|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
แสบซ่าส์วาสนา แจ๋ว! ตอนที่ 9
นอกเรื่อง:จากการเกษียณสู่การถูกเนรเทศของ เลขาฯ ตัวแสบ!
..เมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่แล้ว ฉันรู้สึกใจหายแว๊บที่อยู่ ๆ CEO เรียกฉันเข้าพบพร้อมกับผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล พอเข้าไปถึงห้องเห็นนายมีสีหน้าเครียดยิ่งทำให้ฉันรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี
นายบอกว่าเดือนหน้าจะมีผู้บริหารระดับสูงสุดรองจากนาย ซึ่งประจำอยู่โรงงานในจังหวัดทางใต้กำลังจะเกษียณอายุงาน ซึ่งตามนโยบายของบริษัทจะต้องลาออกในเดือนที่เกิดเพราะมีอายุครบ 55 ปี ที่จริงถึงแม้นโยบายจะกำหนดไว้ชัดเจนแต่ที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างพนักงานที่จะต้องเกษียณตามอายุ แต่เนื่องจากเป็นผู้ที่มีผลงานดีและยังมีไฟแรงที่จะสามารถทำงานต่อได้อีก บริษัทฯ ก็จะต่ออายุงานให้โดยการทำสัญญาปีต่อปี
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาจึงมีพนักงานหญิงคนหนึ่งระดับผู้จัดการทำงานทางด้าน Logistics เพิ่งลาออกไปด้วยวัย 57 ปีโดยที่เธอได้ต่ออายุสัญญาหลังเกษียณและทำงานต่ออีกถึง 2 ปี ที่จริงถึงแม้จะมีอายุ 57 ปีแล้วก็ตามเธอยังมีความกระตือรือร้นในการทำงาน และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี..
แต่โดยนโยบายแล้วบริษัทมีความจำเป็นต้องหยุดการต่อสัญญาเพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่ หลังจากเธอผู้นี้ออกจากบริษัทฯ ไปแล้วเธอก็ได้เข้าไปทำงานในอีกบริษัทฯ หนึ่งซึ่งเป็นนายเก่า ที่เธอเคยทำงานมาก่อนเมื่อสิบกว่ายี่สิบปีก่อนอีกครั้งหนึ่ง
ตัวอย่างนี้น่าจะตอบคำถามเพื่อน ๆ และท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่านที่อาจจะเคยถามว่า อายุเท่านั้นเท่านี้ยังสามารถจะเปลี่ยนงานหรือหางานใหม่ได้หรือไม่ หรือควรจะกลับไปทำงานที่เก่าที่เคยลาออกมาแล้วหรือไม่ แต่ไม่ว่าคำถามหรือคำตอบจะเป็นอย่างไรทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวท่านเองทั้งสิ้น ว่าท่านเป็นผู้ที่มีความตั้งใจจริงใจทุ่มเทและมีทัศนคติต่อตัวเองต่อผู้อื่นและต่อองค์กรอย่างไร
ขอกลับมาที่ผู้บริหารคนที่กำลังจะเกษียณที่กล่าวถึงข้างต้น ท่านผู้นี้ได้ร่วมหัวจมท้ายและช่วยสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับองค์กรมาตลอด 30 ปี ได้ทุ่มเทและอุทิศตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริตจงรักภักดีและรับผิดชอบต่อหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างดีเยี่ยม และเป็นที่รักของพนักงานทุกคนในองค์กรเป็นอย่างยิ่ง..
