..LiFe iS a jOuRnEy..
Group Blog
 
<<
เมษายน 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 เมษายน 2552
 
All Blogs
 
: : คนขายฝัน # ๔ : ก๊อปปี้ไรท์เตอร์มือใหม่ : :


Photo by courtesy of everdred of flickr.com


บันไดขั้นแรกของการเป็นก๊อปปี้ไรท์เตอร์มือใหม่ น่าจะคล้ายๆ กับเออีมือใหม่ คือ การอ่าน..อ่าน..และอ่าน.. เพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับลูกค้า ผู้เป็นเจ้าของสินค้าหรือแบรนด์ใดๆ ก็ตามที่เราต้องรับผิดชอบทำงานโฆษณาให้ รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอื่นๆ ในเครือ สินค้าคู่แข่ง สภาวะตลาดในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต (จากการคาดคะเน)

ดูแต่ตัวหนังสือและตัวเลขเท่านั้นยังไม่พอ ยังจะต้องไล่ดูชิ้นงานโฆษณาในอดีต ทั้งงานภาพยนต์โฆษณา พรินท์แอด และอาร์ตเวิร์คของแอดชนิดต่างๆ ทั้งหมด ของสินค้าทุกตัวที่เกี่ยวข้อง เรียกว่าช่วงสัปดาห์แรกๆ ต้องหูอื้อตาลายไปกับข้อมูลอันมากมายมหาศาล...

นอกจากนี้ ก๊อปปี้ไรท์เตอร์มีภารกิจหลักที่แตกต่างจากเออีออกไปตรงที่สวมหมวกของการเป็น "ฝ่ายสร้างสรรค์" ต้องคิดและเขียนคำให้กับโฆษณาด้วย แต่เออีไม่ต้องทำ (เออีก็ต้องไปทำอะไรอย่างอื่นที่โหดหินพอๆ กัน แต่คนละกรอบงาน คนละบริบท...)

ตามตำราว่าด้วยการโฆษณา งานของก๊อปปี้ไรท์เตอร์ จะมีกรรมวิธีขั้นตอนสลับซับซ้อนอะไรมากไปกว่านี้หรือเปล่าก็ไม่รู้... แต่สำหรับเรา ผู้ที่ไม่ได้เรียนจบมาทางโฆษณามาแต่น้อยนิด รวมทั้งไม่เคยทำงานในเอเจนซีใดๆ มาก่อนเลย เราเริ่มต้นงานเขียนก๊อปปี้แบบมวยวัดพอสมควร...

คือหลักการกว้างๆ มันคงจะมีอยู่... แต่อย่าลืมว่า หัวใจของคนโฆษณา คือการ "คิดนอกกรอบ" (Out of the Box) ซึ่งไม่ได้หมายความให้แหกกฎขนบธรรมเนียมประเพณีกันตะพึดตะพือ... แต่คงจะหมายถึงให้หัดมองอะไรๆ ด้วยแง่คิดและมุมมองที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร...

ฉะนั้น โจทย์ปัญหาจะเป็นอะไรมาอย่างไรก็ตาม เราก็จะต้องมี "แผนกลยุทธ์" (Strategy) เป็นแกนกลางไว้ก่อน เพื่อเป็นมาสเตอร์แพลนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้ว่า จะทำสินค้าอะไร จุดเด่นจุดด้อยของสินค้าคืออะไร อรรถประโยชน์หลักสำหรับผู้บริโภคคืออะไร (อู้ฮู..แปลไทยแล้วเข้าใจยาก..มันคือ Key Consumer Benefit นั่นเอง...) แล้วก็ให้ตระหนักถึงองค์ประกอบสำคัญๆ เกี่ยวกับแบรนด์ เช่น จุดยืนของแบรนด์ ทัศนคติของผู้บริโภคเกี่ยวกับแบรนด์ (ข้อมูลจากงานวิจัย) ฯลฯ...

