Group Blog
 
 
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
:: เทศกาล เก็บตู้เย็น ใส่ถุงผ้า คลายโลกร้อน :: ประเทศจีน..กับ.. การรักษาสิ่งแวดล้อม:: toor36 ::





ป ร ะ เ ท ศ จี น
กับ .. การรักษาสิ่งแวดล้อม
และ .. ปัญหาโลกร้อน


เรื่อง : ภาพประกอบ toor36








ช่วงที่เรียนอยู่ที่เมืองคุนหมิง ประเทศจีน วิชาการพูดมีการสัมมนาเรื่อง การรักษาสิ่งแวดล้อม และปัญหาโลกร้อน ผู้ร่วมสัมมนาประกอบด้วยบุคคลตัวแทนจากหลายประเทศ (นักเรียน) ทั้งทางเอเชีย ยุโรป อเมริกา ทั้งประเทศพัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา ซึ่งผู้ที่เป็นตัวแทนของประเทศจีนก็คืออาจารย์ผู้สอนนั่นเอง


ประเทศจีนหนึ่งในมหาอำนาจของโลก เป็นประเทศที่ทั่วโลกยกให้เป็นประเทศที่ก่อให้เกิดปัญหาโลกร้อนมากที่สุดประเทศหนึ่ง ประเด็นนี้ ตัวแทนประเทศจีนพูดได้น่าสนใจว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ชอบกล่าวหาประเทศอื่นว่า เป็นตัวการทำให้โลกร้อน แท้จริงแล้วประเทศสหรัฐอเมริกาเองต่างหากที่เป็นตัวการสำคัญในการทำให้โลกร้อน

ถ้าเฉลี่ยจำนวนประชากรของประเทศจีน กับหลายๆ ประเทศทั่วโลกจะพบว่า ประเทศจีนปล่อยสารที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนเฉลี่ยต่อคนน้อยกว่าหลายๆ ประเทศ รวมไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกาเสียอีก สิ่งที่ทุกคนควรทราบคือ ประเทศจีนเปรียบเสมือนโรงงานของโลก ที่มีหน้าที่ผลิตสินค้าป้อนเข้าสู่ตลาด ตามแต่ประเทศคู่ค้าจะสั่ง ถ้ากดดันมากๆ เราจะเลิกผลิตสินค้าดีหรือไม่ จะได้เลิกบ่นกัน


ทางประเทศจีนพูดก็มีเหตุผล แต่เนื่องจากการกดดันจากหลายๆ ประเทศ จึงต้องมาตรการในการตอบโต้ ควบคุม และลดปัญหาโลกร้อน ซึ่งหลายๆ มาตรการประเทศจีนได้ดำเนินการมานานแล้ว เพียงแต่เราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญ เพราะมัวแต่ไปมองประเทศทางยุโรปมากเกินไป

แนวทางการแก้ปัญหาของประเทศจีน เท่าที่พบเจอจากประสบการณ์ เป็นการแก้ปัญหาแบบหักดิบ และเข้มข้น โดยใช้กฎบังคับ เป็นต้นว่า
- หอพักนักศึกษา มีกำหนดเวลาปิดไฟในเวลาเที่ยงคืน เที่ยงคืนตัดไฟฟ้าทันที
- รถไฟ มีกำหนดเวลาปิดไฟในรถที่เวลาสี่ทุ่มตรง
- ถุงพลาสติก นึกอยากจะลดการใช้ก็หักดิบเลย เลิกใช้ทันทีโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2008 ในช่วงครึ่งปีแรก หากใครต้องการถุงพลาสติกต้องจ่ายเงินค่าถุงพลาสติก ในราคา 0.1 – 1 หยวน
- การใช้โซล่าเซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์ในโรงแรมหลายๆ แห่ง
- นโยบายคาร์ฟรีเดย์ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคุนหมิงเป็นเมืองแรกในประเทศจีน

การแก้ปัญหาในรูปแบบที่ทำกันมานานก็มี เช่น
- การรับซื้อขยะ ประเทศจีนรับซื้อขยะหลากชนิดกว่าของประเทศไทยมาก โฟมเค้าก็ซื้อ เศษไม้ก็ซื้อ กระดาษทุกชนิดซื้อหมด และรถรับซื้อขยะมีกระจายอยู่ทั่วไป ถ้าคุณไม่ใช่พวกเอาแต่สะดวก อยากจะทิ้งก็ทิ้ง ขยะที่ห้องคุณก็เปลี่ยนเป็นเงินได้ เพราะว่าขยะมันขายได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าจะมีคนมาขอขวดเปล่าที่คุณถืออยู่ เวลาคุณกำลังท่องเที่ยว
- การใช้รถจักรยาน และจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่เมืองคุนหมิงจักรยานยนต์แบบใช้น้ำมัน นับจำนวนคันได้เลยทีเดียว เพราะน้อยมาก
- การเดิน แทนการใช้รถ

จากการสัมมนาในห้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม อาจารย์คนจีนกล่าวไว้ว่า รัฐบาลจีนไม่ค่อยให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ดีแต่แก้ตัวกับต่างประเทศไปวันๆ เหมือนที่กล่าวไปข้างต้น แนวทางปฏิบัติหลายอย่าง มาจากประชาชนคิดกันเอง ทำกันเองหวังพึ่งรัฐบาลไม่ได้

ในขณะที่อาจารย์ และนักวิชาการจีนชอบออกมาพูดในทำนองที่ว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วต้องให้การช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนา ในหลายๆ เรื่อง ทั้งเทคโนโลยีการกำจัดขยะ พลังงานสะอาด ประเด็นนี้ผู้ร่วมสัมมนาทุกคนเห็นด้วยเต็มที่ แต่ปัญหาคือ เมื่อไหร่เค้าถึงจะมาช่วย?

