกับเป้าหมายทิศทางที่ชัดเจน ก็ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นทั้งยอดขายและกำไร ตรงนี้น่าจะเป็นตัวชี้วัดได้ว่าเราตั้งเป้าทำธุรกิจชัดเจนและไม่คิดจะขายกิจการให้ใคร พร้อมทิ้งท้ายว่า ถ้าจะขาย หรือบิ๊กซีจะซื้อ ทำไมไม่เข้ามาซื้อตอนสองปีก่อนที่กิจการไม่ดี" พร้อมกันนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเซ็นคาร์ ยังกล่าวด้วยว่า บริษัทยังมีแผนจะเดินหน้าลงทุนในประเทศไทยตามแผนที่วางไว้ คือ ภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2553 จะลงทุนอีก 4,000 ล้านบาท เพื่อเปิดสาขาเพิ่มอีก 26-28 สาขา จากปัจจุบันที่มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 29 สาขา โดยรูปแบบยังคงความเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มี 3 รูปแบบ คือ คาร์ฟูร์มินิ ที่มีพื้นที่ประมาณ 2,000 ตร.ม., สาขาที่เรียกว่าคอมแพ็กต์ 4,000 ตร.ม. และไฮเปอร์มาร์เก็ต ตั้งแต่ 6,000 ตร.ม.ขึ้นไป นายฟิลิปป์ โปรยานิโก ยอมรับว่า ที่ผ่านมาการดำเนินงานของคาร์ฟูร์ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่มีการเร่งขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากที่บริษัทปรับแผนการทำงานใหม่ในช่วงที่ผ่านมาทำให้การเดินหน้าของคาร์ฟูร์มีทิศทางที่ดีขึ้น เห็นได้จากยอดขายและกำไรการเติบโตของบริษัทที่เพิ่มขึ้น โดยสรุปยอดขายปี 2550 ที่ผ่านมากำไรเพิ่มขึ้น 430 ล้านบาท จากยอดขาย 23,700 ล้านบาท และคาดว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นถึง 1,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า สำหรับปีนี้คาดว่ารายได้คาร์ฟูร์จะโตขึ้นเท่าตัวจากปีที่แล้ว คือ 12% นอกจากนี้ภายในองค์กรยังได้มีการปรับการทำงานเชิงรุกมากขึ้น ปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่และทีมงาน พร้อมวางตำแหน่งแบรนด์คาร์ฟูร์ก้าวสู่ความเป็นแบรนด์พรีเมี่ยมหนีคู่แข่งในตลาดเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ตที่มีระดับและคุ้มค่าเงิน เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายระดับบนและกลาง รวมทั้งการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น สำหรับสินค้าที่เป็นไพรเวตแบรนด์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเซ็นคาร์ กล่าวว่า บริษัทจะเพิ่มความสำคัญมากขึ้น โดยภายในสิ้นปีนี้จะขยายจำนวนเอสเคยูให้เป็น 5,000 เอสเคยู จากปัจุบันมีอยู่ 3,000 เอสเคยู ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งราคาจะถูกกว่าแบรนด์ตลาดประมาณ 20% และเป็นสัดส่วนยอดขายที่มากกว่า 30% ของรายได้รวม แหล่งข่าวในวงการค้าปลีกกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทั้งผู้บริหารของบิ๊กซี และคาร์ฟูร์ ในประเทศไทย ยังไม่มีใครทราบข่าวดังกล่าวว่า มีการเจรจาเพื่อซื้อขายกิจการระหว่างบิ๊กซี-คาร์ฟูร์เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามมีความไปได้เช่นกันว่าบริษัทแม่ของทั้งสองฝ่ายซึ่งต่างอยู่ในฝรั่งเศสทั้งคู่จะเจรจากันเอง "ถ้าคาร์ฟูร์จะถอดใจคงเนื่องจากประเด็นว่า หากการขยายสาขายังอยู่ในภาวะปกติเช่นนี้ไม่มีทางที่คาร์ฟูร์จะก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 หรือเหมือนเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซีได้เลย" แหล่งข่าวกล่าว ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงข่าวที่ระบุว่าบิ๊กซีจะเข้าไปซื้อกิจการของคาร์ฟูร์ในไทยว่า เป็นเพียงข่าวลือ เนื่องจากบิ๊กซีในไทยยังไม่ได้รับการแจ้งเรื่อง หรือรับรู้ข่าวดังกล่าวจากบริษัทที่อยู่ในต่างประเทศ หากต้องเข้าซื้อกิจการของคาร์ฟูร์ในไทยจริง ก็จะต้องมีการประสานงานให้บิ๊กซีในประเทศไทยรับรู้เรื่องก่อน "ข่าวนี้เป็นข่าวลือมากกว่า เพราะเราไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย" นางสาวจริยากล่าวถึงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมาว่า แนวโน้มยอดขายน่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากการออกโปรโมชั่นช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดี และปีนี้บิ๊กซียังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 8 สาขา จาก ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 25 เมษายน 2551 - เวลา 20:23:30 น. //www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?id=981&catid=2 Create Date : 26 เมษายน 2551 Last Update : 26 เมษายน 2551 22:55:14 น. 0 comments Counter : 589 Pageviews. Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet