ทะเล ภูเขา ป่าไม้ สายน้ำ ธรรมชาติ บ้านของเรา
วันเดียวเที่ยวสามตลาดน้ำชานกรุง ตอนที่1 ตลาดนครเนื่องเขต


1.ตลาดน้ำนครเนื่องเขต

 
หากเราหวนรำลึกถึงอดีตในวัยเยาว์ ที่ผ่านมาประสบการณ์ในอดีตของแต่ละคนคงแตกต่างกันไปตามภูมิหลังที่ถูกเลี้ยงให้เจริญเติบโตขึ้นมาตามถิ่นฐานบ้านเกิด ขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ วันเวลาที่ผ่านล่วงเลยไป ความเจริญเติบโตทางสังคมวัตถุสังคมยุคใหม่เข้ามาแทนสิ่งเก่าๆ สิ่งของเครื่องใช้ในวันก่อนถูกของใหม่มาทดแทนเพราะทันสมัยสะดวกสบายกว่า เครื่องใช้ไม้สอยใช้ในอดีตต้องกลายเป็นของล้าสมัย ถูกละเลย ทอดทิ้งให้ขวางหูขวางตา สุดท้ายกลายเป็นขยะและถูกกำจัดไปในที่สุดโดยไม่คำนึงว่าของสิ่งนั้นเคยสร้างคุณประโยชน์ให้มากมายเพียงใด เครื่องมือเครื่องไม้ในอดีตต้องกลายเป็นของเก่าที่เกะกะ รกบ้าน ถูกขายให้กับคนรับซื้อของเก่า หรือไม่ก็ถูกกำจัดทิ้งเป็นขยะที่ไร้ราคา


ปัจจุบันกระแสการรำลึกอดีตผ่านสถานที่ที่เคยถูกใช้เป็นตลาดจับจ่ายใช้สอยของสังคมในยุคก่อนได้ถูกรื้อฟื้นให้กลับมามีชีวิตชีวาด้วยเพราะสังคมไทยในสมัยก่อนการคมนาคมเดินทางติดต่อ ค้าขาย ทั่วไปจะใช้แม่น้ำ ลำคลองเป็นเส้นทางหลัก ตลาดน้ำในอดีตหลายแห่งจึงถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนในอดีต ถึงแม้จะไม่เหมือนเดิม แต่ก็ทำให้ทุกคนที่ก้าวเข้าไปได้ชื่นชม อมยิ้ม กับอดีตอันแสนหวาน

เป็นที่ทราบกันดีว่า กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเวนิสตะวันออก การคมนาคมขนส่ง ทำมาค้าขายใช้แม่น้ำลำคลองที่มีอยู่ทั่วไปเป็นโครงข่ายเชื่อมต่อถึงกันและกันได้ทั่วกรุง โดยมีแม่น้ำสายหลักคือเจ้าพระยาเป็นเสมือนสายน้ำหล่อเลี้ยงคนในลุ่มเจ้าพระยารวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย ในย่านชานกรุงเองก็มีสายน้ำที่สำคัญไม่ด้อยไปกว่าเจ้าพระยาที่ใช้หล่อเลี้ยงคนในย่านชานเมืองหลวง เช่น แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำนครชัยศรี และแม่น้ำอื่นๆ และด้วยที่สังคมไทยมีแม่น้ำหลายสายอยู่ทุกภูมิภาค การทำมาค้าขายก็ต้องค้าขายกันทางน้ำ และแน่นอนตลาดน้ำในย่านชานเมืองนั้นมีมากมายเช่นกันเพื่อเป็นสถานที่ที่ใช้ซื้อหา ค้าขายกันในตลาดน้ำเหล่านี้นั่นแหล่ะ และวันนี้ตลาดเหล่านี้ได้ถูกปลุกให้ฟื้นตื่นขึ้นมาทำหน้าที่เช่นในอดีตในสภาพบ้านเรือนที่ปัจจุบันเรือนไม้ริมน้ำก็เริ่มผุพังไปตามกาลเวลา


