่กว่าจะได้ขอใบอนุญาตให้พำนักอยู่นอตาลี(T_T)




jจากที่ไปที่ตม.มาทั้งหมด ๗
ครั้งในที่สุดก็สามารถที่จะ


ดำเนินการขอใบอนุญาตให้อยู่พำนักในอิตาลีได้แล้ว


เราจดทะเบียนสมรสกับสามีซึ่งเป็นชาวอิตาเลี่ยน
๑๐๐
%


แต่สามีไม่เคยอยู่อาศัยในอิตาลีเลยเพราะเขาไปเกิดและโต


ที่เยอรมันนี ทำให้สามีไม่มีเรสสิเด้นที่อิตาลีดังนั้นเวลา


ที่สามีพาเราไปขอวีซ่าแต่งงานเพื่อจะมาอิตาลีกันจึงไม่ได้รับการอนุมัติ


แต่ได้มาเพียงวีซ่าท่องเที่ยว
๙๐ วันเท่านั้น


และเมื่อได้มาอิตาลีเข้าเดือนที่
๓ วีซ่าเราใกล้จะหมดและ


พร้อมกับที่สามีได้เตรียมเอกสารไว้ครบเรียบร้อยแล้ว


ทำให้เรามีโอกาสที่จะไปขอ
Permesso di soggiorno


(ใบอนุญาตให้อยู่พำนักในประเทศแบบชั่วคราว)


ครั้งแรก สามีโทรไปเพื่อนัดกับทางตม.ว่าต้องการที่จะพาเรา


ไปทำใบอนุญาตฯ
และบอกกับเจ้าหน้าที่ที่รับโทรฯว่า


ตัวสามีเรานั้นไม่ค่อยจะมีเวลางานยุ่งมากๆและเพิ่งจะเริ่มงาน


ทำให้เจ้าหน้าที่ๆรับโทรฯบอกว่า
ถ้างั้นให้มาวันอาทิตย์เลย


(ซึ่งสามีก็ลืมที่จะถามชื่อเจ้าหน้าที่และด้วยคำพูดที่ออกจากปาก


คนที่รับโทรฯดูหนักแน่น
และคงจะไม่ใช่ใครนอกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ)


เมื่อเราได้ไปในวันอาทิตย์แล้วปรากฏว่าผิดจากที่เจ้าหน้าที่รับโทรฯได้พูดไว้เลย


คือไม่การทำการใดๆได้ทั้งนั้นเนื่องจากวันอาทิตย์
อันนี้ก็เป็นความบื้อของ


พวกเราเองที่ไปเชื่อคนที่รับโทรฯคนนั้น


ครั้งที่ ๒
เราขึ้นรถเมล์ไปเองกับลูก ๒ คนอากาศหนาวและมีฝนตกพรำๆ


และตัวเราเองก็ยังมีอากาศแพ้ท้องอย่างหนักอีกด้วย
ไปยืนรอเจ้าหน้าที่


มาเปิดสำนักงานอยู่ประมาณ
๒๐ นาที เมื่อได้พบกับเจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า


ไม่สามารถที่ดำเนินการใดๆให้ได้เพราะว่าเราไม่ได้นัดล่วงหน้าไว้


เราเลยโทรหาเพื่อนให้เพื่อนช่วยอธิบายให้ว่า
โทรมานัดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่


ยอมที่จะดำเนินการใดๆให้เพียงแต่นัดให้เราเป็นวันที่
๕ พ.ย.๕๓ (ปีไทยละกันง่ายดี)


ครั้งที่ ๓
เราไปกับเพื่อนของสามีตามที่เจ้าหน้าที่ได้นัดเราไว้คือ


วันที่ ๕ พ.ย.
๕๓ แต่เจ้าหน้าที่ชายคนที่นัดให้เรากลับไม่มาทำงาน


มีเพียงเจ้าหน้าที่หญิงที่มาทำงานแทนหล่อนบอกว่า


หล่อนไม่สามารถที่จะดำเนินการใดๆให้เราได้ทั้งสิ้นเพราะ


หล่อนเพิ่งมาทำงานใหม่ไม่รู้เรื่องต้องรอเจ้าหน้าที่ชายคนที่นัดเราเท่านั้น


และหล่อนได้นัดให้เราใหม่เป็นวันที่
๙ พ.ย. ๕๓


ครั้งที่ ๔
เราไปกับเพื่อนสามีคนเดิมคราวนี้เราได้ไปเจอเจ้าหน้าที่ชายที่เคยนัดเราไว้


เขามาทำงานและเขาดูเอกสารของเราและดูท่าเหมือนว่าจะมีโอกาสแล้วครั้งนี้


แต่ปรากฏว่า
เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า วันนี้ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะ


