:: Bienvenue à Aum&Cédric Blog ::

Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
21 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
**My Life…แต่เล็กจนโต :: ภาคสอง**

แวะมาเล่าเรื่องราว ส่วนตั้ว ส่วนตัว กันต่อ อิๆๆ
หลังจากจบโรงเรียนอนุบาล ปัญหาเรื่องเรียนต่อก็ตามมา
เนื่องจากอุ้มเป็นเด็กในความปกครองของปู่ โรงเรียนปู่จึงเป็นคนเลือก
เราสามคน(หมายถึงลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงที่โตมาด้วยกันเวลานั้น)
จึงถูกปู่ส่งเข้าเรียนต่อระดับประถม กันคนละที่ (สงสัยเหมือนกันว่าทำไม 555)
ตอนนั้นก็ไม่ได้ถามปู่หรอก ด้วยความที่เป็นเด็ก ไปไหนก็ไป ผู้ใหญ่ตัดสินใจแทนอยู่แล้ว

โรงเรียนประถมที่ปู่ส่งอุ้มไป จึงเป็นโรงเรียนของคนจีน ลูกครึ่งจีนไปเรียนกันเยอะ
ผู้อำนวยการ เป็นอากงแก่ๆ ลูกสาวผอออ คือครูใหญ่ ที่มีครอบครัวอาศัยอยู่ในโรงเรียน
เรียกว่าเป็นธุรกิจเล็กๆกันภายในครอบครัว โรงเรียนจึงไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย
เป็นโรงเรียนเล็กๆริมถนนตากสิน ชื่อเหมือนโรงเรียนหญิงล้วน แต่ความจริงเป็นสหศึกษา
หน้าตาโรงเรียนประถมของอุ้ม เหมือนโรงเรียนตามต่างจังหวัด ทำด้วยไม้ มีสองตึก
ตึกใหญ่มีสองชั้น และตึกเล็กอยู่ด้านหลังตึกใหญ่ มีชั้นเดียว มีสนามบาสหน้าโรงเรียน
ไว้เข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้า และใช้เรียนกีฬา มีมุมสนามเด็ก มีของเล่นอยู่ไม่กี่ชิ้น
มีโรงอาหาร ขายขนม เครื่องดื่ม และอาหารประจำวันตอนเที่ยง (มีอยู่ร้านเดียวเท่านั้น)
มีสนามหญ้าเล็กๆ ไว้เรียนวิชาเกษตร (ที่หลักๆแล้วคือการถอนหญ้า กะปลูกถั่วงอก ก๊ากๆๆ)
ช่วงเปิดเทอมตอนกลางวัน โรงเรียนสอนตามหลักสูตรกระทรวงตามปกติ มีสอนตั้งแต่
ชั้นอนุบาล ไปจนถึงมัธยมปีที่สาม แต่ละชั้นเรียน มีนักเรียนแค่ห้องเดียว นักเรียนมีไม่มาก
ห้องละราวๆ ยี่สิบกว่าคน ตกเย็นมีเปิดสอนภาษาจีนให้บุคคลทั่วไป ช่วงปิดเทอมก็เปิดสอน
มีสอนพิเศษทั้งตามหลักสูตร สอนภาษาจีน และดนตรี ทั้งดุริยางค์และสากล เล็กแต่ครบวงจร

วันแรกที่ไปโรงเรียน เดินไปกับพี่ที่อยู่ข้างบ้าน เพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน
จำความรู้สึกแปลกๆที่ต้องปรับตัวเข้ากับโรงเรียนใหม่ได้หลายอย่าง เพื่อนใหม่ ครูใหม่
วันแรกยังจำได้ว่าไปซื้อข้าวกลางวันกินเอง ตื่นเต้นมากจนไม่รู้จะสั่งอะไร ก๊ากๆๆ
เลยได้มาแต่ข้าวไข่ดาว จานละห้าบาท ภูมิใจในตัวเองมาก กลับไปเล่าให้ย่าฟังด้วย 555