เรื่องลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติก็เป็นเรื่องที่น่าจัดตามอง ตัวแทนจีนกล่าวถึงโรงอาหารที่นักศึกษาจีนใช้บริการว่า ตะเกียบที่ใช้ควรเป็นแบบใช้ได้หลายครั้ง ซึ่งในช่วงที่ผู้เขียนไปที่ประเทศจีนใหม่ๆ (ช่วงปี 2007)ตะเกียบที่ใช้เป็นแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ในวันที่สัมมนานั้นที่โรงอาหารก็ยังคงใช้ตะเกียบแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งตัวแทนจีนด่ารัฐบาลเละ เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นหน่วยงานของรัฐบาล รัฐบาลควบคุมหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ รัฐบาลสั่งมาก็ต้องดำเนินการ แน่นอนเรื่องตะเกียบก็เช่นกัน จนมาถึงช่วงปลายปี 2008 จึงมีการใช้ตะเกียบธรรมดาที่สามารถล้างแล้วใช้ได้หลายครั้ง

ประเด็นที่น่าสนใจอีกประเด็น ประเทศที่กำลังพัฒนาควรเจริญรอยตามประเทศที่พัฒนาแล้วหรือไม่? ประเด็นนี้คุยกันออกรสชาติ เนื่องจากความคิดเห็นในห้องแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว และกำลังพัฒนา โดยเจ้าภาพตัวแทนจีนได้กล่าวว่า ประเทศที่พัฒนาแล้วพัฒนาอย่างผิดทาง แนวทางของประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนมากจะก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งมูลค่าความเสียหายของสิ่งแวดล้อมนั้นไม่สามารถประเมินค่าได้ ในขณะที่ฝ่ายประเทศที่พัฒนาแล้วมองอีกมุมที่ว่าถึงทำลายแต่เราก็ค่อยๆ ฟื้นฟูได้ สำหรับในประเด็นนี้ผมเห็นด้วยกับเจ้าภาพจีนที่ว่า เราควรจะต้องคิดทบทวนถึงแนวทางการพัฒนาประเทศว่า เราควรพัฒนาตามประเทศที่พัฒนาแล้วหรือไม่ หรือว่า เราควรจะพัฒนาตามแนวทางใหม่ที่เราคิดขึ้นเอง โดยเป็นการพัฒนาที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

ปัญหาสิ่งแวดล้อม และโลกร้อนของประเทศจีน ในมุมมองของคนต่างชาติมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ บางประเด็นตรงกับความคิดของเรา บางประเด็นขัดแย้ง แต่ประเด็นที่ทุกชาติเห็นตรงกันมากที่สุดคือ ต้องแก้ที่คน ต้องแก้ที่วินัยของคนในชาติ งานที่เจ้าภาพโดนผู้สัมมนารุมเละเลยทีเดียว













คน : เฮ้อ... โยนไม่เข้าอีกแล้ว นับวันยิ่งโยนแม่นน้อยลง
ถังขยะ : ขอร้องล่ะ เดินเข้ามาใกล้อีกนิดค่อยทิ้งไม่ได้เหรอ

ภาพนี้สะท้อนให้เห็นถึงวินัยที่มีปัญหา จากปัญหาเล็กๆ ทิ้งไม่ลงถัง ชี้ให้เห็นว่าคนทิ้งไม่ใส่ใจกับขยะว่าจะลงถังหรือไม่ ดังนั้นไม่ต้องนึกถึงเรื่องการแยกขยะเลย การไม่แยกขยะทำให้นำไปรีไซเคิลได้ยาก ดังนั้นจึงไม่มีการรีไซเคิล ส่งผลต้องผลิตสินค้าขึ้นมาใหม่ จากนั้นก็นำไปใช้ แล้วก็ไม่มีการแยกขยะ รีไซเคิลยาก วนไปวนมาไม่สิ้นสุด นี่คือจุดเล็กๆ ของการเกิดปัญหาโลกร้อนที่หลายๆ คนมองข้ามไปหรือไม่?













ภาพนี้ก็สะท้อนถึงวินัยที่มีปัญหาเช่นกัน กินเสร็จก็วางทิ้งไว้ จากภาพเราจะเห็นได้ว่า บะหมี่ที่รับประทานเป็นบะหมี่ถ้วย ซึ่งมีน้ำซุปอยู่ในถ้วย เรามาลองจินตนากันว่า จากภาพนี้จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ถ้าหากว่าคนที่นั่งอยู่ขาไปเตะโดนจนน้ำซุปหกออกมา แล้วคนที่นั่งด้านข้างทำหนังสือพิมพ์หล่นไปโดนน้ำซุป จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนเกิดขยะเปียกที่รีไซเคิลยาก ถ้าคนจีนมีวินัยมากกว่านี้ กินเสร็จก็นำไปทิ้งถังขยะ โอกาสที่จะเกิดเรื่องอย่างที่ผมเล่าก็จะน้อยลง


หลายๆ คนอาจกล่าวว่า ผู้เขียนคิดมาก จุดเล็กๆ ที่เราคิดว่าไม่สำคัญ เช่น พยายามทานข้าวให้หมดจาน เพื่อที่จะได้ไม่เหลือเศษอาหารตัวการของโลกร้อน ขายขยะ เพื่อเป็นการแยกขยะ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยโลกเราได้มาก หากเราลงมือปฏิวัติกันอย่างจริงจัง น่าเสียดายที่ในประเทศจีนจิตสำนึกในเรื่องพวกนี้ค่อนข้างน้อย



