สุดแดนสยามที่หมู่บ้านอีต่อง
วันสุดท้ายสำหรับการมาทองผาภูมิ ผมเลือกขับรถจากภูไอยรารีสอร์ทไปเที่ยวหมู่บ้านอีต่องกันครับ แม้ใจอยากจะแวะเที่ยวเขื่อนวชิราลงกรณ์ด้วย แต่คงจะกลับมาไม่ทันแน่ๆ เลยขอเก็บไว้โอกาสต่อไปละกัน วันนี้โชคดีที่ท้องฟ้าเปิดไม่มีฝนตกเหมือนสองวันที่ผ่านมา รถก็น้อย แต่ก็ใช้เวลาค่อนข้างนานเหมือนกัน ความจริงระยะทางก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เพียงแค่ราวๆ 40 กิโลเมตร แต่ด้วยทางที่โค้งไปโค้งมา ลัดเลาะไปตามเขา บางช่วงค่อนข้างแคบ ทำให้วิ่งได้ไม่เร็วมากนัก ถ้าขับเร็วไปก็อาจจะทรมานคนนั่งหน่อย ประมาณ 45 นาทีก็มาถึงจุดชมวิว กม. 15 เป็นที่แรกให้ได้แวะพักรถกันก่อน ตรงจุดนี้มีห้องน้ำให้บริการสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย รอสมาชิกได้พักให้หายเวียนหัวกันก่อนแล้วค่อยออกเดินทางกันต่อ
จากจุดชมวิวที่เราแวะกันมาอีกไม่ไกลก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ด้านในมีจุดชมวิวสวยๆ 2 จุด คือ จุดชมวิวเนินกูดดอย และจุดชมวิวเนินช้างเผือก สามารถขับรถเข้าไปชมได้โดยเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานคนละ 40 บาท และรถยนต์คันละ 30 บาทเท่านั้น ใครมาที่นี่ต้องได้เจอนกเงือกที่บินวนเวียนอยู่ตรงหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เจ้านกเงือกนี้มีชื่อว่า แจ๋วแหวว ทราบจากเจ้าหน้าที่อุทยานว่า เจ้าแจ๋วแหววเป็นนกเงือกเพศผู้ เคยเป็นนกเลี้ยงมาก่อน แล้วมีคนเอามาปล่อยไว้ที่นี่ เป็นนกที่คุ้นเคยกับคน เลยชอบออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวครับ
ด้านในอุทยานยังมีบ้านพักและลานกางเต็นท์อยู่ติดหน้าผา สามารถชมวิวได้ทั้งวัน แต่ที่ถูกใจนักท่องเที่ยวก็เห็นจะเป็นบ้านทาร์ซานที่สร้างอยู่บนต้นไม้ สำหรับ 2 คน มีห้องน้ำเสร็จสรรพ แต่ถ้าจะนอนบ้านหลังนี้คงต้องจองกันแต่เนิ่นๆ นะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาล เพราะมีอยู่เพียง 4 หลังเท่านั้นเอง
ออกจากอุทยาน ขับต่อไปตามเส้นทางเดิมก็จะเข้าตำบลปิล๊อก ผ่านทางแยกไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่น แต่เส้นทางไม่ดี ต้องใช้รถโฟร์วีลเลยไม่ได้ขับเข้าไปชม ผ่านทางเข้าเหมืองแร่สมศักดิ์ที่ตอนนี้ป้าเกล็น ภรรยาชาวออสเตรเลียเปิดเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้ามีเวลาเหลืออีกสักคืน