ตลาดน้ำนครเนื่องเขต ตลาดน้ำคลองสวน และตลาดน้ำบ้านใหม่ เป็นสามตลาดน้ำชานกรุงที่เป็นตัวแทนของสายน้ำที่แสดงถึงชีวิตของคนสองจังหวัดชานกรุงเทพมหานครคือจังหวัดฉะเชิงเทราและสมุทรปราการได้เป็นอย่างดี ผมกับน้องสาวและครอบครัวตั้งใจกันไว้ว่าเนื่องในโอกาสที่แม่จะขึ้นมาพักกับพวกเราที่กรุงเทพฯในระหว่าง สองสัปดาห์ เราจะพาแม่ไปเดินเที่ยวชมตลาดน้ำทั้งสามแห่งนี้ในวันหยุดสุดสัปดาห์สักวันหนึ่งคงไม่ยากเย็นอะไรนักถ้าเราจะเที่ยวให้ครบทั้งสามแห่งในวันเดียวกัน เพราะทำเลที่ตั้งของตลาดน้ำทั้งสามแห่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเรามากที่ตั้งอยู่ในย่านลาดกระบัง และสายไหม
1. ตลาดน้ำนครเนื่องเขต จ.ฉะเชิงเทรา


น้องสาวนัดเช้าวันเสาร์เวลา 08.30 น.ให้มาพร้อมกันที่บ้านของน้องสาว เมื่อพร้อมกันสองครอบครัว ลูก หลาน ก็มุ่งหน้าสู่ตลาดน้ำแห่งแรกที่พวกเราจะไปเยี่ยมชมในวันนี้คือ ตลาดน้ำนครเนื่องเขต แค่ชื่อก็ชวนให้ค้นหาว่านครเนื่องเขตคืออะไร อยู่ที่ไหนเป็นเมืองหนึ่งในอดีตใช่หรือไม่ ผมไม่รู้จริงๆ อยากรู้จักอยากเห็นเสียแล้วสิ

น้องเขยพาขับรถลัดเลาะวิ่งตามกันไปจากถนนลาดกระบังลัดไปตามถนนสายรองเพื่อลัดออกถนนสุวินทวงศ์มุ่งหน้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา เราใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็ถึงแล้วตลาดน้ำนครเนื่องเขต ก่อนจะเข้าเมืองฉะเชิงเทราหรือเมืองแปดริ้ว มีคำถามชวนให้คิดว่า ทำไมถึงเรียกเมืองฉะเชิงเทราว่า แปดริ้ว แล้วเกี่ยวกับ เจ็ดริ้ว ที่สมุทรสาครหรือสมุทรสงครามหรือไม่อย่างไร เป็นลักษณะของการบั้งเนื้อปลาให้เป็นริ้วๆ ได้เจ็ดริ้ว หรือแปดริ้ว อย่างนั้นหรือ จึงเป็นที่มาของชื่อสถานที่เป็น ริ้วๆ ตามรอยบั้งเนื้อปลาใช่หรือไม่
ตลาดโบราณนครเนื่องเขตเป็นตลาดริมสองฟากฝั่งคลองนครเนื่องเขตที่มีมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ลักษณะเป็นบ้านเรือนไม้และตลาดของชุมชนไทยจีนขนานไปกับริมคลอง และมีทางเดินเท้าและสะพานเชื่อมถึงกัน เทศบาลตำบลนครเนื่องเขต ได้ฟื้นฟูภาพวิถีชีวิตของชุมชนชาวตลาด ริมคลองขึ้นมาใหม่ โดยจัดให้มีการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองนานาชนิด อาทิ ข้าวแกง ก๋วยเตี๋ยว ขนม กาแฟโบราณ ผลไม้ และพืชผัก มีทั้งร้านค้าบนบกและเรือพายขายอาหารในลำคลอง