ถ้าไม่มีแผนกลยุทธ์ ทีมงานก็จะทำงานเหมือนพายเรือในอ่าง หรือไม่ก็พายเรือออกนอกทะเลโดยไม่มีเข็มทิศ ไม่มีหางเสือ...ถ้าเป็นยุคนี้ก็ต้องว่า ไม่มีจีพีเอสนั่นละมัง...

และเจ้าแผนกลยุทธ์นี่ล่ะ จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความ "แม่น" (ไม่ใช่หมอดูแม่นๆ นะคร้า..) ของคนโฆษณา ในการตีโจทย์ของลูกค้าได้อย่างตรงประเด็น ถูกต้องตรงกับความต้องการทั้งของลูกค้าและผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย... ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่การันตีความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อเอเจนซี...



Picture by courtesy of Adam Crowe of flickr.com


อย่างเขียนไว้ใน "คนขายฝัน" ตอนก่อนๆ ว่า เราเข้าไปในเอเจนซีแห่งแรก (แน่นอน..ไม่ใช่แห่งสุดท้าย) นี้ โดยเข้าไปเป็นเออีผู้ช่วยของนาย พร้อมกับทำงานก๊อปปี้ไรท์เตอร์ไปด้วย ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมาก เพราะเราได้เห็นงานโฆษณาในทั้งมุมมองของผู้บริหาร และผู้สร้างสรรค์...

แต่ที่แน่ๆ คือ งานโฆษณาไม่ใช่งานเท่ๆ เก๋ๆ ดูฉาบฉวยสวยหรู แบบที่เด็กรุ่นใหม่คิดกัน คนที่จะทำงานโฆษณาต้องมีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน และแรงจูงใจอย่างแรงกล้าที่จะทำงานประเภทนี้ให้ได้ผลงานออกมาดีๆ ให้ได้ และมีแรงเสียดทานต่อความกดดันในทุกรูปแบบ ทั้งเวลาและงบประมาณที่มีจำกัด เพื่อนร่วมงาน นาย ลูกค้า ไปจนถึงการจัดสมดุลชีวิตของเวลาและครอบครัว...

เราว่าคนที่ชอบทำงานเรื่อยๆ สบายๆ ไม่เครียด ไม่ต้องมีเส้นตาย จึงอาจจะไม่เหมาะกับงานประเภทนี้...

ที่เอเจนซีแรกของเรานี้ เราได้เจอก๊อปปี้ไรท์เตอร์สามคน หญิงสอง ชายหนึ่ง นิสัยดีและน่ารักต่อเพื่อนร่วมงาน แต่มีอยู่คนนึง เรารู้สึกว่านิสัยใจคอออกจะแปลกๆ นิดนึง แต่ก็ไม่ถึงกับคบไม่ได้...

คุณ ส. ก๊อปปี้ไรท์เตอร์สาวคนแรก เธอถนัดเขียนงานโฆษณาประเภท Advertorial หมายถึง งานโฆษณาที่แฝงมาในรูปของบทความ (ฟังดูไม่ค่อยดีเลยเนอะ..) รวมทั้งการเขียนภาษาสวยๆ สำหรับเครื่องสำอาง และภาษาห้าวๆ สำหรับเครื่องจักรเครื่องไฟฟ้าอีกด้วย...

คุณ ม. ก๊อปปี้หนุ่มหนวดงาม คนนี้มาเป็นก๊อปปี้ได้ไงไม่รู้ ถ่ายรูปออกจะเก่งกาจสามารถออกปานนั้น... (ปานไหนน่ะหรือ..ตอนนี้แกเป็นช่างภาพหญ่าย มีชื่อเสียงระดับชาติไปแล้วละ) แต่แกก็เขียนคำเก่งเหมือนกันนะ เคยทำงานด้วยก็รู้สึกว่าแกคิดคำได้บรรเจิดเริดดี คุณ ม. แกเขียนก๊อปปี้ให้กับสินค้าได้ทั่วไปหลากหลาย แล้วแต่นายจะสั่งว่างั้นเถอะ...