ในประเด็นตรงนี้ประเทศญี่ปุ่นจัดได้ว่ามีวินัยค่อนข้างดี เพราะต้องทิ้งขยะตามวันและเวลาที่ทางการกำหนด อีกทั้งการจะทิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นต้องเสียเงินค่าทิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วย ในขณะที่ประเทศไทยค่อนข้างสบาย ผมเห็นว่า เราช่วยได้ก็ช่วยดีกว่า อย่าให้ต้องมีกฎมาบังคับแบบประเทศอื่นๆ ที่เค้ามีกฎกัน












แม่น้ำขยะซึ่งประกอบไปด้วยขยะจำนวนมากจนเรือยากที่จะผ่านไปได้
























ภูเขาขยะ และแม่น้ำขยะในเมืองจีน ผมไม่ทราบว่าเจ้าภาพพูดเกินจริงหรือไม่ว่า บางแห่งสามารถลงไปเดินบนแม่น้ำขยะได้ โดยที่เราไม่ร่วงลงไป ซึ่งถ้าเป็นจริงอย่างที่เจ้าภาพกล่าวเรื่องนี้น่าห่วงครับ











ภาพความมักง่ายของซอยแห่งหนึ่งจากมุมสูง ขยะเต็มไปหมด






จากปัญหาของประเทศจีน ทำให้เราต้องย้อนกลับมามองประเทศไทยว่า เรามีมาตรการในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาเหล่านี้มาน้อยเพียงใด ปัญหาโลกร้อนเราหวังพึ่งรัฐบาลไม่ได้หรอก ต้องพึ่งตนเอง ช่วยกันแก้ไขปัญหากันเอง วันนี้เราช่วยโลกแล้วหรือยัง? เราเห็นตัวอย่างจากประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศจีนแล้วคิดอย่างไร? ประเทศเรายังไม่ถึงขั้นนั้น จะกำหนดมาตรการ แก้ไข และป้องกันปัญหาตอนนี้ก็ยังไม่สาย แต่ถ้ารอให้เหมือนดังในภาพข้างต้นที่นำเสนอล่ะก็ เกรงว่าจะแก้ไขไม่ทัน
















กระซิบ : ตื่นเช้าขึ้นมา ..
เปิดไฟ เสียบปลั๊กกาน้ำร้อน เปิดคอม
เปิดโทรทัศน์ .. เปิดตู้เย็น
เรา ..ก็เริ่มสร้างปัญหาให้โลกโดยทันทีทันใด

การใช้ชีวิตมนุษย์เพียงหนึ่งคน คือจุดเริ่มต้นของปัญหา
และแน่นอน .. การใช้ชีวิตของคนหลายคน .. เป็นปัญหาใหญ่กว่า


อ่านเรื่องราวที่ .. คุณต่อ ..
มองเมืองใหญ่ .. ให้เราได้รู้ถึงปัญหาในภาพรวมที่กว้างกว่าแล้ว
พี่ๆๆเพื่อนๆ มาช่วยกันเล่าเรื่องราวของ .. เมือง .. ที่อยู่กันบ้างนะคะ
ระบบจัดการปัญหาของเมือง แต่ละประเทศ แต่ละสถานที่ไม่เหมือนกันนี่นา ..







แรงที่ช่วยกันคลายโลกร้อน ตามไปเลยค่ะ ::





ดาวจ๋าชวนทำขนม >
ปลาแห้งหน้าข้าวเหนียวมูน
< เพื่อร่วมโครงการลดภาวะโลกร้อน
ตาม บล็อก มัชชาร






บล็อกพี่สิน:: yyswim
::ข้อมูลส่วนหนึ่งสนับสนุนการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน


ทำขยะให้เป็นประโยชน์





ชมภาพบรรยากาศงานวัน ..


“Chiang Mai Car Free Day 2010”ที่บล็อกครูช้างกันค่ะ
เพลงดาบกระบี่เดียวดาย





ฟังเพลง Energy Song ที่บล็อกน้องวิวกันค่ะ
ประเทศเกาหลี มีการรณรงค์ลดโลกร้อนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน :)


Youngwoong
















Create Date : 27 กันยายน 2553
Last Update : 27 กันยายน 2553 5:30:54 น. 48 comments
Counter : 8325 Pageviews.

 
สวัสดีวันที่ 2 ค่ะ

โอ้โห..ถ้าเป็นหนุ่มบนเรือคนนั้น
คงจะ.....


โดย: Gunpung วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:5:41:33 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องดี

ขอชมเชยน้องต่อที่เขียนบล็อกนี้ได้ดีเลยครับ
ภาพภูเขาขยะ แม่น้ำขยะ
น่าจะสะกิดใจให้เราได้คิด
และเริ่มต้นรับผิดชอบต่อสังคมด้วยตัวเราเองอย่างง่ายๆ
แม้กระทั่งสิ่งเล็กน้อยที่สุดก็ตาม









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:5:42:41 น.  

