YIN คือ พลังด้านเย็น คือความอ่อนตัว คือพลังของความเป็นผู้หญิง คือความมืด คือความฉ่ำเย็น
คือการนิ่ง สงบ ไม่เคลื่อนไหว YIN tissue ในร่างกายเราก็คือ Ligaments หรือ เส้นเอ็นในร่างกานนั่นเอง
รวมถึงกระดูก และข้อต่อ ที่ยืดไม่ได้ ตึงมากอยู่ตลอดเวลา เราอาจเคยได้ยิน ศาสตร์แห่งกานนวดจับเส้น ก็คือการจับ YIN tissue นั่นเอง

YANG คือ พลังด้านร้อน พระอาทิตย์ พลังที่เต็มไปด้วยพลังงานและการเคลื่อนไหว หมุนเวียน
พลังแห่งเพศชาย ดังนั้นด้านของ YANG ในร่างกายก็คือกล้ามเนื้อ (Muscular energy) นั่นเอง
Ashtanga yoga เป็นโยคะที่มี YANG ชัดเจนมาก เต็มไปด้วยการเคลื่อนไหวของลมปราณและพลัง (energetic yoga)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ดังที่กล่าวมา จะสังเกตุได้ว่า YIN tissue จะยืดเหยีอดได้มากกว่า และเก็บความเครียดได้เยอะกว่ากล้ามเนื้อ หากใครเคยไปนวดจับเส้น จะรู้ได้เลยว่า หากกล้ามเนื้อยังเกร็งอยู่ การจับเส้นจะไม่สามารถทำได้ กดไปกล้ามเนื้อจะเกร็งต้าน หากยังฝืนจะกดก็จะบาดเจ็บไปเปล่า ๆ
ดังนั้นการยืด YIN ต้องใช้เวลา และเราจะเข้าถึง YIN ได้ ต้องคลาย YANG ให้หมดก่อนครับ เพื่อให้พลังแห่ง YIN ออกมาได้เต็มที่
การยืด YIN ต้องใช้เวลาครับ..... YIN yoga จะใช้เวลาในการ hold ท่า นานนนนมากกกก
อย่างน้อยค้างอยู่ในท่า 3 นาทีครับ เพิ่อให้ YIN tissues ค่อย ๆ ยืด
........หากผมสอน YIN โยคะ สิ่งแรกที่ให้นักเรียนทำคือ จะให้ฝึกลมหายใจ
นานกว่าคลาสปกติเล็กน้อย จากนั้นก็จะเริ่มเปิดเพลง
ไม่ได้เป็นเพลงบรรเลงแต่อย่างใด เป็นเพลงที่อัดเสียงของกระแสน้ำที่ไหล........
ไม่มีเสียงเครื่องดนตรีใด ๆ ฟังดนตรีที่บรรเลงโดยธรรมชาติ
กระแสน้ำคือดนตรีแห่ง YIN ความฉ่ำเย็น ไหลนิ่งอย่างสงบ
น่าแปลกที่ธรรมชาติ แม้เพียงเสียง ก็ทำให้ใจเราผ่อนคลายได้ลึก ......

จากนั้นเราก็จะเริ่มคาย YANG energy คือผ่อนคลายกล้ามเนื้อทั้งหมด
ท่า YIN yoga จะคล้าย ๆ กับท่าทั่วไป แต่ส่วนมากจะทำบนพื้น เป็น Floor series ซะส่วนใหญ่
เวลาฝึก ให้นึกถึงตัวเองเป็นหุ่นกระบอก แขวนร่างกายด้วยเชือก ไม่ใช้พลังใด ๆ จากกล้ามเนื้อทั้งสิ้น

ยกตัวอย่างเช่น ท่า Seated forward bend (Pachimotanasana;หน้าผากจรดเท้า)
เวลาฝึก.....ก็ให้แรงโน้มถ่วงของโลก ดึงร่างกายเราให้ก้มลงไปเอง
ไม่เกร็ง ไม่กลั้น หลังงอหรือไม่ ไม่สนครับ
เหมือนเราสลบเหือด ไม่รู้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น (หมายถึงกล้ามเนื้อนะครับ แต่ยังมีสติอยู่)
เราจะสังเกตได้เลยว่า ร่างกายจะค่อย ๆ เคลื่อนต่ำลงไปเองอย่างช้า ๆ ตามแรงโน้มถ่วง เมื่อเราคลายกล้ามเนื้อที่ขาได้หมด จะรู้สึกเองว่า yin tissue ค่อย ๆ ยืด
เมื่อไหร่ที่ร่างกายเกร็ง ก็หันความสนใจไปฟังเสียงของน้ำ ไหล
เมื่อเราปล่อยตัวลอยอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำ
ความรู้สึกของการลอยตัวบนน้ำ นั่นแหละครับ ใช่เลย
กล้ามเนื้อผ่อนคลายหมดแล้ว
Yin yoga ไม่เน้น alignment ครับ..... เท้าจะเปิดกว้างอย่างไรไม่ต้องสนใจ
ไม่เฟลคหรือ point เท้าทั้งสิ้น ให้กล้ามเนื้อคลายตัวอย่างเดียวพอ
หลังก็ไม่ต้องไปยืดมันมากครับ ก้มได้ตามสบาย
แต่ที่น่าแปลกคือ การฝึก YIN เหมือนจะง่าย แต่หากลองสังเกตจะรู้สึกที่กระแสแปลบ ๆ
โดยเฉพาะคนที่หลังขาตึงมาก เมื่อเราเริ่มรู้สึกถึงการยืดของเส้นประสาท
นั่นแหละครับ Yin tissue เริ่มยืดแล้ว เอ็นได้เริ่มยืดแล้ว แถมเป็นการยืดที่ลึกว่าการยืดโดยใช้ Yang ด้วยซ้ำ

