deeplove
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add deeplove's blog to your web]
Links
 

 
มาแอบบ่นแบบลึกสุดใจ



วิวัฒนาการด้านต่างๆ โลกเราตอนนี้ล้ำหน้ามากมายแต่จิตใจคนเรากลับย้อนหลังลงไปทุกทีๆ ดูได้จากคลิปโหดๆ คลิปทำร้ายกันมากขึ้นวันก่อนคลิปนักเรียนตบตีกัน วันนี้ รปภ. สองแห่งทำร้ายผู้คน รปภ. แรก เข้าใจว่าเป็น รปภ. ของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง ที่ไหนไม่ทราบใช้อาวุธในมือตีคนที่น่าจะเป็นนักศึกษา ภาพที่เห็นมันฟ้องว่าตีเด็กฝ่ายเดียวมีฉุดกระชากลากถูลงจากรถมอเตอร์ไซด์มาตี เตะ ต่อเห็นแค่ภาพแต่ไม่มีใครอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่เห็นภาพก็ก่นด่า รปภ. สองคนนี้ที่โหดมาก..ไม่ว่าใครจะผิดหรือถูก หรืออาจเกิดจากเด็กกร่างหาเรื่องอาจารย์ก่อนจากข้อสันนิษฐานหรือบอกต่อๆ กันมาก็ตาม รปภ. ก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ มีกฏระเบียบ หรือ ก.ม ข้อไหนเหรอคะที่ให้สิทธิ รปภ. ทำร้ายใครก็ได้ ทำไมไม่แก้ปัญหาด้วยการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยมาไกล่เกลี่ยโดยให้เด็กรออยู่ หรือถ้าเด็กไม่รอ ก็ควรกุมตัวเค้าอย่างละม่อม ไม่ใช่ลุแก่โทษด้วยการตัดสินเองแบบนี้ การทำแบบนี้เท่ากับส่งเสริมเด็กให้คิดว่าการแก้ปัญหา คือการใช้กำลังทำร้ายกันเท่านั้น สาเหตุนี้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งในหลากหลายเรื่องราวกระมังที่ทำให้เด็กที่ตีกันทำร้ายกันอยู่ทุกวันนี้ก็ได้..

ส่วน รปภ.แห่งที่สองที่เป็นข่าว คือ รปภ.รถไฟฟ้า รปภ.แห่งนี้กลับได้รับความเห็นใจจากผู้คนในเวปไซด์ที่นำคลิปไปลงมากกว่า รปภ.แรก เป็นการปฏิบัติหน้าที่เหมือนกันและคลิปชัดเจนพอสมควรว่าฝรั่งทำผิดก่อน จะมาอ้างว่าไม่รู้กฏระเบียบไม่ได้ ถึงจะฟังภาษาไทยไม่เข้าใจดีพอ แต่ท่าทางของ รปภ.ก็แสดงออกให้เห็นว่าห้ามเอาลูกโป่งขึ้นรถไฟฟ้า นั่งคิดสมมติเป็นเราไปต่างแดนแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้เราก็คงไม่ฝืนและคงขอโทษเค้า นั่นเพราะคนไทยส่วนใหญ่เป็นคนสุภาพอ่อนน้อม ไม่ได้หมายความว่าฝรั่งส่วนใหญ่ไม่อ่อนน้อมเพราะเคยเจอฝรั่งอ่อนน้อมถ่อมตนสุภาพเยอะแยะ สิ่งที่เค้าอธิบายว่าลูกโป่งมีค่าทางจิตใจต่อลูกสาวเป็นเหตุผลส่วนตัว ในการที่จะดื้อรั้นเอาลูกโป่งขึ้นรถไฟ เพราะทางแก้ปัญหาเรื่องนี้มีหลายทางที่จะหลีกเลี่ยงการมีเรื่องมีราว ถ้าหากคิดว่ามีค่าจริงๆ ทำไมไม่แก้ปัญหาด้วยการเอาลมออก เพราะเมื่อกลับไปบ้านลูกโป่งก็จะแฟบอยู่ดีก็เก็บเอาลูกโป่งที่อยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้เหมือนกัน หรืออาจแก้ปัญหาด้วยการขึ้นรถแท๊กซี่แทน เพราะรถไฟฟ้าเป็นรถที่มีคนอื่นใช้ร่วมด้วยในเวลาเดียวกันไม่ใช่รถเช่าช่วงบริการฝรั่งพ่อลูกคู่นี้กลุ่มเดียว ถ้าหากเกิดอันตรายอะไรขึ้นมาเพราะลูกโป่ง ต้องให้เกิดก่อนใช่มั๊ยถึงจะสำนึกได้ว่าไม่ควรทำ ในเมื่อเป็นกฏห้ามแล้วเกิดอะไรขึ้นมาฝรั่งและภรรยาเค้าคงรับภาระไม่ไหวหรอก ทำไมไม่คิดถึงกฏระเบียบการอยู่ร่วมในสังคมการใช้พาหนะส่วนรวมบ้าง คิดถึงใจเค้าใจเรา ไม่เห็นแก่ตัวและสุดท้ายนอกจากทำให้ตัวเองเดือดร้อนเจ็บตัว ยังจะทำให้คนอื่นอีกมากมายเดือดร้อนเพราะการแก้ปัญหาไม่เป็นของตนเองต้องมีผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องถูกย้าย หรืออาจถูกปลดยกกระบิ ถ้าเป็นกรณีนี้บาปกรรมมหันต์เลยเพราะจะเป็นผลพวงต่อครอบครัวคนเหล่านี้ ทั้งที่เค้าก็ปล่อยให้คุณเอาลูกโป่งผ่านไปได้แล้ว ทั้งที่อาจเป็นความผิดในฐานละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่ดูแลความปลอดภัยให้ดีปล่อยให้ฝรั่งท่านนี้ผ่านไปและไปอ้างได้ว่า ทีสถานีโน้นยังปล่อยได้ทำไมสถานีจะปล่อยไม่ได้..จขบ. เองก็อยากจะรู้ว่าสรุปแล้วเป็นความผิดของฝรั่ง หรือคนไทยกันแน่...ส่วนเรื่องการเจ็บตัวก็น่าเห็นใจเพราะเค้าเป็นต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินไทยและได้เมียเป็นคนไทย แต่คิดให้ดีเมื่อได้เมียคนไทยก็น่าจะพอรู้อะไรที่เป็นไทยบ้างเพราะอาศัยอยู่ในประเทศไทย ก็คงไม่ต่างที่คนไทยไปอาศัยอยู่ต่างประเทศที่พวกเราต้องเรียนรู้อะไรหลายๆ เพื่อจะปฏิบัติตัวให้กลมกลืนและอยู่ต่างประเทศได้ไม่ให้เค้ามาว่าคนไทยได้ คือ ต้องอดทนและยอมในฐานะที่เราไปอาศัยประเทศเค้า จะไม่ไปกร่าง ไม่ว่าประเทศนั้นจะเป็นประเทศเล็กหรือใหญ่ก็ตามนั่นคือ นิสัยคนไทยส่วนมากเพราะทุกประเทศก็มีกฏมีระเบียบในทุกเรื่องอยู่แล้วเพื่อกันการเกิดปัญหาต่างๆ แบบนี้....รู้อยู่อย่างว่าที่ฝรั่งต้องเจ็บตัวก็ต้องมีที่มาที่ไป คนปฏิบัติหน้าที่บริการผู้อื่นคงไม่มีใครกล้าไปทำร้ายเจ้านายตัวเองในที่นี้คือ ผู้รับบริการที่จ่ายเงินเพื่อให้องค์กรนี้คงอยู่หรอกการทำร้ายผู้โดยสารหรือผู้รับบริการเป็นการทุบหม้อข้าวตัวเองแท้ๆ น่าจะเกิดจากการเหลืออดหรือเปล่า จขบ. เองก็ไม่อยากคลาดเดา..ที่สำคัญไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เลยจริงๆ ผับผ่าสิ...เฮ้อ...ไม่ว่าใครจะผิดจะถูกก็ไม่น่าใช้กำลังตัดสินปัญหา ดีนะสองเหตุการณืนี้แค่เลือดตกยางออก ถ้าถึงตายละจะเป็นอย่างไร..โตๆ กันแล้วควรมีสติกันหน่อยเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กบ้าง โดยเฉพาะคนเป็นพ่อเป็นแม่ยิ่งต้องรู้จักผิดชอบชั่วดีเพราะต้องไปสั่งสอนลูก ถ้าพ่อปูแม่ปูยังไม่ดีแล้วยังจะมีหน้าไปสอนลูกปูได้อีกหรือ...คิดดูๆ..ร้อยความคิดเรื่องนี้ก็คงคิดไม่เหมือนกัน ก็ไม่ว่ากันเพราะคนเราย่อมคิดแตกต่างกันได้ ซึ่งไม่ใช่ประเด็นลองมาเรียนรู้เรื่องส้ม 9 ผลที่ได้จากเวปที่นี่ดอทคอม อ่านดูกันเองและกันค่ะว่าได้อะไรจากเรื่องนี้บ้าง...ถึงไม่เกี่ยวกะเรื่องข้างบนโดยตรงแต่อ่านแล้วรู้สึกดีนะคะ...

