การเปลี่ยนแปลงอีกครั้งของ "FAT RADIO" บทวิเคราะห์ขำ ๆ (มั้ง) ผ่านมุมมองคนเคยทำสื่อ
เมื่อวานซืน เพื่อนผมหน้าตาตื่น แชทผ่าน MSN มาว่า "เฮ้ย ๆ มึง ๆ แฟตแม่งเปิดแต่เพลงบุษบาของโมเดิร์นด็อกว่ะ"
ไอ้ผมด้วยความรำคาญใจ ที่ถูกมันยัดเยียดให้ฟัง ก็เลยตอบ ๆ ไปว่า "โอ้ย ไม่มีอะไรหรอก มันคงจะทำอะไรสักอย่างแหละ"
เมื่อวาน แฟตเรดิโอก็ออกมาเฉลยแล้วนะครับ พร้อมกับสปอตโฆษณาประกาศว่าพวกเขาจะกลับมาเปิดเพลงแบบเดิม ๆ คือเปิดทุกเพลงทุกแนว ไม่ใช่เน้นแต่เพลงฮิตแบบในช่วงที่ผ่านมา
ขอเท้าความสักนิด สำหรับคนที่ไม่ได้ฟังแฟต เดิมทีแฟตเขาจะเปิดเพลงนอกกระแสเป็นหลักนะครับ วงประหลาดแบบที่คุณมักได้ยินในบล็อกของผมเป็นเพลงที่แฟตชอบเปิดนักแล ที่นี้มันเกิดเรื่องขึ้นว่า แฟตกลายเป็น image หนึ่งสำหรับเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่คิดว่าฟังแล้วเท่ ฟังแล้ว cool ไม่ฟังไม่ได้น่ะ ไม่ฟังแล้วจะหลุดจากกระแส (ไอ้พวกที่เรียกตัวเองว่าเด็กแนวนั้นแหละ)
โอ้!!! น้องรักเอ้ย ไอ้การเป็นเด็กแนวอะไรเนี๊ยะ มันแนวใครแนวมันเฟ้ย ไม่ต้องไปตามใครหรอก ถ้าใจไม่รักแต่ฟังเพราะต้องเท่นี้ก็อย่าเลย มันเหนื่อย!!!
ช่วงกลางเดือนสิงหาคม แฟตเลยออกช่วงรายการ Academy FATtasia คือประมาณว่าทำรายการรูปแบบไม่ซ้ำกันเจ็ดรูปแบบ อาทิเช่น เปิดร๊อคทั้งวัน เปิดเพื่อชีวิตทั้งวันอะไรแบบนี้ แล้วให้คนฟังโหวต แต่โหวตไปก็เท่านั้น เพราะโดยส่วนตัวผมคิดว่า เขาล็อกไว้แล้ว ไอ้การให้มาโหวตนี้เป็นการหาความชอบธรรมแบบประชาธิปไตยเท่านั้น (ที่สำคัญเราก็ไม่รู้นี้ว่ารูปแบบไหนโหวตได้เท่าไร)
ผลที่ออกมา กลายเป็นแฟตยุคหลังความมัน กระแสคนฟังเข้าไปด่าในเวบบอร์ดร้อนและเดือด ผมมีโอกาสฟังแฟตเกือบทั้งวันสักครั้งสองครั้ง โอ้วไม่น่าเชื่อเลยว่า มันมีเพลงอยู่ชุดเดียว แล้วก็เปิดกันทุกช่วงดีเจ เดี๋ยวก็ได้ฟังเพลงพี่เบิร์ด P2WARSHIP โปเตโต้ มาช่า ฯลฯ ส่วนเพลงนอกกระแสแบบเก่านั้นไปฟังนู้นตอนเที่ยงคืน แล้วก็เขยิบมาเป็นสี่ทุ่มช่วงดีเจวราฤทธิ์และวรายุทธ
ฟังซ้ำ ๆ กันทุก ๆ 3 ชั่วโมง และทุกวันนี้มันก็น่าเบื่อนะครับ (เบื่อมาก ๆ ด้วย)ใครเป็นคนจัดเพลงนี้สบายเลย
