สวัสดีค่ะ วันนี้ไม่ขรี้เกียจอัพบล็อค แต่ก็เกือบ ฮ่าๆๆ
พอดีแอบง่วงอยู่มากมายก่ายกอง
เมื่อเช้าตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตี 5 โอ้วว เวลาเดียวกับวันทำงานเลย
แต่ก็งอแง งัวเงีย กลิ้งไปมากว่าจะลุกได้ก็ 6 โมง
ไม่ต่างจากวันทำงานเล้ยยย
แต่
เต็มใจมากๆค่ะ
เนื่องจากวันนี้บิวมีภารกิจค่ะ
กลุ่มอาสาสมัครกลุ่มเดิมจากเฟสบุ้คมีกิจกรรมอีกแล้วค่ะ
รายละเอียด คือ เนื่องจากจะมีงานเลี้ยงให้กับผู้สูงอายุที่พิการทางสายตาซึ่งกำลังจะเกษียณจากงาน และผู้พิการทางสายตาอื่นๆ ทางโรงเรียนสอนคนตาบอดจึงต้องการอาสาสมัครไว้คอยส่งข้าว ส่งน้ำ และดูแลความเรียบร้อยภายในงาน รวมถึงประสานงานต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกผู้พิการทางสายตาจำนวนประมาณ 300 คนที่จะมาในงาน
ก๊อบมาแปะชัดๆ ><
ตามนี้แหล่ะค่ะ เลยลงชื่อไปแล้วก็เป็น 1 ใน 20 คนค่ะ
ไปถึงที่แหล่งชุมนุมนายทหาร ซึ่งอยู่ตรงราชวิถี ฝั่งเดียวกับโรงเรียนสอนคนตาบอด ประมาณ เกือบ 8 โมง
ก่อนไปก็ดูแผนที่ไว้เรียบร้อยละ
ออกจากบ้าน 7 โมง ขึ้นรถตู้ไปลงอนุเสาวรีย์ใช้เวลา 15 นาที o_O!!!
เร็วเกิ๊น...เลยเดินเื่อื่อยเฉื่อย ดูโน่นนี่นั่นไปขึ้นรถเมล์ต่อ
ก็จำได้ว่าอยู่ตรงข้าม ร.พ.พระมงกุฎ ขึ้นรถไปก็รอกระเป๋ามาเก็บตังค์แล้วให้เค้าช่วยบอกตอนถึงแ้ล้ว
พอหันหน้าไปจ่ายตังแล้วถามว่า โรงพยาบาลพระมงกุฏลงป้ายไหนคะ หางตาก็เหลือบไปเห็นว่ารถผ่านแหล่งชุมนุมนายทหาร
ผ่านโรงเรียนสอนคนตาบอด
เอิ่ม...เค้าบอกว่าลงป้ายหน้า ไอ้เราก็เชื่อคนง่าย
ลงป้ายหน้าเลยแยกตึกชัยไป แล้วไงล่ะ
เดินย้อนกลับมาเป็นกิโล -*- ซึ่งเดินย้อนกลับมายังผ่านป้ายรถเมล์ที่ควรจะลงอีก
ไม่งั้นคงเดินใกล้กว่านี้ แต่ไม่เป็นไร ยังไม่ 8 โมงอยู่ดี
แดดไม่ร้อนมาก ชิลๆ
พอไปถึงก็มีคนมาบ้างแล้ว 2- 3 คน เลยช่วยพี่ๆเจ้าหน้าที่ของสถานที่เค้าจัดโต๊ะ ใส่ผ้าคลุมเ้ก้าอี้
จนอาสาท่านอื่นๆทยอยตามมาเรื่อยๆ
บิวก็รับหน้าที่เป็นผู้รับลงทะเบียนหน้างาน
ลงทะเบียนตามงานทั่วๆไป ผู้มาร่วมงานต้องลงชื่อเองใช่มั้ยคะ
แต่เด๋วก่อน
ย้อนกลับขึ้นไปอ่านค่ะว่านี่งานอะไร
ใช่แล้วค่ะ ผู้พิการทางสายตาเป็นผู้มาร่วมงาน
เพราะฉะนั้นเรามีหน้าที่ลงทะเบียนให้เค้าค่ะ
โดยการถามชื่อ นามสกุล เบอร์โทร แล้วเบอร์โต๊ะที่เค้าจะนั่ง
พอดีโต๊ะเป็นโต๊ะจีนค่ะ โต๊ะนึงนั่งได้ประมาณ 9- 10 ท่าน
มาท่าน สองท่านก็ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่ พอมาเป็นกลุ่ม บวกกับเสียงไมค์ที่ดังมารอบด้าน ทั้งบนเวที
