พักนี้ดูหนังเป็นว่าเล่นจะสบายดีหรือไม่สบายก็ดูหนังได้เนอะค่ะ...555555....ป่วยซะหลายวัน แต่ไม่มีใครรู้หรอกถ้าไม่สังเกต ถ้าคนช่างสังเกตจะเห็นว่าช่วงวันทำงานวันไหนที่ จขบ. มาตลอดมาแต่เช้าเป็นเวลาหลายวันแสดงว่า จขบ. ไม่หยุดพักผ่อนก็ไม่สบายแต่ส่วนมาก จขบ. จะไม่หยุดพักผ่อนช่วงต้นปีงบประมาณเพราะมีความรู้สึกยังซิงค์ๆ อยู่...555555...นอนป่วยอยู่บ้านตั้งแต่วันอาทิตย์จนถึงเช้าวันพฤหัสให้คั่นเนื้อคั่นตัวเป็นอย่างมาก พอวันพฤหัสไปทำงานตอนเย็นเลยชวนกันไปดูหนังเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอซะเลย เป็นหนังที่เพิ่งเข้าวันแรก คือ 15 ตุลาคม 2552 ที่ดูแล้วไม่ผิดหวังจริงๆ ค่ะและเป็นหนังไทยที่น่าส่งเสริมเรื่องหนึ่งที่ดูแล้วสบายใจสบายตา หัวเราะอมยิ้มได้ทั้งเรื่องขนาดเจ้าตัวน้อยที่ติดสอยห้อยตามไปด้วยยังหัวเราะเอิ๊กอ๊ากจนต้องเอามืออุดปากเค้า....555555....กลัวใครจะว่าหัวเราะเกินเหตุอะไรแบบนี้...และยังมีหนังที่ไปดูอีก 2 เรื่องที่ยังไม่ได้เอามาลงขอเอาเรื่องนี้มาลงก่อนและกันนะคะ...แบบว่าชอบมากค่ะ...
สำหรับหนังเรื่องนี้แทบไม่มีพิษมีภัยต่อสายตาและหัวใจคนดูเลย เป็นหนังรักที่ออกแนวกุ๊กกิ๊กน่ารักๆ ที่ตัวแสดงนำฝ่ายหญิง คริส หอวัง แสดงได้น่ารักน่าหยิก ขำเธอได้ตลอดเรื่อง แบบว่าไม่ต้องห่วงสวย เป็นตัวของตัวเองดีดูเป็นธรรมชาติมากๆ
มุมมองการถ่ายทำขอชมว่า มีหลากหลายไม่เกะกะรกตา และทุกอย่างก็คือ ชีวิตประจำวันของคน กทม. ที่ต้องดิ้นรนกับอาชีพ ขำที่หนังเรื่องนี้นำลูกเล่นที่พวกเราเริ่มชินตากับท่าเต้นของร้าน mk สุกี้ที่ปลุกพนักงานของร้านให้กระฉับกระเฉงในการทำงาน ในหนังเรื่องนี้มีท่าเต้นคล้ายๆ แบบนี้ที่เรียกยิ้มจากคนดูได้ แค่มุขสั้นๆ ง่ายๆ ที่หนังเก็บรายละเอียดเพื่อให้คนดูได้อมยิ้มและขำ ซึ่งยังมีอีกเยอะแยะมากมายตั้งแต่เริ่มฉากแรกซึ่งเป็นฉากแต่งงานของเพื่อนนางเอก ที่นางเอกเมาปลิ้นทำให้เกิดมุขขำขันมากมายที่ดูแล้วเป็นธรรมชาติของคนเมา แต่ตอนนี้ จขบ.ก็คิดเหมือนกันนะคะว่าถ้าเราเป็นเจ้าสาวแล้วเจอเพื่อนเมาปลิ้นแบบนี้ในคืนแต่งงานและต้องส่งตัวเป็นคืนแรกจะยังคบกันอีกมั๊ยหนอ...อยากรู้จังว่ามีใครคิดกับฉากนี้ยังไงบ้าง...แต่ก็ดูไปขำไป..อืมม..มม..คิดมุขนี้ได้ยังไงหนอเนี่ย...555555....