ถึงแม้นายอยากจะให้มีการต่ออายุงานหลังเกษียณ แต่ดูเหมือนผู้บริหารท่านนี้จะได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ไปแล้วว่าจะไม่ต่อ ฉันคิดว่าท่านคงจะอยากเปิดโอกาสให้คลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ และที่สำคัญคงจะมีความฝันส่วนตัวที่อยากจะมีเวลาทำฝันนั้นให้เป็นจริงก็เป็นได้
แต่หลังจากการเจรจาระหว่างนายและผู้บริหารท่านนี้แล้ว ปรากฏว่าท่านยินดีจะรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ให้กับองค์กรต่อไป โดยอาจจะลดเวลาเข้าบริษัทลงจากเวลาปกติ ข้อตกลงนี้น่าจะได้ประโยชน์แบบ Win:Win กับทั้งองค์กรและผู้บริหารท่านนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับตัวฉันที่จะถูกเนรเทศตามหัวข้อกระทู้หรือ?
นายบอกว่าหลังจากการเกษียณอายุการทำงานของผู้บริหารท่านนี้แล้ว เป็นโอกาสอันดีที่นายจะเข้าไปพิจารณาการปรับปรุงผังองค์กรใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยปกติบริษัทฯ จะให้พนักงานทำ HR Test ปีละครั้งเพื่อประเมินทัศนคติของพนักงาน เพื่อการปรับปรุงพัฒนาและจัดการฝึกอบรมเพิ่มความรู้และเติมเต็มจุดอ่อนของพนักงานในส่วนที่ยังขาดอยู่
ทุกปีนายจะร่วมกับผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลพูดคุยกับผู้บริหารระดับผู้จัดการส่วนขึ้นไป โดยการใช้ผลการประเมินจากการทำ HR Test ประกอบในการพูดคุย ส่วนบุคลากรระดับผู้จัดการส่วนลงมาเป็นหน้าที่ของผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพียงผู้เดียว
แต่สืบเนื่องจากการเกษียณของผู้บริหารระดับสูงท่านนี้ นายมีโครงการจะให้พนักงานระดับหัวหน้าแผนกหรือผู้จัดการส่วนขึ้นไป ทำแบบทดสอบ HR Test เป็นวาระพิเศษเพื่อรองรับการปรับปรุงองค์ใหม่ในครั้งนี้ โดยนายจะลงไปทำงานประจำที่สำนักงานใหญ่ทางใต้ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานพร้อมกับทีมงานอีกหลายคน หนึ่งในทีมงานของนายจะมีฉันเป็นสมาชิกด้วยอีกหนึ่งคน..
วันที่นายเรียกฉันเข้าไปคุยพร้อมกับผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและแจ้งเรื่องนี้ ฉันรู้สึกช๊อคที่จะต้องติดตามนายไปปฏิบัติภาระกิจนี้เป็นเวลา 3 เดือน นายกล่าวเรื่องนี้ต่อหน้าผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลโดยที่ฉันไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ จึงเท่ากับว่าเรื่องนี้มีคนรู้เพียง 3 คนคือ CEO, ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและตัวฉัน
เนื่องจากนายยังไม่ได้ประกาศเรื่องนี้ให้ทราบอย่างเป็นทางการ ฉันจึงไม่ได้ปริปากพูดเรื่องนี้กับใครเลยยกเว้นทางบ้านที่ไม่ค่อยสนับสนุนในเรื่องนี้สักเท่าไร
ต่อมานายเรียกประชุมผู้จัดการฝ่ายและจัดทีมปฏิบัติการพิเศษในเรื่องนี้อีกรอบ โดยการประชุมในครั้งนี้ไม่มีฉันและผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคลเข้าด้วย ผู้บริหารที่เข้าประชุมพูดเป็นนัย ๆ ที่ทำให้ฉันเดาว่าเรื่องที่ประชุมเป็นเรื่องทีมปฏิบัติการพิเศษนี้แน่นอน จากนั้นฉันทราบมาว่าทีมงานชุดนี้ได้เตรียมตัวและจะออกเดินทางพร้อมกับนายในเดือนหน้า
แต่แปลกแฮะ..ในทีมไม่มีฉันและไม่มีใครพูดถึงฉันและฉันก็ไม่ได้ถามใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะตัวนายที่ไม่ได้ถามฉันถึงเรื่องนี้อีกเลย ฉันไม่รู้เหตุผลแต่ก็ไม่อยากถามเพราะฉันรู้จักนายดีว่าถ้าถามแล้วนายก็จะพูดว่า ผมมีคำสั่งชัดเจนแล้วว่าคุณจะต้องลงไปช่วยงานในครั้งนี้ 3 เดือน (ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง?)