ส้มผลแรก
อยู่กับขอทาน ขอทานผู้นั้นแกะทานแค่ครึ่งหนึ่ง แล้วอีกครึ่งหนึ่งก็ ขว้างทิ้งไปอย่างไม่แยแส แล้วก็บ่นว่า " ทุเรศจัง ... ให้มาได้แค่ส้มผลเดียว "

ส้มผลที่สอง
อยู่กับลูกของผู้ใจดี ลูกของผู้ใจดีนั้นก็แกะทานทันที เมื่อทานหมดผลแล้ว ก็พูดว่า ... " ส้มนี้อร่อยดีนะ "

ส้มผลที่สาม
อยู่กับแม่ของผู้ใจดี แม่ของผู้ใจดีนี้ นำส้มที่ได้ไปคั้นเป็นน้ำส้มแล้วแช่ตู้เย็นไว้ เมื่อกระหาย จึงนำมาดื่ม ... " แหมม..น้ำส้มนี้ชื่นใจดีจริง "

ส้มผลที่สี่ อยู่กับร้านขายของชำ เจ้าของร้านขายของชำก็นำส้มผลนี้ ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้ว แช่ไว้ในตู้แช่ เมื่อมีคนเดินผ่านมาเปิดตู้แช่ แล้วหยิบน้ำส้มแก้วนั้นมาทาน เมื่อทานเสร็จ ก็นำแก้วเปล่านั้นวางไว้ที่ตู้แช่ ...
" เท่าไหร่ครับ "
" 10 บาท ครับ "

ส้มผลที่ห้า
อยู่กับพ่อค้าน้ำผลไม้ พ่อค้าน้ำผลไม้ก็นำส้มผลนี้ ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่ขวดพลาสติก แช่ไว้ในตู้น้ำแข็งบนรถเข็น แล้วเดินเข็นจำหน่ายไปเรื่อยๆ มีคนหนึ่งเดินสวนมา เรียกให้หยุด เสร็จแล้วก็เปิดตู้น้ำแข็ง ก็ชี้เอาน้ำส้มขวดนั้น คนขายหยิบน้ำส้มขวดนั้น เปิดหยิบหลอดพลาสติกเสียบให้ หนึ่งหลอดแล้วส่งให้คนๆนั้น ...
" เท่าไหร่ครับ "
" 20 บาท ครับ "
และคน ๆ นั้นก็ถือขวดพลาสติกบรรจุน้ำส้มนั้นเดินจากไป

ส้มผลที่หก
อยู่กับร้านอาหารแห่งหนึ่งบนห้างสรรพสินค้าชั้นนำย่านลาดพร้าว เจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ก็นำส้มผลนี้ไปคั้นเป็นน้ำส้ม เหยาะเกลือนิด เติมน้ำตาลหน่อย ปรุงได้ที่แล้วก็นำไปใส่แก้วแล้วแช่ไว้ในตู้เย็น
วันนั้นมีหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามา เจ้าของร้านจึงเชื้อเชิญ และหาที่นั่งให้
ฝ่ายหญิง ... " น้ำส้มแก้วหนึ่ง ค่ะ "
ฝ่ายชาย ... " กาแฟ ร้อน ครับ "
เจ้าของร้านจึงนำน้ำส้มที่คั้นไว้นำมาใส่แก้วใบใหม่ แก้วใบนี้มีลักษณะทรงสูง รอบๆ แก้ว มีรูปหัวใจ ดวงเล็ก ๆ น่ารัก สีแดงติดอยู่ ภายในแก้วใบนั้นมีหลอดพลาสติกเสียบอยู่ ตรงปลายหลอดนั้นงอได้ แต่เจ้าของร้านไม่ได้มาเสริฟเอง แต่มีเด็กเสริฟใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว กระโปรงสีดำมาเสริฟ แทน เมื่อทานเสร็จ ... เช็คบิล ... น้ำส้มแก้วนี้ 50 บาท

ส้มผลที่เจ็ด อยู่กับภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งนี้ส้มผลนี้ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่งของร้าน น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่งและเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี และในวันนั้น มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้าภัตตาคารนั้นมา และมีความประสงค์ที่จะลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อชมทิวทัศน์ในยามค่ำคืนด้วย
ฝ่ายหญิง ... " น้ำส้มคั้นแก้วหนึ่งค่ะ " และแล้วน้ำส้มคั้นแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าหญิงสาวผู้นั้น ถูกเสริฟโดย บริกรในชุดประจำร้านที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนั้น แก้วที่ใช้เป็นทรงสูงมีก้านสำหรับจับ หลอดเป็นหลอดพลาสติกใสตรงปลายหลอดงอได้ สิ่งที่โดดเด่นนั้นอยู่ตรงที่บริเวณขอบปากแก้วนั้น มีส้มที่ถูกฝานเป็นวงกลมเสียบอยู่ เมื่อเรือจะเข้าเทียบฝั่ง สิ่งที่ปรากฎในบิลนั้น... 100 บาท เป็นราคาของน้ำส้มแก้วนี้ ...