ถ้าพูดถึงเนื้อเรื่องแล้วต่อเนื่องตลอด ดูจบแล้วประทับใจกลับมาบอกต่อคนในบ้านให้รีบไปดูเป็นหนังที่น่าดูดูแล้วรับรองว่าไม่กลับมาว่าคนบอกให้ไปดูแน่นอน และก็เป็นจริงคนในบ้านเค้าก็ไปดูจริงๆ กลับมาเมื่อคืนบอกหนังน่ารักดี เป็นหนังดีนะ...แค่นี้คนบอก..ก็ปลิ้้มแล้วค่ะที่ไม่บอกให้เค้าไปเสียตังค์แล้วไปดูหนังไม่ได้เรื่อง...
พูดก็พูดเดี๋ยวนี้หนังไทยเราได้มาตรฐาน พล๊อตเรื่องก็ดี การกำกับ การสร้าง การถ่ายทำเทคนิคต่างๆออกมาดีหมด แม้การคัดเลือกตัวแสดงทุกคนก็ดี ดูแล้วไม่ขัดตา หรือดูเวอร์ๆ การแสดงที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ได้ห่วงสวยห่วงหล่อ อยู่ในบทบาทไหนก็อยู่ในบทบาทนั้นไม่หลุดเฟรมออกมาให้คนดูส่ายหัวเหมือนหนังไทยสมัยก่อนๆ ที่ตัวแสดงมักห่วงสวยห่วงหล่อ วางมาดกันซะคนดูกลืนน้ำลายเอื๊อกๆ และหนังแต่ละเรื่องพล๊อตเรื่องถึงจะต่างกันแต่ตัวแสดงทุกเรื่องจะกำหนดไว้เลยให้มี พระเอก นางเอก นางร้าย และผู้ร้ายและตัวประกอบดี กับตัวประกอบร้าย แล้วถึงวางเรื่องตามแนวเรื่อง แต่หนังสมัยนี้หยิบเอาวิถีชีวิตของสังคมปัจจุบันของไทยเรา ที่ดูแล้วคนดูยอมรับได้ว่าใช่ เป็นกันแบบนี้และเดาทางดำเนินเรื่องต่อไปไม่ออก และดูได้เรื่อยๆ ไม่ขัดหูขัดตาจนจบนั่นล่ะ
เกริ่นมาซะเยอะแยะ...เข้าเรื่องซะทีด้วยการเอาคลิปหนังตัวอย่างมาฝาก ไม่ได้เป็นเจ้าแม่คลิป(ประมาณนั้น) อย่างที่น้องต้นอ้อคนสวยบอก พี่แค่่อยากดูภาพเคลื่อนไหว เก็บเอาไว้ดูเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเท่านั้นค่ะและที่สำคัญเผื่อมีใครอยากดูเหมือนที่พี่อยากดูบ้างจะได้ไม่ต้องไปหาที่ไหนมาหาที่บล๊อกนี้ล่ะค่ะ...555555...แบบว่าแผนให้เพื่อนๆ มาทักทายกันบ้างนั่นเอง..ลึกล้ำๆ ป่ะคะ...
อันเดียวไม่จุใจแถมให้อีกอันเปิดดูตอนแรกคล้ายกันแต่พอเปิดไปไม่เหมือนกันค่ะ..เป็นคนแบบนี้ล่ะค่ะถ้าชอบแล้วมักจะเอามาเก็บไว้ใกล้ชิดกับตัวเองเวลาที่คิดถึงอยากเห็นอยากดูจะได้หยิบมาดูได้เลย นี่ก็มีแผนจะซื้อซีดีหรือ ดีวีดี เก็บไว้ดูตอนที่เค้ามีออกขาย แบบว่าอยากดูอีกค่ะ...555555..
ตัวอย่างหนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
สังเกตกันบ้างหรือเปล่าคะว่าพระเอกของพวกเราใส่เสื้อลายสก๊อตหรือลายทางยาวตลอด...แต่ไม่ว่าเคนจะใส่เสื้อหรือไม่ใส่เสื้อ หล่อม๊ากค่ะ...คนอะไรจะหล่อได้ทุกมาด ทั้งหล่อและเท่ห์ซะค่ะ....
