:: Bienvenue à Aum&Cédric Blog ::

Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
17 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
**My Life…แต่เล็กจนโต :: ภาคหนึ่ง**

ตั้งใจเขียนเรื่องเกี่ยวกับตัวเองขึ้นมา
เอาไว้รำลึก และเตือนความจำ ก่อนที่จะแก่ไปมากกว่านี้
(อีกไม่นานก็จะถึงวันแก่ เอ้ย วันเกิด ที่วนเวียนมาบรรจบอีกครั้ง)
ใช้เวลาค่อนข้างนานในการรวบรวมความทรงจำแต่วัยเยาว์
หลายๆเหตุการณ์จำรายละเอียดได้บ้างไม่ได้บ้าง ต้องใช้ความพยายาม
โชคดีที่เป็นคนความจำค่อนข้างจะดี(ถึงดีมาก) เลยต้องรีบๆบันทึกไว้
ก่อนที่วันเวลาผ่านไป หลายเรื่องราวสะสม ความทรงจำมันก็ลางเลือนไปเรื่อยๆ

อย่างที่แอบบอกไว้ที่ไดก่อน ว่าช่วงนี้ติดดูหนังไทยวันละหลายๆเรื่อง
ดูจนตาแฉะจริงๆ แต่ได้ประโยชน์ตรงที่หลายๆเรื่องช่วยให้รำลึกความหลัง
พอดูแล้วย้อนนึกถึงตัวเองในยุคนั้นสมัยนั้น ทำให้เกิดอาการอยากเขียนขึ้นมา

หลายๆคนที่ชอบดูรูป แต่ไม่ชอบอ่าน บอกไว้ก่อนว่าไดนี้ไม่มีรูปนะจ้ะ
รูปในวัยเด็ก ต้องกลับไปสแกนที่เมืองไทย เพราะงั้นคงจะลงรูปอีกที
ก็ต้องรอให้กลับจากเมืองไทย (จองตั๋วกลับไปแล้วค่ะกลางมีนา ถึงต้นเมษา)
ความจริงรูปตอนเด็กเคยสแกนไว้แล้ว ตอนทำพรีเซนเทชั่นงานแต่ง แต่อ่ะนะ
ให้คนอื่นทำให้ ประกอบกับยุ่งมาก เลยทำให้ลืมที่จะเก็บซีดีไว้อ่ะดิ เสียดายนิ

เรื่องที่จะบันทึกเหล่านี้ มีความเป็นอุ้ม (ค่อนข้างส่วนตัวอยู่มาก)
หากใครอยากรู้จัก สนใจจะอ่านเรื่องของคนๆนึง ก็ยินดีค่ะ แต่ถ้าไม่ยินดีก็ให้ผ่าน
เอาเป็นว่า อารัมภบท ท้าวความมามากแล้ว เข้าเรื่องเลยดีกว่าเนอะ อิๆๆ

อุ้มเกิดวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25xx (ขอสงวนสิทธิ์ไม่บอก 555)
เป็นคนกรุงเทพฯแต่กำเนิด เกิดที่โรงพยาบาลจุฬาฯ เวลาตกฟากจำไม่ได้
แม่เคยเล่าว่า อุ้มเป็นตัวนำโชคของครอบครัว เพราะตอนที่แม่รู้ว่าท้อง
พ่อกลับบ้านมาบอกว่าได้งานที่ธนาคารพอดี ทั้งสองคนเลยมีข่าวดีพร้อมๆกัน
แม่ท้องอุ้มหลังแต่งงานกับพ่อได้ราวๆหนึ่งปี พ่อกับแม่คบกันมาสามปีก่อนแต่งงาน
แต่ก่อนพ่อเป็นนักดนตรี เล่นดนตรีสากล พ่อมีพรสวรรค์ด้านนี้ (ได้มาจากปู่)
พ่อเล่นเครื่องดนตรีสากล ได้เกือบทุกชนิด แต่ที่เก่งที่สุดคือกีตาร์ และเป็นนักร้องนำด้วย