ผมมองในฐานะคนเคยทำรายการวิทยุนะครับ คือยังไงดีล่ะ ทุกวันนี้แต่ละคลื่นก็จะมี program director กำหนดเพลงให้ อิสระในการเลือกเพลงก็มีบ้างไม่มีบ้างแล้วแต่นโยบาย มีดีเจหนุ่มคนหนึ่งจากคลื่นฮิต ออกอากาศทาง อสมท.ทั้งประเทศ เล่าให้ผมฟังว่า พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก ก็นั่งเล่น MSN ไป พอเพลงใกล้จบก็เตรียมพูด เพื่อนโทรมาขอเพลงก็เปิดให้ไม่ได้เพราะเขาลิสต์โปรแกรมไว้แล้ว
ฟังแล้วนึกถึงนักจัดรายการเก่า ๆ เก๋า ๆ คือการจัดแต่ละวันมันเหมือนโชว์ที่เขาจะเรียงเพลงมาแล้วว่า เฮ้ยเอาประมาณนี้ดีกว่า วันนี้อยากให้ได้อารมณ์แบบนี้ แล้วหาลิสต์เพลงดี ๆ มาเรียงร้อยด้วยกัน พร้อมกับข้อมูลเพลงแน่น แสดงให้เห็นถึงการทำการบ้านมาอย่างดี
แทบหาไม่เจอแล้วละครับ นักจัดรายการแบบนี้ มีแต่อะไรก็ไม่รู้....
บ่นนอกเรื่องไปไกลขออภัย กลับมาที่แฟตใหม่
ไอ้เรื่องเปลี่ยนรูปแบบรายการนี้ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าใครอยู่เบื้องหลัง คนทำงานสื่อนี้มีปมด้อยอย่างหนึ่งคือ มักไม่ได้เป็นเจ้าของเงินเอง หรือถ้าเป็นเจ้าของเงินเองแต่ไม่รวยพอ ก็มักเป็นเบี้ยล่างให้กับสปอนเซอร์
มีเพียงไม่กี่องค์กรสื่อในโลกหรอกครับที่เจ้าของทำตัวเป็นคนดี ไม่มายุ่งไม่มาล้วงลูก ก็ทำไงได้ละ มันเป็นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ของเขานี้
กรณีแฟต ผมเดาและมั่วแบบขำ ๆ เอาดังนี้ สังเกตจากสปอนเซอร์ในรายการช่วงเบรค แฟตถือว่ามีสปอนเซอร์น้อยนะครับ เมื่อเทียบกับคลื่นอื่น ๆ โดยมากสปอนเซอร์จะให้ความสำคัญกับส่วนที่กิจกรรมมากกว่าสนับสนุนตัวรายการ
เมื่อเงินทุนที่ทางสปอนเซอร์จะมายุ่งกับในส่วนของรายการน้อย การกำหนดนโยบายจึงเกิดจากทางเจ้าของได้มากขึ้น การให้เปลี่ยนนู้นเปลี่ยนนี้ก็คงเพื่อผลประกอบการทางธุรกิจ
คืออยากให้คนฟังมากขึ้นเพื่อให้โฆษณามากขึ้น ได้เงินมากขึ้น แต่บังเอิญเจอต่อต้านอย่างรุนแรง มีแต่คนเข้าไปด่าในเวบบอร์ด สปอนเซอร์ที่คาดว่าจะเข้ามาสนับสนุนส่วนรายการก็ดูทีท่าแล้วบ่เวิร์ค ก็เลยต้องเปลี่ยนอีกครั้งมาเป็นรูปแบบแบบเดิม เพราะอย่างน้อย ไม่ได้คนฟังกลุ่มใหม่ แต่กลุ่มเก่าก็ยังอยู่ว่ะ สปอนเซอร์ก็คงพอมั่นใจในตัวคลื่นได้
ผมมองประมาณนี้ ก็เดา ๆ ไปแหละครับ เรื่องในบริษัทเขา ผมมันคนนอกองค์กร ก็เดาจากบริบทต่าง ๆ แหละ
ส่วนอันที่ไม่มั่วแน่ แล้วอยากเรียนให้ทุกท่านทราบคือเรื่องนี้
ทุกท่านครับ ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์กับแฟตมา ผมตั้งคำถามมาเสมอว่า เกิดอะไรขึ้น ระบบการศึกษาในคณะนิเทศศาสตร์ วารสารฯ สื่อสารมวลชน ไม่ได้ผลหรือ
