:: Bienvenue à Aum&Cédric Blog ::

Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
14 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ช่วยให้ผีเสื้อบิน good story for you

ช่วยให้ผีเสื้อบิน



ในระหว่างทานข้าวกลางวัน วนิดาซึ่งเป็นซีอีโอ ถามกิตติ ผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่ง

ที่รายงานตรงต่อเธอว่า



'กิตติ พี่สังเกตว่าคุณไม่เคยปิดมือถือเลย แม้กระทั่งเวลาประชุม แล้วพี่ก็เห็นคุณ

ขอตัวออกไปจากที่ประชุมกลางคันเพื่อรับโทรศัพท์ พี่อยากรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใคร

หรือ ทำไมมันสำคัญขนาดรอจนจบประชุมไม่ได้นะ พี่เห็นเป็นประจำเลยคะ'



กิตติมีท่าทีอึดอัด เขาตอบว่า ' ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องส่วน ตัวนะครับ ผมขอโทษ '



วนิดายิ้มแบบผู้ใหญ่ใจดี เธอเงียบไปสักครู่จึงพูดต่อ 'กิตติ เราสองคนทำงานด้วยกัน

มาพอสมควร คิดว่าพี่เป็นพี่สาวของคุณก็ละกัน เพราะพี่อายุมากกว่าคุณสองสามปี

มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังซิคะ เผื่อว่าพี่อาจจะแนะนำอะไรให้ได้ บ้าง' วนิดาเลือกใช้แนวทาง

พี่น้อง แทนที่เธอจะตำหนิเขาโดนตรงในเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่ประชุม แบบ

เจ้านายกับลูกน้อง



วิธีนี้ได้ผล กิตติสารภาพออกมาแบบกระอักกระอ่วน ' ก็...คือ ว่า...พี่อย่าโกรธผม

นะครับ มันเป็นโทรศัพท์มาจากลูกสาวผมเอง เธอเพิ่งไปเรียนไฮสคูลที่ออสเตรเลีย

เมื่อไม่กี่เดือน โรงเรียนที่ลูกสาวผมเรียนนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด แถมมีการบ้านจมเลย

ตอนลูกสาวผมเรียนที่นี่ ผมช่วยติวและทำการบ้านร่วมกับเธอบ่อยๆ ลูกคนเดียว

เธอคือดวงใจของผมเลยครับ ผมบอกเธอว่า ไปอยู่นั่นติดขัดเรื่องการบ้านละก็ โทร

มาหาผมได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ผมจะคอยช่วยเหลือเธอ ผมไม่ต้องการ

เห็นเธอล้มเหลว ตอนค่ำเมื่อกลับบ้าน ผมก็แทบจะไม่ได้พักผ่อน แต่จะไปช่วยเธอ

ทำการบ้านแล้วก็ แฟ๊กซ์ส่งไป เรื่องคณิตศาสตร์บ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง ผมอยาก

ให้เธอประสบความสำเร็จ ผมต้องขอโทษที่บริหารเวลาไม่ค่อยได้เรื่อง' กิตติจบ

เรื่องลง ด้วยท่าทีละอายใจ



วนิดาแสดงความเห็นใจ 'เรื่องของคุณมันฟังแล้วคุ้นๆ มากเลย พี่พอจะจินตนาการ

ออกถึงตวามลำบากใจของเธอ พี่เองก็มีลูกสาวเรียนปริญญาโทอยู่ที่อเมริกา พี่เคย

ทำแบบคุณเหมือนกัน เพราะลูกสาวพี่จบตรี แล้วไปต่อโทเลย จึงไม่มี ประสบการณ์

ในการทำงาน ดังนั้นพอทำกรณีศึกษาก็มักจะไม่ทันเพื่อนเขา หรือไม่เข้า ใจ แถมยัง

ไม่กล้าถามอาจารย์อีก พี่เลยต้องช่วยทำเคส แล้วก็อีเมล์ไปให้เธอ แต่ว่าตอนนี้พี่

หยุดช่วยเธอแบบนั้นแล้วละคะ '



กิตติถามด้วยความประหลาดใจ 'ทำไมละครับ พี่ไม่รักเธอแล้วหรือ หรือว่าพี่เห็น

ว่างานมีความสำคัญกว่าครอบครัวละครับ '



วนิดาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอารมณ์ดีว่า ' พี่ยังรักลูก และเห็นคุณค่าของครอบครัว

และงานเหมือนเดิมพี่ โชคดีที่มีเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นวิธีที่พี่ช่วย

ลูกสาว แล้ววันหนึ่งเขาก็ให้หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ The Power of Failure โดย Charles

C. Manz และมีการแปลเป็นไทยในชื่อ วิกฤติคือโอกาส โดยพสุมดี กุลมา เรียบเรียง

โดย นราทิป นัยนา เพื่อนอเมริกัน เขาคั่นเรื่องๆ หนึ่งให้พี่อ่านโดยเฉพาะเลย พี่จะ

เล่าให้เธอฟัง



.....มีชายคนหนึ่งนั่งมองผีเสื้อที่กำลังดิ้นรนจะออกจากรังไหม เจ้าผีเสื้อดิ้นรนไป

ซักพัก จนกระทั่งใยรังไหมเริ่มขาดเป็นรูเล็กๆ ชายคนนั้นมองด้วยความสนใจ เจ้า

ผีเสื้อดูเหมือนจะหยุดไป ที่จริงผีเสื้อมันพักเพื่อที่จะดิ้นรนต่อไป แต่ว่าชายคนนั้น