วีซ่าที่เราได้มาเป็นวีซ่าท่องเที่ยว
จะต้องเปลี่ยนจากท่องเที่ยวมาเป็นวีซ่าแต่งงานก่อน


แล้วถึงจะขอใบอนุญาตได้
โดยให้แบบฟอร์มเรามา ๑ แผ่นเพื่อให้สามีเรากรอก


และใบรายการเอกสารที่เราจะต้องยื่น
ซึ่งมี ๑ รายการคือ บัตรประกันสุขภาพ


ซึ่งเรายังไม่มี ทำให้เรากับเพื่อนของสามีสงสัยมากว่าตกลงที่เขาต้องการ


บัตรประกันสุขภาพนี่ของตัวเราหรือของสามีเรากันแน่


วันหนึ่งเพื่อนของเพื่อนมิคกี้ เธอชื่อเลาร่า เธอทำงานอยู่ที่คาลิตัส


เธอบอกกับสามีเราว่าให้เราเข้าไปพบเธอๆจะช่วยเราในเรื่องการยื่น


เอกสารในการขอ
Carta di soggiorno (เป็นใบอนุญาตให้พำนักอยูในประเทศ


แบบตลอดชีพ)
เพราะเธอบอกว่าเราสามารถที่จะขอแบบนี้ได้เนื่องจาก


เราเป็นแม่ของคนอิตาเลี่ยนและตอนนี้ก็กำลังท้องอยู่ด้วย


โดยทางเลาร่าได้บอกกับเราว่าหากสามีสามารถที่จะลางานได้ให้สามีเป็นคนพาไป


แล้วไปบอกกับเจ้าหน้าที่ตม.ว่ามาขอใบอนุญาตฯแบบตลอดชีพ


หากเจ้าหน้าที่ไม่เข้าใจยังไงให้โทรหาเธอ
เธอจะมาคุยกับเจ้าหน้าที่ตม.เอง


เลาร่ายังบอกอีกว่า
เป็นกฎหมายที่ตม.จะต้องออกใบอนุญาตฯแบบตลอดชีพให้เรา


เพราะทางฝ่ายกฎหมายของคาลิตัสกำลังศึกษากฎหมายข้อนี้อยู่และเราสามารถทำได้


ครั้งที่ ๕
คราวนี้สามีเราสามารถลางานได้แล้วจึงเป็นคนที่พาเราไปด้วยตัวเอง


และคุยกันเจ้าหน้าที่ตม.ตามที่เลาร่าได้แนะนำ แต่เจ้าหน้าที่ตม.ก็ยังคง


ยืนยันว่าเราจะต้องทำการเปลี่ยนวีซ่าท่องเที่ยวให้เป็นวีซ่าแต่งานก่อน


แล้วมาขอใบอนุญาตฯแบบชั่วคราวและถึงจะสามารถที่จะขอใบอนุญาตฯแบบตลอดชีพได้


เมื่อรูปการออกมาเป็นอย่างนี้สามีเราเลยพาเราเดินไปพบเลาร่า


ที่คาลิตัส เธอเลยพาเราและสามีเดินย้อนกลับมาที่ตม.อีกครั้ง


แล้วอธิบายให้ตม.ฟังแต่เจ้าหน้าที่ตม.ก็ยังคงที่จะยืนยันเช่นเดิม


เลาร่าเลยพูดกับเจ้าหน้าที่ตม.ว่า
“จะต้องทำกี่ขั้นตอนอะไรบ้างให้เขียน


ใส่กระดาษมาแล้วเซ็นชื่อมาด้วย”
แต่เจ้าหน้าที่ตม.ก็ไม่เขียน


ทำให้เกิดการเถียงกันนิดหน่อยระหว่างเลาร่าและเจ้าหน้าที่ตม.


ทำให้เลาร่าตัดสินใจเข้าพบกับเจ้านายใหญ่(ผู้หญิง)ที่สุดของโรงพักทันที


แต่บังเอิญเจ้านายใหญ่ที่สุดของโรงพักจะออกไปธุระข้างนอกพอดี


เขาเลยให้เลาร่านัดไว้กับเลขาของเธอในวันอังคารของอาทิตย์ถัดไป


เมื่อได้คุยกับเลขาของเธอแล้ว
เลขาแนะนำว่าหากต้องการให้เรื่องเสร็จเร็ว


ก็สามารถที่จะเข้ามาคุยกับตำรวจระดับหัวหน้านายหนึ่งได้เลยในวันรุ่งขึ้น


(วันศุกร์)


