สังคมที่อบอุ่น....เกิดขึ้นได้จากการแบ่งปัน
 
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 พฤษภาคม 2551
 
 
ศาสนาแห่งเหตุผล



คนในยุคสมัยนี้ถูกสอนมาให้เชื่อในเรื่องเหตุและผล ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ โดยปราศจากมูลเหตุได้ ฉันก็เป็นเช่นนั้น วิชาวิทยาศาสตร์
เปิดเผยความจริงขั้นอณูให้เราได้รู้

แต่ในความเป็นจริงแล้ว พุทธศาสนาของเราต่างหาก ที่เป็นคนบอกเรา
อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตมนุษย์ หรือความเป็นไปในโลก ก็ล้วน
แล้วมาจากเหตุทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าเคยตรัสสั่งสอนไว้ว่า สิ่งมีชีวิตมีกำ
เนิด 4 แบบ คือ

1. เกิดในท้องแม่เป็นตัว เช่น คน
2. เกิดในท้องแม่เป็นไข่ คือ เป็ด ไก่
3. เกิดแล้วโตเลย เช่น เทวดา
4. เกิดโดยไม่ต้องมีพ่อแม่ เช่น เชื้อโรค

พระพุทธเจ้าสั่งสอนมาตั้งแต่เมื่อ 2500 ปีมาแล้ว ในสมัยนั้นไม่มีกล้อง
จุลทรรศ์ หรือเครื่องอุลตร้าซาวด์แน่นอน วิทยาศาสตร์เพิ่งจะมาตอบ
คำตอบนี้ เมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี่เอง พระพุทธเจ้าสอนเราในเรื่องกฎแห่ง
กรรม แม้ในประวัติของพระพุทธเจ้าเอง ถ้าเราจะวิเคราะห์กันดีๆจะเห็น
ได้ว่า การที่พระองค์ทรงเลือกเกิดในวรรณะกษัตริย์ ก็เพื่อที่จะเป็น
แบบอย่างให้เราได้เรียนรู้ ในเรื่องการไม่ยึดติดในทรัพย์สมบัติ นอก
จากนั้นก็ยังมีคำทำนายของพระพุทธเจ้าในเวลาต่อมาอีก โดยเหตุ
การณ์มีอยู่ว่า

วันหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถี ได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์
ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่ง ได้ทอดพระเนตรเห็น พระสุบิน
นิมิตอันใหญ่หลวง ถึง 16 ประการ อันเป็นพระสุบินที่แปลกประหลาด
จึงทรงตกพระทัยตื่นบรรทม

และครั้นรุ่งเช้า ก็ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนาย
พวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่า เป็นพระสุบินที่ร้าย และว่า
พระองค์จะต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ ก็จะมี
โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่ง และ
แนะให้พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ เพื่อสะเดาะห์เคราะห์

เมื่อพระนางมัลลิกา พระมเหสีทราบเรื่องเข้า จึงทูลให้ไปขอคำแนะนำ
จากพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธองค์ก็ได้ทรงทำนายว่า เหตุร้ายนั้นจะมีแน่นอน เพียง แต่มิใช่เกิดแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล หรือแว่นแคว้นของพระ
องค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ไป และแก่พระศาสนา
ของพระพุทธองค์ในภายภาคหน้า เมื่อล่วงเลยพุทธกาลไปแล้ว 2500
ปี เมื่อศาสนาเสื่อมลง (กล่าวกันว่า อายุของพุทธศาสนาในกัลป์นี้ ยืน
ยาวเพียง 5,000 ปี หลังจากนั้น ต้องรอยุคของพระศรีอาริยเมตตไตรย์
พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเสด็จมาโปรดสัตว์)

ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และคำทำนายของพระพุทธเจ้าทั้ง
16 ประการ ประกอบด้วย

1. ทรงฝันว่า มีโคตัวผู้สีเหมือนดอกอัญชัญ 4 ตัว ต่างคิดจะชนกัน
ก็พากันวิ่งมาสู่ท้องพระลานหลวงจาก 4 ทิศ ฝูงชนต่างรอดู โคทั้งสี่ก็
ส่งเสียงคำรามลั่น แต่แล้วต่างก็ถอยออกไป ไม่ชนกัน

