สวัสดีค่ะ มะได้อัพบล๊อคตั้งนาน ไม่ได้หายไปไหนหรอกนะ จริงๆ ก็อัพอยู่แหละ แต่ดันลืม set หน้าแรกให้เป็นหัวข้ออื่นมั่ง ก้อเลยดูเหมือนว่ามันจะแช่อยู่หน้าเดิม (ชีสเค้ก) ตั้งแต่ชาติที่แล้ว... แอบสารภาพอีกนิดว่า 4-5 วันก่อนติดเกมอ่ะค่ะ Bookworm Adventure ไปโหลดมาจาก Yahoo!! (แล้วก็ได้ crack มาเรียบร้อย โฮ่ๆๆๆ ) เล่นแล้วเพลินมากๆ ... แหะๆ ... ปล่อยเชื้อ Bookworm ไปทั่วที่ทำงานแล้วเรา ... กำลังใช้วิชามารล่อลวงน้องๆ ให้มาติดเกมกะเราอยู่อ่ะ ฮิ.. ฮิ... (ใครอยากได้ crack เชิญหลังไมค์เลย ... ว่าแต่... ยังไม่ได้ทำหลังไมค์เลยอ่ะ .. ทำมะเปง ... แหะๆ) ในที่สุดก็ได้ฤกษ์มาอัพบล๊อคกันเสียที เหตุเกิดจากพี่ที่ทำงานเค้าเอามะม่วงสุกจากสวนมาฝาก เป็นมะม่วงมหาชนกลูกเบ้อเร้อ... กลิ่นห๊อม... หอม แถมยังหวานเจี๊ยบ !! ไม่มีรสเปรี้ยว มาแทรกให้รำคาญใจ... โอ้... อิฉันก็เลยเกิดอาการอยากได้ข้าวเหนียวมูนมาแกล้ม แต่หน้าฝนแบบนี้ ร้านข้าวเหนียวมะม่วงที่อร่อยที่สุดของจังหวัดก็ดันไม่ขายแล้ว (ป้าแกทำเฉพาะกิจ แกบอกว่าหลังเมษา คนก็เบื่อ... ปีนึงทำหนเดียวก็พอ จะได้ปั่นหุ้นข้าวเหนียวมูนได้สนุกหน่อย... โห.. ) ... แต่หนูอยากกินตอนเดือนกรกฎานี่นา... คุณป้าขา ... เอาวะ!! ในเมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่คาดหวัง สถานการณ์ก็เลยสร้างวีรสตรี (เกี่ยวกันยังไง ??) ทำเองก็ได้ฟะ !! ก็ได้ผู้ชี้แนะดีๆ อย่างแม่น้องบั๊ดดี้นี่เลย (Link อยู่ที่นี่ค่ะ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=buddy&month=06-2007&date=25&group=6&gblog=277) หลังจากที่ย่องเบาเข้าไปตีท้ายครัว แอบครูพักลักจำมา ก็เลยเอามาลองทำเองดู (คือว่าถ้าบ้านอยู่ใกล้กันก็คงไม่ทำเองหรอกนะ กะจะไปเขย่ารั้วออดอ้อนให้ทำให้กินเลยน่าจะง่ายกว่า ) ลงมือซะเรยยยย ... ว่าแต่ หาซื้อข้าวเหนียวเขี้ยวงูไม่ได้เลยอ่ะ ไม่มีขายเลยซักร้าน ครั้นจะถ่อออกนอกเมืองไปถามที่โรงสี ถึงมีขาย ก็ไม่คุ้ม เพราะซื้อมาแค่ลิตรเดียวเอง แต่ค่าน้ำมันบานนนนน สุดท้ายก็ต้องดัดแปลงเอาเองค่ะ ใช้ข้าวเหนียวคัดอย่างดี (เชียงราย) มาแทนข้าวเหนียวเขี้ยวงู (เลือกเอาที่เค้าติดป้ายว่าอย่างดี คิดเอาเองว่าน่าจะใช้แทนได้ดี) สารส้มก็ไม่มี เพราะเราใช้โรลออน (!!!) เอ๊ย !! ม่ายช่ายยย ขี้เกียจไปหาซื้อต่างหาก... แหม .. หวดไม่มี ซึ้งไม่ต้อง นึ่งไม่เป็น เอาใส่หม้อหุงข้าวอัจฉริยะ (เราเรียกมันว่าน้องลูกเต๋า) แล้วก็หุงด้วยโปรแกรมหุงข้าวซูชินั่นแหละ น้ำก็ตามขีดสัดส่วนที่ข้างหม้อเลย ... ส่วนใบเตยก็ไม่ต้องใส่ (หาซื้อยากพอๆ กับข้าวเหนียว จะปลูกเองก็ไม่ไหว) ... สรุปว่าไปแอบจดสูตรเค้ามา แต่เอามาดัดแปลงซะเละตุ้มเป๊ะ โน่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ใส่ ... โห... แม่น้องบั๊ดดี้มาเห็นคงดีใจจนน้ำตาเล็ด มะมา อย่าช้า ... ดูกันเลยดีกว่า รายละเอียดดูใน link ข้างบนนะคะ หลังจากที่แช่ข้าวสารประมาณ 6 ชั่วโมงแล้ว ก็เอามาหุงในหม้อลูกเต๋าน้อยจอมอัจฉริยะ (สังเกตว่าไม่ใช้คำว่านึ่งข้าวนะคะ ใช้คำว่าหุงแทน เพราะเราเอาไปหุง ไม่ได้นึ่งอ่ะนะ... โปรดเข้าใจ .. ดิฉันไม่ได้ใช้ภาษาไทยผิดนะคะ.. อะแฮ่ม) ระหว่างรอหุงข้าวใกล้เสร็จ ก็มาเตรียมผสมน้ำกะทิกัน แล้วก็เอาข้าวเหนียวลงคลุกกับน้ำกะทิที่เตรียมไว้แล้ว แม่เราบอกว่าให้คลุกเบาๆ สัก 2-3 ทีก็พอ เดี๋ยวข้าวจะหักและเหนียวเป็นก้อน ก็อุตส่าห์ระวังอย่างดีโดยลืมไปว่าคุณแม่บั๊ดดี้เคยย้ำว่าตอนคลุกข้าวต้องยังร้อน ไม่งั้นข้าวจะไม่ดูดกะทิ ... ... แล้วข้าพเจ้าก็ลืมซะดื้อๆ ดันเอาข้าวไปผึ่งซะ ระหว่างเตรียมน้ำกะทิ ... จ๋อยเลยดิ มิน่า.. มันเลยดูแฉะๆ เชียว แต่ก็ไม่เป็นไรนิ จะกินซะอย่าง มั่นใจจะเอามาอวดเพื่อนๆ ซะอีก... แหม.. ก็ confounding factor (ปัจจัยก่อกวนที่มีผลต่อผลลัพธ์) มันเยอะนี่นา ทั้งชนิดข้าว, วิธีหุง, ส่วนประกอบที่ถูกดัดแปลงซะหลายอย่างเนื่องมาจากความขี้เกียจส่วนบุคคล ฯลฯ ... ได้แค่นี้ก็ภูมิใจแล้วล่ะคะ เสิร์ฟกับมะม่วงสุก มหาชนกลูกเบ้อเริ่ม หวานเจี๊ยบชื่นใจ น่ากินไหมล่ะเพื่อนๆ ราดหัวกะทิมาแล้วนะคะ แต่บังเอิญลืมใส่แป้งข้าวโพด กะทิก็เลยไม่ข้น .. ซึมหายลงไปในข้าวซะอย่างนั้นน่ะ ถ้าโรยถั่วเขียวซีกสักหน่อยนะ... อร่อยอย่างแรง (กว่านี้อีก) นิ คำนี้จะป้อนให้เลย ใครอยากกินมั่ง... อ้าปากรอไว้เลยนะจ๊ะ ... ( ... อ้ำ ... )

Create Date : 08 กรกฎาคม 2550
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 19:08:55 น.		23 comments
Counter : 1219 Pageviews.
Share Tweet