ส้มผลที่แปด
อยู่กับคลับเฮาซ์สุดหรูย่านปทุมธานี และเช่นเดียวกันส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้นเหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่ง และเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดีเช่นเดียวกัน ในค่ำคืนนั้นมีงานราตรีของกลุ่มสาวไฮโซกลุ่มหนึ่ง และหนึ่งในนั้นก็สั่ง ... " น้ำส้มคั้นหนึ่ง "
... น้ำส้มคั้นแก้วนี้ถูกเสริฟโดยบริกรหนุ่มหน้าตาคมสันคนหนึ่ง มาในชุดทักซิโดที่ตัดด้วยผ้ามูนอย่างดี สิ่งที่อยู่บนฝ่ามือของบริกรหนุ่มคนนั้นคือ ถาดสีเงิน บนถาดนั้นมีแก้วน้ำส้มคั้นตั้งอยู่ แก้วที่บรรจุน้ำส้มคั้นใบนี้ ป็นแก้วคริสตัลทรงสูงเจียรนัยอย่างดี เป็นแก้วที่สั่งทำเป็นพิเศษตรงขอบปากแก้ว มีส้มกลีบหนึ่งที่ถูกแกะสลักเป็น รูปนกตัวหนึ่งเกาะ(เสียบ)อยู่ที่ปากแก้วนั้น หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส บนถาดใบนั้นที่มาพร้อมแก้วคริสตัล มีสลิปบัตรสมาชิกคลับเฮาซ์แนบมาด้วย ... 300 บาท ... ก่อนที่หญิงผู้นั้นจะจดปากกาเซ็นลงไป

ส้มผลที่เก้า อยู่กับโรงแรมแห่งหนึ่งย่านริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และเช่นเดียวกันส้มผลนี้ไว้ถูกทำเป็นน้ำส้มคั้ เหมือนกัน ถูกปรุงแต่งโดยบาร์เทนเดอร์มือหนึ่ง น้ำส้มคั้นที่ได้นั้นถูกปรุงแต่ง และเก็บรักษาไว้ในตู้แช่อย่างดี ค่ำคืนนี้ ห้องอาหารชั้น Sky Top มีโอกาสต้อนรับหนุ่มสาวชาวต่างประเทศคู่หนึ่ง ที่เลือกสถานที่แห่งนี้เป็นที่ดินเนอร์ เนื่องในโอกาสฉลองสมรส และเลือกเมืองไทยเป็นที่ฮันนีมูน เมื่อหาที่นั่งในห้องอาหารแห่งนี้ได้แล้ว ณ มุมมองตรงนั้น สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะรัตนโกสินทร์อย่างชัดเจน ตลอดจนสายน้ำที่ทอดยาวของลำน้ำเจ้าพระยา เมื่อทอดสายตามองยาวออกไป
จะมองเห็นสะพานแขวนที่ถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟอย่างสวยงาม หลังจากพักผ่อนอิริยาบทสักพักหนึ่งแล้ว ฝ่ายหญิงจึงกล่าวกับบริกรว่า ... " Orangeade " ... และฝ่ายชายว่า ... " American Expresso " ... สักพักบริกรที่อยู่ในชุดไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นท่านนั้นกลับมา พร้อมกับกาแฟร้อน และน้ำส้มคั้นแก้วหนึ่ง แก้วนั้นเป็นแก้วคริสตัลอย่างดี ตรงฐานแก้ว และขอบปากแก้วเคลือบด้วยทอง 18 เค ถัดจากฐานรองแก้วตรงขอบที่เคลือบทองขึ้นมา และถัดจากขอบที่เคลือบทองที่ปากแก้วลงมาถูกเจียรนัยตกแต่งอย่างดี เมื่อแสงไฟตกกระทบถูกแก้วเจียรนัยใบนี้จะเป็นประกายแวววับ ยิ่งภายในใช้บรรจุน้ำส้มคั้นด้วยแล้วยิ่งทำให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ตรงกลางของแก้วใบนี้ มีตราสัญลักษณ์ของโรงแรมแห่งนี้ติดอยู่ เป็นเคลือบทอง 18 เค เช่นเดียวกัน หลอดที่ใช้เป็นหลอดแก้วใส ตรงปลายได้ขดเป็นเกลียว ตรงขอบปากแก้วมีดอกกล้วยไม้ที่มีชื่อว่า " ช้างเผือก " เสียบอยู่
เมื่อแสงไฟที่เป็นหลอด Black Light ส่องมากระทบกับ " ช้างเผือก " ดอกนี้ จะเกิดเป็นสีขาวเรือง ๆ ขึ้นมาอย่างสวยงาม บริกรโค้งคำนับก่อนที่จะเสริฟ และโค้งคำนับเมื่อเสริฟเสร็จแล้ว หลังจากที่หนุ่มสาวคู่นี้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในค่ำคืนนี้พอสมควรแล้ว ฝ่ายชายจึงกล่าวกับบริกรขึ้นว่า ... " Cash Please " บริกรโค้งคำนับ ก่อนที่จะเดินไปที่แคชเชียร์ Ticket ที่ออกมา ... Orangeade 500 Baht ...

