รู้เท่าทันสื่อ : เมื่อผมและชาวแฟทเรดิโอถูกกระหน่ำให้เสี้ยนให้อยากมีบัตรเงินสด
ผมว่าคงมีหลายท่านที่เป็นแฟนคลื่นวิทยุเปิดเพลงประหลาดอย่าง Fat Radio ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ติดตามมาตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯใหม่ ๆ ที่ชอบฟังไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่ว่าเปิดสไตล์ที่ผมชอบฟัง ผมก็เลยฟัง หลายคนบอกว่าผมเป็นเด็กแนว ผมพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าผมนี้เด็กแนวของแท้และดั้งเดิมเลย แต่ว่าแนวในที่นี้คือแนวผมเอง ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
แฟตมีงานประจำปีที่จัดอยู่เสมอ เป็นงานดนตรีที่เชื้อเชิญนักร้องนักดนตรีทั่วฟ้าเมืองไทยในสายเพลงสตริง (ศัพท์โบราณมาก) งานนี้ก็จัดประมาณเดือนพฤศจิกายน ถือได้ว่าเป็นงานล้างผลาญเด็กแนว(ไหนก็ได้)แห่งชาติไม่น้อย ไหนจะซีดีใหม่ ๆ ซีดีเก่า ๆ ของอย่างอื่นอีก แต่เข้าไปดูในความรู้สึกส่วนตัวก็คุ้มดีครับ
สปอนเซอร์หลักที่สนับสนุนมาแต่ดั้งเดิมอย่างไฮเนเกน ถอนตัวออกไปกลายเป็น Smart Purse บัตรเงินสดที่ทำโฆษณาได้โดนชาวบ้านเป็นที่พูดถึงกันทั้งบ้านทั้งเมือง ผมว่าใครไม่เคยดูโฆษณาอาม่ากับชายหนุ่มผู้ซื้อทิชชู่นี้ถือว่าเอาท์เทรนด์มาก ขนาดหอผมไม่มีทีวียังได้รับรู้ข่าวและเคยดูเลย
ผมเคยไปงานนี้ตั้งแต่ครั้งที่สี่ซึ่งจัดที่นางเลิ้ง จบงานทีไรสปอนเซอร์อย่างไฮเนเกนเป็นได้โดยคนด่าตามกระทู้ต่าง ๆ ประจำ เพราะว่างานแบบนี้มันต้องมีการคุมพฤติกรรมครับ เช่น ไม่ขายเหล้าเบียร์ เดี๋ยวเมาแล้วตีกัน (ถ้าจำไม่ผิดตอนงานที่นางเลิ้งเกิดการตีกันขึ้นจนถูกปิดงานก่อนเวลา) แต่ว่าเมื่อสปอนเซอร์เป็นไฮเนเกน ครั้นจะไม่ขายของให้มันก็กระไรอยู่
มาคราวนี้สปอนเซอร์หลักเลยเปลี่ยนเลย กลายเป็น Smart Purse หรือไอ้เจ้าบัตรเงินสดแทน โดยมี สสส.คอยควบคุมความประพฤติอยู่ด้านหลัง ก็ดีเหมือนกันที่คอนเสิร์ตคราวนี้จะไม่ได้กลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่อีก
.
ใครฟังแฟตตอนนี้ดีเจทุกช่วงก็จะโหมกระหน่ำโปรโมตกันอย่างเอาเป็นเอาตายให้ไปซื้อบัตร โดยเน้น campaign ซื้อเหล้าแถมเบียร์ เฮ้ย ไม่ใช่ ซื้อบัตรแฟตพร้อมกับบัตรสมาร์ทเพิร์สท์ ได้ในราคา 485 บาทจากเต็ม ๆ ประมาณ 600 มั้ง พร้อมกับอวดอ้างสรรพคุณต่าง ๆ มากมายว่าเข้าไปในงานแล้วซื้ออะไรก็จะได้ลดอย่างต่ำ 5% แถมเอาสลิปมาชิงโชค รางวัลที่หนึ่งเป็นรถยนต์ โอ้ว!!!