อุ้มปรับตัวได้ค่อนข้างเร็ว ยังแปลกใจตัวเอง อาจเป็นคนยอมรับในสิ่งใหม่ๆได้ง่าย
มีความสุขกับการได้ไปโรงเรียน แม้จะมีปัญหากับพี่ที่อยู่ข้างบ้านอยู่บ้าง ไม่ชอบเค้า
เพราะเค้ากลับบ้านช้า และอุ้มต้องรอกลับพร้อมเค้า เพราะย่าฝากฝังเราไว้กับเค้า
แต่เค้าทำตัวไม่น่ารักเลย เวลาเห็นอุ้มมารอกลับบ้าน เค้าจะไม่พอใจ แอบหยิกอุ้มบ่อยๆ
พอขึ้นชั้นปอสอง อุ้มเลยทนไม่ไหว (รู้จักประท้วงตั้งแต่เด็ก) ในเมื่อเค้าไม่พอใจเรื่องนี้
เราเดินกลับบ้านของเราเองก็ได้วะ อุ้มไม่มีทางเลือกนี่นา ปู่ย่าก็ไม่ได้มีเวลาไปรับไปส่ง
พ่อแม่ก็ไม่ได้อยู่ดูแลเราเหมือนคนอื่นๆเค้า ก็บอกตัวเองให้กล้าหาญ ดูแลตัวเองให้ได้
อุ้มเลยรวบรวมความกล้า เดินกลับบ้านเองคนเดียว เดินไปเรียนคนเดียว มีบ้างที่กลัว
แอบกลัวรถ แอบกลัวคนแปลกหน้า (ย่าสอนอยู่เสมอว่าอย่าไปกับเค้า) แล้วอุ้มก็ทำได้
ตอนนั้นอายุแค่ห้าขวบ แต่สามารถเดินไปกลับโรงเรียนได้คนเดียว ไม่ต้องมีใครไปรับส่ง
อุ้มภูมิใจในตัวเองเรื่องนี้มาก วันแรกที่เดินกลับบ้านเองได้ รีบเข้าไปบอกกับย่าทันที
ว่าแต่นี้ต่อไป หนูจะเดินไปเรียนเอง หนูดูแลตัวเองได้ ทำให้ย่าแอบห่วงอยู่บ้างแต่ก็ปล่อยไป

ด้วยความคึกคะนองที่สามารถไปกลับโรงเรียนด้วยตัวเอง เย็นบางวันจึงแอบเถลไถล
ไปนั่งเล่นบ้านเพื่อนจนลืมเวลา กลับบ้านเลยโดนย่าตี เพราะทำให้เค้าเป็นห่วงตามหากัน
(ปกติย่าไม่เคยตีอุ้มเลย จะโดนแต่ปู่ตี เพราะปู่อุ้มดุมากๆ) ครั้งนั้นเลยจำฝังใจ ไม่กล้าทำอีก
จากนั้นจะพยายามไม่เถลไถล แอบแวะบ้านเพื่อนบ้างแต่ไม่นาน จะรีบกลับบ้านไปหาย่า
ไปช่วยย่าจุดเตาทำกับข้าว (สมัยก่อนบ้านจนค่ะ ไม่มีหรอกเตาแก๊ส มีแต่เตาถ่าน เหอๆๆ)
ช่วยย่าซาวข้าว เด็ดใบกระเพรา เด็ดพริก ล้างจาน และต้องไปซื้อโซดากับขนมโตโร้ให้ปู่
ที่ร้านเจ๊หน้าปากซอย (สมัยนี้ไม่มีแล้วร้านชำ มีแต่เซเว่น อิๆๆ) ปู่อุ้มชอบดื่มเหล้านั่งดริงค์
ช่วงเย็นๆแดดร่มลมตก จะมีโตโร้ อาหารกลับแกล้มเป็นเครื่องเคียงอยู่เสมอ ปู่ชอบให้อุ้ม
เป็นคนไปซื้อโซดาให้ เพราะอุ้มไม่เคยงุบงิบเงินตังค์ทอนเหมือนพี่ๆที่ชอบแอบซื้อหนมกิน

แต่ก่อนบ้านปู่กับย่ามีแต่ทีวีขาวดำ เวลาปู่ดูเค้าแข่งสนุ้กเกอร์จะตลกมาก เพราะมองไม่เห็นสี
ปู่จะใช้ฟังเอาจากคนบรรยาย ว่าเค้าแทงสีไหน ได้กี่คะแนน ถ้าฝรั่งชนะปู่จะด่าใหญ่เลย 555
ทีวีสีเครื่องแรกของบ้าน อุ้มไปซื้อกับพ่อแม่ที่เซ็นทรัลลาดหญ้า (จำรายละเอียดได้ดีเชียว)
เป็นของขวัญปีใหม่ให้ปู่กับย่า (อุ้มเลยพลอยได้กุศลบุญไปด้วยที่ได้ดูทีวีสีกับเค้าซะที อิๆๆ)
ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะเป็นทีวีรุ่นที่มีฮันนี่เสือสาวเป็นนางแบบโฆษณา (จำชื่อรุ่นไม่ได้แล้ว)