ต่อมานายมีการประกาศเรื่องนี้ในที่ประชุมผู้บริหารซึ่งทีมงานชุดพิเศษนี้ก็ไม่มีชื่อของฉันเช่นกัน วันหนึ่งฉันได้ยินนายถามสมาชิกหลายคนในทีมต่อหน้าฉันว่าเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกันหรือยัง? แต่นายไม่มีคำถามแบบเดียวกันกับฉันจึงทำให้ฉันคิดว่านายคงรู้ว่าฉันไม่อยากไป เพราะตั้งแต่วันที่นายมีคำสั่งฉันไม่ได้ถามหรือพูดถึงเรื่องนี้กับนายหรือเพื่อนร่วมงานอีกเลย
.
เหตุเกิดเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในระหว่างการไปสัมมนาที่หัวหิน นายเรียกประชุมผู้บริหารเป็นกรณีพิเศษหลังอาหารเย็น และหารือเกี่ยวกับแผนการและกำหนดหน้าที่ของทีมงานที่จะไปปฏิบัติภาระกิจในครั้งนี้
ในระหว่างการประชุมหารืออยู่ ๆ คุณนีน่าหรือนายหญิงของฉันก็เสนอในที่ประชุมว่า ให้ฉันลงไปช่วยนายปฏิบัติภาระกิจในครั้งนี้ด้วย CEO ของฉันได้ทีก็เลยกล่าวว่า นั่นนะซิ
คุณจะไปช่วยผมได้ไหมล่ะ? ฉันไม่ได้ตอบคำถามนายแต่เลี่ยงไปแสดงความคิดเห็นในเรื่องอื่น ๆ แทน
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉันรู้ว่าที่จริงแล้วนายต้องการให้ฉันลงไปช่วยงาน แต่นายก็รู้ว่าฉันมีภาระเรื่องลูกถึงแม้ว่าฉันจะมีน้อง ๆ ช่วยดูแลให้ความอบอุ่นได้เต็มที่ แต่ฉันก็ไม่อยากอยู่ห่างลูก ๆ และพี่น้องเป็นเวลานาน ๆ เช่นนี้..
หากเป็นในอดีตที่ฉันไม่มีภาระฉันสู้ตายอยู่แล้วและคิดว่างานต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัว ในครั้งนี้ถึงแม้ใจจะไม่อยากไปแต่ลึก ๆ ในใจฉันรู้สึกเหมือนตัวเองขาดจิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อหน้าที่ นี่เป็นจุดอ่อนหรือข้อเสียของคนไทยรวมทั้งตัวฉันที่ทำให้ประเทศของเราต้องตามหลังคนอื่นตลอดเวลา
หากเป็นคนญี่ปุ่นจะมีจิตสำนึกในเรื่องนี้สูงมากซึ่งฉันก็อยากจะทำและเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน สำหรับนายจ้างที่เป็นญี่ปุ่นก็เช่นกันคำสั่งจะต้องเป็นประกาศิตที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
ตอนนี้ฉันจึงเหมือนกับคนที่กำลังสับสนไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกที่ควรที่ฉันจะต้องรีบตัดสินดำเนินการ ใจหนึ่งฉันรู้สึกขอบคุณนายที่ไม่ได้บังคับฝืนใจฉันในเรื่องนี้จึงไม่ได้กดดันฉันในช่วงที่ผ่านมา ใจหนึ่งฉันรู้สึกตำหนินายที่ขาดความเหี้ยมและเด็ดขาด ฉันคิดว่านายใจดีและอ่อนแอเกินไปที่จะทำให้องค์กรอาจจะเกิดปัญหาได้ตลอดเวลา
หากนายเป็นคนเด็ดขาดและคิดว่าฉันสามารถทำประโยชน์ให้กับทีมปฏิบัติการในครั้งนี้ได้จริง นายควรจะต้องฟันธงและสั่งการโดยไม่ลังเลหรือเห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น และหากฉันหรือใครก็ตามไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งที่นายคิดว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารแล้ว พนักงานผู้นั้นต้องพิจารณาตัวเองและตัดสินใจเลือกว่าจะปฏิบัติตามคำสั่งหรือ ลาออก
ฉันควรจะฉวยโอกาสจากความใจดีและความอ่อนแอของนายในเรื่องนี้โดยการขัดคำสั่ง และปฏิบัติตนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?