ตลาดโบราณนครเนื่องเขตเป็นตลาดเก่าแก่ มีชื่อเรียกมาจากคลองที่ตัดผ่าน เดิมที่เรียกว่า "สี่แยกท่าไข่" เนื่องจากมีคลองท่าไข่จากแปดริ้ว แยกเข้ามาทางทุ่งนา ต่อมาทางราชการได้ขุดคลองเนื่องเขตต่อจากคลองแสนแสบ ไปชนกับคลองท่าไข่ และตรงตลาดก็มีคลองขวางตัดกับคลองเนื่องเขตพอดี จึงกลายมาเป็นสี่แยกซึ่ง เป็นจุดศูนย์กลางในการค้าขายในเวลาต่อมา ซึ่งแต่เดิมพื้นที่ตลาดแห่งนี้มีการตั้งรกรากโดย ชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีน เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีการประกอบอาชีพค้าขาย และเป็นจุดศูนย์กลางการค้าขายทางเรือ โดยเฉพาะสินค้าข้าวเปลือก ชา น้ำมัน และของสดต่างๆ ต่อมาการคมนาคมที่เปลี่ยนไปหันมาใช้ทางบกมีถนนหนทางต่างๆมากขึ้น ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า จึงทำให้ตลาดแห่งนี้เสื่อมโทรมลง แต่ก็ยังคงมีบ้าน เรือนที่เก่าแก่ และวิถีชีวิตริมฝั่งสองคลองของชาวบ้านอยู่บ้าง



ปัจจุบันกระแสการรื้อฟื้นชุมชนโบราณโดยเฉพาะตลาดน้ำในอดีตหลายแห่งได้รับความนิยมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวย้อนยุค ดังนั้น นายกเทศมนตรีตำบลนครเนื่องเขต จึงริเริ่ม พลิกฟื้นวิถีชีวิตการค้าขายแบบโบราณของตลาดแห่งนี้ โดยให้ชาวบ้านกลับมาเริ่มประกอบอาชีพค้า ขายตามริม ฝั่งคลองกันอีกครั้ง เพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และให้ร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมโบราณแบบอดีตไว้ พร้อมทั้งจัดเปิดตลาดโบราณเนื่องเขตให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดฉะเชิงเทราอีกแห่งหนึ่งด้วย

 


เอกลักษณ์ของการได้มาเยี่ยมชมตลาดเก่าที่ทุกคนใฝ่หา คือ การได้กลับมาหวนรำลึกถึงอดีตและ ความเจริญรุ่งเรืองในสมัยก่อน การเดินชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมฝั่งคลอง รวมทั้งบ้านเรือนไม้แบบโบราณที่หาชมได้ยาก ตลาดนครเนื่องเขตเป็นชุมชมที่ค่อนข้างใหญ่จะพบเห็น บ้านไม้แบบโบราณ มากมาย ทั้งที่เป็นร้านค้าและบ้านเรือนของชาวบ้านเอง เดินแบบสบายๆ ไม่แออัด ได้ความรู้สึกว่าที่นี่เป็น ชุมชนเก่าจริงๆ ยังไม่มีการปรุงแต่งจากความเจริญทางวัตถุมากนัก

ทางเข้าตลาดน้ำนครเนื่องเขตเป็นถนนคอนกรีตสองเลนแยกจากถนนสายหลักเข้าเมืองฉะเชิงเทรา วิ่งเข้ามาประมาณ 500 เมตรก็ถึงแล้วติดกับโรงสีขนาดใหญ่อยู่ด้านขวาของถนน ซุ้มประตูตลาดน้ำนครเนื่องเขตตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าทางลงไปยังท่าน้ำและตลาดที่ขายของนานาชนิด พวกเรามาถึงยังเช้าอยู่รถรายังมีไม่กี่คัน จึงได้จอดใกล้ที่สุดลงรถเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงซุ้มประตูทางเดินไปยังตลาดน้ำ นึกว่าถ้ามากันเยอะๆ หรือมาสายกว่านี้คงต้องเดินไกลพอควรทีเดียว เพราะไม่มีลานจอดรถ รถต้องจอดต่อท้ายกันไปเป็นแถวเดียวฝั่งใดฝั่งหนึ่งเพราะถนนค่อนข้างแคบ