ส้มเหมือนกัน ราคาโดยเฉลี่ยแล้วผลละ 5 บาทเหมือนกัน อาจจะเป็นพันธุ์เดียวกัน ต้นเดียวกัน อยู่กิ่งก้านเดียวกัน หรือ อาจจะอยู่ช่อเดียวกันด้วยซ้ำไป แต่ทำไมมูลค่าของส้มถึงต่างกันมากมาย หรือว่าเป็นเพราะเวลาและสถานที่ต่างกัน

ช่วงเวลา สถานการณ์ และสถานที่ที่ต่างกันนั่นแหละ เป็นตัวกำหนดมูลค่าของส้ม และ ... ของตัวคุณเอง !!!! บ่อยครั้งที่เราเคยท้อแท้กับงาน การตกงาน คนรอบข้าง ครอบครัว หรือแม้กระทั่ง กับ ตัวเราเอง แต่อยากจะบอกว่า ... ขอให้อดทนเพราะช่วงเวลานี้ ... มันไม่ใช่ของเรา ...ส้มนั้นถูกคนเป็นผู้กำหนดจนทำให้มีมูลค่าแบบนั้น แล้วทำไมเราไม่กำหนดมูลค่าของตัวเราขึ้นมาบ้างหละ ณ วันนี้เราอาจจะมีมูลค่าไม่ถึงครึ่งของส้มที่ขอทานกินแล้วโยนทิ้งไป แต่เชื่อแน่ว่า ...หากเราได้ตัดสินใจแล้วว่า ทางเดินเส้นนี้เราได้ตัดสินใจเลือกที่จะเดินแล้ว....จงตั้งมั่นและก้าวต่อไป อดทนเพื่อรอเวลาของเรา ไม่แน่นะว่า มูลค่าของเราอาจจะมากมายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดก็เป็นไป
เครียดๆ มาเยอะแล้วก็หาเรื่องซอฟท์ๆ บ้างก็แล้วกัน เป็นเรื่องราวของความรัก ว่าความรักคืออะไรบ้าง..ขอให้ทุกคนที่มีความรัก มีความรักที่ดีกันทุกคนนะคะ...



















ใครก็ตามที่กำลังมีความรัก โดยเฉพาะสาว ๆ ที่คิดจะมีรักก็ขอให้รักให้เป็น หรือรักอย่างฉลาด เค้าบอกไว้ว่า

1. รู้ว่า...ต้องใช้ชีวิตคุ้มค่า
เมื่อมีคนรัก จงปรับเปลี่ยนเฉพาะในส่วนที่ทำให้ชีวิตคู่ราบรื่น หากคุณเปลี่ยนแปลงไปทุกอย่างกลายเป็น ผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งเขาไม่คุ้นเคย เขาก็จะค่อย ๆ หมดความสนใจในตัวคุณ ถ้าคุณมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง แล้วใครจะมองเห็นคุณค่าของคุณ

2. รู้ว่า...เซ็กส์ไม่ใช่เรื่องง่าย
ไม่ว่าคุณจะหลงเสน่ห์เขาแค่ไหน ไม่ว่าความสัมพันธ์จะดำเนินต่อไปอย่างไรอย่าลืมว่าคนแปลกหน้าก็ ยังเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี ถึงประวัติส่วนตัวเขาจะดี แต่ที่แน่ ๆ คุณไม่มีโอกาสรู้ว่าเขามีโรคติดต่อทางเพศหรือเปล่า ไม่จำเป็นที่คุณต้องมีอะไรกับเขาถ้าคุณยังไม่พร้อมในทุกด้าน เรารู้จักรักผู้ชายได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ได้