คุณ ป. ก๊อปปี้สาวอีกคนที่เราว่าแปลกๆ เธอเป็นรุ่นน้องกว่าเราหน่อยนึง แต่ถือว่าตัวเองทำงานเขียนคำมาก่อน เลยออกจะมีความเริดเชิดหยิ่งเล็กน้อยตามประสาคนโฆษณาส่วนใหญ่ที่มักจะมี "อีโก้" (Ego) สูง... พูดถึงดีกรีความเก่ง เธอก็ชอบคิดอะไรผาดแผลง โลดโผนอยู่พอสมควร จึงได้รับมอบหมายให้ทำก๊อปปี้ให้กับสินค้าแฟชั่น วัยรุ่น หรือพวกโปรโมชั่น...

โอ้ว...ชักจะยาวละ... ก่อนจบบล็อก จะขอยกตัวอย่างการสนทนาปราศรัยประสาก๊อปปี้ไรท์เตอร์มาลงไว้พอเป็นน้ำจิ้ม...



Photo by courtesy of everdred of flickr.com



"คุณ ส. เขียนก๊อปปี้ให้ "ค." (เครื่องสำอางฝรั่งเศสยี่ห้อนึง) หรือคะ อื้ม..ญ. ว่าศัพท์เทคนิคแบรนด์นี้เยอะจังนะคะ.. สินค้าเขาก็เยอะมากมีตั้งหลายตัว คุณ ส. เขียนเก่งจัง ต้องอธิบายยาวๆ บรรยายจุดขายซะละเอียดลออ"

"ฮือ..ใช่แล้วละ คุณ ญ. สินค้า "ค." เนี่ย ไม่ใช่สินค้าธรรมดาๆ เป็นสกินแคร์ระดับสูง ราคาแพง เน้นอาร์แอนด์ดี (วิจัยและพัฒนา) เขาจะเน้นเรื่องผลประโยชน์ต่อผู้ใช้มากกว่าสินค้าทั่วไป เราก็เลยต้องศึกษาให้ละเอียด เขาจะมีไบเบิลมาจากเมืองนอกเลยนะคุณ ญ. อาร์ตเวิร์คก็ทำมาเสร็จจากเมืองนอกเลย งานนี้เราทำคำไทยอย่างเดียว ก็เลยต้องคัดสรรคำให้เหมาะกับผู้บริโภคไทยๆ หน่อย ส. เอง เขียนๆ ไปก็งงนะ ต้องลองใช้ดูด้วยถึงจะเขียนออก"

"ฮ้า..ต้องใช้แบรนด์นี้ด้วยเหรอคุณ ส. โอ้ว...แพงจะแย่"

"โอ๊ย.. ใครจะไปซื้อละจ๊ะ คุณ ญ. ลูกค้าก็ต้องส่งมาให้เราทดลองใช้ซิจ๊ะ เขาจะเตรียมเป็นสินค้าขนาดทดลอง ส่งมาให้ใช้เลย ใช้แล้วเราจะได้เกิดจินตนาการได้ไม่ผิดเพี้ยน"

'ดีจัง ได้ใช้เครื่องสำอางฟรี' (อันนี้เราคิด..ไม่กล้าพูดออกมาหรอกนะ...)

"แล้วถ้าลองใช้แล้วผลมันไม่ดีจริงอย่างที่เขาว่า ทำไงล่ะคุณ ส. "