แม่เคยเล่าว่า ได้รู้จักกับพ่อ เพราะเพื่อนแนะนำ ตอนนั้นแม่ทำงานโรงแรมเป็นรีเซฟชั่น
พ่อขับรถมอเตอร์ไซค์ (ที่มีตอนนั้น) ไปรับไปส่งแม่ทำงานทุกวัน แม้จะเหนื่อยจากเล่นดนตรี
อุปสรรคความรักของคนทั้งคู่ มีอยู่สองเรื่อง (ตามที่แม่เคยเล่าให้ฟัง)
เรื่องแรก แม่เป็นลูกคนจีน(เชื้อสายไหหลำ) อากง(ภาษาไหหลำแม่เรียกว่า “เด”แปลว่าพ่อ)
อากงกับเณ่ะ(ตากับยายในภาษาไหหลำ) มาอยู่เมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบเหมือนอาเหลียง
อากงไม่อยากให้แม่ได้กับคนไทย คนจีนมองว่าคนไทยขี้เกียจ และที่สำคัญพ่ออุ้มดันเป็นนักดนตรี
อาชีพเต้นกินรำกินสมัยนั้น ผู้ใหญ่เค้าค่อนข้างถือ เพราะเป็นงานไม่มั่นคง อากงเลยมีอคติกับพ่อ

เรื่องที่สอง อาชีพนักดนตรีและนักร้องนำของพ่อ มีสาวๆมาติดเยอะ
สมัยพ่อหนุ่มๆ (ตอนที่ยังผอมๆ) จัดว่าเป็นคนหน้าตาดี (หล่อแบบไทยๆ)
มีสาวๆมาติดพ่ออยู่หลายคน มีทั้งแม่ยก และมีทั้งสาวรุ่นๆที่เป็นแฟนวงดนตรีพ่อ
แต่ก่อนพ่อได้รับจดหมายรักจากบรรดาแฟนๆเยอะ แม่ต้องเป็นคนช่วยตอบแทน
และจำเป็นต้องระบุด้วยว่าพ่อ “ไม่มีแฟน” ต้องรักษาภาพพจน์กันตามประสาคนดัง

แม่ได้แต่งงานกับพ่อ เพราะแม่ “ยื่นคำขาด” กับพ่อหลังคบกันมาสามปี
แม่ไม่อยากทนรอต่อไปอย่างไร้จุดหมาย เพราะแม่นั้น “สวยเลือกได้”
ถ้าพ่อไม่ยอมแต่งงาน แม่ก็จะไปคบกับคนอื่น ที่ดีกว่า รวยกว่า และอากงหนับหนุน
พ่อเลยรีบตกลง งานแต่งจัดที่บ้านปู่กับย่า พ่อกับแม่แต่งงานวันที่ 12 สิงหาคม วันแม่แห่งชาติ

พ่อกับแม่อาศัยอยู่บ้านปู่กับย่า หลังแต่งงาน พ่อเริ่มออกหางานประจำทำ
วันที่พ่อสอบเข้าแบงค์ได้ เป็นวันที่แม่บอกพ่อว่าแม่ตั้งท้องพอดี แม่ดีใจมาก
ตอนที่แม่ท้อง มีแต่คนทักว่าจะได้ลูกชาย เพราะแม่เป็นสิวเยอะ พุงก็แหลม
แถมแม่ยังแพ้ท้องมากๆด้วย แพ้ท้องอุ้มตลอดตั้งแต่รู้ว่าท้องจนครบเก้าเดือน
แม่ชอบดื่มน้ำมะพร้าว ตอนท้องอุ้ม เพราะเชื่อว่าลูกออกมาผมจะนุ่มสวย
แต่ตอนแม่คลอดอุ้ม อุ้มไม่มีผมเลย หรอมแหรมมาก แถมผมไม่ค่อยยอมขึ้นด้วย
(ผิดกับตอนนี้ ผมยาวเร็ว แถมร่วงเต็มบ้าน ร่วงยังไงก็ไม่เคยหมดหัว เหอๆๆ)