3. รู้ว่า...ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ
ถ้าเขาคนนั้นทำให้คุณมีความสุข อบอุ่น หัวเราะได้มีความชอบอะไรเหมือนกันหลายอย่าง แถมเขายังฉลาด แต่ไม่หล่อเลย คุณสาว ๆ ลองไปเดินสังเกตุตามซูเปอร์มาเก็ตดู ผู้ชายที่มาซื้อของกับครอบครัวหรือเล่นอยู่กับลูก ๆ ตามชายหาด ผู้ชายเหล่านี้หน้าตาอาจจะไม่เหมือนนายแบบในนิตยสารเลย แต่เขานี่แหละที่เหมาะจะเป็นพ่อของลูกคุณ

4. รู้ว่า…ความรักมีปริมาณ 50-50
สิ่งที่คู่รักต้องการ คือ ความรักที่พบกันครึ่งทางมีการให้และรักอย่างสมดุล ต่างฝ่ายต่างเอาใจใส่ห่วงใยกัน ช่วยเหลือกัน มอบความรักให้อีกฝ่ายเท่าเทียมกัน ไม่มากเกินไป หรือน้อยเกินไป

5. รู้ว่า...คุณไม่มีวันเปลี่ยนแปลงผู้ชายได้
เหตุผลก็คือ คุณไม่สามารถและไม่สมควรที่จะพยายามเปลี่ยนสิ่งที่เขาชอบหรือไม่ชอบ ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้นอกจากตัวของเขาเอง เก็บพลังใจกายและเวลาอันมีค่าที่จะสูญเสียไปไว้ให้ กับคนที่ต้องการความสัมพันธ์ดี ๆ กับเราดีกว่า หรือทำอะไรก็ได้ร้อยแปดประการที่ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น หากเขาแสดงการไม่ให้เกียรติคุณเขาก็ไม่สมควรที่จะได้รับความรัก ห่วงใยจากคุณอีก ถ้าปล่อยให้เขาทำตัวแย่กับเราเขาก็จะแย่ลงเรื่อย ๆ

6. รู้ว่า...เป็นคนรักต่างกับคนรับใช้
จริงแล้วผู้ชายที่มีความรับผิดชอบดี เขาจะไม่ชอบผู้หญิงที่อ่อนแอและเป็นเบี้ยล่างให้เขาตลอดเวลา หรือเกรงใจผู้อื่นจนปฏิเสธใครไม่เป็น เราต้องรู้จักปฏิเสธและโต้กลับบ้าง การปฏิเสธข้อเรียกร้องของคนอื่นบ้างไม่ใช่เรื่องหยาบคาย

7. รู้ว่า...การแต่งงานไม่ใช่กระดาษแผ่นเดียว
ใบทะเบียนสมรสไม่ใช่สิ่งที่จะรับรองว่าชีวิตคู่ของคุณจะอยู่กันตลอดรอดฝั่ง แต่การแต่งงานนั้นเป็น"งาน"จริง ๆ งานที่ต้องช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ ต้องทำความตกลงกันในหลายเรื่องอาศัยการประนีประนอม และหมายถึงการใช้ชีวิตซ้ำ ๆ ในแต่ละวันกับมนุษย์คนเดิมซึ่งเขาอาจจะไม่จำเป็นต้องได้ดั่งใจคุณทุกอย่าง ไม่จำเป็นต้องรู้สึกหรือมีความคิดเห็นเหมือนคุณทุกเรื่อง และชีวิตคู่ไม่ต้องโรแมนติกตลอดเวลาก็สามารถมีความหมายลึกซึ้งและเป็นรักที่แท้และฉลาดได้

8. รู้ว่า...ไม่ควรประจานข้อบกพร่องของตัวเองให้เขาฟัง
ทุกคนย่อมมีข้อเสียหรือนิสัยแย่ ๆ กันทั้งนั้น แต่ก็ไม่ต้องไม่แฉทั้งหมดว่า เรามีข้อเสียอะไรบ้าง เพราะอาจจะทำให้ต้องโบกมือลา ตั้งแต่ก่อนจะได้คบกัน..และแน่นอนหนุ่ม ๆ ของคุณก็มีข้อเสียเช่นกันก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณทั้งคู่จะปรับตัว ปรับใจ ยอมรับนิสัยแย่ ๆ ได้ไม ถ้าไม่ได้ก็คงต้องลาจากกัน

9. รู้ว่า...ต้องไม่เป็นหนังสือที่อ่านง่ายสำหรับเขา
คงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า อะไรที่ได้มาอย่างง่าย ๆ มันก็ไปง่าย ๆ ได้เช่นกัน หรือดูไม่มีคุณค่าให้รักษานั่นเอง