ครั้งที่ ๖
วันรุ่งขึ้นเราได้เข้าไปที่โรงพักกับเพื่อนร่วมงานของเลาร่า


เพื่อพบกับตำรวจระดับหัวหน้านายหนึ่งที่เลขาได้ทำเรื่องนัดไว้ให้พวกเรา


แต่...ตำรวจระดับหัวหน้านายนี้ไม่มาทำงานเนื่องจากไม่สบาย


ทำให้เราต้องกลับไปตามระเบียบ


ครั้งที่ ๗
เราไปที่ตม.พร้อมกับเลาร่าเพื่อพบเจ้านายใหญ่(ผู้หญิง)


ในวันอังคารที่ได้ทำการนัดไว้ตั้งแต่แรกและเราก็ได้พบเธอค่ะ


โดยมีเลาร่าเล่าเหตุการณ์และเรียกร้องแทนเราทุกอย่างพร้อมกับอธิบาย


เหตุผลต่างๆให้เจ้านายใหญ่ฟัง โดยเจ้านายใหญ่ก็ได้นำตำรวจนายหนึ่ง


ซึ่งเราคาดว่านายตำรวจคนนี้จะต้องทราบเรื่องระเบียบการในการขอ


ใบอนุญาต มีการพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งซึ่งไม่นานนักทางตร.ชายก็ได้นำ


สำเนาเอกสารทั้งหมดที่เราเตรียมไปและพาสปอตของเราและสามีไปด้วย


และเลาร่าบอกกับเราว่าเขานำเอกสารและพาสปอตไปเพื่อไปดูเรื่องรายละเอียด


และสักพักนายตำรวจคนเดิมก็เดินกลับมาพร้อมกับพาเราไปที่ห้องพิมลายนิ้วมือ


นั่นคือคำตอบแล้วตามที่เราเข้าใจว่าเราทำสำเร็จแล้ว


ทางโรงพักนี้ได้รับดำเนินเรื่องการขอใบอนุญาตให้กับเราแล้ว


และทางเลาร่าได้หันมาอธิบายให้เราฟังว่า
ในตอนแรกเขาจะไม่ยอมทำให้เรา


เนื่องจากเห็นว่าเรามีวีซ่าท่องเที่ยวมาไม่สามารถที่จะเปลี่ยนทันทีเป็นใบอนุญาตฯได้


และคิดว่าลูกชายของเราไม่มีสัญชาติอิตาเลี่ยน
แต่ทั้งหมดนี้เลาร่าได้อธิบายไปหมดแล้ว


ทำให้เขายอมที่จะดำเนินการให้เรา
และทางนายใหญ่(หญิง)เขาเห็นใจเรา


ที่เรากำลังตั้งท้องอยู่และต้องรีบไปฝากท้องทำให้เขารีบทำการให้โดยเร็ว


เจ้านายใหญ่ยังบอกมากับเลาร่าอีกว่า
เขาไม่เคยทำกรณีของเรามาก่อน


เราเป็นกรณีแรกที่เขาเคยทำเลย วันนี้เราทำเรื่องในการขอใบอนุญาตเพียง


แค่ ๓๐ นาทีโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชายพาเราไปดำเนินการตามจุดต่างๆ


และให้การดูแลอย่างดี
เมื่อเสร็จเรื่องทุกอย่างเขาบอกให้รออย่างน้อยอีก


๔๐
วันแล้วไปถามที่ตม.ว่าได้ใบอนุญาตหรือยังเพราะกรณีของเราเขา


จะต้องส่งเรื่องไปที่โรม จากเวลาทั้งหมดเกือบ ๑ เดือนที่เราพยายาม


ที่จะขอใบอนุญาต ซึ่งก่อนหน้าเราและเพื่อนอีก ๒ คนพยายามที่จะ


ช่วยกันคิดว่าอะไรคือสาเหตุที่ยากนัก
ซึ่งกรณีของเพื่อนๆเราง่ายมาก


แต่ตอนนี้เรื่องทุกอย่างก็ลงตัวและผ่านไปได้ตอนนี้แค่เพียงรอให้ครบ


๔๐
วัน(ต้นมกราคมปี ๕๓)เราก็ไปถามที่ตม.ว่าใบอนุญาตมาหรือยังเท่านั้น


แต่สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณเพื่อนๆและเจ้าหน้าที่คาลิตัส
รวมถึงเพื่อนอีก ๒ คน


ที่อยู่ลานา
ที่คอยติดตามและติดต่อช่วยเหลือเราในทุกๆเรื่อง










Create Date : 14 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 28 พฤศจิกายน 2553 21:51:13 น. 4 comments
Counter : 998 Pageviews.