 




5 มีนาคม วันสิ่งแวดล้อมโลก














จากการตื่นตัวในวิกฤติการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของโลก
อันประกอบด้วยวิกฤตการณ์ด้านต่าง ๆ เช่น ..
การขาดแคลนอาหาร วิกฤตการณ์ด้านพลังงาน
อัตราการเพิ่มของประชากรที่สูงมาก
รวมทั้งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
ซึ่งเป็นผลกระทบกับคนทั่วโลก
องค์การสหประชาชาติจึงได้จัดประชุมที่เรียกว่า
"การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์"
(UN Conferenceonthe Human Environment)
ที่กรุงสต๊อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ 5 - 16 มิถุนายน 2515
โดยใช้เวลาเตรียมการประชุมครั้งนี้ถึง 3 ปี
เพื่อจัดทำร่างข้อเสนอต่าง ๆ
รวมทั้งแผนการดำเนินการและปฏิญญาว่าด้วยสิ่งแวดล้อมของมนุษย์
ในการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมถึง 1,200 คน จาก 113 ประเทศ
นอกจากนั้นยังมีผู้สังเกตการณ์กว่า 1,500 คน
จากหน่วยงานรัฐ องค์กรเอกชน สื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ
พร้อมทั้งตัวแทนเยาวชนและกลุ่มนักศึกษาจากทั่วโลก
ผลการประชุมนับว่าประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม
เพราะเป็นครั้งแรกที่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ได้หันหน้าเข้าหากันเพื่อร่วมขจัดภัยอันตรายด้านสิ่งแวดล้อม
โดยองค์การสหประชาชาติได้จัดตั้ง
โครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ
(UNEP : United Nation Environment Programme)
ซึ่งรัฐบาลประเทศต่าง ๆ
ได้รับข้อตกลงจากการประชุมคราวนั้น
และจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน
และเพื่อเป็นการระลึกถึง
จุดเริ่มต้นของการร่วมมือระหว่างชาติทั่วโลกในด้านสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2515 อันเป็นวันเริ่มการประชุมครั้งยิ่งใหญ่นี้
องค์การสหประชาชาติจึงได้รับประกาศให้

วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี เป็น ..
วันสิ่งแวดล้อมโลก (World Environment Day)












โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติมีหน้าที่ติดตาม
ประเมินผลการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางที่ดี

เพื่อให้เป้าหมายบรรลุผลจึงได้กำหนดวิธีการไว้ ..
- สร้างความตื่นตัวในการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม
และให้การศึกษากับประชาชนและนักศึกษาทั่วไป
-ให้การสนับสนุนทางวิชาการ และเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
เพื่อกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
- เสริมสร้างให้สถาบันและคนในสถาบันตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม












วันสิ่งแวดล้อมโลกในแต่ละปีก็จะมีหัวข้อที่ต่างกันออกไป


-พ.ศ. 2528
เยาวชน ประชากร และสิ่งแวดล้อม
Youth, Population and Environment

-พ.ศ. 2529
ต้นไม้เพื่อสันติภาพ
A Tree for Peace

-พ.ศ. 2530
Public Participation,Environment Protection and Sustainable Development

-พ.ศ. 2531
การมีส่วนร่วมของประชาชน การปกป้องคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
When people put the environment first,development will last

-พ.ศ. 2532 ภาวะโลกร้อน
Global Warming,Global Warming

-พ.ศ. 2533 เด็ก และสิ่งแวดล้อม
Children and the Environment (Our Children,Their Earth)

-พ.ศ. 2534 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
Climate Change : Need for Global Partnership

-พ.ศ. 2535
Only One Earth : Care and Share

-พ.ศ. 2536
Poverty and the Environment : Breaking the Vicious Circle

-พ.ศ. 2537 โลกใบเดียว ครอบครัวเดียวกัน
One Earth, One Family

-พ.ศ. 2538 ประชาชน เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมโลก
We The Peoples,United for the Global Environment

-พ.ศ. 2539 รักโลก : ดูแลถิ่นฐานบ้านเรา
Our Earth, Our Habitat,Our Home

-พ.ศ. 2540 เพื่อชีวิตที่ยั่งยืนบนผืนโลก
For Life one Earth

-พ.ศ. 2541
เศรษฐกิจพอเพียง เลี้ยงชีวิตยั่งยืน
For Life on Earth "Save our Seas"

-พ.ศ. 2542
รักโลก รักอนาคต รักษ์สิ่งแวดล้อม
"Our Earth,Our Future...Just Save It"

-พ.ศ. 2543 ปี 2000
สหัสวรรษแห่งชีวิตสิ่งแวดล้อม : ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อโลก เพื่อเรา
2000 The Environment Millennium :Time to Act

-พ.ศ. 2544 เชื่อมโยงโลกกว้าง ร่วมสร้างสานสายใยชีวิต
CONNECT with the World Wide Web of Life

-พ.ศ. 2545 ให้โอกาสโลกฟื้น คืนความสดใสให้ชีวิต
Give Earth a Chance

-พ.ศ. 2546 รักษ์น้ำเพื่อสรรพชีวิต ก่อนวิกฤตจะมาเยือน
Water - Two Billion People are Dying for it!

-พ.ศ. 2547 ร่วมพิทักษ์ ร่วมรักษ์ทะเลไทย
Wanted! Sea and Oceans - Dead or Live?

-พ.ศ. 2548 เมืองเขียวสดใส ร่วมใจวางแผนเพื่อโลก
GREEN CITIES PLAN FOR THE PLANET!

-พ.ศ. 2549 เพิ่มความชุ่มชื้น คืนสู่ธรรมชาติ
DON T DESERT DRYLANDS!