เด็กที่เรียนคณะเหล่านี้มา สิ่งสำคัญที่ถูกปลูกฝังมาเสมอเป็นสิ่งแรกยามจะผลิตผลงานออกมาคือ "กลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร"
เหตุที่สิ่งนี้สำคัญเป็นอันดับแรกก็คือ กลุ่มเป้าหมายผู้รับสารของเรามันหลากหลายครับ ง่ายหน่อยก็ใช้เกณฑ์เรื่องเพศ มีชาย หญิง และเพศที่สาม หรือถ้าใช้เกณฑ์ทางด้านอายุ ก็สามารถแบ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าเด็ก วัยรุ่นตอนต้น วัยรุ่นตอนปลาย วัยรุ่นหางานทำไม่ได้ ผู้ใหญ่ใจเด็ก ผู้ใหญ่เริ่มทำงาน ผู้ใหญ่วัยทอง วัยกลางคน คนชรา ฯลฯ
เห็นไหมครับว่าแค่เรื่องวัยนี้ก็เยอะมาก แต่ละช่วงอายุก็สนใจและรับรู้ต่างกัน บางทีวัยเดียวกันแต่คนละเพศก็ชอบคนละแบบอีก
ดังนั้นการผลิตสื่อสักอันขึ้นมา ต้องกำหนดให้ชัดครับว่าจะเลือกใครเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา (ซึ่งก็คงเหมือนเรียนธุรกิจอะไรแบบนี้)
ที่นี้มาดูสิ่งที่แฟตทำก่อนหน้านี้ เดิมที่แฟตตั้งกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ผมเองก็ไม่ทราบได้ เพราะสิ่งที่คนฟังรับรู้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทางคลื่นกำหนดและฝันไว้ในตอนแรก อันนี้ไม่ผิด เอาตามความเข้าใจของผมก็คือ เป็นกลุ่มวัยรุ่นอยู่ในช่วงมัธยมปลาย ถึง เด็กมหาวิทยาลัย ที่สนใจและเบื่อเพลงตลาด (เอางี้เลย)
เพลงตลาดก็ใช่ว่ามันไม่ดีน่ะ อย่างความคิดผมมันฟังแป๊บ ๆ เบื่ออ่ะ มันค่อยมีอะไรให้น่าค้นหา เอาง่าย ๆ เอาไอน้ำขวัญใจวัยรุ่นต่างจังหวัดทั้งประเทศมาเปิดพร้อมกับ Flure ขวัญใจเด็กมหาวิทยาลัย (มั้ง) ดูรายละเอียดของงานมันต่างกันพอควรเลย แต่ผมเปล่าว่าของใครไม่ดีน่ะ เพราะเพลงแต่ละเพลงมันก็มีหน้าที่ function สำหรับกลุ่มคนที่แตกต่างกันไป
นอกเรื่องอีกล่ะ..... วันนี้นอกเรื่องบ่อย ๆ
ทีนี้พอแฟตเปลี่ยนรูปแบบมาเปิดเพลงฮิต นั้นก็เท่ากับว่าเป้าหมายคนฟังเปลี่ยนใหม่ อีกพวกเดิมฉันไม่เอาล่ะ เปรียบง่าย ๆ เหมือนเวลาทำหนังสือสักเล่มชื่อว่า อุ๊ว่ะ อุ๊ว่ะ ละกัน (หนังสือบ้าอะไรชื่อแบบนี้ว่ะ) ทำเป็นหนังสือโป๊ผู้หญิง แล้ววันหนึ่ง อีหนังสือ อุ๊ว่ะ อุ๊ว่ะ นี้ก็เปลี่ยนปุ๊บปั๊บไปทำหนังสือโป๊ผู้ชายแทน กลุ่มคนอ่านเดิมของ อุ๊ว่ะ อุ๊ว่ะ ก็งงละสิครับ รับไม่ได้
ถ้าเลิก แล้วเปลี่ยนเป็นหัวหนังสืออื่น อันนี้ใคร ๆ ก็เข้าใจได้
