น่าเสียดาย....ค่านิยมที่เปลี่ยนไป
อยู่ๆก็อยากจะรำพึงรำพันถึงวันวาน ก็แค่คิดถึงช่วงเวลาสวยงามที่ผ่านไปแล้ว............................. สมัยเมื่อเติบโตอยู่ต่างจังหวัด ชีวิตนับว่ามีความสุขทีเดียว แม้ว่าจะเป็นความสุขแบบเรียบๆ ไม่โลดโผน ท่ามกลางวิถีชีวิตที่ยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติอยู่มาก ผู้คนในสังคมมีค่านิยมที่ยกย่องคนทำความดี มีความเมตตา มีความเอื้อเฟื้อ ผู้ใหญ่ช่วยเหลือเด็ก เด็กก็เคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่ อยู่กันอย่างที่เรียกได้ว่า " ร่มเย็นเป็นสุข " จริงๆ ผ่านไป 30 ปี สภาพสังคมเปลี่ยนไป ระบบการศึกษาก็เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก จากสังคมที่นิยมยกย่องคนดี กลับกลายเป็นสังคมที่นิยมยกย่องกันที่เงิน ที่ผู้มีอำนาจ การศึกษาปัจจุบันเน้นการใช้เทคโนโลยี่มากกว่าการสอนให้เด็กคิดเป็น พอโตขึ้นก็มุ่งแต่จะหาเงินส่วนวิธีการหาเงินนั้นบางครั้งก็ไม่ได้คำนึงถึงความถูกต้องเหมาะสม ข้อจำกัดมากมายที่กดดันทำให้บางคนไม่มีทางเลือกยอมเป็นลูกจ้างบริษัทที่เอาเปรียบผู้บริโภค ส่งเสริมให้ใช้ผลิตภัณฑ์ ผลิตผลของตัวเองทั้งๆที่หลายๆแคมเปญเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกร้อนขึ้นทุกวัน ส่งเสริมให้คนใช้พลังงานกันอย่างสิ้นเปลือง ขาดการบริหารจัดการที่เหมาะสมและจริงใจ ความสุขที่เคยมีค่อยๆหายไปทุกที สังคมครอบครัวก็อ่อนแอลงทุกวัน เป็นห่วงแต่เด็กๆรุ่นต่อไปจะอยู่กันอย่างไร จะหลงทางกันไปอีกนานเท่าไหร่? เพราะแค่วันนี้ก็วุ่นวายเหลือเกินแล้ว ภายใต้กฏของธรรมชาติ ก็คงต้องยอมรับแต่โดยดี บางทีการจากไปก่อนอาจจะเป็นการโชคดีกว่าการที่ต้องอยู่แล้วถูกธรรมชาติลงโทษ อ้าวอิจฉาคนตายก่อนซะงั้น.
Create Date : 01 กันยายน 2555 |
Last Update : 1 กันยายน 2555 13:42:05 น. |
|
56 comments
|
Counter : 1736 Pageviews. |
|
|
สามสี่สิบปีที่แล้ว อากาศอาหารการกิน สังคม สมัยตอนเด็กๆไม่สบายไม่ไปโรงเรียน ตกเย็นครูจะขี่จักรยานมาถามที่บ้าน เดี๋ยวนี้ครูตีนักเรียนไม่ได้ เด็กรุ่นนี้เขาคงจะชินกับชีวิตแบบนี้ รุ่นราวๆเคยเห็นมาอย่างก็นะ ไปก่อนก็ดีเหมือนกันเนาะป้า