และด้านหน้าประตู โอ้วว ตอนนี้เกือบเป็นผู้พิการทางหูแล้วค่ะ
กว่าจะให้ข้อมูลกันรู้เรื่อง แทบสลบค่ะ แต่ก็สนุกดีค่ะ
พอผู้เข้าเงินเริ่มซา อาหารเริ่มเสิร์ฟ บิวเริ่มหิว
ก็เก็บข้าวของที่โต๊ะลงทะเบียน เตรียมเข้าไปช่วยงานด้านใน
ช่วยดูแลผู้พิการนะคะ ยังมิได้ช่วยรับประทานแต่อย่างใด ฮ่าๆๆ
ค่อนข้างเพลียด้วยค่ะวันนี้ นอนดึกแล้วตื่นเช้า แอบวิ๊งๆ หิวด้วย
เพราะยังไม่ได้ทานข้าวเลย กว่าจะได้ทานก็ต้องรอเค้าเลิกงานก่อน ประมาณบ่ายสองกว่าๆค่ะ
เค้าเลยจัดอาหารมาให้ 1 ชุด
แล้วก็โซ้ยกันจนอิ่มตามนั้นแล
......................................................
นับว่าเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้มาร่วมดูแลผู้พิการทางสายตา ความที่เคยกลัวท่านๆเหล่านี้
ก็หายเป็นปลิดทิ้งแล้วค่ะ จะดูแลช่วยเหลือเค้าไม่ยากเท่าที่คิดค่ะ
เค้าเป็นผู้พิการทางสายตาก็จริง แต่ประสาทสัมผัสอื่นๆ เค้าก็ได้มาชดเชยในสิ่งที่เค้าขาด
ซึ่งทำให้พิเศษกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ
ความจำก็ดีเป็นเลิศ เพราะเค้าต้องใช้สมาธิอย่างมาก
ไม่เชื่อลองหลับตาใช้ชีวิตแบบมืดๆดูสิคะ
แน่นอนค่ะว่าแรกๆจะทรมาน อึดอัด แต่ความจำเป็นทำให้เค้าสามารถสร้างจินตนาการในสมองของเค้าไว้ได้
จนเกิดความเคยชิน
เพราะฉะนั้นทุกการสัมผัสของเค้า มักจะออกมาจากสมองและความคิดของเค้า
ทำให้บุคคลเหล่านี้ ใช้สมาธิในการรับรู้สิ่งใดๆ จึงเกิดคามจำที่ดีค่ะ
(เป็นทฤษฎีตามความเข้าใจของบิวเอง ฮ่าๆๆๆๆ )
และเพื่อนๆอาสา ก็เป็นเพื่อนหน้าเดิมและหน้าใหม่ บ้างก็ไปคนเดียว บ้างก็ไปกับเพื่อน
บิวก็ไปคนเดียว ชวนเพื่อนไปไม่ทัน เพราะผู้สนใจเยอะมากเกินจำนวนที่เค้าต้องการ
ทุกคนเป็นกันเองและน่ารักมากๆค่ะ
เราคงเคยทำบุญร่วมกันมาก่อน ทำให้ชาตินี้เราได้มาพบเจอกัน แล้วได้ทำบุญร่วมกันอีก
เป็นกรรมเก่าที่ส่งผลให้มาทำกรรมใหม่ที่ดีในชาตินี้
อ่าว ผิดประเด็นรึป่าว o_O
พอเข้าถึงธรรมะมากขึ้น เด๋วนี้มองอะไรก็เป็นเรื่องเวรเรื่องกรรมไปหมดเลย
ทำให้มองทุกสิ่งเป็นเรื่อง "ธรรมดา"
........................................................
แล้ววันนี้บิวก็มีเพลงมาฝากค่ะ ไม่รู้จะเข้ากับเอนทรีนี้รึป่าวนะคะ
แต่ก็ร้องเองค่ะ ฮ่าาาาาาาาาาาาา
วันนี้เท่านี้ก่อนนะคะ รีบไปนอนแล้วค่ะ ต้องตื่นทำงานแต่เช้าๆๆๆๆ
คืนนี้ฝันดีทุกคนค่ะ
ตื่นมารับวันทำงานใหม่อย่างแข็งขันน่ะครับ