-พ.ศ. 2550 ลดโลกร้อน ด้วยชีวิตพอเพียง
MELTING ICE-A HOT TOPIC

-พ.ศ. 2551 ลดวิกฤติโลกร้อน : เปลี่ยนพฤติกรรม ปรับแนวคิด สู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
Co2 Kick the Habit ! Towards a Low Carbon Economy

-พ.ศ. 2552 คุณคือพลัง ช่วยหยุดยั้งภาวะโลกร้อน
Your Planet Needs You - Unite to Combat Climate Change

-พ.ศ. 2553 ความหลากหลายทางชีวภาพ กู้วิกฤติชีวิตโลก
Many Species One Planet One Future











โลกร้อน เกิดภัยพิบัติมากมาย
ดังนั้นถึงเวลาแล้ว
ที่พวกเราจะร่วมช่วยกันรักษาสภาพแวดล้อมกันแบบจริงๆจังๆ
เพื่อเก็บมันเอาไว้ให้ลูกหลานของเราได้เห็น





พี่สิน :: yyswim
ได้เขียนบล็อก เกี่ยวกับวันสิ่งแวดล้อมโลก และเรื่องของประพลังงานไว้ด้วย
แวะเข้าไปชมนะคะ




สิ่งแวดล้อมโลก





ประหยัดพลังงาน










โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:5:58:42 น.  

 
มาร่วมด้วยช่วยกันลดโลกร้อนอีกคน
ไม่ช้าเกินไปใช่ไหมจ๊ะ


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:6:05:03 น.  

 
เห็นแล้วสุดๆเลยจ้ะดีดีที่รัก
เมืองใหญ่ๆ การแก้ปัญหายิ่งยากเนอะ
ถ้าประชากรไม่มีระเบียบวินัยด้วยแล้ว
ยิ่งทำให้แก้ไขยาก

ตื่นเช้ามา...เปิดคอมฯ เปิดพัดลม เสียบน้ำร้อน
มันเป็นเหมือนปกติทุกวัน
และเราก็ได้ทำลายโลกกันทุกวันอยู่แล้ว

ร่วมมือร่วมใจกันคนละเล็กละน้อย
ช่วยรักษ์โลกของเราให้อยู่กับเราไปนานๆ
ถึงแม้จะช่วยไม่ได้มาก
แต่อย่างน้อย โลกใบนี้ก็ป่วยน้อยลง

วันนี้วันจันทร์แล้ว เห้อๆๆๆ เร็วจริงๆ วันเวลานี่


โดย: fonrin วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:6:50:10 น.  

 
เค้ายังไม่ได้อาบน้ำเลย แหะๆ
เอ๊ะ...หรือจะไปทำงานแบบไม่อาบน้ำดี
ประหยัดน้ำช่วยโลก ฮ่ะๆๆ
หรือว่าจะทำร้ายโลกกันแน่หว่า เอิ๊กกกก
แบบว่าประหยัดน้ำช่วยโลก
แต่ไม่ประหยัดกลิ่นช่วยโลกไง
หนักกว่าอีก เอิ๊กกกกกกกกกก

ต๊องจริงๆเปิ้นเหวิ่นเนี่ย ฮ่ะๆๆ


โดย: fonrin วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:7:25:06 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ น้องดี
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: เกศสุริยง วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:7:44:28 น.  

 
ทักทายสวัสดีกับคุณดีครับ
ทำงานอย่างมีความสุขตลอดวันนะครับ
ถ้าวันนี้ว่างจะเริ่มทำ draft ให้ชมแล้วครับ
ไว้ส่งทางเมล์ให้ชมนะครับ


โดย: ถปรร วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:8:26:02 น.  

 
คนเยอะ ทำให้โลกน่าสงสารมากขึ้น ตามจำนวนคน

เพราะคนอยากได้ไม่มีสิ้นสุด
ธรรมชาติจำกัดจำนวนครนั้นเห็นด้วย

ไม่ใช่โหดร้าย

แต่เพื่อรักษาตัวเองให้อยู่และให้คนได้ใช้ไปนานๆ




ปล.ไม่ค่อยได้มาต่อเนื่อง เนื่องจากบ้านนอก ขาดการติดต่อสื่อสาร


มีความสุขกับวันที่เหลืองสดใสนะหนูดี


โดย: คนทุ่งบางเขน วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:8:39:13 น.  

 
น้องดีดีจ๋า
พี่ชอบประเทศจีนอย่างนึง
ตรงที่เค้าสามารถแก้ปัญหาแบบหักดิบได้เลย
ส่วนนึงคงเป็นเพราะรัฐเค้าเข้มแข็ง และประชาชนร่วมใจกันด้วยอ่ะนะจ้ะ

พูดถึงทิ้งขยะไม่ลงถัง มันเป็นอะไรที่โดนใจอย่างแรง
พี่เห็นขยะอยู่รอบๆถังขยะเป็นประจำ
ส่วนนึงน่าจะมาจากถังมันเต็มบ้าง ฝาที่ต้องจับเปิดมันเขรอะสกปรกมากกกกกกกจนคนไม่กล้วจับ
อย่างนี้ต้องโทษใครดีล่ะน๊อ อิอิ

xoxo พี่ยุ้ยมาจุ๊ฟๆสำหรับการเจิมบล๊อคด้วยนะจ้ะ
อ้อ..แวะเอาบุญมาฝากน้องดีตามสัญญาด้วยจ้ะ


โดย: nLatte วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:8:40:31 น.  

 
สวัสดีค่ะ
เรื่องวินัยของคนไทยนี่พูดยากนะคะ หน้าบ้านก็ยังมีคนทิ้งขยะใส่กระถางต้นไม้กันอยู่เลย
ข้างๆบ้าน เค้าก็เอาขยะมาทิ้งโดยไม่แยกหลอดไฟ ทั้งๆที่เขตก็แจกหนังสือรณรงค์ ขอความร่วมมือ ให้ทิ้งขยะอันตรายในทุกวันที่ 1 ของเดือน ก็ชั้นสะดวกทิ้งเมื่อไหร่ล่ะ???..