ทุกเย็นถ้าอุ้มกลับบ้านเร็วจะมีสิทธิ์ได้ดูทีวีก่อนใคร ตั้งแต่ช่วงเปิดสถานีด้วยเพลงเราสู้
จนจบหนังจีนกำลังภายใน (จำพวกมังกรหยก เดชเซียวฮือยี้ ฯลฯ) ติดหนังจีนมากช่วงนั้น
ในขณะที่พวกป้าๆเค้าจะติดละครบ้านทรายทอง ยุคมนฤดี ดูไปร้องไห้ไปไม่รู้ซึ้งอะไรนักหนา
ละครยอดฮิตสำหรับเด็กๆยุคนั้น คือ ซีอุย (ได้ข่าวว่ากลัวมากไม่กล้าดู แต่หนีไปบ้านไหนก็เจอ)
และตุ๊กตาจ๋า (หนูอยากกลับบ้าน) ที่ดูแล้วต้องไปซื้อตุ๊กตาแบบเดียวกับพี่ตุ๊กตามาครอบครอง
เลิกรักพี่หมี (ตุ๊กตาหมีเน่าๆ) อุ้มเคยติดพี่หมีมากๆ ถึงขั้นเค้าเอาไปทิ้งขยะ มันยังตามไปเก็บมาอีก
เริ่มเบื่อตุ๊กตากระดาษที่ซื้อมาจากร้านเจ๊ก (แบบที่ซ่อนไว้ในหน้าสมุดแล้วเปลี่ยนชุดได้ตามต้องการ)
เพราะกระแสพี่ตุ๊กตาจ๋ามาแรง รบเร้าแม่จนต้องพาไปซื้อ ตัวนึงก็แพงโขอยู่ แม่พาไปซื้อที่โรงแรม
อุ้มเรียกตุ๊กตาตัวนั้นว่าพี่ตุ๊กตา บ้าพูดกับตุ๊กตาเหมือนในละคร ไปไหนก็ไปกับพี่ตุ๊กตา เป็นเอามาก

นอกจากพี่ตุ๊กตา ยังมีบาร์บี้อีกตัว ที่เดือดร้อนแม่ต้องซื้อให้เช่นกัน ในชีวิตมีบาร์บี้อยู่ตัวเดียว
ตัวที่ถูกที่สุด ใส่ชุดว่ายน้ำ (เพราะแม่ไม่มีตังค์ซื้อตัวที่ใส่ชุดเจ้าหญิงให้ ก๊ากๆๆ) แม่บอกไม่เป็นไร
หนูก็ทำชุดให้บาร์บี้เอง ทำเครื่องประดับให้บาร์บี้เองละกันนะลูก ช่วยแม่ประหยัดหน่อยนะ 555
อุ้มเลยได้ชุดบาร์บี้จากเศษผ้าที่มีปัญญาหาได้ ตุ้มหูจากเข็มหมุด และที่รัดผมสีสันสดใส อิๆๆ

หลังๆอุ้มไม่ร้องขอให้แม่ซื้อตุ๊กตาแล้ว เปลี่ยนเป็นหนังสือนิทานแทน ไม่รู้เชื้อรักการอ่านมาจากใคร
เป็นคนขอให้แม่ซื้อหนังสือนิทานให้ด้วยตัวเอง แม่ไม่ได้ประเคนหรือบังคับให้อ่านแต่อยากอ่านเอง
นอกจากหนังสือนิทาน ทุกครั้งที่แม่มารับกลับไปบ้านสายสี่เย็นวันศุกร์ แม่จะซื้อหนังสือการ์ตูน
ขายหัวเราะ (เล่มใหญ่ๆ) มาฝากทุกๆสัปดาห์ อ่านเป็นปีจนหนังสือขายหัวเราะกองเป็นภูเขาเลากา