แม่ฝากครรภ์และคลอดกับหมอฝรั่ง ชื่อว่า หมอจอห์น ยัง โรงพยาบาลจุฬาฯ
(ตอนหลังพอท้องน้องชาย ก็ไปคลอดกับหมอคนเดิมอีกเช่นกัน ที่บำรุงราษฏร์)
แม่บอกว่าหมอจอห์นทำคลอดเก่ง ดูแลแม่ดี แม่คลอดอุ้มด้วยวิธีธรรมชาติ
คลอดอุ้มไม่ยาก แต่เจ็บท้องมากๆ วันเกิดอุ้มเป็นวันที่แม่ทรมาณที่สุดในชีวิต

ตอนอุ้มเกิดใหม่ๆ ตัวไม่หนักมาก แถมตัวเหลืองอีกตังหาก ต้องเข้าตู้อบหลายวัน
แรกๆแม่ให้นมอุ้มด้วยตัวเอง แต่ภายหลังก็เลิกให้ เพราะแม่เคยท้องเสียอย่างหนัก
พอให้นมอุ้ม อุ้มเลยป่วยหนักแม่ต้องพาไปส่งโรงพยาบาล และต้องอยู่โรงบาลหลายวัน
แม่เล่าว่า สงสารอุ้มมาก โดนหมอทรมาณ อุ้มร้องไห้ตอนอยู่โรงพยาบาลทุกวัน
พ่อกับแม่ต้องผลัดกันไปเฝ้าอุ้มที่โรงพยาบาลด้วยความเป็นห่วง ทำให้หลังจากนั้น
แม่ไม่กล้าให้นมอุ้มอีก เพราะแม่กลัวว่าอุ้มจะไม่สบายอีก แม่เป็นห่วงอุ้มมาก
นมที่อุ้มได้กิน เลยกลายเป็นนมตราหมีแทน กระป๋องนมตราหมีที่เป็นสังกะสี ย่ายังเอาไปใส่น้ำ
แช่ตู้เย็นไว้กินได้อีกแน่ะ เออนะ บ้านนี้ งก เอ้ย รู้จักประยุกต์กันมาตั้งแต่สมัยก่อน 555

ความทรงจำแว่บแรกในชีวิตของอุ้ม คือตอนที่อุ้มโดนจับถ่ายรูป (ตอนนั้นไม่รู้กี่ขวบ)
จำได้ว่าเห็นผ้าปูที่นอนลายดอกไม้ (ที่ตอนนั้นเป็นผ้าปูที่นอนของเตียงพ่อกับแม่)
จำได้ว่าเห็นชุดที่ตัวเองใส่เป็นชุดไหมพรมสีฟ้า (ชุดที่ป้าแหม่มเพื่อนแม่ถักให้กับมือ)
จำได้ว่าเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่อุ้มรู้ด้วยสัญชาติญาณ ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ “แม่”
ต้องเรียกว่าเป็นความทรงจำแว่บเดียวจริงๆ แต่จำได้แม่นจนน่าแปลกใจ ทั้งที่ยังเด็กมาก

น่าแปลกที่วัยเด็กของอุ้ม ไม่ค่อยมีพ่ออยู่เท่าไหร่ ตอนเด็กๆแทบจะลืมพ่อไปเลย
เพราะพ่อทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน พ่อทำงานหนักและยังติดเพื่อนมากด้วย
ทำให้ที่บ้านอุ้มไม่ค่อยได้เห็น ได้เล่น ได้คลุกคลีกับพ่อเท่าที่ควร (จำไมได้ด้วยซ้ำว่าเคย)
พ่อกับแม่มีเรื่องบาดหมางกัน ตอนที่พ่อแม่ทะเลาะกันนั้นอุ้มกลับจำได้ดี ว่าเพราะอะไร
(บทเรียนของคนมีลูกนะคะ อย่าทะเลาะกันให้ลูกเห็น เพราะลูกจำแม่น ไม่มีวันลืมค่ะ)