คำถามที่เราถามน้องชายทุกครั้งที่เห็นคนในรถไขกระจกทิ้งกระดาษทิชชูลงบนถนน ว่าถ้าทิ้งไว้ในรถมันจะลำบากมากนักรึไง??..

คนไทยไร้วินัย เพราะ คนไทยขาดการศึกษาจริงหรือ???



โดย: อมยิ้มนิดนิด วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:9:19:22 น.  

 

เห็นแล้วไม่น่าอยู่เลยค่ะ อยากให้ทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาดค่ะ


โดย: วาดะจัง วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:9:39:53 น.  

 
ภาพกองขยะกองมหึมา
ภาพคนล่องคลองขยะ
เห็นแล้วแบบอย่าให้แถวบ้านเป็นอย่างนี้เลย
แต่แถวบ้านเค้าไม่มีขยะแบบนี้นะ
ลำคลองแถวบ้านไม่มีขยะลอยล่องให้เห็นเลย
แต่เปล่านะไม่ใช่ว่าแถวนี้จัดการกันดี
แต่ว่าแม้แต่ปลายังไม่อยากจะอยู่เลย
หุหุหุ...ขยะไม่มีแต่น้ำนี่สิดำปี๋
ชาวบ้านไม่ทำร้าย แต่โรงงานเล่นปล่อยน้ำเสียลงคลองซะงั้น


โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:9:42:38 น.  

 
สวัสดีค่ะ

จะขอเป็นอีกแรงที่จะช่วยลดโลกร้อน ด้วยการปลูกต้นไม้เยอะๆและจะไม่ทิ้งขยะให้เป็นมลภาวะ

มีความสุขทุกๆวันนะคะ


โดย: ลำตะคอง วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:9:43:05 น.  

 
สวัสดียามเช้าน้องดีดี

พี่ขอเวลาพักเหนื่อยอีกวันนะจร้า


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:05:02 น.  

 
ตอนไปเที่ยวเมืองจีน เหนภาพที่ 2 บ่อย ๆ ดูแล้วเศร้าจายค่า



โดย: เค็ง (ลงสะพาน...เลี้ยวขวา ) วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:05:31 น.  

 
โอะ หวัดดีดี ๆ เค้าไม่ได้แวะเข้ามาหาตัวเองนานเลย (ขอโทษด้วยน๊า) แอบตกใจนึกว่าเป็นบล็อกของศิษย์พี่ซะอีก ตัวเองเป็นไงมั่งแล้วอ่ะ สบายดีอยู่ใช่มั๊ย งานยุ่งมากมั๊ย สู้ ๆ แระกันน๊า

เรื่องถุงผ้า หุๆๆ ของเค้ามีแต่ถุงผ้านะ เรียกว่าสะพายกระเป๋าแบบผู้หญิง ๆ ไม่เป็นกับเค้าเลย และที่บ้านเค้าก็แยกขยะขายได้เหมือนกัน (ได้ัตังด้วยเนอะ)

เรื่องขยะ ที่โรงเรียนจะมีปัญหามาก ๆ เลยนะดี ๆ เป็นปัญหาที่แก้ไม่ได้ซักที เพราะนักเรียนกินแล้วมักง่าย นี่เค้าก็กะลังหาวิธีการอยู่เหมือนกัน ดีดีมีวิธีการดี ๆ แนะนำกันได้มั่งมั๊ย เพราะตอนนี้เค้าก็ได้ไอเดียมาบ้างแล้วเหมือนกัน

โลกเราจะได้สวยงามน่าอยู่ขึ้นเนอะ

ปล.คิดถึง


โดย: minporee วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:06:40 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณดี..
ร่วมด้วยอีกแรงเล็กๆค่ะ
ปัจจุบันกรุงเทพกับขยะเป็นปัญหาอันดันต้นๆเลยค่ะ..ทำไมนะคนเราจึงได้มักง่ายและขาดวินัยในตัวเองได้มากมายขนาดนี้


โดย: neenika วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:11:51 น.  

 
ถ้าทิ้งได้เยอะขนาดนี้ก็น่ากลัวเหมือนกันนะน้องดี .... ภาพคนใส่รองเท้าสวย ๆ แต่สามารถนั่งบนพื้นที่ ที่มีขยะเต็มอยู่เบื้องล่างได้ ก็สะท้อนมาก ๆ เลยเนาะ


โดย: Tristy วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:17:43 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ดีดี

วันนี้มาเหลืองสดใสเชียวค่ะ

เคยอ่านเจอว่า

ประเทศหนึง ต้องจัดทำตู้เย็นเพื่อเก็บขยะไว้กว่าที่จะมีรถเก็บขยะมาขนไป

เพื่อไม่ต้องการทำให้บรรยาศเสียหรือเหม็นเน่า

แถมเป็นกฏหมายของประเทศนั้นด้วยนะคะ

ไม่รู้ว่า พี่ไทยจะคิดตามไหมเนี่ย



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:28:26 น.  

 
ชอบบลอคนี้มากเลยค่ะ น้องดีดี
ทุกอย่างต้อเริ่มต้นที่วินับของตัวเราค่ะ
เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ แต่เราสามารถเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงจากตัวเราก่อนได้ทุกเรื่อง


โดย: หมีสีชมพู วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:29:08 น.  