"ดีไม่ดี เราก็ต้องพยายามหาจุดดีๆ มาพูดสิคะ จุดไม่ดีก็ไม่ต้องไปพูดถึง แต่แอดเครื่องสำอาง ยังไงๆ เราก็ต้องระวัง อ.ย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข) เค้ามีไกด์ไลน์ไว้เลยละว่า ห้ามโฆษณาชวนเชื่อ พูดเกินจริง ห้ามเปรียบเทียบ เราก็ต้องพูดตามที่เราสามารถทำได้ อย่างจะไปบอกผู้บริโภคว่า ใช้แล้วท้องที่ลายจะหายภายในกี่วันๆ อย่างนี้ ทำไม่ได้เด็ดขาด ข้อพิสูจน์ที่ไหนๆ ก็มาใช้อ้างไม่ได้ คุณ ญ. ไปอ่านซะด้วยนะ ระเบียบ อ.ย. น่ะ ที่ห้องสมุดมี "

"แล้วคุณ ส. เคยเจอไม้ล่ะ กรณีที่เราไม่ควรพูด หรือเขียนในโฆษณา แต่ลูกค้าจะเอาให้ได้"

"โอ๊ย ... เจอเป็นประจำ ก็ต้องทะเลาะกันจนเบื่อไปข้างนึงละซิ" (...ไอ้เรื่องทะเลาะกับลูกค้าผู้เป็นเจ้าของเงินนี้ คุณ ส. อาจจะทำได้ เพราะเผอิญ คุณ ส. สนิทสนมกับลูกค้า และลูกค้าให้เครดิตแกมาก ถ้าเป็นคนอื่นทั่วไป ไม่ควรจะไปคัดง้างกับลูกค้าเป็นอย่างยิ่งนะเคอะ...)

"คุณ ส. คิดว่าเราควรจะอธิบายลูกค้าไงล่ะ ถ้าเราอยากจะยืนกรานตามความคิดของเรา" (ซึ่งอาจจะสวนทางกับความคิดของลูกค้า)

"แหม..เรื่องการขายงานให้ผ่านนี่ มันเป็นเทคนิคและฝีมือที่ต้องเรียนรู้กันนานเลยละคุณ ญ. ไม่ใช่ว่าเปิดตำราทำกันได้ง่ายๆ เหมือนทำกับข้าว คุณ ป. นายเราซิเก่ง แกรู้วิธีหว่านล้อมลุกค้าแต่ละรายดี บทแกจะดื้อกับลูกค้าแกก็ดื้อเอาเรื่องเหมือนกันนะ แต่ก็นั่นละ ลุกค้าต้องเชื่อมือแกก่อน ถึงจะยอมฟัง... ส. เอง ก็ต้องใช้เวลานานกว่าลูกค้าจะเชื่อฟังเรา ที่แน่ๆ คือ เราต้อง "แม่น" กับเนื้องาน อย่ามั่วนิ่ม ถ้าไม่รู้ก็ต้องขอโทษบอกไปว่าไม่รู้ เสียหน้าหน่อยดีกว่ามั่วๆ ไป ลูกค้าจับได้ก็เสียเครดิตกันหลายชั่วโคตรเลยละคุณ ญ. เอ๋ย..."


.........................................


...บันทึกท้ายบล็อก...



จขบ. ไปหัวหินมาหลายวัน ไม่ได้แตะคีย์บอร์ดเลย มัวแต่เป็นแจ๋วล้างชามให้คุณลูก
พอกลับมาถึงบ้านเปิดคอมฯ เลยมันเขี้ยว ขอเขียนเรื่องการทำงานโฆษณาต่อเป็นตอนที่ 4
ยังไม่รู้จะเขียนซักกี่ตอน เพราะขอเขียนแบบตามสบาย รายสะดวก ไม่มีพล็อต ไม่มีแผนใดๆ ทั้งสิ้น
แต่เราก็ตั้งใจว่าจะเขียนแบบเก็บสิ่งละอันพันละน้อย
รวมทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากการทำงานตรากตรำในวงการโฆษณา
หรืออาจจะเก็บช็อตเด็ดที่ฝังใจมาบันทึกไว้กันลืม
คงไม่มีความรู้หรือวิชาการอะไรมากนัก นอกจาก "ประสบการณ์" ด้วยตนเองล้วนๆ
ตัวละครที่เกี่ยวข้องยังมีอีกมากมาย ทั้งคุณ ฆ. คุณ ช. คุณ ย.
โอ๊ะโอ...มากมายจริงๆ แต่ได้บังอาจที่เชิญนามกรของแต่ละท่านมาเอ่ยในที่นี้
เราก็มิได้มีเจตนาจะพาดพิงให้เกิดความเสียหาย
เพียงแต่เป็นความระลึกถึงเท่านั้นเอง (หากท่านใดไม่สบใจ ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้...)