คงได้ใช้บริการของป้าเป็นแน่แท้ ขับเลยชุมชนไปเล็กน้อยจะถึงทางแยกไปเนินช้างศึก สามารถขับขึ้นไปได้เพราะเป็นถนนคอนกรีตอย่างดี มีลูกรังช่วงสั้นๆ เท่านั้น สุดถนนจะเป็นฐาน ตชด. สามารถมองเห็นหมู่บ้านอีต่องและเทือกเขาในเขตพม่า แม้จะเป็นหน้าร้อน แต่อากาศบนเนินนั้นเย็นนิดๆ เหมาะมาตั้งเต็นท์พักแรมเป็นอย่างยิ่ง ตอนมาถึงไม่เจอใครเลย ดูวังเวงชอบกลเหมือนกัน
ถึงตอนนี้ฝนก็เริ่มลงเม็ดแล้ว ทำท่าจะตกหนักด้วย เลยรีบลงจากเนิน เลี้ยวขวากลับเส้นทางเดิม ช่วงนี้ถนนจะเลาะเลียบตะเข็บชายแดน ด้านขวามือเป็นหมู่บ้านอีต่อง หมู่บ้านนี้เคยเป็นหมู่บ้านที่คึกคักมากสมัยที่ยังมีการทำเหมืองแร่ มีทั้งชาวไทย พม่า และกะเหรี่ยงอาศัยอยู่ร่วมกัน ส่วนด้านซ้ายมือซึ่งเป็นเขตของพม่าจะเจอป้ายทางเข้าเหมืองแร่ปิล๊อกเดิม ถัดไปเป็นพระบรมสารีริกธาตุวัดเหมืองปิล๊อก สามารถแวะเข้าไปกราบไหว้ได้ ขับต่อไปอีกไม่ถึงกิโลก็จะถึงเนินเสาธง มีบันไดขึ้นไปชมวิวด้านบน มองเห็นโรงแยกก๊าซทั้งฝั่งไทยและฝั่งพม่า ซึ่งบริเวณจุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นแนวท่อก๊าซในเขตฝั่งไทย
ย้อนกลับมาเที่ยวที่หมู่บ้านอีต่องกันต่อ ที่นี่ดูเหมือนจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจากเหล่าบรรดานักท่องเที่ยว เริ่มมีร้านกาแฟหรือโฮมสเตย์ให้บริการบ้างเหมือนแหล่งท่องเที่ยวทั่วไป แต่ชาวบ้านก็ยังคงใช้ชีวิตตามแบบวิถีดั้งเดิมอย่างเหนียวแน่น ไม่ได้ปล่อยให้ไปตามกระแสมากนัก เรามาแวะทานอาหารกลางวันปิดท้ายทริปนี้ที่ร้านครัวสุดแดน อาหารร้านนี้รสชาติจะออกกลางๆ แบบคนกรุงกินกัน อิ่มแล้วก็แวะซื้อเค้กของป้าเกล็นที่ชาวบ้านนำมาวางขายเฉพาะช่วงวันหยุด และซื้อโปสการ์ดสวยๆ ส่งไปฝากเพื่อนๆ ที่คิดถึง นอกจากนี้ใครที่ชอบอาหารทะเล ยังมีปูทะเลที่ตกได้จากทะเลอันดามัน ราคาแสนถูกมาวางขายอีกด้วย มีบริการรถพาเที่ยวน้ำตกจ๊อกกระดิ่นสำหรับคนที่ไม่มีรถโฟร์วีลราคาเที่ยวละ 600 บาท และสำหรับใครที่ยังไม่เหนื่อยก็ยังมีเส้นทางเดินขึ้นไปชมวิวบนเขาช้างเผือกอีกด้วย น่าเสียดายที่ครั้งนี้ไม่มีเวลาพอที่จะไปเที่ยวทั้งหมดได้ แต่ครั้งหน้าถ้าได้มีโอกาสมาเที่ยวทองผาภูมิอีกเมื่อไหร่ จะกลับมาเยือนหมู่บ้านอีต่องอีกแน่นอนครับ.-
เดินทางไปเที่ยวแบบเลาะตามหมู่บ้านแบบนี้ อยากไปเหมือนกันคะ แต่ฟอร์มทีมไม่ได้เลย เพื่อนไม่ค่อยชอบไปแบบนี้