หรือว่าฉันควรจะมีจิตสำนึกของความรับผิดชอบในหน้าที่ด้วยการรับคำสั่งแต่โดยดี และลงไปปฏิบัติภาระกิจพิเศษในครั้งนี้พร้อมนายและทีมงานโดยการอุทิศและทุ่มเทให้กับงานเต็มร้อย ซึ่งการรับภาระกิจในครั้งนี้จะเป็นตัวชี้วัดชะตากรรมและอนาคตการทำงานของฉันด้วย เพราะถ้าภาระกิจในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จฉันก็พลอยได้ความดีความชอบไปด้วย
แต่ถ้าภาระกิจล้มเหลวฉันอาจจะต้องเป็นคนแรกที่ต้องพิจารณาตัวเอง เพราะฉันรู้ดีว่าภาระกิจในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดของบริษัทเลยทีเดียว ฉันกลัวความล้มเหลวและความผิดพลาด..ฉันกลัวว่าฉันจะทำไม่ได้อย่างที่นายหรือทีมงานคาดหวัง.. ฉันกลัวทุกอย่างที่เป็นการเปลี่ยนแปลง!
สัปดาห์หน้านี้แล้วซินะที่ฉันจะต้องมีคำตอบให้กับนาย..ให้กับตัวเอง หากคำตอบสุดท้ายคือเป็น คำสั่ง ที่ฉันปฏิเสธไม่ได้ และฉันจะต้องถูกเนรเทศไปอยู่ในโรงงานทางใต้ของประเทศจริง ๆ วิถีชีวิตของฉันจากนี้ต่อไปจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไป..
กระทู้นี้จะเป็นกระทู้สุดท้ายที่ฉันจะโพสสำหรับเพื่อน ๆ และท่านผู้อ่าน ในระหว่างที่ถูกเนรเทศฉันคงไม่มีเวลามาเขียนเรื่องราวให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันอีก เพราะฉันจะต้องทุ่มเทให้กับงานวันละ 24 ชม. ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ลงไปประจำการ ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเรื่องเล่าของฉันและเป็นกำลังใจมาให้โดยตลอด
หากภาระกิจนี้ประสบความสำเร็จ.. ฉันคงจะได้กลับมาพร้อมกับเรื่องเล่าที่มีประโยชน์นำมาเล่าสู่เพื่อน ๆ ในห้องสีลมนี้อีกครั้งหนึ่ง สำหรับวันนี้ขอลาทุกท่านไปก่อน
จนกว่าจะมีโอกาสกลับมาพบกันใหม่!
Till We Meet Again!! //usersface.ca/~dstephen/tillmeet.htm
Create Date : 02 มิถุนายน 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2551 0:16:57 น. |
Counter : 1212 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: mon IP: 125.25.26.149 4 มิถุนายน 2551 9:18:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: "เลขาฯ ตัวแสบ!" IP: 58.8.23.98 4 มิถุนายน 2551 22:31:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: snof IP: 117.47.210.220 10 มิถุนายน 2551 14:10:26 น. |
|
|
|
| |
|
|