Spooky by The Classic IV
เชิญกดที่ลูกศรเพื่อฟังเพลงค่ะ..



MusicPlaylist
Music Playlist at MixPod.com






Create Date : 15 เมษายน 2552
Last Update : 17 ธันวาคม 2552 20:23:49 น. 10 comments
Counter : 2642 Pageviews.

 
สวัสดียามเช้าครับพี่แดง

ผมชอบอ่านนะครับ
ผมว่าคนโฆษณามีแคแร็กเตอร์พิเศษครับ



















โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:8:09:34 น.  

 
ผมเป็นคนที่ไม่ค่อนสนใจงานครับพี่แดง 5555
แต่ผมสนใจวิธีคิดของคน

อยู่ที่ร้าน
เหมือนไม่ได้ทำงานเลย
เพราะผมมัวไปสนใจแต่เรื่องความคิดของคนครับ หุหุหุ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:8:29:49 น.  

 
emo

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ
เรื่องที่คุณแดงเขียนมีประโยชน์จัง
ถือเป็นวิทยาทานที่ดีขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน^^
เดี๋ยวจะย้อนกลับไปอ่านบทก่อนหน้านี้ด้วย
<--ชอบตัวนี้จังเลยมาเมนต์ทีไรจิ้มทุกที


โดย: silly วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:9:31:03 น.  

 
สวัสดีวันสีเขียวค่ะ(ขอสมสมัยด้วยค่ะ) ตอนเด็ก ๆ อยากทำงานโฆษณาอยู่เหมือนกันค่ะ ประมาณว่าอะไรก็อยากทำค่ะ แต่ตอนนี้เลยไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลยค่ะ นอกจากเลี้ยงลูกค่ะ


โดย: chinging วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:10:37:25 น.  

 
สวัสดีคะคุณแดง
ไปแค่อัมพวาคะ
หลังจากนั่นเฝ้าบ้าน
เกาะติดสถานการณ์
กว่าจะหลับตาลงได้แต่ละคืน
ทรมานจริงๆ
เพิ่งรู้ว่าคนที่เค้านอนหลับยาก
หลับเย็นมันเป็นเช่นนี้เอง


โดย: C&C_BamBoo วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:12:57:59 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่แดง Pc ของพี่แดงหุยยังไม่ได้รับค่ะ คงเป็นหลังปีใหม่แหละค่ะ แล้วหุยจะรีบตอบกลับไปนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ


โดย: ก้าวไปตามใจฝัน วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:13:56:17 น.  

 
แวะมาอ่าน...แจ๋ว...ภาคก็อปปี้ไรท์เตอร์ค่ะ...พี่แดง

เพลงไพเราะจังเลย


โดย: tuktikmatt วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:14:41:05 น.  

 


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:20:20:56 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่แดง

ชอบบทความเรื่องก๊อปปี้ไรท์เตอร์

ของพี่แดงมากๆ เลยค่ะ

หนูเคยได้ยินชื่ออาชีพนี้มานาน

รู้คร่าวๆ ว่ามีหน้าที่เขียนคำเด็ดๆ

ให้กับพวกสินค้า โฆษณา

เลยเคยคิดอยากลองทำเหมือนกัน

ยิ่งอ่านบทความของพี่แดงแล้วก็ยิ่งสนใจค่ะ

แต่จะมาจอดก็ตรง'เราว่าคนที่ชอบทำงานเรื่อยๆ

สบายๆ ไม่เครียด ไม่ต้องมีเส้นตาย

จึงอาจจะไม่เหมาะกับงานประเภทนี้... '