บ้านปู่กับย่าเริ่มแออัด เพราะมีครอบครัวของป้าและลุง ย้ายเข้ามาอยู่เพิ่มอีกหนึ่งครอบครัว
พ่อกับแม่เลยต้องไปกางมุ้งนอนหน้าหิ้งพระชั้นสองของบ้าน บางคืนอุ้มนอนห้องย่า
บางคืนอุ้มก็ได้นอนในมุ้งกับพ่อแม่ มีช่วงหนึ่ง อุ้มไม่ได้เห็นพ่อกับแม่อีกเลยทั้งคู่
(มารู้ที่หลัง ว่าแยกกันอยู่ชั่วคราว) แต่ด้วยความเป็นเด็กเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไม???
รู้แต่ว่า คิดถึงแม่มาก เพราะไม่ได้เห็นแม่เลย ต้องไปนอนกับย่า จับมือย่าแทนแม่ทุกคืน
ทำให้อุ้มกลายเป็นคนติดย่าเอามากๆ ขนาดแม่มาเยี่ยมมารับไปค้างที่บ้านยายแค่คืนเดียว
คืนนั้นจำได้แม่นว่าไม่ชินสถานที่ เห็นเงาต้นไม้ก็กลัว ร้องไห้จะหาย่า จนแม่ต้องพาไปคืนย่าจริงๆ

ช่วงสองสามขวบ อุ้มไม่ได้เห็นพ่อเลย รู้ว่ามีปู่กับย่า มีพี่สาวสองคน (ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง)
มีป้า มีลุง (ที่นานๆจะได้เห็นเพราะเค้าทำงานกัน) อยู่บ้านไม้ในตรอกเล็กๆ ไม่มีสัตว์เลี้ยง
จำได้ว่าแม่มักจะมารับไปเที่ยวช่วงวันหยุด และมารับไปอยู่บ้านยายครั้งคราวช่วงปิดเทอม

ตอนเด็กๆอุ้มเลยค่อนข้างว่าเหว่ เพราะขาดทั้งพ่อและแม่ ปู่กับย่าก็แทนที่ไม่ได้
ก่อนนอนมักจะร้องไห้คิดถึงแม่อยู่บ่อยๆ ย่าต้องปลอบใจด้วยการจับมือ จนติดเป็นนิสัย
เมื่อไหร่ที่แม่ผ่านมา แต่ไม่ยอมแวะมาหา หรือไม่ได้ไปเจอแม่ตามนัด จะเสียใจมากๆ
เป็นคนขี้แย ร้องไห้เศร้าโศกจนหลับ หรือร้องไห้โวยวายตามแม่ ลุงกับพี่ต้องมาช่วยกันจับตัวไว้

ชีวิตรันทดวัยเด็กมาจบสิ้นลง ตอนที่พ่อมาขอแม่คืนดีที่บ้านยาย (อุ้มยังจำได้)
พ่อมาหาแม่ด้วยดอกไม้หนึ่งช่อ (ตอนหลังแม่ทำเป็นดอกไม้แห้ง) พ่อมาขอเริ่มชีวิตใหม่กับแม่
พ่อพร้อมจะสร้างครอบครัว เลิกทำตัวเสเพลติดเพื่อน พ่อซื้อบ้านหลังเล็กๆให้แม่กับอุ้มด้วย

บ้านหลังแรกของครอบครัวเรา อยู่ที่พุทธมณฑลสายสี่ สมัยก่อนกันดารมาก
มีรถเมล์วิ่งผ่านสายเดียว ใช้เวลาตั้งหนึ่งชั่วโมง ถ้านั่งแท๊กซี่ก็เสียเงินเป็นร้อย
อุ้มได้กลับบ้านสายสี่ เฉพาะช่วงเสาร์อาทิตย์ แม่มารับที่บ้านย่า และขึ้นรถเมล์ไปด้วยกัน