เนื้อเรื่องรถไฟฟ้ามาหานะเธอ
เหมยลี่ หรือ ลี่ ซึ่งแสดงโดย คริส หอวัง อายุ 30 ปีได้ไปร่วมงานแต่งงานของเป็ดเพื่อนที่สนิทกันที่สุดเพราะเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ และเรียนด้วยกันมาตลอดจนจบก็ยังมาทำงานที่เดียวกันอีก ที่งานนี้เหมยลี่เมารั่วจนถึงขนาดส่งตัวเองนอนบนเตียงของเจ้าบ่าวเจ้าสาว และตื่นขึ้นมากลางดึกถึงรู้ตัวว่าไม่ได้นอนที่บ้านตัวเองก็เลยขับรถกลับบ้านทั้งที่ยังไม่ส่างเมาดีเท่าไร ทำให้เหมยลี่ขับรถเกือบเฉี่ยวชน ลุง ซึ่งแสดงโดยเคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ที่นั่งทานโจ๊กอยู่ข้างทาง ก็เลยเป็นต้นเรื่องที่ทำให้พระเอกและนางเอกได้เจอกันเป็นครั้งแรก และด้วยเหตุนี้เธอก็เลยไม่มีรถขับอีกต่อไป...
ทุกเช้าลี่ จึงต้องไปทำงานแบบเจอการจราจรสุดโหดของ กทม. ไม่ว่าขึ้นมอเตอร์ไซค์ ต่อรถตู้ โบกแท็กซี่ โหนรถเมล์ โดดลงเรือ และในคืนหนึ่งลี่ตื่นมากลางดึกเกิดความเหงาเธอจึงแอบขึ้นไปกินเบียร์บนดาดฟ้าของบ้านและคุยโทรศัพท์กับเป็ด ลี่ได้เห็นลูกจ้างชายหญิงกำลังแสดง "หนังสด" กันอยู่ และลูกจ้างชายจึงเป็นตัวเชื่อมให้ลี่ได้พบกับ ลุง เพราะลูกจ้างชายก็ทำงานอีกที่โดยเป็นคนดูแลเกรทเฮาท์ที่ลุงพักอาศัยอยู่ ลุงมีอาชีพเป็นวิศวกร Maintenance รถไฟฟ้า BTS
การได้พบกับลุงอีกครั้ง ทำให้เหมยลี่ เกิดความรู้สึกแปลกๆ และทำในสิ่งที่เธอไม่เคยทำและไม่คิดจะทำ คือ การจีบผู้ชายก่อน ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดของรถไฟฟ้ามาหานะเธอ...ไปติดตามดูได้ในโรงหนังนะคะ จขบ. รับรองเองว่าสนุกและน่ารัก เป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งค่ะดูแล้วประทับใจ...
เป็นตอนที่เหมยลี่ กับ ลุง เดทกันโดยบังเอิญครั้งแรกที่ท้องฟ้าจำลอง และเป็นเดทนัดไปเที่ยวสงกรานต์ด้วยกันเป็นเดทเที่ยวที่ลี่รู้สึกไม่สนุกเลยเพราะมีเพลิน เพื่อนรุ่นน้องแถวบ้านมาเป็นตัวแทรก และเพลินนี่ล่ะที่ทำให้ลี่ได้เรียนรู้วิธีจีบหนุ่ม...55555555...และตอนนี้นี่เองที่ลี่กล้าพูดกับเพลินว่า "คนนี้พี่ขอ"
เพลินเพื่อนรุ่นน้องที่พยายามเป็นตัวแทรกแซงความรักของลี่ กับ ลุง จนในที่สุดเพลินยอมเปิดทางให้กับลี่ เพื่อให้ลี่ได้มีแฟนสักคนหนึ่ง..