ช่วงปิดเทอม แต่ก่อนจะได้อยู่บ้านปู่กับย่า พวกพี่ๆจะพากันไปเล่นกับเพื่อนๆพี่ๆคนอื่นๆในซอย
มักจะชวนกันเล่นเกม พวกเกมรีรีข้าวสาร มอญซ่อนผ้า จระเข้ แม่งู ซื้อดอกไม้ ประสาเด็กๆยุคนั้น
สมัยยังไม่มีคอมพิวเตอร์ ได้เล่นเกมแค่นี้ก็สนุกแล้ว เกมพวกนี้ทำให้เด็กๆได้เรียนรู้การเข้าสังคม
เด็กรุ่นก่อนอย่างเราๆ จึงรู้จักการคบเพื่อน เข้าสังคม มากกว่าเด็กรุ่นใหม่ที่เล่นแต่เกมกด เหอๆๆ
ปิดเทอมบางทีก็ได้กลับบ้านสายสี่ แต่ต้องไปอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว เพราะพ่อกับแม่ต้องทำงาน
แม่เลยฝากอุ้มไว้กับคนข้างบ้าน เค้ามีลูกสาวอายุเท่าๆกัน ก็ได้เล่นกับเค้า เล่นอะไรแผลงๆด้วย
ชอบเอารองเท้าแม่มาใส่ เอาเครื่องสำอางค์แม่มาเล่น แล้วยังตัดผมด้วยตัวเองอีกตะหาก ฮ่าๆๆ
พ่อแซวเรื่องทรงผม(ที่สู้อุตส่าห์ตัดเองของอุ้ม) เรียกว่าทรงน้ำพุ (จินตนาการกันเอาเองว่าเป็นยังไง)
อุ้มยังลุกลามไปตัดผมบาร์บี้ด้วย บาร์บี้ของอุ้มเลยกลายเป็นบาร์บี้พังค์ ทรงเดียวกะเจ้าของ ก๊ากๆๆ
บางวันเพื่อนข้างบ้านไม่อยู่ ก็ได้เล่นน้ำแช่กาละมังทั้งวันกับพี่ตุ๊กตา (ตุ๊กตายัดนุ่นโดนน้ำเลยเน่าสนิท)
ได้เวลาเปิดเทอมก็กลับไปเรียน ชีวิตก็จะวนเวียนกับบ้านและโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นๆ

ช่วงปอสาม มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นกับอุ้ม และอุ้มก็ยังจำเหตุการณ์นั้นได้แม่น
อุ้มศึกษาทางเดินไปกลับโรงเรียนด้วยตัวเอง จนมาเจอทางลัดสุดๆ แต่เปลี่ยวสุดๆเช่นกัน
ครั้งนั้นเป็นบทเรียนที่น่าหวาดกลัว จนทำให้ไม่กล้าเดินผ่านทางลัดที่แสนเปลี่ยวนั่นอีกต่อไป
วันนั้นเป็นวันพุธ มีเรียนกีฬา ต้องใส่ชุดกีฬาไปเรียน อุ้มยังจำได้ เสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้นสีขาว
เดินไปโรงเรียนพร้อมกระเป๋า กระติกน้ำ และปิ่นโตข้าวกลางวัน ผ่านทางลัดที่คุ้นเคย
ปกติจะไม่มีใคร แต่เช้าวันนั้น มีผู้ชายคนหนึ่งยืนเฝ้าอยู่ในตรอกก่อนจะถึงทางออก
(ทางมันเล็กมากๆ ขนาดเท่ากับคนๆเดียวเดินผ่าน ไม่สามารถเดินสวนกันได้ ต้องหลบทางกัน)
อุ้มเดินผ่านผู้ชายคนนั้นพยายามเดินอ้อม แต่เค้าเรียกอุ้มไว้ ถามถึงครูคนหนึ่งที่อุ้มไม่รู้จัก
ท่าทางเค้าแปลกๆ อุ้มไม่ได้กลัวเค้าหรอก แต่ตั้งใจจะรีบไปเรียนเพราะโรงเรียนจะเข้าแล้ว
จู่ๆเค้าก็ตะปปตัวอุ้มจากด้านหลัง เอามือปิดปากอุ้มไว้ และกระซิบไม่ให้ขยับไม่งั้นจะตีให้ตาย
ตอนนั้นอุ้มเริ่มกลัวแต่ไม่ถึงกับต่อสู้ อุ้มออกจะงงๆด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจว่าเค้าทำอย่างนั้นทำไม
เค้าเอามือลูบคลำตัวอุ้ม ซึ่งบอกตามตอนนั้นยังเด็กไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเค้าคิดจะทำมิดีมิร้ายกับเรา
จับๆคลำๆแล้วจู่ๆเค้าก็ปล่อยอุ้มไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น ถือว่าอุ้มโชคดีมากๆที่เค้าปล่อยไป
อุ้มวิ่งเข้าไปเรียนด้วยอาการใจเต้นตูมตาม เล่าให้เพื่อนฟัง แต่ไม่ได้บอกใครอีก ไม่กล้าฟ้องครูด้วย
หลังจากนั้นก็ไม่กล้าเดินผ่านทางลัดนั้นอีกเลยคนเดียว ยกเว้นกลับกับเพื่อน หรือยอมเดินอ้อมเอา