พระพุทธเจ้าได้ทรงทำนายว่า ในอนาคตในชั่วศาสนาของพระองค์ เมื่อ
โลกหมุนไปถึงจุดที่เสื่อมลง มนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ฝนฟ้าจัก
แล้ง ทุพภิกขภัยจักเกิดขึ้น คล้ายเมฆตั้งเค้าจะมีฝน มีเสียงคำราม
กระหึ่ม แต่แล้วก็ไม่ตก กลับเลยหายไป เหมือนโคตั้งท่าจะชนกัน
แต่ไม่ชนกันฉะนั้น

2. ทรงฝันว่า ต้นไม้เล็กๆ และกอไผ่ที่โตเพียงคืบบ้าง ศอกบ้าง ก็ออก
ดอกออกผลแล้ว

พระพุทธองค์ทรงทำนายว่า ต่อไปเมื่อโลกเสื่อม มนุษย์แม้จะมีอายุเยาว์
มีวัยยังไม่สมบูรณ์ก็จะมีราคะ กล้า และสมสู่กันตั้ง แต่อายุยังน้อย และ
จะมีลูก แต่เด็กๆ เหมือนต้นไม้เล็กๆ แต่ก็มีผลแล้ว

3. ทรงฝันว่า ทรงเห็นแม่โคใหญ่ๆ พากันดื่มนมของฝูงลูกโคที่เพิ่งเกิด

ทรงทำนายว่า ต่อไปในอนาคตการเคารพนบนอบผู้ใหญ่ เช่น พ่อแม่
ครูบาอาจารย์จะเสื่อมถอย คนเฒ่าคนแก่พ่อแม่เมื่อหมดที่พึ่ง หาเลี้ยง
ตนไม่ได้ ก็ต้องง้อ ต้องประจบเด็กๆ ดังที่แม่โคที่ต้องกินนมลูกโคฉะนั้น

4. ทรงฝันว่า ผู้คนไม่ใช้วัวตัวใหญ่ ที่สมบูรณ์แข็งแรงเทียมแอกลาก
เกวียน กลับไปใช้โครุ่นๆ ที่ยังปราศจากกำลังมาลาก เมื่อมันลากเกวียน
ให้แล่นไม่ได้ มันก็สลัดแอกนั้นเสีย

ทรงทำนายว่า ในภายหน้าเมื่อผู้มีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม แทนที่จะยก
ย่องและมอบหมายหน้าที่ ให้กับผู้มีสติปัญญา ความรู้ กลับไปมอบยศ
ศักดิ์ให้กับคนหนุ่มที่อ่อนหัด ด้อยประสบการณ์ ทำให้ปฏิบัติหน้าที่ได้
ไม่ดี กิจการต่างๆ ก็ไม่สำเร็จ ก็เหมือนใช้โครุ่นมาเทียมแอก เกวียนก็
แล่นไม่ได้ฉันใด ก็ฉันนั้น

5. ทรงฝันว่า เห็นม้าตัวหนึ่ง มีปากสองข้าง ฝูงชนก็เอาหญ้าไปป้อนที่
ปากทั้งสองข้าง มันก็กินทั้งสองข้าง

ทรงทำนายว่า ในอนาคตเมื่อผู้บริหาร หรือผู้มีอำนาจไม่ดำรงอยู่ใน
ธรรมตั้งคนพาล หรือคนไม่มีศีลธรรมไว้ในตำแหน่งอันมีผลต่อผู้อื่น
คนเหล่านั้นก็จะไม่นึกถึงบาปบุญ คุณโทษ แต่จะตัดสินคดีต่างๆ ตาม
แต่ใจชอบ โดยเอาสินบนจากทั้งสองฝ่ายเป็นประมาณ ดังม้าที่กินหญ้า
ทั้งสองปาก

6. ทรงฝันว่า ฝูงชนเอาถาดทองราคาแพง ไปให้หมาจิ้งจอกแก่ตัวหนึ่ง
พร้อมเชื้อเชิญให้หมาจิ้งจอกตัวนั้น ถ่ายปัสสาวะใส่ถาดทองนั้น