ทันทีที่ก้าวเข้าในตลาดนครเนื่องเขตก็สัมผัสได้ถึงความเก่าของอาคารบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ที่นี่ยังคงอนุรักษ์ไว้เหมือนเดิมมีบ้างที่เริ่มผุพังไปตามกาลเวลาจากการถูกปล่อยปละ ละเลย ขาดคนเหลียวแล เมื่อได้รับการบูรณะรื้อฟื้นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อาคารบ้านเรือนเก่าเหล่านี้ก็กลับมามีชีวิต สีสัน สดใสได้อีก ด้วยการบูรณะซ่อมแซมโดยคงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุด มีบ้างที่อาจจะมีสิ่งแปลกปลอมคือคอนกรีตทางเดินระหว่างสองฝั่งคลองแห่งนี้ที่เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่กับชีวิตคนรุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นมาแทนคนรุ่นเก่า แต่เป็นคนรุ่นใหม่ที่เห็นถึงความสำคัญของความเก่าของสถานที่และวัฒนธรรมของคนสองฝั่งคลองจึงพยายามช่วยกันอนุรักษ์ไว้สืบสานลมหายใจอดีตให้ยืนยาวต่อไป


ร้านข้าวเกรียบปากปากหม้อร้านนี้เป็นร้านหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษกว่าร้านรวงอื่นๆ มีรายการโทรทัศน์ชื่อดังมาถ่ายทำรายการเผยแพร่ออกสู่สายตาประชาชนคนทั่วไปได้รับรู้ถึงตลาดน้ำนครเนื่องเขตแห่งนี้ เป็นแรงจูงใจให้ผู้นิยมท่องเที่ยวตลาดน้ำโบราณจะต้องหาโอกาสมาสัมผัสสักครั้ง


 
น้ำซุปกระดูกหมูรสกลมกล่อมมีให้คนละหนึ่งชามจากนั้นแม่ค้าจะทะยอยเสริฟข้าวเกรียบปากหม้อจนครบทั้ง 6 ไส้ หลายรส ให้ได้ลิ้มรสอาหารไทยทานเล่นที่คนรุ่นก่อนช่างคิดค้นรสชาตนุ่มนวลเป็นที่ติดใจมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ในราคาไม่แพงเลย 30 บาท ผมอดแซวแม่ค้าตามประสาคนช่างฉอเลาะว่า "แม่ค้าจำได้อย่างไรว่าคนไหนได้ครบทั้ง 6 ไส้แล้วหรือยัง" แม่ค้าบอกว่า "จำได้" ผมไม่ซักไซร้ต่อไปอีก ด้วยเกรงว่า น้ำซุปในหม้อต้มนั้นร้อนนักหนา แหะๆ ...

พวกเราใช้เวลาที่ตลาดน้ำนครเนื่องเขตนี้ไม่นานนักด้วยเพราะว่ายังเช้าอยู่ผู้คนยังไม่ค่อยมี เราเดินจนพอใจ ประกอบกับบางที่บางแห่งก็ไม่ชวนให้เดินไปดู ความอลังการของตลาดแห่งนี้ถือว่ายังไม่เท่าไรนัก ก็เป็นที่น่าเสียดายว่าถ้าซบเซาแบบนี้ ลมหายใจของตลาดน้ำนครเนื่องเขตแห่งนี้จะถูกปลุกให้ลุกขึ้นได้นานขนาดไหน


 