เรื่องร้ายเรื่องที่สอง เกิดขึ้นราวๆปอสองปอสามเช่นกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นช่วงปิดเทอม
พ่อกับแม่พาอุ้มไปเที่ยวพัทยาปาร์ค ไปกับเพื่อนๆของพ่อแม่ และมีลูกพี่ลูกน้องฝั่งแม่ไปด้วย
เราได้บ้านบังกะโลหลังใหญ่ริมสระว่ายน้ำ อุ้มดีใจมากมาย ใส่ชุดว่ายน้ำสีชมพูพุ่งไปสระทันที
อุ้มเห็นน้องผู้ชายคนหนึ่งเล่นอยู่ก่อนแล้ว มีครอบครัวเค้านั่งเฝ้าอยู่ริมสระ ก็สาดน้ำใส่เค้าเล่น
เหมือนน้องเค้าไม่พอใจ เค้าเดินมาผลักอุ้มตกลงไปในสระส่วนของผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างจะลึก
ตอนนั้นอุ้มยังว่ายน้ำไม่เป็น ไม่รู้จักการเล่นน้ำด้วยซ้ำ พอลืมตาขึ้นมา พบว่าตัวเองอยู่ในน้ำ
พยายามจะหายใจ ก็หายใจไม่ออก จู่ๆก็มีเงาดำๆมาคว้าตัวออกจากน้ำ ขึ้นไปจากสระ
สำลักน้ำ มีคนเอาผ้าขนหนูมาพันให้ ปรากฏว่าเป็นคนของครอบครัวน้องผู้ชายคนนั้นนั่นเอง
ตามปกติอุ้มไปไหน ไม่เคยต้องขออนุญาติใคร แม่เลยตามมาที่สระทีหลังแบบงงๆ ไม่รู้อะไร
แม่ของน้องผู้ชายเลยเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง แต่เข้าใจว่าแม่อุ้มไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรเค้า ก็แล้วกันไป
โชคดีที่มีคนเห็นและลงไปช่วย ไม่งั้นอาจจะไม่มีอุ้มมานั่งเขียนเรื่องเล่าอยู่ตอนนี้ก็ได้ เหอๆๆ


เรื่องร้ายเกิดขึ้นไม่บ่อย นอกนั้นเรื่องดีๆเกิดขึ้นทุกวัน (ยกเว้นเวลาโดนครูตีเมื่อไม่ทำการบ้าน)
อุ้มมีเพื่อนสนิททั้งหญิงและชาย มีกิจกรรมให้ทำที่โรงเรียนหลายอย่าง มีความประทับใจไม่น้อย
เพื่อนผู้หญิงที่สนิทที่สุดของอุ้มชื่อว่าก้อย เดินกลับบ้านด้วยกันทุกวัน และเพื่อนผู้ชายคือสุวิทย์

เคยเป็นเหาจนโดนงดเรียน ครูต้องจับนักเรียนหญิงทุกคนมาหมักผมด้วยน้ำยาสูตรพิเศษ (ชนิดจุดไฟเผาได้)
หลังจากนั้นนักเรียนผู้หญิงต้องไปนั่งคู่กับนักเรียนชาย (เพราะนักเรียนชายมันไม่มีผมมันเลยไม่ติดเหา)
เพื่อนๆเลยมีความสุขกับการแซวเรื่องจับคู่ว่าคนนั้นเป็นแฟนกับคนนี้ ฯลฯ เมาท์กันไปประสาเด็ก