ทรงทำนายว่า ต่อไปคนดีมีสกุลทั้งหลายจะสิ้นอำนาจวาสนา คนตระกูล
ต่ำ หรือคนพาลจะได้เป็นใหญ่เป็นโต และคนมีตระกูล ก็จะต้องยกลูก
สาว ให้แก่ผู้ไร้ตระกูลเหล่านั้น เหมือนเอาถาดทองไปให้หมาปัสสาวะรด

7.ทรงฝันว่า มีชายคนหนึ่งนั่งฟั่นเชือก แล้วหย่อนไปในที่ใกล้เท้า แม่
หมาจิ้งจอกโซตัวหนึ่ง นอนอยู่ใต้ตั่งที่บุรุษนั้นนั่งอยู่ แล้วก็กัดกินเชือก
นั้น โดยที่เขาไม่รู้ตัว

ทรงทำนายว่า ในกาลข้างหน้า ผู้หญิงจะเหลาะแหละ โลเล ลุ่มหลงใน
สุรา เอา แต่ แต่งตัว เที่ยวเตร่ ประพฤติทุศีล แล้วก็จะเอาทรัพย์ที่สามี
หาได้ด้วยความลำบากไปใช้ หรือให้ชายชู้ เหมือนนางหมาโซที่นอน
ใต้ตั่ง คอยกัดกินเชือกที่เขาฟั่น และหย่อนลงไว้ใกล้เท้า

8. ทรงฝันว่า มีตุ่มน้ำเต็มเปี่ยมตุ่มหนึ่งวางอยู่ตรงประตูวัง แวดล้อมด้วย
ตุ่มว่างๆ เป็นอันมาก แต่คนก็ยังไปตักน้ำใส่ตุ่มที่เต็มอยู่ จนล้นแล้วล้น
อีกโดยไม่เหลียวแลจะตักใส่ตุ่มที่ว่างๆ นั้นเลย

ทรงทำนายว่า ในอนาคต เมื่อศาสนาเสื่อม คนเป็นใหญ่หรือมีอำนาจ
จะเบียดเบียนหรือเอาเปรียบผู้ด้อยกว่า คนที่รวยอยู่แล้ว ก็จะมีคนจน
หารายได้ ไปส่งเสริมให้รวยยิ่งขึ้น ดังฝูงชนที่ต้องตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่ที่
เต็มอยู่แล้วจนล้น ส่วนตุ่มที่ว่างอยู่กลับไม่ไปใส่น้ำ


9. ทรงฝันเห็นสระแห่งหนึ่ง มีบัวนานาชนิดขึ้นอยู่เต็ม และมีท่าขึ้นลง
โดยรอบ สัตว์ต่างๆ ก็พากันดื่มน้ำในสระ แต่แทนที่น้ำบริเวณที่สัตว์
เหยียบย่ำจะขุ่น กลับใสสะอาด ส่วนน้ำที่อยู่ลึกกลางสระที่สัตว์ไม่ไป
ดื่มหรือ เหยียบย่ำแทนที่จะใส กลับขุ่นข้น

ทรงทำนายว่า ต่อไป เมื่อคนมีอำนาจไม่ตั้งอยู่ในธรรม ขาดเมตตา
คอยใช้อำนาจ รีดนาทาเร้นหรือกินสินบน ชาวบ้านชาวเมือง ก็จะหนี
ไปอยู่ตามชายแดนหรือที่อื่นๆ ทำให้ที่นั้นๆ ที่คนพากันไปอยู่มีความ
มั่นคงเป็นปึกแผ่น เหมือนน้ำรอบๆ สระที่ใส ส่วนเมืองหลวงกลับว่าง
เปล่า เหมือนกลางสระที่ขุ่น

10. ทรงฝันว่า เห็นข้าวที่คนหุงในหม้อใบเดียวกัน สุกไม่เท่ากัน โดย
แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ข้าวแฉะ ข้าวดิบ และข้าวสุกดี

ทรงทำนายว่า ในอนาคต เมื่อคนทั้งหลายไม่อยู่ในศีลในธรรมกันมาก
ขึ้น ก็จะทำให้ฝนฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล หรือตกไม่ทั่วถึง ทำให้การ
เพาะปลูกบางแห่งได้ผล บางแห่งก็ไม่ได้ผล เช่นเดียวกับข้าวที่มีสุก
บ้างดิบบ้าง และแฉะบ้าง