ลุง พบกับลี่ครั้งใดต้องมีอะไรสักอย่างพังและเสียหาย นี่ถ้าไม่ใช่หนังผู้ชายจะทนกับผู้หญิงที่ซุ่มซ่ามแบบลี่ได้สักกี่คนหนอ แล้วของที่พังแต่ละอย่าง..ต้องร้องว่า...โห..โน๊ตบุ๊คงี้...กล้อง...แว่นราคาแพงมาก...แม้แต่รถที่ลี่ขับเองก็ตาม
เมื่อลี่รู้ว่าลุงต้องไปดูงานและเรียนต่อที่เยอรมัน 2 ปีโดยลุงไม่ได้บอกเธอเลย เธอได้ยินเองทำให้เธอเกิดอาการเสียใจอย่างแรง และเธอยกเลิกนัดในวันรุ่งขึ้น แต่ในที่สุดเธอก็คิดได้ว่าอย่างน้อยก็ได้รู้จักกันแล้วเธอจึงไปหาลุงอีกครั้ง แต่ไปหาเพื่ออะไรก็ต้องไปติดตามดูกันเองในหนังค่ะ...
จุดต่างๆ ที่คนสองคนมาพบกัน และทำให้เกิดความรู้สึกที่เหมือนกัน แบบนี้ล่ะมั๊งที่เรียกกันว่า พรหมลิขิต ต่อให้อยู่แห่งหนไหนก็ตาม เมื่อพรหมลิขิตขีดเส้นให้ต้องมารักกันทำยังงั๊ยยังไงก็ต้องมาพบมาเจอด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ให้คนสองคนมาพบมากรักกันจนได้...
เมื่อเวลาผ่านไป 2 ปีพรหมลิขิตก็ทำให้คน 2 คนกลับมาเจอกันโดยบังเอิญอีก แล้วจุดจบจะเป็นยังไงก็ติดตามดูกันได้ที่โรงหนังค่ะ...
เพลงโปรดส่งใครมารักฉันที
เพลงประกอบภาพยนตร์ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ
จะต้องเหงากันอีกนานไหม ต้องนั่งถอนใจอีกกี่ครั้ง
จะต้องพบเจอกับรักที่ผิดหวัง กี่ครั้งถึงพอใจ
เปิดเพลงรักฟังอยู่คนเดียว มีรักข้างเดียวมันเปลี่ยวหัวใจ
มองไปรอบตัวก็ยังไม่เห็นใคร ทำไมต้องเป็นเรา
คอยปลอบตัวเองว่ามีสักวัน ที่เจอคนที่เขาจริงใจ
ยังคอยบอกตัวเอง ว่าต้องมีสักวัน แต่ว่ามันก็ไม่รู้เมื่อไหร่
โปรดส่งใครมารักฉันที อยู่อย่างนี้มันหนาวเกินไป
อยากจะรู้รักแท้มันเป็นเช่นไร มีจริงใช่ไหม
โปรดส่งใครมาเป็นคู่กัน ที่ไม่ทำให้ฉันเดียวดาย
ช่วยมาทำให้ฉันเข้าใจ และได้รักใครกับเขาสักครั้ง
มันอ้างว้างจนทนไม่ไหว พยายามห้ามใจ ไม่ได้สักวัน
อยากจะรู้จริงก่อนคนเขารักกันมันเป็นเช่นไร
คอยปลอบตัวเองว่ามีสักวัน ที่เจอคนที่เขาจริงใจ
ยังคอยบอกตัวเอง ว่าต้องมีสักวัน แต่ก็ไม่รู้ว่านานเท่าไร
โปรดส่งใครมารักฉันที อยู่อย่างนี้มันหนาวเกินไป
อยากจะรู้รักแท้มันเป็นเช่นไร มีจริงใช่ไหม
โปรดส่งใครมาเป็นคู่กัน ที่ไม่ทำให้ฉันเดียวดาย
ช่วยมาทำให้ฉันเข้าใจ และได้รักใครกับเขาสักครั้ง
กับเขาสักครั้ง..
ช่วยมาทำให้ฉันเข้าใจ และได้รักใครกับเขาสักครั้ง
คุณภัทร ชอบเคน นี่นา ฮี่ฮี่
ปกติไม่ค่อยดูหนังไทย
เรื่องนี้ คุณภัทรเขียนซะ น่าสนุก
น่ารักทั้งลี่ และเพลิน เลย
ไม่สบาย พักผ่อนกายใจ จะได้แข็งแรง สู้กันต่อไป
เราท้ายปี ถึงต้นปี ยังไม่ได้ลาเลย ต้องใช้บริการซะโหน่ย
ทานข้าวกลางวันละยังคะ