อุ้มไม่ได้ย้ายไปอยู่บ้านพ่อกับแม่ทุกวัน เพราะเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้านปู่กับย่าแล้ว
อีกอย่าง พ่อกับแม่ไม่มีเวลาดูแล เพราะพ่อทำงานธนาคารกลางวัน ตกเย็นต้องไปเล่นดนตรีต่อ
ส่วนแม่ทำงานโรงแรมสองที่ เข้าทั้งสองกะ กะเย็นและกะกลางคืน ทั้งคู่ทำงานสร้างครอบครัวหนักมาก

อุ้มเข้าเรียนโรงเรียนอนุบาล ตอนอายุเพียงสองขวบ เข้าเรียนเร็ว เพราะเกิดต้นปีนั่นเอง
โรงเรียนอนุบาลอยุ่ใกล้บ้านปู่กับย่า แค่ซอยถัดไปเท่านั้น เป็นโรงเรียนเล็กๆ มีแค่สองห้องเรียน
ห้องอนุบาลหนึ่ง กับอนุบาลสอง มีนักเรียนไม่มากเท่าไหร่ อุ้มเดินไปเรียนกับเพื่อนข้างบ้าน
อุ้มมีโต๊ะประจำที่โรงเรียนด้วย พี่สาวทั้งสองคนสั่งให้ไปนั่งต่อ แต่อุ้มกลับไม่ได้นั่งโต๊ะนั้น
เพราะมีเด็กผู้ชายมานั่งใกล้ๆ และอุ้มไม่ค่อยชอบเค้าเท่าไหร่ เลยย้ายไปนั่งที่อื่นแทน

แม้อุ้มจะเด็กอยู่มาก อายุแค่สองขวบ แต่อุ้มสามารถรับรู้ถึงความเครียดและกดดันได้
โดยเฉพาะเวลาครูสั่งให้คัดลายมือให้จบสามหน้า ไม่งั้นจะไม่ให้กลับบ้าน อุ้มยังจำได้แม่นยำ
อุ้มจำได้ว่าครูสั่งให้ตั้งใจและขยันเรียน ไม่งั้นจะสอบเข้าโรงเรียนดังๆที่มีนักเรียนเป็นร้อยไม่ได้
จำได้ว่าเคยต่อแถวเล่นไม้ลื่น จำได้ว่าชอบกินขนมริงโก้ จำได้ว่านอนกลางวันแต่นอนไม่หลับ
จำได้ว่าตื่นขึ้นมาต้องต่อแถวล้างหน้าปะแป้งหอมๆ จำได้ว่าแม่เคยไปส่งที่โรงเรียนหนนึง ดีใจมาก

เรื่องกุ๊กกิ๊กสมัยอนุบาล ก็เคยมีเหมือนกัน เคยมีหนุ่มคนนึงเอาน้ำส้มมาให้
และหอมแก้มอุ้มไปหนึ่งที (เรื่องนี้ไม่มีลืมนะยะ ก๊ากๆๆ) พี่คนนั้นอยู่บ้านหน้าปากซอย
จำได้ลางๆว่าพี่เค้าชื่อว่า “อ๊อฟ” เป็นที่มาชื่อเล่นน้องชายที่อุ้มเป็นคนตั้งนั้นเอง ฮ่าๆๆ

สองปีที่อยู่อนุบาล ผ่านไปรวดเร็ว ชีวิตมีทั้งเรียนๆเล่นๆ สนุกไปตามประสา
โรงเรียนอนุบาลที่เคยเรียนปิดตัวหลังจากนั้น โรงเรียนอนุบาลกลายเป็นแค่ความทรงจำ

จบภาคแรก ไว้ที่สมัยเรียนอนุบาลละกันนะคะ เดี๋ยวมาต่อคราวหน้า
ขอตัวไปทบทวนความจำต่อก่อนนะ แล้วจะรีบมาใหม่ อิๆๆ บ้ายบายจ้า


grand ex



Create Date : 17 มกราคม 2552
Last Update : 17 มกราคม 2552 17:30:29 น. 7 comments
Counter : 279 Pageviews.