หลายคนที่ทำท่า farward bend ไม่ได้
ไม่ใช่เพราะหลังไม่ยืด แต่ขาหลังต่างหากที่ตึง ทำให้หลังยืดเหยียดตรงไม่ได้
ดังนั้นการฝึก YIN ก็จะช่วยทำให้การฝึก YANG ดีขึ้นด้วยครับ
เมื่อเรารู้จักพลังแห่งการผ่อนคลายของ YIN ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับ YANG เวลาฝึกโยคะได้ครับ
แต่ ๆ ละคนจะมีจุดสมดุลของการ Balance พลังสองขั่วที่ว่านี้ต่างกัน

.......ลองมาดูตัวอย่างง่าย ๆ

ผมขอเปรียบเทียบท่า upward-facing dog จากกระทู้ที่แล้ว

ภาพทางด้านล่าง....คุณ KIM
จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีพลัง YIN อยู่อย่างมากมาย เป็น Upward-facing dog ที่ดูนุ่มนวล เป็นพลังของ YIN ที่มี YANG exert อยู่ ทำให้สามารถ Hold ท่าอยู่ได้ เพราะถ้าขาดซึ่งพลังด้านร้อน ความแข็งแรงของร่ายกายจะไม่มี แล้วก็จะทำให้ท่า collapse ไปในที่สุด

ส่วนนางแบบด้านบนของเรา เต็มไปด้วยพลังแห่ง YANG ลองดูกล้ามเนื้อในร่างกายที่เธอใช้ในการ Hold ท่าซิครับ
(ไม่ต้องบอกนะครับว่าเธอฝึกโยคะแบบไหน Ashtanga แน่นอน) แต่ก็มีพลัง YIN ทำให้ท่าดูไม่แข็ง

หลักของ Anusara โยคะที่สอคคล้องกับ YIN ก็คือ
เมื่อเราใช้พลังงานกล้ามเนื้อทำท่าได้ถึงจุดแล้ว คือ push สุดแล้ว
ลองคิดถึงการ “soft your skin” ดูครับ เป็นหลักการของการเริ่มแทรกพลัง YIN เข้าไปในท่าให้มากขึ้น
ดังนั้นท่าจะดู soft มากขึ้น ไม้แข็งจนทื่อ ดูแล้วผ่อนคลาย......สบาย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ดังนั้น หากจะลองประยุกต์ใช้หลักการของ YIN เวลาฝึก HATHA โยคะ
สิ่งที่ผมจะแนะนำ คือ เวลาเราทำท่าต่าง ๆ ให้ใช้พลัง YANG คือกล้ามเนื้อ Push ท่าให้เกือบสุดก่อน
พอใกล้จะถึงจุดที่ลึกที่สุดแล้ว ค่อย ๆ insert พลังของ YIN เข้าไป

ลองคิคถึงการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ นึกถึงการ “Soft your skin” นึกถึงพลังแห่งความอ่อนตัวของ YIN

แล้วลองดูครับว่าเราจะทำท่าได้ลึกขึ้นหรือเปล่า โดยเฉพาะท่า Back Bending

แล้วลอง push มากขึ้นอีกนิด แล้วก็ผ่อนคลายใหม่ ทดลองไปเรื่อย ๆ จนหาจุดสมดุลได้ แล้วจะรู้สึกสบายมากขึ้นครับ
อาจลองหัด Balance สองพลังไปมาดูนะครับ

หวัดดีครับ เด็กซาปอย พอดีตอนนี้ผมสนใจโยคะมาก เลยอยากได้คำแนะำนำหน่อยครับ ผมเล่นอยู่แล้วแต่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แ้ล้วตอนนี้อยากเรียนอย่างจิงจังครับ ถ้ายังไงผมรบกวน ส่งอีเมล์ หาผมหน่อยนะครับ voopee@hotmail.com ขอบคุณในความช่วยเหลือล่วงหน้าครับ

Keep Reading