10. รู้ว่า...อย่าเรียกร้องความเท่าเทียมจากผู้ชาย
ถ้าคุณยังดูแลตัวเองไม่ได้ หากคุณยังไม่มีความเข้มแข็งพอ หรือดูแลตัวเองยังไม่ได้ แล้วอย่างนี้เราจะมีสิทธิ์อะไรไปต่อกรกับผู้ชายแมนๆ เขาได้ ดีไม่ดีจะโดนดูถูกเอาด้วย


ลึกสุดใจ



ด้วยเหตุและผลที่มีมากมาย ที่ได้ทำให้เราเลิกรา
ไม่อาจจะคืนย้อนมา เวลาของเราหมดแล้ว
แม้ตั้งแต่นั้นจะมีใครใคร ผ่านเข้ามา ในความเงียบเหงา
แต่ในใจยังมีเรื่องราว ช่วงเวลา ที่ฉันมีเธอ

เก็บเธอไว้ ข้างในจนลึกสุดใจ ได้คิดถึงเธออีกคราว
เมื่อวันที่เหงาจับใจ ไม่มีใคร ฉันยังมีเธอ

ไม่อาจจะรู้ ว่าเธออยู่ไหน อยู่ยังไงเมื่อเราจากกัน
ที่ผ่านเลยไป เนิ่นนาน เธอลืมรึยัง ไม่รู้
รู้เพียงอย่างเดียว ว่ายังมีเธอ
อยู่ในความทรงจำ กับภาพเดิมเดิม
วันที่เคยมีกัน อยู่ในใจ อย่างนี้มานาน

เก็บเธอไว้ ข้างในจนลึกสุดใจ ได้คิดถึงเธออีกคราว
เมื่อวันที่เหงาจับใจ ไม่มีใคร ฉันยังมีเธอ

รู้เพียงอย่างเดียว ว่ายังมีเธอ
อยู่ในความทรงจำ กับภาพเดิมเดิม
วันที่เคยมีกัน อยู่ในใจ อย่างนี้มานาน

เก็บเธอไว้ ข้างในจนลึกสุดใจ ได้คิดถึงเธออีกคราว
เมื่อวันที่เหงาจับใจ ไม่มีใครฉันยังมีเธอ




Create Date : 24 มีนาคม 2555
Last Update : 24 มีนาคม 2555 20:07:29 น. 31 comments
Counter : 2881 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร

ช่วงนี้คลิปทำงานเหมือนสายตาเหยี่ยวนะครับ
ใครทำอะไรไว้
ถูกบันทึก
และเผยแพร่


โดยมากมักเป็นเรื่องที่เลวร้า้ยและไม่ค่อยดีงามซะด้วยครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:6:10:49 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ภัทร ยุคนี้ดิจิตอลครองเมือง
เมื่อวานก็ดูเรื่องเล่าเช้านี้
ที่ชาย 2 คนในชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ อัดนักศึกษาซะน่วม
ต่อหน้าอาจารย์ นี่ก็โหดเหมือนกันนะคะ เห็นแล้วสงสารน้องที่ถูกเตะหน้าท้องเลย
...
...

มาแอบบ่นตามพี่ภัทรซะแล้ว
ว่าจะแวะมาเยี่ยมทักทาย อิอิ
มีความสุขในวันหยุดพักผ่อนนะคะพี่


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:10:46:52 น.  

 
ยังเขียนอะไรไม่ออกเลยค่ะ เพิ่งสอบเสร็จ งานก็ยุ่ง ชีวิตก็ยุ่ง ๆ ค่ะพี่ช่วงนี้
ได้แต่แวะทักทายเพื่อน ๆ เท่านั้นเอง
ข่าวว่าช่วงนี้จะมีพายุฤดูร้อน
พี่ภัทรรักษาสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:13:24:26 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามบ่าย...สวัสดีครับ

บทความดีมาก เพลงเพราะด้วย นะครับ


โดย: **mp5** วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:15:40:55 น.  

 
บล็ อคนี้เต็มไปด้วยคุณภาพจริงๆค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:16:27:59 น.  

 
ขอบคุณรูปลูกเต๋็านะครับพี่ภัทร
จริงๆผมอยากถ่ายภาพลุกเต๋ามกาเลย
แต่หาไม่ได้ครับ 555



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:16:29:04 น.  