 
เรื่องเลิกใช้ถุงพลาสติกแบบหักดิบของเมืองจีนพี่ก็ได้ยินมาเหมือนกัน

ก่อนหน้านี้เคยไปเที่ยวปักกิ่ง จำได้ว่าคนจีนใช้ถุงกันเปลืองมาก
ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางใช้ถุงพลาสติกห่อชามก๋วยเตี๋ยว เพื่อที่ว่าเวลาลูกค้ากินเสร็จก็จะได้ถอดดถุงพลาสติกทิ้งแล้วเอาถุงใบใหม่มาสวมแล้วใส่ก๋วยเตี๋ยวให้ลูกค้าใหม่โดยไม่ต้องล้าง

กระทั่งภัตตาคารบางแห่ง ก็ปูพลาสติกทับผ้าปูโต๊ะเพื่อจะได้ไม่ต้องซักผ้าปูโต๊ะบ่อยๆ

มีช่วงนึงที่ญาติพี่ไปเรียนภาษาระยะสั้นๆที่เมืองจีน เค้าบอกว่าจู่ๆทางการก็สั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกในชั่วข้ามคืน จากใช้ถุงพลาสติกพร่ำเพรื่อ กลายเป็นไม่มีใช้แบบทันทีทันใด เค้าก็อยู่กันมาได้สบายๆ
ตอนนี้พี่กำลังสนใจถุงที่ทำจากเยื่อกระดาษอยู่เหมือนกัน กำลังหาแหล่งขายที่ราคาถูกที่สุดอยู่


โดย: พจมารร้าย วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:30:01 น.  

 
เมื่อวานนี้ไฟดับ ดับไปประมาณ 2 ชั่วโมง มันทำให้เรารู้ว่ากลางคืนเงียบเพียงใด และเวลากลางคืนเป็นเวลาที่เราควรพักผ่อน เนื่องจากไม่มีแสงจากธรรมชาติ หากจะทำอะไร ควรทำในเวลาที่มีแสงจากธรรมชาติจะดีกว่า


พูดถึงการหักดิบ ในการใช้ถุงพลาสติก ผมเคยเขียนไว้ในบล็อก อะไรนะ!!...ไม่มีถุง!! ในช่วงนั้นยอมรับว่าอารมณ์เสียมาก เนื่องจากที่บ้านมีถุงพลาสติกมากมาย ควรจะมีการประชาสัมพันธ์ที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ (ที่ที่ติดว่าวันนี้มีสินค้าอะไรลดราคา) จากนั้นค่อยเริ่มโครงการ วันนั้นเลยโดนค่าถุงไป 1.- หยวน ถ้าเมืองไทยทำแบบนี้บ้างล่ะก็ ผมว่าคงโดนชาวบ้านด่ากันเละ

ประเด็นวันนี้เครียดหน่อย แต่ตอนสัมมนาสนุกดีครับ ได้เห็นมุมมองของหลายๆ ชาติ

โดยส่วนตัวผมไม่เคยเห็นภูเขาขยะแม่น้ำขยะแบบในภาพด้วยตาตนเอง แต่ถ้าในโทรทัศน์ หรือในเนต มีภาพพวกนี้เยอะ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:10:39:48 น.  

 
ดีดีน้า มาหยอดคำหวานให้หลงรัก


โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:11:04:28 น.  

 
ขยะน่ากลัวมากเลยค่ะ
หากไม่ร่วมมือร่วมใจกัน
ไม่นานเราคงได้เห็นน้ำที่เต็มไปด้วยขยะท่วมเต็มเมือง



ร่วมลดโลกร้อน ด้วยการนานๆอัพบลอกทีค่ะคุณดี. อิอิ


โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:11:26:54 น.  

 
ปัญหาโลกร้อนแก้ไม่ยาก ถ้าคนทั้งโลกร่วมมือกัน ถ้าจะให้ดีก็ต้องเริ่มที่ตัวเราก่อนนั่นแหละค่ะ

ถ้าเมืองไทยใช้วิธีหักดิบอย่างเมืองจีนบ้างก็คงจะดีเนาะ แค่ขอความร่วมมืออาจไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เพราะมีคนไม่น้อยที่ยึดคติ ทำอะไรตามใจคือไทยแท้


โดย: haiku วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:11:49:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณดีดี

ภาพสะท้อนให้เห็นภาพ สะกิดใจเลยค่ะ
...
มีความสุขมากมากนะคะ คุณดีดี


โดย: Nissan_n วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:12:13:36 น.  

 
วิธีลดขยะตามที่สาธารณะ ต้องลดด้วยการสอนให้คนในชาติมีวินัยค่ะ

ป้าแอ๊ดสอนลูกๆ มาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ให้ทิ้งเศษขยะเกลื่อนกลาด
ลูกๆ ทำจนเป็นนิสัยที่ดี ทานข้าวไม่เหลือเลย ใน 1 จาน ตั๋วรถเมล์จะเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ-กางเกงมาทิ้งที่ถังขยะในบ้าน

แต่เรื่องที่จะไม่ใช้ไฟฟ้า ไม่เปิดคอมพ์ อะไรนั่น ทำไม่ได้

แต่พยายามใช้อย่างระมัดระวังและประหยัดที่สุดเท่านั้นเอง

**ปล.ค่าไฟฟ้าที่บ้าน ใช้เดือนละ 3 พันกว่าบาทเท่านั้นเองค่ะ**



โดย: addsiripun วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:12:29:35 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะ ปัญหาขยะนี่ก็ยังเป็นปัญหาหนักนะคะ ว่าจะกำจัดยังไงให้หมด คนเยอะขึ้นขยะก็เยอะตาม


โดย: พระอาทิตย์สีชมพู วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:13:20:43 น.  