ผมเองคิดว่าคนทำแฟตเองก็รู้ครับว่าเรื่องแบบนี้มันไม่เหมาะ มันเหมือนกับการทุบหม้อข้าวหม้อแกงตัวเอง ทำอย่างกับพระเจ้าตากจะตีเมืองจันทบุรีเสียอย่างนั้น คือไอ้ที่มีอยู่กูไม่เอาแล้วเฟ้ย เอาของใหม่ดีกว่า แต่ทำไงได้ละครับ โดนสั่งจากเบื้องบน ไม่ทำก็ซวย
แล้วผลมันก็เป็นอย่างที่เห็นละครับว่ามันไม่เวิร์ค การกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้แน่ชัดแล้ว อยู่ดี ๆ มาเปลี่ยนกลางคันมันมีแต่ผลเสีย เพราะเหมือนต้องรื้อสร้างทำใหม่หมด
ตัวอย่างนี้เป็นกรณีศึกษาที่ดีให้กับเด็กด้านนิเทศศาสตร์ทุกคน ถึงความสำคัญของกลุ่มเป้าหมายของเรา ถ้าไม่ชัดมีแต่เจ๊งจ๊ะ
ในใจผมตอนนี้รู้สึกดีครับที่แฟตกลับมามีรูปแบบและเนื้อหาที่เปิดเพลงเหมือนเมื่อก่อน เมื่อคืนนั่งฟังช่วงดีเจโด๋วกับน้าโจ๊ก ฟังแล้วมีความสุข คือได้ฟังเพลงหลากหลายกว่าแต่ก่อนเยอะทีเดียว ได้ฟังแม้แต่เพลงของ พี่เต๋อ เรวัติ ไม่ต้องมานั่งบ่นว่า โอ้ว!!! เพลงพี่เบิร์ดอีกแล้วหรือนี้
ก็ต้องรอดูต่อไปนะครับว่าจะเป็นไงต่อไป แต่แบบนี้ดีแล้วล่ะ แฟน ๆ เก่า ๆ ปรารถนาครับ
ป.ล. อย่าพราก Sonny & Nor เขาไปอีกน่ะ
ป.ล.2 เพลงที่เปิดอยู่นี้คือ "ยังจำ" ของสี่เต่าเธอ เวอร์ชั่น แฟตโคตร 1 นะครับ
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2549 |
|
37 comments |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2549 15:09:40 น. |
Counter : 1969 Pageviews. |
|
|
|
SO :: ON Presenet (โซ ออน เป็นชื่อค่ายเพลงนะครับ งานที่ออกมาเป็นอัลบั้มเพลงหลอน ๆ นี้แหละ โดยใจอ่ะ)
อันนี้ก็อปมาจากพันทิป
SO::ON ร่วมกับ SoA+D KMUTT (คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) เสนอ
SO::ON ครั้งที่ 5th กับการเสนอกิ๊กดนตรีแนวทดลอง Signalized Soul โดย กลุ่มศิลปินโพสต์-ร๊อคที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากสิงคโปร์ The Observatory พร้อมกับนักดนตรีแนวเสียงทดลองจากกรุงเทพอีกหลากหลาย อาทิ Goose อาทิตย์ ศรสงคราม จากวงอาร์มแชร์ DJ Spydamonkee Slur และการแสดงจาก Spacebucha กับ Deathtrip และ Kijjaz Monotone
ค่าเข้าชม 150 บาท
จำหน่ายตั๋วที่ ร้านดีเจสยาม และหน้างาน
The Observatory (สิงคโปร์)
นิยามของพวกเขาคือกลุ่มนักดนตรีอิเล็คทรอนิค? หรือโฟล์ค? หรือว่าร๊อค? คำตอบคือใช่และไม่ใช่!