ถ้ากระแสตลาดน้ำโบราณยังไม่ถดถอยก็พอทำเนา แต่ถ้ากระแสตลาดน้ำเก่าตกลงไปละก็ คงจะต้องถึงวาระที่จะต้องตายลงไปอีกเป็นแน่ และเมื่อถึงตอนนั้นคงจะฟื้นขึ้นมายากแล้วเพราะเราไม่สามารถหยุดยั้งความเก่า ผุพังของของอาคารบ้านเรือนที่สร้างด้วยไม้ต้องผุพังไปตามกาลเวลา และสูญสลายไปในที่สุด คงเหลือไว้แต่ความทรงจำของคนที่นั่นรุ่นต่อรุ่นเท่านั้นเอง

 

 

 




Create Date : 10 กรกฎาคม 2556
Last Update : 7 สิงหาคม 2556 13:25:24 น. 15 comments
Counter : 1525 Pageviews.

 
ขอบคุณครับที่นำมาฝาก ว่างจะแวะไปเที่ยวบ้างครับ
สนใจเรื่องดวงชะตาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี้


โดย: จิรัฏฐ์ (ไกรศรี ) วันที่: 10 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:43:49 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ story

ไม่เป็นไรค่ะ พี่ก็ไม่ค่อยว่างพอเข้าใจเหมือนกัน...

อ่านแล้วก็เอาใจช่วยค่ะ ขอให้ฟื้นฟูมีชีวิตชีวามากกว่านี้ คนเราบางทีก็แปลกนะคะ คนไปเที่ยวเยอะมาก ก็ว่าความดั้งเดิมแบบเก่าๆ ของเค้าหายไป ไม่มีเสน่ห์ของตลาดน้ำแบบเดิม บ้านเรือนแบบเดิม แต่พอยังมีกลิ่นอายแบบบ้านเรือนเก่าอยู่บ้าง คนก็ร้างลาแบบนี้ จะอยู่ได้ไหมคะนี่

อีก 2 ตลาด รบกวนเคาะประูตูเรียกพี่ด้วยนะคะ ความจริงตลาดนี้ก็เล็งๆ ไว้แต่ไม่ได้ไปซักที เงียบเหงาดีแท้...





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 15 กรกฎาคม 2556 เวลา:9:59:15 น.  

 
ไลค์ด้วยค่ะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 15 กรกฎาคม 2556 เวลา:9:59:36 น.  

 
เดี๋ยวนี้มีตลาดน้ำเยอะเลยนะคะ แต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์ น่าไป


โดย: sawkitty วันที่: 15 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:50:30 น.  

 
ตลาดเก่าที่นำมาฟื้นฟู... ดีครับผมว่า ทำให้
ชาวบ้าน มีอาชีพขายของอีกอย่าง

แล้วพวกเราก็ชอบ ขนมต่าง ๆ แบบไทยด้วย


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 15 กรกฎาคม 2556 เวลา:21:55:29 น.  

 
เคยไปแต่ตลาดบ้านใหม่ค่า
ของกินเยอะดีชอบๆ
แปดริ้วมีที่ไปที่มาแบบนี้เอง
ปกติรินก็ไ่ม่เคยรู้นะคะ
ได้รู้ที่ไปที่มาของขื่อแปดริ้วด้วย

อยู่สมุทรปราการ ตลาดน้ำอีกที่ค่ะ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
ของกินเยอะมากกกกกก อร่อยด้วนค่า




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 18 กรกฎาคม 2556 เวลา:23:14:06 น.  

 
ตามมาเที่ยวตลาดน้ำตอนดึกๆค่ะ อิอิ ชมเพลินเลยค่ะได้รับความรู้จากการบรรยายดีมากค่ะ

ไลท์ให้เป็นคนที่ 2 ค่ะ

หลับฝันดีค่ะ




More Flowers Presentation Comments


โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 19 กรกฎาคม 2556 เวลา:0:17:39 น.  