ให้อารมณ์เหมือนการทำงานของคณะหนูเลยค่ะ

วันนี้เจื้อยแจ้วอัพนิราศดงมะไฟตอนที่ 2 แล้วค่ะ

ขอเชิญร่วมเดินทางสู่ค่ายบ้านดงมะไฟ

และอยากขอ คำแนะนำติชมด้วยค่ะ

มีความสุขทุกวันนะคะ


โดย: มังกรเขียวหัวยุ่ง (cruduslife ) วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:20:26:28 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่แดง ..

นอกจากพี่แดงจะคิดถึงและนำเอาประสบการณ์อาชีพมาเล่าสู่กันฟัง
แบบคิดถึง ระลึกถึง คนอ่านอย่างพู่และก็เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็ชอบจะอ่าน
เพราะว่าก็ได้รู้มากขึ้นกับอาชีพนี้นะคะว่าเค้าทำงานกันยังไงบ้าง
อ่านแล้วก็พอเห็นภาพและก็ทำให้คิดถึงหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คเล่มบางๆ
อ่านง่ายๆ น่ะคะ เพราะว่าพี่แดงเขียนได้คล่อง อ่านได้ง่าย
ชอบมากเลยค่ะและก็ขอให้ลุ้นว่ามีอีกหลายๆ ตอนค่ะ เพราะว่า
จากที่อ่าน พี่แดงเก็บเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ เอามาเขียนได้เยอะเลย
เลยทำให้เชื่อว่าน่าจะมีต่ออีกเรื่อยๆ ค่ะ
.............................


อ่านเม้นท์พี่แดงเรื่องของ "ลืมวันเกิด" ของคนข้างๆ
ใช่ว่าพู่จะไม่เป็นนะคะพี่แดง .. .นับไปแล้วก็ย้อนหลังไป 4 ปีได้
ล่ะคะ ลืมแบบว่าทำเรางงเลย เพราะว่าปีนั้นพู่เองซื้อของ
ให้กับเค้าก่อนล่วงหน้าตั้ง 1 อาทิตย์แน่ะคะ และก่อนหน้านั้นก็แบบว่า
คิดอยู่เรื่อยๆ ว่า เอ แล้วจะให้อะไรเค้าดี พอนึกได้ก็เลยไปซื้อ
และห่อของขวัญให้เค้าด้วย ที่ซื้อและจัดการไว้ล่วงหน้านั้น
เพราะว่ากลัวลืมน่ะคะ ทีนี้พอวันเกิดเค้ามาถึงจริงๆ เรากลับลืม
เพราะว่ามีกิจต้องทำนั่น ทำนี่ ... แล้วก็ทำบ้านด้วยนะคะ เพราะว่า
จะต้องทาสีประตูอะไรสักอย่าง แล้วเพราะเรายุ่ง ก็ผ่านไป
ครึ่งบ่าย คนข้างๆ ก็เดินสวนกับเราแล้วก็ถามเราว่าวันนี้วันอะไร
พู่ก็ยังบอกว่าวันนี้วันพุธ(มั้ง) เค้าก็เดินผ่านพู่ไปอีก แล้วก็
กลับมาถามว่าวันนี้วันที่เท่าไหร่ พู่ก็ เอ๊ สงสัยแล้วตอนนั้น
จะมาถามทำไม พอไปดูมือถือวันที่เท่าไหร่ เลยได้ร้องอ้าวเลยค่ะ
เลยหันหน้ามาบอกว่า happy birthday แบบเนียนๆ ค่ะ 555+
คิดไปแล้วขำดีคะ ลืมแบบว่าลืมจริงๆ เพราะยุ่งขนานแท้
เลยค่ะพี่แดง


โดย: JewNid วันที่: 15 เมษายน 2552 เวลา:22:00:40 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Devonshire
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add Devonshire's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.