The Observatory ก้าวไปค้นหาขอบเขตทางดนตรีแห่งใหม่ที่ไปถึงเบื้องลึกของจิตวิญญาณ
ในอัลบั้ม Blank Walls ของพวกเขาซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 2 นี้ยังได้ Jorgen Traeen (ผู้เคยมีผลงานการโปรดิวซ์ให้กับ Kings of Convenience Sondre Lurch และ Jaga Jazzist) มาเป็น co-producer ให้ด้วย และในครั้งนี้จะเป็นโอกาสพิเศษสำหรับชาวกรุงเทพที่จะได้ชมการแสดงสดของพวกเขาอย่างใกล้ชิด
Spydamonkee
ดีเจฮิปฮอบ ที่นับว่าเป็น must-see อีกคนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นนักวิทยาศาสตร์ในด้านการทดลองเสียงอย่างแท้จริง การแสดงสดอันแปลกใหม่ของเขาซึ่งประกอบไปด้วย feedback noise และ scratch dub session คือหนึ่งในสุดยอดของประวัติศาสตร์ SO::ON และในครั้งนี้ Spydamonkee กลับมาอีกครั้งพร้อมกับดนตรีชุดใหม่ที่พลาดไม่ได้ ต้องจับตาดูว่าเขาจะไปไกลแค่ไหนในการแสดงครั้งนี้?
Goose + Atit Sornsongkram
เสียงทดลองของพวกเขาจะพาคุณบิดเบี้ยวไปกับมัน และบางจังหวะที่นุ่มนวลของพวกเขาจะทำให้คุณงงงันได้อย่างแสนหวาน กับหนึ่งในกลุ่มดนตรีร๊อคที่น่าจับตามองมากที่สุดในรอบปี ร่วมกับเสียงกระซิบอันหลอกหลอนของอาทิตย์ ศรสงคราม (จากอาร์มแชร์) กับผลงานเดี่ยวของเขาที่จะออกมาเร็วๆนี้
Space Bucha feat Deathtrip + Kijjaz Monotone
นักดนตรีทดลองสุดขั้วพบกับKijjaz Monotone ยากที่จะคาดได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ที่พอจะเดาได้ก็คงจะเป็นอะไรที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่นอน
Slur
อาวุธลับ rockn roll แห่งกรุงเทพ ที่ได้รับการกล่าวถึงมากมายแต่ไม่มีใครเคยได้เห็นพวกเขาซักที คุณจะได้พบกับ Slur ในงานนี้พร้อมกับซาวน์ด driving garage และการแสดงสดสุดเจ๋งของพวกเค้าที่จะทำให้คุณทึ่ง
เห็นแต่ละวงละอยากไป เห็น Goose The Observatory แค่นี้ก็ช็อคละฮ่ะ
รับสมัครเพื่อนไปดูนะจ๊ะ จะไปไหนคนเดียวทีไร ไม่กล้าเสียทุกที 555 (ซะงั้น)
ดูรายละเอียด + แผนที่สถานที่จัดได้ที่ //so-on.hp.infoseek.co.jp มีเพลงหลอน ๆ แนวโพสต์ร็อคให้ฟังเป็นแซมเปิลด้วย
ป.ล. ชอบโปสเตอร์อ่ะ โหดดี ชอบ