เคยต้องกินยาขับพยาธิกันยกชั้น เพราะตอนครูสั่งให้ไปเก็บอุจจาระมาตรวจ มีเพื่อนคนเดียวเป็นอาสา
ยอมเป็นตัวแทนอึ (ส่วนคนอื่นอึสั่งไม่ได้เลยอึไม่ออก) แล้วมันดันเป็นพยาธิ เราเลยโดนยากันหม้ดดด

เคยเล่นกระโดดหนังสะติ๊กได้แชมป์ประจำห้อง กระโดดข้ามระดับหัวเพื่อนที่สูงที่สุดในห้องได้
(แต่แอบตกลงมาเอวช้ำไปหลายวัน) และแต่ละวันจะเลือกใส่กางเกงในสวยๆไปอวดเพื่อนผู้ชาย
ที่มันชอบมานั่งยองๆแอบดูเวลาเพื่อนผู้หญิงกระโดดยางกัน แล้วเอาไปพนันว่าอินี่มันใส่สีอะไร

เคยแอบรักเพื่อนร่วมห้อง (แน่นอนคนที่หน้าตาดีที่สุดไง ก๊ากๆๆ) ได้ไปเรียนพิเศษแถวบ้านเค้า
แล้วโดนแซวว่าเป็นแฟนกัน เพื่อนคนนั้นกอดและทำท่าจะจูบอุ้ม เป็นการพิสูจน์ความรัก
ทำให้เรารู้ว่าความเขินอายมันเป็นยังไง (แก่แดดแก่ลมแต่เด็กจริงๆเรา คิๆๆ ทำไปด้ายย)

ความจริงช่วงประถมต้น หน้าตาธรรมดาไม่ได้ดีเด่นอะไรเลย ไว้ผมทรงกะลาครอบ
ใส่ชุดกระโปรงเอี๊ยมสีฟ้า ไม่เคยได้รับเลือกให้ถือพานวันไหว้ครู ไม่เคยได้เป็นเชียร์ลีดเดอร์
เรียนก็ระดับกลางๆ ไม่เคยสอบได้ระดับท๊อปเท๊น ไม่เคยเก่งถึงขั้นได้เป็นหัวหน้าห้อง
รักที่จะคลุกคลีวิ่งเล่นกับเพื่อน ทั้งในและนอกเวลาเรียน แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหลังจากขึ้นปอห้า

ไว้ติดตามกันต่อช่วงประถมตอนปลายละกันค่ะ มีเรื่องอยากจะเขียนเก็บไว้อีกเยอะ อิๆๆ
ขอตัวไปรวบรวมความทรงจำต่อละนะ ไว้จะกลับมาใหม่เร็วๆนี้จ้า บ้ายบาย

ปอลอ แถมรูปตอนเด็กๆที่พอมีเก็บไว้บ้างนิดนึงนะ ยุครูปสีซีเปีย (ปัดตะนานิดนึงไม่ขาวดำ)
ถ่ายจากอัลบั้มด้วยกล้องอีกทีนะจ้ะ อาจไม่คมชัดเท่าที่ควร มีติดตัวอยู่ไม่กี่ใบเองอ่ะ
รูปนี้ถ่ายตอนโกนผมไฟใหม่ๆ ถ่ายคู่กับป้าแหม่ม เพื่อนชาวสวิสของแม่
คนที่ถักเสื้อไหมพรมสีฟ้าให้อุ้มใส่ตอนจำความได้ (ต้องย้อนกลับไปอ่านภาคหนึ่ง เหอๆๆ)

Photobucket

รูปนี้มีแม่อยู่ด้วยล่ะ อิๆๆ เพิ่งคลอดอุ้มได้เดือนเดียวเอง ช่วงนี้แม่กะลังอยู่ไฟ อิๆๆ

Photobucket

ความจริงมีรูปต่อจากนี้ด้วย แต่ไม่ได้พกมาจากเมืองไทย รูปนั้นป้าแหม่มตกอกตกใจ
ดูเผินๆอุ้มเป็นเด็กน่าร๊ากก ถ่ายคู่กับป้าแหม่ม นั่งตักป้าเค้า แถมยังฝากรักเค้าอีกตังหาก
วิธีฝากรักของเด็กทารกก็รู้ๆกันอยู่ ฉี่ใส่ป้าเค้าหน้าตาเฉย ดูมานนน แสบมะละ ก๊ากๆๆ

และตอบคำถามน้องอ้ำ แม่หนูมะลิและจะเด็ด เรื่องสาว สาว สาว ถูกต้องแล้วคร้าบบบ
เคยเป็นแฟนสาวๆๆ และเคยแอบเซิ้ง เต้นแร้งเต้นกา กับไอ้หนุ่มดอยเตา วงนกแลเจ้าค่ะ


sao sao sao


Create Date : 21 มกราคม 2552
Last Update : 21 มกราคม 2552 4:56:13 น. 8 comments
Counter : 582 Pageviews.