11. ทรงฝันว่า คนนำแก่นจันทน์ที่มีราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า
(อ่านว่า เปฺรียง มี 3 ความหมาย คือ 1. นมส้มผสมน้ำแล้วเจียวให้แตก
มัน 2.น้ำมันจากไขข้อวัว และ 3.เถาวัลย์เปรียง แต่ในที่นี้น่าจะหมายถึง
เถาวัลย์เปรียง เทียบกับแก่นจันทน์ที่เป็นไม้เหมือนกันมากกว่า 2 ความ
หมายแรก)

ทรงทำนายว่า กาลภายหน้า พระภิกษุอลัชชีเห็นแก่ได้ทั้งหลาย แทนที่
จะนำธรรมะ ที่พระพุทธองค์สอน ไปสอนสั่งให้คนหลุดพ้นจากความ
ทุกข์ และละความโลภ กลับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหากิน หาปัจจัยบริจาค
เข้าตัวเอง เหมือนเอาแก่นจันทน์ (ธรรมะคำสอนที่ดี) ไปแลกเอาเถา
วัลย์เน่า(ลาภอามิสที่ได้รับมา ซึ่งไม่จีรังและไม่ช่วยให้พ้นทุกข์จริงๆ
ได้)

12. ทรงฝันเห็นกระโหลกน้ำเต้าจมน้ำได้

ทรงทำนายว่า ต่อไปคำพูดของคน ที่ไม่ควรจะได้รับความเชื่อถือ กลับ
จะได้รับความเชื่อถือ โดยเปรียบถ้อยคำของคนที่ไม่น่าเชื่อว่า มีน้ำ
หนักเบาเหมือนกับผลน้ำเต้า ซึ่งปกติจะลอยน้ำ แต่เมื่อคนเชื่อว่า คำพูด
เหล่านั้นมีน้ำหนัก หรือหนักแน่น จึงเปรียบคำพูดนั้นว่า มีน้ำหนัก ราวกับน้ำเต้าที่จมน้ำได้

13. ทรงฝันว่า ศิลาแท่งทึบขนาดเรือน ลอยน้ำได้เหมือนเรือ

ทรงทำนายว่า ถ้อยคำของคนที่ควรได้รับการเชื่อถือ ซึ่งหนักแน่น
มีน้ำหนักเปรียบประดุจแท่งศิลา กลับไม่ได้รับความเชื่อถือ หรือกลาย
เป็นถ้อยคำที่ไม่มีน้ำหนักเหมือน เรือที่ลอยได้ ข้อนี้ตรงกันข้ามกับข้อ
ที่แล้ว คือ คนหันไปเชื่อคำพูดคนที่ไม่ควรเชื่อ เหมือนสิ่งที่ควรลอย
กลับจม สิ่งที่ควรจมกลับลอย

14. ทรงฝันว่า ทรงเห็นฝูงเขียดตัวเล็กๆ วิ่งไล่กวดงูเห่าตัวใหญ่ และกัด
เนื้องูเห่าขาดเหมือนกัดก้านบัว แล้วกลืนกินเข้าไป

ทรงทำนายว่า เมื่อมนุษย์ปล่อยตัวปล่อยใจตามกิเลส ราคะ สามีจะ
ตกอยู่ในอำนาจของเมียเด็ก และจะถูกดุด่าว่า กล่าวเช่นเดียวกับคน
รับใช้ เหมือนเขียดตัวเล็กๆ แต่กลับกินงูได้

15. ทรงฝันว่า ฝูงพญาหงส์ทอง ที่มีขนเป็นทอง ถูกแวดล้อมด้วยกา

ทรงทำนายว่า ในอนาคตผู้มีตระกูลต้องไปเที่ยวประจบ และสวามิภักดิ์
ต่อผู้ไม่มีตระกูล เหมือนหงส์ทองแวดล้อมด้วยกา