 
สวัสดีวันหยุดยาวค่ะ อยกาไปเที่ยวตลาดน้ำบ้างจังเลย


โดย: sawkitty วันที่: 21 กรกฎาคม 2556 เวลา:15:48:27 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ตามมาเที่ยวตลาดน้ำด้วย
แม่เป็นคนฉะเชิงเทราแต่ไม่เคยไปตลาดนี้เลย
เมื่อตอนเย็นไปส่งแม่มาขับผ่านเส้นนั้น รถติดมากๆ
กำลังขยายถนนค่ะ
ขอบคุณที่นำภาพมาให้ชม วันหลังจะแวะไปเที่ยวบ้างค่ะ


โดย: pantawan วันที่: 22 กรกฎาคม 2556 เวลา:22:15:39 น.  

 
สวัสดีวันหยุดค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไปทักทายค่ะ ใช่เลยค่ะความรักเมื่อเปรียบกับนาฬิกาทรายก็แล้วแต่คนมองว่าจะมองกันอย่างไร มองต่างมุมกันไปนะคะ อิอิ

มีความสุขวันหยุดค่ะ




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 23 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:36:58 น.  

 
วันหยุดแบบนี้ แถมอากาศร้อนมาก ถ้าได้ไปตลาดน้ำคงดีนะคะ


โดย: sawkitty วันที่: 27 กรกฎาคม 2556 เวลา:14:42:47 น.  

 
สพฺพรตึ ธมฺมรติ ชินาติ
ความยินดีในธรรมะ ย่อมชนะความยินดีทั้งปวง



ตามมาเที่ยวตลาดเก่าแก่ด้วยคนค่ะ
ดูเหมือนจะเคยออกรายการทีวีหลายรายการอยู่นะคะ

เรื่องของการสวดมนต์
แค่เราได้รับความสงบเย็น ณ เวลาที่เราสวดอยู่นั้น
ก็นับว่าได้รับผลจากการสวดมหาศาลแล้วล่ะค่ะ
เพราะน้อยคนนักที่สวดมนต์แล้วจะมีจิตที่จดจ่ออยู่กับบทสวดอย่างจริงจัง
ส่วนใหญ่สวดไปคิดถึงเรื่องโน้นเรื่องนี้ไปด้วยทั้งนั้น

ฝึกไปบ่อย ๆ อีกหน่อยก็เก่งเองแหละค่ะ

มีความสุขในทุกวันดี ๆ ตลอดไปนะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 29 กรกฎาคม 2556 เวลา:10:03:17 น.  

 
สวัสดีวันฝนตกชุ่มฉ่ำค่า

ช่วงนี้ฟ้าไม่สวย ฟ้าไม่ใส แต่เที่ยวทะเลหรือน้ำตกไม่ร้อน
ชุ่มฉ่ำได้เหมือนกันน้า




Interview .. the Blogger
ฉบับประจำเดือนสิงหาคม วางแผงแล้วจ้า




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 2 สิงหาคม 2556 เวลา:22:24:21 น.  

 
สวัสดีตอนกลางคืนครับ

วันนี้ผมอัพบล๊อก เกี่ยวกับการเขียนบล๊อก ในฐานะ
ที่ โลว์เท็ก... ถ้าว่างลองไปอ่านแล้วกรุณาเม้นท์
นะครับ เผื่อเสียงเพรียก จากพวกเรา เขาจะได้ยิน
บ้าง...


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 5 สิงหาคม 2556 เวลา:21:42:32 น.  

 
ย่องมาส่งข่าวคราวค่า
คนบ้านนี้หายไปนานเลย

หากมีปัญหาเรื่องการทำบล็อก
ให้รินช่วยแนะนำได้ยินดีนะคะ







1 คืน 1 วัน และ 1 ฝันของเรา
ทะเล ทะเล ทะเล





โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 8 สิงหาคม 2556 เวลา:22:52:50 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

story_dnp
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




http://i11.photobucket.com/albums/a171/merrymod/flower01.gif
New Comments
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
10 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add story_dnp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.