 
รวมเพลงฮิตสมัยประถมต้นมาให้ฟัง ชอบทุกเพลงจ้า ยุคทองของสาว สาว สาว พี่อุ้ยรุ้งอ้วน พี่แจ้ พี่แหวน เรนโบว์ หนุ่มเสก พี่เบิร์ด พี่ปุ๊ พุ่มพวง บิลลี่ โอแกน และวงเด็กชื่อดังอย่าง นกแล กับเอ๊กซ์วายแซท
คิดถึงการ์ตูนช่องเก้าด้วยล่ะ อาราเร่ โดเรมอน ดราก้อนบอล ที่เคยติดงอมแงม (จนถึงตอนนี้ก็ยังติดอยู่) การ์ตูนฝรั่งยอดฮิตของอุ้มคือ ทอมแอนด์เจอร์รี่ ส่วนการ์ตูนดีสนีย์เรื่องแรกที่ได้ดู คือ สโนวไวท์ ได้ไปดูที่โรงหนังใหญ่ด้วยนะ ประทับใจไม่มีวันลืม
ส่วนหนังฝรั่งเรื่องแรกที่ได้ไปดูที่โรงหนัง ถ้าจำไม่ผิด คือ อีที ดูแล้วเก็บไปฝันว่าได้ขี่จักรยานข้ามดวงจันทร์ ว่าไปโน่น ก๊ากๆๆ


โดย: aumdeeda วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:5:24:48 น.  

 
นักร้องฝรั่งคนแรกที่รู้จักคือ Whitney Houston เพราะมีเทปมิวสิควีดีโอที่บ้านพ่อกับแม่ และวงแรกที่รู้จักคือ วง Carpenter เพลงโปรดจำชื่อไม่ได้ รู้แต่เป็นเพลงเดียวกับละครยอดฮิตเรื่องข้าวนอกนาของนันทนา บุญหลง รู้สึกจะร้องขึ้นต้นว่า When I was young I listen to the radio wating for my favorite song...
ใครรู้จักชื่อเพลงนี้ วานบอกด้วย อิๆๆ


โดย: deeda IP: 90.7.194.22 วันที่: 21 มกราคม 2552 เวลา:5:50:57 น.  

 
อิอิ พี่อุ้มอ่านแล้วนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆๆเลยอ่ะ กระโดดยาง อีมอรซ่อนผ้า ตุ๊กตาหระดาษ ตุ๊กตาจ๋า เกิดทันหมดเลย ฮ่าๆๆ
แอบเสียวเรื่องผู้ชายคนนั้นเลยอ่ะ ดีนะเค้าปล่อยพี่อุ้มไป โชคดีมั่กๆๆ
ตอนเด็กๆๆน่ารักนะเนี่ยเจ้ น่ารักเชียว ตอนนี้ก็น่ารักนะจ้า ^^


โดย: porpor IP: 88.170.171.17 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:4:45:06 น.  

 
When I was young I listen to the radio wating for my favorite song...

yesterday once more - Carpenter อ่ะจ้า
เราชอบเพลงนี้เหมือนกัน หัดร้องด้วยแต่ไม่ได้เรื่อง เลยขอแค่ฟังดีกว่า


โดย: ostojska วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:6:09:26 น.  

 
ได้รู้เรื่องราวชีวิตของอุ้มตั้งแต่เด้กเลยนะคะ

เล่าเรื่องได้ดีมากๆเลยคะ อุ้มก็เคยเป็นเหาเหรอจ๊ะ อิอิอิ

น่ากลัวจังดดนนำยาชนิดอย่างแรงเลยนะคะ แสดงว่าเหาเยอะ อิอิอิอ

ไม่อยากเชื่อว่าเป็นแชมป์ดดหนังสะติ๊ก ไว้คราวหน้าเจอกัน โดดให้ดูเป็นขวัญตาหน่อยเน้อ ...แซววว

คิดถึงจ้า


โดย: ปูปาย IP: 90.7.73.21 วันที่: 23 มกราคม 2552 เวลา:16:50:25 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่สาว