 
หวัดดีค่ะ มาทักทาย
ระบบราชการอิตาเลี่ยนเป็นอะไรที่ล่าช้ามากเลย
หลายคนเจอกันมาแล้ว เรียกว่าเช็ดเหงื่อไปตามๆ กันนะคะ
เอิงก็กว่าจะได้มารอกันหลายเดือน ทั้งๆที่แต่งงานในอิตาลี
มีวิซ่าครอบครัว แต่ก็ยังรอนานๆ ตามระบบ
ทำใจค่ะ ประเทศนี้ระบบเต่า
เอาเป็นว่า ได้มาแล้ว ค่อยหายใจหายคอได้หน่อย
น้องทิกเกอร์เป็นไงบ้างคะ โตเป็นหนุ่มน้อย
ไปโรงเรียนรึยังเอ่ย


โดย: diamondsky วันที่: 30 พฤศจิกายน 2553 เวลา:0:20:48 น.  

 
หวัดดีค่ะ วันนี้หิมะโปรยปรายมาแต่เช้า
พูดถึงเรื่องทำอาหาร เอิงเป็นคนชอบศึกษาน่ะค่ะ
ยิ่งอาหารอิตาเลี่ยนนี่น่าสนใจมาก
คุณสามีเอิงไม่ถนัดอาหารไทย
ที่บ้านจึงต้องทำเมนูอิตาเลี่ยนบ่อย
บางทีเค้ามีการจัดคอร์สเรียน เอิงก็ไปเรียนด้วย
สนุกดีค่ะ ได้รู้ทิปการปรุงมากมาย
ยิ่งในอิตาลี ชื่อพาสต้า ชีส ผักต่างๆ ไม่เหมือนบ้านเราเนอะ
ทำบ่อยๆ เลยเอามาเขียนในบล็อกซะเลย คริคริ
อ่านกันเพลินๆ นะคะ

ปล. หนาวแล้ว รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
มิลานก็หนาว วันนี้ศูนย์องศา หิมะตก ตอนนี้ยังไม่หยุดเลยค่ะ


โดย: diamondsky วันที่: 1 ธันวาคม 2553 เวลา:18:55:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ ดิฉันพึ่งได้ใบพำนักชั่วคราว3เดือนมาและอีก3เดือน จนท.ให้ไปรับแบบ4ปีต่อ แต่ดิฉันยังไม่พร้อมอยู่อิตาลี่ยาว ดิฉันเดินทางพาลูกชายมาผ่าตัดบ่อยมาก ครั้งล่าสุดอยู่เกิน90วันเลยต้องทำใบดังกล่าว รบกวนกรุณาช่วยตอบคำถามให้ดิฉันถ้าคุณทราบ จะขอบพระคุณมากเลยค่ะ

1.หลังได้ใบอนุญาต3เดือนและ4ปีจากนี้ เมื่อใหร่ที่ต้องเริ่มอาศัยอยู่อิตาลี่มากกว่าประเทศไทย?
2.ควรอาศัยอยู่ประเทศไทยมากสุดได้กี่เดือน(เพราะการผ่าตัดของลูกชายครั้งต่อไป จะมีขึ้นอีก6เดือนข้างหน้า อยากพาลูกกลับไปเข้าอนุบาลที่เมืองไทยต่อ)?
3.ถ้าไม่ทำตามจะเป็นอย่างไร? จะไม่ต่ออายุใบอนุญาตให้หรือให้ใบพำนักถาวรกับเรา
อย่างนั้นหรือ?
4.ใบนี้อาศัยอยู่อิตาลี่ได้มากสุดกี่เดือนต่อครั้ง?
5.ถ้าฉันต้องการย้ายที่อยู่มาที่อิตาลี่ ฉันมีเวลาในการย้ายที่อยู่จากประเทศไทยมาอิตาลี่มากสุดภายใน4ปีตามเวลาในใบอนุญาตใช่หรือไม่?
6.สามีมารับเอกสารแทนได้ใหมคะ?
ขอบคุณมากค่ะ


โดย: aun IP: 79.1.240.172 วันที่: 12 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:53:05 น.  

 
ciaoo


โดย: suporn kaa IP: 79.48.173.34 วันที่: 23 สิงหาคม 2554 เวลา:19:59:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บันทึก....ไซเบอร์
Location :
สุพรรณบุรี Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ความจริงคือสิ่งไม่ตาย จะพูดอะไรให้พูดแต่ความจริงจะดีที่สุด
lozocat
....จะมีสักกี่ครั้งที่เราสามารถที่จะรู้ได้ว่า พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อต้องเจอในสิ่งที่ไม่คาดฝันมาก่อนก็ต้องนึกเสมอว่า "ท้อได้แต่อย่าถอย" เพราะชีวิตมันต้องดำเินินไป ^_^...
lozocatlozocat
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บันทึก....ไซเบอร์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.