 
มารายงานตัว ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนจริงๆค่ะพี่ ตอนเช้าเย็น กลางวันร้อน เย็นๆฝนก็ทำท่าจะตก พี่ภัทรดูแลสุขภาพด้วยนะคะ


โดย: blog pu วันที่: 25 มีนาคม 2555 เวลา:20:52:52 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:5:58:46 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันวันจันทร์จ้าคุณภัทร
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานึกว่าจะไปดู The Hunger games นะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:8:58:55 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามใกล้จะเลิกงาน...สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:16:23:45 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ คุณภัทร คิดถึงเสมอ ไม่เคยลืมเลย เพียงแต่หมู่นี้เข้าบล็อคน้อยมากค่ะ


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:20:01:30 น.  

 
มาฟังพี่ภัทรบ่นคะ


โดย: blog pu วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:20:42:26 น.  

 
ปุ๊มาฟังพี่ภัทรบ่น ปายแวะมาส่งเข้านอนนะคะ อิอิ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่สาว ^^


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:21:52:46 น.  

 



เมื่อตอนบ่ายป้าติดฝนอยู่ในรถเพื่อน ข้างสะพานแขวน

สะพานพระราม9น่ะจ่ะน่ากลัวมาก ฟ้าแร้งง..แรง

อยากกลับบ้านแต่กลับมะได้ เพราะรถป้าจอดไว้...

ที่ท้ายรถเพื่อนง่ะ...งือ...งือ...

คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะคุณภัทร



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 26 มีนาคม 2555 เวลา:22:28:34 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่ภัทร

เรื่องเปลี่ยนระบบการศึกษาคงยากครับพี่
เพราะบ้านเรายังเคยชินกับการวัดผลด้วยการสอบและการประเมินจากตัวเลขครับ

ผมมองว่าถ้าในวัยเด็กเราเริ่มต้นด้วยการเรียนแบบนี้
เด็กจะมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้มากกว่าครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:5:46:25 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ภัทร
เมื่อคืนคลาดกันนิดหน่อย
ปายปิดคอมไปตอนตีหนึ่
งกว่านิดหน่อยค่ะ
มีความสุขกับการทำงานนะคะพี่สาว ^^


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:7:24:34 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่ภัทร
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ อย่าทำงานเพลินจนลืมเวลานะคะ


โดย: blog pu วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:7:59:10 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


แวะมาทักทายกันวันอังคารจ้าคุณภัทร
มาอ่านเรื่องราวของส้มค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:9:17:30 น.  

 
พี่ภัทรขา น้องแวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ ฝันดีนะคะ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:22:58:03 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:6:05:48 น.  

 
ทั้งส้มทั้งความรัก
ผมก็ว่าน่าจะอมเปรี้ยวอมหวานคล้ายๆ กันครับ

อรุณสวัสดิ์ในตอนใกล้จะเที่ยงนะครับ


โดย: คิมหันต์วิษุวัต วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:10:15:23 น.  

 




มาส่งเข้านอนค่ะ

มีรักก็เหมือนมีทุกข์ จริงมั้ยคะ?



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:20:27:27 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับพี่








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:6:06:25 น.  

 
แวะมาทักทายจ้่าน้องภัทร ขอโทษอย่างแรง บล็อกตัวเองไม่ได้เข้าเลย อย่าว่าแต่จะทักทายเพื่อนๆที่บล็อกเลยน้องภัทร ยิ่งเดี๋ยวนี้ง่วนกะงานฝีมือยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ค่อยได้เข้าเฟส จะทำงานฝีมือกลางวัน กลางคืนถึงจะเล่นเฟสจ้า แต่ยังคิดถึงเหมือนเดิมจ๊ะ


โดย: แม่น้องแปงแปง วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:20:25:11 น.  

 
แวะมาเยี่ยมยามค่ำคืน...หลับฝันดี นะครับ


โดย: **mp5** วันที่: 30 มีนาคม 2555 เวลา:22:16:49 น.  

 
สวัสดีวันหยุดค่ะพี่ภัทร
มีความสุขในวันพักผ่อนนะคะ
มีโปรแกรมที่ไหนกับลูกชายมั้ยเอ่ย
ช่วงนี้ปิดเทอม ส่วนใหญ่
แทบทุกบ้านมีแพลนกันยาวเลยค่ะ


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 31 มีนาคม 2555 เวลา:9:39:14 น.  

 


โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:9:07:06 น.  

 
ทักทายวันหยุดค่ะพี่ภัทร ^^


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:12:00:18 น.  

 
ฝันดีนะคะพี่


โดย: blog pu วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:21:15:47 น.  

 
ฝันดีนะคะพี่ภัทร


โดย: blog pu วันที่: 2 เมษายน 2555 เวลา:21:29:07 น.  

 
ทักทายยามเที่ยงค่ะพี่ภัทร ^^


โดย: คนที่ใช่ ในวันที่ผิด วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:12:32:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.