ก่อนอื่นขอขอบคุณพี่สาวมากๆนะคะ สำหรับการ์ดปีใหม่ ดีใจมากเลยค่ะ แต่แอบเกรงใจจังเลย พี่อุ้มส่งมาให้ 2 ใบแล้ว

วันนี้อ่านพี่อุ้มเล่าเรื่องแล้วสนุกจังค่ะ เดี๋ยวต้องขอย้อนไปดูภาคหนึ่งก่อน แต่สำหรับเหตุการณ์ร้ายๆ ก็น่ากลัวจังนะคะ โชคดีที่ผู้ชายคนนั้นปล่อยพี่อุ้มไป ส่วนเรื่องโดนผลักตกน้ำก็น่ากลัวค่ะ เพราะหนันก็เคยจมน้ำตอน ป. 3 เหมือนกันเลยค่ะ แต่จมเองตอนเรียนว่ายน้ำ ก็เลยเลิกเรียนไปเลย และก็กลายเป็นเด็กกลัวน้ำไปนานเลยล่ะค่ะ

ส่วนเรื่องอื่นก็คล้ายๆกันเลยนะคะ เรื่องติดเหากันทั้งห้อง และก็โดนกินยาถ่ายพยาธิ อะไรแบบเนี้ย ฮ่า ฮ่า ส่วนเรื่องเล่น ถ้าเล่นกับเพื่อนผู้หญิง ก็ชอบเล่นกระโดดยางกับหมากเก็บ ถ้าเล่นกับผู้ชาย ก็เล่นไพ่เขี่ย เตะบอล ตีปิงปอง ฮ่า ฮ่า

เรืื่องเพลง สาว สาว สาว หนันก็ฟังทันน๊า อิอิ ชอบๆ และก็ชอบดูการ์ตูนช่องเก้าเหมือนกัน (อันนี้รู้สึกจะเป็นกันทุกยุคทุกสมัยเลยนะคะ) ชอบดราก้อนบอล อาราเร่ โดราเอม่อน ไอ้เขี้ยวเงิน เค้าฉายเรื่องไหน ก็ตื่นมานั่งดูแต่เช้าจน 10 โมงเลย อิอิ

คิดถึงๆๆๆค่ะ แล้วจะรอภาคต่อไปนะคะ


โดย: หนัน chictuary IP: 69.230.55.157 วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:7:12:36 น.  

 




พาลูกแมวจอมซน มาอวยพรปีใหม่จีนด้วยคนนะ


Photobucket







โดย: UStogetheR วันที่: 25 มกราคม 2552 เวลา:14:02:00 น.  

 
เรื่องราวของคุณอุ้มน่ารักมากๆคะ ชอบเรื่องกินยาถ่ายพยาธิกันทั้งห้อง หวานเล่าให้แฟนฟังเค้าขำใหญ่เลยอะ
ส่วนรื่องวาดเสี่ยวที่โดนผู้ชายแปลกหน้าจับลูบๆคลำๆ น่ากลัวมากๆคะ หวานคิดว่าที่เค้าปล่อยคุณอุ้มน่าจะเป็นเพราะว่า คุณอุ้มไม่ร้องขอความช่วยเหลือ โดยปกติแล้วพวกโรคจิตรประเภทนี้ ชอบให้เหยื่อร้องคะ คุณอุ้มโชคดีมากๆ ที่ไม่รู้ว่าเค้าจะทำอะไรและ น่าจะกำลังช๊อค อ่านไปก็ใจหาย ไม่รู้ว่าจะมีเด็กคนไหนโดนแบบนี้บ้าง น่ากลัวจัง


โดย: น้ำหวาน IP: 87.169.127.183 วันที่: 8 มิถุนายน 2554 เวลา:1:39:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aumdeeda
Location :
Ouagadougou Burkina Faso

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อดีตคนโรงแรม
ที่ได้พบรักกับหนุ่มชาวฝรั่งเศส
ไกลถึงกรุงบรัสเซลส์เบลเยี่ยม
จากนั้นได้ผันตัวมาเป็นเถ้าแก่เนี้ย
ร้านขายอาหาร ณ เมืองอาเมียง
ทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส
ปัจจุบันย้ายมาทำธุรกิจที่ประเทศ
"บูร์กินาฟาโซ"
ในทวีปอัฟริกาตะวันตก
Friends' blogs
[Add aumdeeda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.