ขั้นที่สามเมื่อถึงวันไปขอวีซ่า
เมื่อมาถึงวันที่นัดขอวีซ่าไว้ เราออกจากสุพรรณตามเวลาเดิมคือ ตีห้า แต่ก็ไปถึงที่สถานฑูตช้ากว่าเวลานัดเกือบครึ่งชั่วโมง เพราะฝนตกในกรุงเทพทำให้รถติด และ ขับเคลื่อนตัวได้ช้ามาก และทิกเกอร์ก็เบื่อมากด้วย ที่จะต้องอยู่ในรถนานๆ รู้ตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องไปไม่ทันนัด เลยตัดสินใจโทรเข้าไปแผนกวีซ่า เพื่อบอกว่าเราอาจ ไปไม่ทันนัด แต่เจ้าหน้าที่ที่รับสายบอกกับเราว่า ไม่เป็นไรได้นัดไว้ล่วงหน้าแล้ว จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ แค่บอกชื่อเราไป เมื่อไปถึงสถานฑูตแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก็ให้เราเข้าไปที่แผนกวีซ่าเลยทันที เนื่องจากเราได้นัดไว้ วันนี้ที่ไปมีเจ้าหน้าที่ทำงานหน้าเค้าเตอร์เพียงคนเดียวค่ะ และไปเจอคิวก่อนหน้าที่เค้ามาทำวีซ่าให้ลูกทัวร์ เลยรอนานนิดหน่อย เมื่อได้ยื่นวีซ่าแล้วก็ใช้เอกสารดังนี้ค่ะ
๑ แบบฟอร์มสมัครวีซ่า แบบอยู่ถาวร(ตอนแรกคิดว่าจะยื่นขอแบบถาวร ก็กรอกมาจากที่บ้านเลย และพอยื่นเอกสารก็ใช้ฟอร์มนี้เลยค่ะ) ๒ Lettera di invito(ให้สามีกรอก) ๓ ทะเบียนสมรสและใบเกิดลูกชายที่ได้รับจากแผนกกงสุล (เจ้าหน้าที่แผนกวีซ่าแนะนำว่าให้เก็บตัวจริงที่ได้รับจากแผนกกงสุน ติดตัวไว้เสมอ และให้ยื่นกับแผนกวีซ่าแค่ตัวสำเนาเท่านั้น หรือถ้าจะใช้เอกสาร ๒ ชุดนี้กับที่ไหนก็แล้วแต่ ให้ยื่นไปแต่สำเนา และให้ เก็บตัวจริงที่ได้รับจากแผนกกงสุนไว้กับตนเองค่ะ) ๔ พาสปอตสามี และหน้าที่มีชื่อลูกชายด้วย ๕ พาสปอตของเราที่มีอายุไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน ๖ รูปถ่าย ๒ นิ้ว ๒ ใบ(ตอนแรกเจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ขนาดใดก็ได้ แต่เราเลือกที่จะใช้ขนาด ๒ นิ้วค่ะ) ๗ ใบจองตั๋วเครื่องบิน(ตอนยื่นขอวีซ่าใช้แค่ตั๋วขาเดียวค่ะเพราะไม่รู้มาก่อนว่าจะได้แค่เพียงวีซ่าท่องเที่ยวค่ะ แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นไร ให้กลับมาจองตั๋วแบบไปกลับเฉพาะเราคนเดียวสามีและลูกไม่ต้องใช้สองขาค่ะ เมื่อได้ใบจองตั๋วแล้ว ก็ให้แฟกซ์ไปที่แผนกวีซ่าค่ะ)
และเจ้าหน้าที่แผนกวีซ่าได้ให้ใบรับวีซ่ามาค่ะ และนัดให้ไปรับวีซ่าในวันอังคารที่ ๑๓ ก.ค. ๕๓ โดยสามีบอกกับเราว่า ยังไม่ต้องโทรไปบอกกับคนขายตั๋ว ว่าให้ออกตั๋ว รอให้ได้รับวีซ่ามาอยู่ในมือเราก่อน แล้วค่อยโทรไปบอกให้เค้าออกตั๋วและจ่ายเงิน เผื่อว่าจะมีอะไรขัดข้องน่ะค่ะ
Create Date : 07 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 8 ตุลาคม 2553 17:58:25 น. |
|
1 comments
|
Counter : 606 Pageviews. |
|
|
ได้ความรู้ดีค่ะ