16. ทรงฝันว่า ฝูงแกะพากันไล่กวดฝูงเสือเหลือง และกัดกิน ทำให้เสือ
อื่นๆ สะดุ้งกลัว จนต้องหนีไปแอบซ่อนตัวจากฝูงแกะ

ทรงทำนายว่า ต่อไปภายหน้า คนชั่ว หรือคนที่ไม่ดีจะเรืองอำนาจ และ
ใช้อำนาจเป็นธรรม ทำให้คนดีถูกทำร้าย หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม
ต้องหลบหนี ซ่อนตัวจากภัยร้ายเหล่านี้ เหมือนเสือซ่อนตัวจากแกะ

มาดูกันว่าพระพุทธเจ้าของเราเก่งกว่านอสตราดามุสเสียอีก เพราะทรงทำนายไว้ตั้งแต่ 2000 ปีที่แล้ว แต่เราเองที่ละเลยคำสั่งสอนนั้นเรื่อยมา
ทุกวันนี้ชาวพุทธส่วนมากเป็นชาวพุทธก็แต่เพียงในนามเท่านั้น ไม่เข้า
ใจในเหตุผลว่าทำไมต้องนับถือ เพียงแต่นับถือตามพ่อ แม่ ผู้ปกครอง
เรื่อยมาเท่านั้น ถ้าเราได้มาศึกษาและนำไปปฏิบัติตามจะยังผลดีไม่
น้อยเลย โลกจะน่าอยู่ขึ้น ผู้คนจะเห็นแก่ตัวน้อยลง และทุกๆที่ก็จะ
ไม่มีเรื่องร้ายและอาชญากรรม มันจะดีแค่ไหนนะ " สังคมอุดมคติ "
ของฉัน

เริ่มต้นแต่วันนี้ไม่มีคำว่า " สาย " ฉันมักคิดง่ายๆว่า การนั่งสมาธินั้น
เราสามารถนั่งเองที่บ้านได้ ขอแค่มีสถานที่เงียบสงบเท่านั้น แต่ฉัน
คิดผิด ดูแต่ประวัติพระพุทธเจ้า ท่านก็ทรงเคยศึกษาวิชาจากสำนักต่างๆ
เพื่อเป็นแนวทางชี้แนะ แล้วประสาอะไรกับคนธรรมดาอย่างเรา การเริ่ม
ต้นศึกษา ไม่ยากอย่างที่คิดและดีกว่าที่คิดซะอีก เรื่องศาสนาในวันนี้
ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หลายคนคงคิดว่า ต้องรอให้อายุมากแล้ว
ค่อยเข้าวัด ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะร่างกายที่ผ่านการใช้งานมามาก สมรรถนะก็ย่อมเสื่อมถอยเป็นธรรมดา อย่าว่าจะปฏิบัติธรรมเลย
แค่ลุก-นั่งธรรมดาก็แย่แล้ว เท่านั้นยังไม่พอ โรคภัยที่ซ่อนเร้นอยู่ก็จะโผล่ออกมา ตามแต่การใช้ชีวิตของแต่ละคน เริ่มต้นวันนี้ เริ่มต้นที่
เรา แล้วสังคมก็จะกลายเป็นสังคมที่น่าอยู่และอบอุ่น

...........................................................................


Create Date : 02 พฤษภาคม 2551
Last Update : 28 มิถุนายน 2551 18:05:54 น. 1 comments
Counter : 3087 Pageviews.

 
สาธุ...


โดย: ชาย IP: 101.109.39.158 วันที่: 30 ตุลาคม 2554 เวลา:9:09:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

jintean
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




สาวช่างฝัน ราศีกันย์ ขยันหาโปรเจคใหม่ๆมาเปลี่ยนแปลงชีวิต ชอบสิ่งท้าทาย ชอบความหลากหลาย รักสัตว์ แต่ไม่รักเด็ก ( เพราะไม่ใช่นางงาม ) ชอบลักษณะของเป็ด ( เพราะทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ไม่เก่งสักอย่าง ) ไม่ชอบเผด็จการ ชอบทำอาหาร ( แต่ไม่ค่อยมีฝีมือ ) ถ้าว่าง...เชิญมาคุยกันนะคะ ยินดีต้อนรับค่ะ
New Comments
[Add jintean's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com