ป๋าเต็ดโพสต์ในเวบบอร์ด thisisclick ว่าซื้อสัก 3000 บาท ก็คืนทุนค่าบัตรแล้ว (เอ่อ พี่ครับ สามพันนี้สำหรับเด็กบาทคนที่เงินค่าขนมทั้งเดือนเลยนะครับ) นางสาวอรญา (นามจริง) เพื่อนรุ่นพี่ผมที่เรียน ป.โท ด้วยกัน ถามว่าดีเจเขาไม่เบื่อบ้างหรอ ต้องพูดอะไรซ้ำ ๆ กันทุกวัน ๆ ผมก็ตอบกลับไปพร้อมด่าอีกหน่อยว่า นี้หล่อนไม่สมกับเรียนจบป.ตรี การสื่อสารมวลชน นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาเลยนะย่ะ ดีเจน่ะเบื่อออกอากาศไม่ได้หรอก ขืนเบื่อก็ตกงานดิ
ไอ้ที่จะพูดวันนี้ไม่ใช่เรื่องจะชวนไปงานแฟต หรือชวนซื้อบัตร Smart Purse หรอกครับ สิ่งที่อยากชวนคุยถกเถียงกันในวันนี้คือความอยากเสี้ยนอยากมีอันสืบเนื่องมาจากการโหมกระหน่ำกันโฆษณาต่างหาก
โดยมาก เวลาเราพูดถึงโฆษณา ภาพที่เราชินตาส่วนใหญ่จะเป็นการพูดถึงเรื่องภาพลักษณ์เสียมากกว่าเรื่องอื่นครับ ไอ้เจ้าภาพลักษณ์มันก็นำมาสู่การบริโภคสัญญะ
การบริโภคสัญญะนี้คือเราซื้อสินค้าหรือใช้สินค้าโดยที่เราไม่ได้พิจารณาถึงคุณสมบัติของมันครับ แต่เราพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นจากมันอีกต่อหนึ่ง อาทิเช่น เรากินแมคฯ การบริโภคสัญญะคือเราไม่ได้กินเพราะว่ามันมีขนมปัง มีเนื้อ มีผัก เป็นแฮมเบอร์เกอร์ แต่เรากินเพราะว่ากินแล้วดูดีในสายตาเพื่อน ๆ กินแล้วคิดว่าเท่ กินแล้วดูอินเทรนด์
ไอ้ความเท่ ความดูดี ฯลฯ อะไรต่าง ๆ เหล่านี้มันเป็นความต้องการครับ ทว่ามิใช่ความต้องการจากร่างกาย แต่เป็นความต้องการเทียม (pseudo need) ที่เกิดจากการสร้างขึ้นผ่านทางโฆษณา
โปรดสังเกตนะครับว่าภาษาอังกฤษใช้คำว่า need ความต้องการที่ขาดไม่ได้ ดังนั้น pseudo need ก็คือความต้องการที่เรารู้สึกว่าขาดไม่ได้ ทั้งที่จริงแล้ว เราต้องการมันจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ครับ
อย่างไอ้เจ้าบัตรเงินสดนี้ก็เหมือนกัน ใครได้ดูโฆษณาคงเห็นอย่างชัดเจนนะครับว่า เขาเน้นให้เห็นว่ามันจำเป็นมาก จำเป็นถึงขนาดที่ว่าถ้าไม่มีนี้พาลอึแตกเอาได้ง่าย ๆ
ผมมานั่งคิดว่ามันจำเป็นจริงหรือ การที่เรามีเงินสดอยู่ในมือ กับเงินในบัตรพลาสติก มันก็ไม่น่าจะต่างกันเท่าใด โดยส่วนตัวผมยังคิดว่าการมีเงินสดอยู่กับตัวดีที่สุดครับ อย่างน้อยเจอร้านค้าที่ไม่ใช่เซเว่นฯ ก็ซื้อได้เลย
ความจริงทุกโฆษณาที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ก็ล้วนแต่สร้างความต้องการเทียมทั้งนั้นแหละครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมถูกกระหน่ำมากไปน้อย ฟังจนเบื่อ
ความน่ากลัวของ pseudo need ทำให้เราอยากได้อยากมีเหมือนชาวบ้าน จนในที่สุดมันจะนำไปสู่การที่เราคาดหวังกับสิ่งต่าง ๆ เกินไปจากความเป็นจริง เช่น เราถูกกระตุ้นให้ใช้บัตรเงินสดเหล่านี้เพราะจะได้แต้มสะสม เพื่อแลกของรางวัลต่าง ๆ มากมาย แต้มสะสมชวนให้เราคิดฝันถึงของรางวัลต่าง ๆ เริ่มจากรางวัลเล็ก ๆ ใกล้ตัว ไกลไปถึงของรางวัลที่มันไกลเกินจริง
นี้เป็นบางแง่มุมที่มองในแง่ร้ายนะครับ ทุกสิ่งล้วนมีทั้งสองแง่ อย่างไรเราก็ควรจะรู้ไว้ทั้งสองทางดีกว่า
ดังนั้นอย่าไปเชื่อ หลงใหลอะไรมากครับ ทุกวันนี้อะไร ๆ ก็หลอกลวงอยู่กลาย ๆ พาลให้หลงกลอยู่ง่าย ๆ โดยไม่รู้ตัว
น่ากลัวจริง ๆ ครับ
Create Date : 10 ตุลาคม 2549 |
|
23 comments |
Last Update : 10 ตุลาคม 2549 18:51:19 น. |
Counter : 1016 Pageviews. |
|
|
|
เคยอ่านเกี่ยวกับเรื่องแมคโดนัลด์ หรือได้ยินอาจารย์ที่คณะสักคนเนี่ยแหละพี่ที่พูด ประมาณว่าเรื่องราคาของแมคที่ทำให้คนรู้สึกว่า คนที่กินอาหารขยะพวกนี้ คือคนรวย ทั้งๆที่มันเป็นอาหารสำหรับคนจนๆ ที่ไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะนั่งแดรกข้าวได้อย่างเดียว
ว่าแล้วก็อยากกิน... <<< ว่าเข้าไปนั่น -*-