 
วงดนตรีที่ดังที่สุด ยุคที่อุ้มเกิดคือวงนี้ค่ะ แกรนด์เอกซ์ (เดากันเอาเองว่าเกิดปีไหน 555)
ส่วนละครดังๆ น่าจะเป็นเรื่อง นางเงือก เพราะจำได้ว่าแม่อุ้มผมยาวมากกก (ยาวจนถึงก้น) จนมีหลายๆคนนึกว่าแม่อุ้มเป็นนางเอกละครเรื่องนั้น และเคยมีแมวมองมาขอให้แม่ไปเป็นนางแบบโฆษณายาสระผมด้วย ก๊ากๆๆ


โดย: aumdeeda วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:17:38:04 น.  

 
Just dropping by to say hello ka.


โดย: CrackyDong วันที่: 17 มกราคม 2552 เวลา:17:50:48 น.  

 
พี่อุ้มนี่เก่งนะ
อยากเก่งแบบนี้มั่งจัง

เพราะแก้วทำไรไม่เปงเลย
ติดพ่อตั้งแต่เด็ก
พ่อทำให้ทุกอย่าง
พอไม่มีพ่อ เลยเคว้งไปเลย


ปล.ผ้าพันคอสวยจัง
ขาวดำ ชอบ ๆ


โดย: lonelydj@diaryclub.com IP: 125.27.72.50 วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:16:10:47 น.  

 
รอภาคสองค่ะ

ปล.เพลงเก่ามาก แต่กลับรุ้สึกคุ้น (ฮ่าๆๆ)
อยากกินริงโก้ (มันมีริงโก้อีกอันที่เป็นน้ำยาขัดเงารถใช่ปะคะ?)




โดย: ชาแนลวี วันที่: 18 มกราคม 2552 เวลา:22:22:09 น.  

 
โห ยังมีสอดมุขให้ขำนะตะเอง
แน่จริงลงปีเกิดด้วยจิ กร๊าก
เราสองคนคงไม่ห่างกันเท่าไหร่หรอกมั้งเนอะพี่อุ้ม


โดย: kwang IP: 88.169.241.225 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:1:17:45 น.  

 
ดีใจจังค่ะที่ได้อ่านบันทึกหน้านี้ เขียนได้ดีมาก ๆเลย ทั้งเรื่องราวความรักของคุรพ่อคุรแม่ ทั้งแง่คิดที่มีแทรกมาให้คนอ่าน และชีวิตในวัยเด็ก แล้วจะมาติดตามภาคต่อนะจ๊ะ :)


โดย: na_kyoung IP: 58.8.37.220 วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:13:50:11 น.  

 
สุดยอดเจ๊ เขียนดีมากๆ เพลงเก๋าได้อีก อิอิอิ แต่แอบมีมุขเยอะนะเราอ่ะ อิอิอิ รอก๊งรอบต่อไปนะค้า


โดย: จอย ณ อาเมียง IP: 79.89.31.221 วันที่: 20 มกราคม 2552 เวลา:21:17:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

aumdeeda
Location :
Ouagadougou Burkina Faso

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อดีตคนโรงแรม
ที่ได้พบรักกับหนุ่มชาวฝรั่งเศส
ไกลถึงกรุงบรัสเซลส์เบลเยี่ยม
จากนั้นได้ผันตัวมาเป็นเถ้าแก่เนี้ย
ร้านขายอาหาร ณ เมืองอาเมียง
ทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส
ปัจจุบันย้ายมาทำธุรกิจที่ประเทศ
"บูร์กินาฟาโซ"
ในทวีปอัฟริกาตะวันตก
Friends' blogs
[Add aumdeeda's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.