คิดไปเองว่าผีเสื้อคงติดใยรังไหม ไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยตนเอง ด้วยความ

หวังดี เขาจึงนำกรรไกรขนาดเล็กมาตัดใยรังไหมนั้น ทำให้รูมันขยายใหญ่ขึ้น

เจ้าผีเสื้อเห็นรูขยายใหญ่ขึ้นมันก็คลานต้วมเตี้ยมออกมา แต่เขาสังเกตว่าตัวมัน

มีขนาดเล็กกว่าปกติ ปีกเหี่ยวย่น แถมลำตัวของเจ้าผีเสื้อก็ มีลักษณะบวมผิดปกติ



กลายเป็นว่าในขณะที่ผีเสื้อต้องดิ้นรนออกแรงตะเกียกตะกายเพื่อพยายามจะ

ดันตัวมันออกจากรังไหมนั้น เป็นกระบวนการธรรมชาติ ที่จะกระตุ้นให้ ของเหลว

ชนิดหนึ่งที่อยู่ในลำตัวผีเสื้อ เคลื่อนที่มาสู่ปีก เพื่อทำให้ปีกแข็งแรงเพียงพอจะบินได้

ด้วยความปรารถนาดีของชายคนนั้น ผีเสื้อตัวนี้ปีกจึงเหี่ยวย่น ไม่แข็งแรงเพียงพอ

จะบินได้ แถมยังมีรูปร่างพิกลพิการ เพราะของเหลวที่ ควรจะอยู่ที่ปีกดันไปติด

คั่งค้างอยู่ที่ลำตัว เจ้าผีเสื้อตัวนี้ออกจากใยมาได้ ด้วยความสบาย แต่ต้องพิกล

พิการ และบินไม่ได้ไปชั่วชีวิตของมัน



อุปสรรคและความล้มเหลวในชีวิตของคนก็คล้ายๆ กันกับสิ่งที่เจ้าผีเสื้อเผชิญ

ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความก้าวหน้าในชีวิต การพัฒนาทักษะ ความกล้าหาญ

ความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่น่าสงสารและน่าเห็นใจ แต่จะได้คุณค่ามาก็ด้วยการ

ล้มเหลวอย่างถูกวิธี เราจะคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ ในชีวิตโดยไม่มี

ความล้มเหลวนั้นเป็นไปไม่ได้ เมื่อเราเผชิญอุปสรรค แล้วเราหลีกเลี่ยงที่จะแก้ไข

หรือต่อสู้กับมัน เท่ากับว่าเรากำลังเสียโอกาสสำคัญในการเรียนรู้บทเรียนที่

จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในชีวิตของคน



กิตติฟังด้วยความสนใจ ' โอ้โฮ เรื่องนี้จุดประกายน่าดูครับ แต่ผมกลัวว่าลูกผม

จะเกลียดผมนะซีครับ'



วนิดาเสริมต่อ 'มีคำพูดที่ว่า 'No pain No gain' ไม่เจ็บไม่ได้เรียนรู้ ที่จริงพวก

เรานะผิดเองที่ป้อนลูกๆ เรามากไป สำหรับกรณีของพี่ พี่อธิบายให้ลูกเขาเข้าใจ

ด้วยการเล่าเรื่องนี้แหละ หลังจากนั้น พี่ก็ขอโทษสำหรับการให้ความช่วยเหลือ

ลูกแบบผิดๆ ในอดีต ลูกๆ ของเราเขาฉลาดพอจะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้นะ กิตติ

คุณลองมองไปรอบๆ ตัวเราซิ เรามีพนักงานที่มีความรู้มาจากครอบครัวที่มีฐานะ

หลายคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ พวกเขาไม่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรค คนที่ควร

ถูกตำหนิคือ พ่อแม่ของเขา คุณอยากถูกคนอื่นเขาต่อว่าแบบนี้ในอนาคตไหมละ

แถมลูกๆ ของเรายังอ่อนแอไม่สามารถจะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคได้ คุณมีสิทธิ์เลือกนะ'



Create Date : 14 กันยายน 2551
Last Update : 14 กันยายน 2551 17:27:05 น. 0 comments
Counter : 142 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aumdeeda
Location :
Ouagadougou Burkina Faso

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อดีตคนโรงแรม
ที่ได้พบรักกับหนุ่มชาวฝรั่งเศส
ไกลถึงกรุงบรัสเซลส์เบลเยี่ยม
จากนั้นได้ผันตัวมาเป็นเถ้าแก่เนี้ย
ร้านขายอาหาร ณ เมืองอาเมียง
ทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส
ปัจจุบันย้ายมาทำธุรกิจที่ประเทศ
"บูร์กินาฟาโซ"
ในทวีปอัฟริกาตะวันตก
Friends' blogs
[Add aumdeeda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.