 
เค้าแวะเข้ามาถามว่าต้องทำยังไงอ่ะ

หมายความว่า up เรื่องอะไรก็ได้เกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานนี่ใช่มั๊ย แล้วก็ให้ตัวเองลิงค์บล็อกไปใช่มั๊ย เดี๋ยวถ้าว่าง ๆ จะจัดให้แระกันน๊า ถึงวันที่ 12 ตุลา อืม ๆ ยังพอมีเวลาเนอะ

ว่าแต่ตอนนี้งานยุ่งป่ะ สู้ ๆ น๊า


โดย: minporee วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:13:49:14 น.  

 
ที่บ้านชาลีเก็บขยะขายหมดเลยค่ะ
พอจะช่วยได้บ้างไหมนะ ^^

จากบล๊อก..
ยินดีเลยนะคะถ้า ดี.จะลองทำบ้าง ^^


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:14:06:41 น.  

 
ตอนนี้ที่โคราชกำลังเต็มไปด้วยป้ายขยะ ค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:15:12:41 น.  

 
สวัสดีครับคุณดี
ใช่ลิ้งค์ที่พูดถึงไหมครับ...เดี๋ยวส่งเรื่องกับภาพมาให้นะครับ


โดย: เพลงดาบกระบี่เดียวดาย วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:16:13:44 น.  

 
เห็นขยะเยอะแบบนี้น่ากลัวจังเลยอ่ะ


โดย: ouanoy วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:16:32:34 น.  

 
มาหาน้องดี วันนี้...

มีแต่เนื้อๆ เลยจ้ะ

เอ้า..พวกเราช่วยกันเนาะคนละไม้คนละมือ...



โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:17:05:51 น.  

 












โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:17:21:17 น.  

 
พี่เห็นภูเขาขยะ กับลาวาขยะแล้วปวดตับเลยอ่ะดีดี..เหอ ๆ ๆ ๆ

เรื่องกินข้าวไม่หมดจานนี่พี่ก็เป็นนะ หลัง ๆ ต้องบอกแม่ค้าว่า ขอข้าวน้อย ๆ นะคะ..ทานไม่หมดค่ะ คือแทนที่เราจะได้ข้าวเยอะแต่เททิ้งให้แม่เค้าเค้าเอาไปเพิ่มหรือขายให้คนอื่นดีกว่า เค้าจะได้ได้กำไรเพิ่มมากขึ้นด้วย แล้วจะได้ไม่เป็นปัญหาต้องเททิ้งเศษอาหารโดยไม่จำเป็นด้วยอ่ะจ้ะ


โดย: i'm not superman วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:18:29:12 น.  

 
เห็นแม่น้ำขยะ แล้วสะเทือนใจจัง
...
ลดภาวะโลกร้อน
เริ่มต้นที่ตัวเรา..
และทุกคนในครอบครัว


โดย: ชอบสีฟ้า วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:19:46:43 น.  

 
ปัญหาโลกแตกอีกอย่างก็คือขยะล้นโลกตามเรื่องด้านบนเลย

แบบนี้ต้องช่วยกันตะโกนว่า

"คุณคุณอย่าทิ้งขยะ" ในที่สาธารณะ





โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:20:33:06 น.  

 
โอ แม่น้ำขยะ ช่างเยอะแยะมากมายอะไรขนาดนั้น
มองมุมกว้างๆ จากบทความและภาพของคุณต่อที่นำมาเสนอ ทำให้รู้สึกว่าโลกเราแย่ลงเพราะความักง่ายของมนุษย์แท้ๆ....น่าอเน็จอนาจใจ และที่น่าสลดใจก็คือ คนส่วนใหญ่เสียด้วยที่มีส่วนในการทำร้ายโลกใบสวยให้กลายเป็นโลกที่ผุกร่อน
มันยังทันหรือเปล่าคะคุณดี
ที่เราจะช่วยกันทำให้โลกนี้ดีขึ้น
...คงจะดี
ถ้าเรามีอำนาจในการชี้นำบ้างเน๊าะ
คิดถึงนะคะ อิอิ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:20:44:58 น.  

 
เห็นภาพประกอบแล้วสยองจังเลยจ้ะน้องดี


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:21:33:46 น.  

 


เพิ่งกล่อมหมิงหมิงหลับไปเดี๋ยวนี้เองครับ
รีบมาตามคำชวนเลย




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:21:44:39 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องดีดี
พี่เพิ่งจะเปิดคอม อีกรอบ
เข้ามาบล็อกนี้อีกบ้านเดียวก็จะไปนอน

ไปส่งคุณก๋าอีกบ้านละกัน
ประหยัดไฟไง คริ คริ


ฝันดีนะคะ


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:22:14:43 น.  

 
น่ากลัว่าตกลงไปในน้ำขยะนั่น

คงจะเน่าไปเลยนะครับ

เฮ่อๆ

หยองๆ



โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:0:30:22 น.  

 
สวัสดียามดึกค่ะคุณดีดี

นอกจากปัญหาขยะล้นโลกแล้ว
เราว่าต้องกำจัดควันจากท่อไอเสียของรถด้วยนะคะ
อยากให้รถทุกคัน ไปตรวจสภาพรถ
ไม่ให้มีควันจากท่อไอเสียออกมา
เพราะมันก็เหมือนควันย่อยๆ จากโรงงานนั่นแหละค่ะ

หลับฝันดีนะคะคุณดีดี



โดย: Suessapple วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:0:49:36 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปนะคะ


โดย: hola amor วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:4:28:15 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องดี










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 กันยายน 2553 เวลา:5:45:41 น.  

 
พาซาเล้งบ้านเราไปเที่ยวเมืองจีนโลด..


โดย: smartman หล่อสุดๆ วันที่: 13 ตุลาคม 2553 เวลา:21:44:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มัชชาร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]




Friends' blogs
[Add มัชชาร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.